อาจารย์สุดที่รัก
เขียนโดย Katuichobginyelly
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 01.07 น.
แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 03.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) หมู่บ้านเซียมซี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย!! ”
“ค้นหาให้ทั่ว!! มีใครหลงเหลืออยู่และถ้าเจอคนน่าสงสัยคุมตัวมาเสีย”
ทหารกําลังเสริมเขตหยินได้มาถึงยังค่ายเฝ้าเขตแดนแต่กลับไม่พบสิ่งใดแม้กระทั่งป้อมปราการ เห็นเพียงซากร่องรอยจากการถูกเผาไหม้ เหล่าทหารหลายนายพากันค้นหาผู้รอดชีวิตกันอย่างอลม่าน
“กี๊ดดดดดดด!! ” หลินหลินที่รู้สึกตัวแล้วแต่ปรากฎว่าตัวเองกําลังบินอยู่บนฟ้าและอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคน
“จะโวยวายทํากัน”
“เจ้า..เจ้าบินได้ด้วยหรอ”
“…ข้าแค่กระโดดได้สูงหนะ”
“แล้วเรากําลังจะไปไหนกัน”
“สักแห่ง ข้าละเบื่อป่าดงพงไพรเกินทนแล้ว”
เฉินยวิ้นอุ้มหลินหลินและเหาะเหินไปที่ไหนสักแห่งนึงในดินแดนหยิน ดูเหมือนสถานการณ์ของหลินหลินจะยิ่งถล้ำลึกอยู่ในดินแดนหยินมากขึ้นทุกทีแล้ว
เมืองหลวงดินแดนหยิน
ทหารได้มาเข้าเฝ้าและรายงานให้แก่ราชาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
”ดูเหมือนคนที่ข้ามแดนมาเป็นแค่สตรีตัวเล็กๆสินะ“
”ขอรับพวกข้าจะรีบระดมพลตามจับตัวนางมาให้ได้“
”ไม่ต้องขนาดนั้น หล่อนเป็นแค่หมากตัวหนึ่งในเกมเท่านั้น… พวกเจ้ายังไม่รู้หรอกว่าข้าเตรียมอะไรไว้แล้ว กําลังพลแค่ครึ่งนึงไปตามหานาง“
”รับทราบขอรับ!!“
ราชาของดินแดนหยินสั่งการพลทหารของเขาอย่างใจเย็น สายตาของราชาองค์นี้เต็มไปด้วยความเล่ห์กล ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่สําคัญกว่าการไล่จับตัวหลินหลินนั้นคือการทําสิ่งใดแน่
ด่านหน้าทัพต้าโต่ว
เนื่องจากการตามล่าอย่างดุเดือดของเหวินเจี๋ย เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทําให้เขาไล่ล่ากองโจรทุกหนแห่งเพื่อหวังจะเจอกลุ่มโจรชุดดําในตอนนั้น ในขณะนี้ ทัพต้าโตว่ที่นําโดยแม่ทัพเหวินเจี๋ย ได้กําราบกองโจรในระแวกใกล้เคียงไปแล้วนับสิบกลุ่ม
“พักนี้เหนื่อยเป็นบ้าเลย”
“พวกเราตีกับโจรมากี่วันแล้วเนี่ย”
“ท่านแม่ทัพไม่มีท่าทีจะพักเลย”
การสนทนาอย่างโอดครวญของเหล่าทหารที่เหน็ดเหนื่อยจากการปราบโจรอย่างไม่หยุดหย่อน เสี่ยวรุ่ยควบม้ามาหานายของเขาอีกครั้ง
“ข้าตามสืบจนรู้แล้วขอรับ กลุ่มโจรพวกนั้น…”
“พวกมันอยู่ที่ไหน”
“พวกมันเป็นนักฆ่ารับจ้าง ตอนนี้อยู่ทางตอนเหนือแถวๆเมืองถง ขอรับ”
“ดี!… ทุกคนเตรียมอาวุธออกเดินทาง!!!”
“…พี่เสี่ยวรุ่ยทําไมรีบบอกท่านแม่ทัพล่ะพี่”
“อย่ามัวช้า ตามองค์ชายไป!! ”
เหวินเจี๋ยควบม้าอย่างรวดเร็ว ทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของต้าโต่ กําลังเดินทางไปทางตอนเหนือใกล้เมืองถง เพื่อปราบกลุ่มนักฆ่าชุดดําแล้ว
ป่าใกล้เมืองถง มีกลุ่มโจรแคมป์กบดานกันอยู่ที่นั้น
“ภารกิจไม่สําเร็จจะทําอย่างไรดีหัวหน้า”
“ช่างเถิด แม่นางนั้นเข้าเขตหยินไปอย่างไรก็ตายแน่นอน อีกอย่างพวกเราได้เงินมาแล้ว จะไปสนอะไรกัน ฮ่าฮ่า”
“โครมมม!!!! ”
เหล่าโจรฮือฮากันได้ไม่ทันไร ก็มีคนพังประตูกระท่อมเข้ามาดังลั่น
“สนุกมากหรือไม่ ข้าขอสนุกด้วยคนนะ”
สิ้นประโยคเหวินเจี๋ย ทหารทุกนายก็เข้าจู่โจมทันที เสียวรุ่ยแค่พริบตาเดียวก็สั่งหารโจรไปแล้ว 5 คน ส่วนเหวินเจี๋ยก็เข้าปะทะกับหัวหน้าโจรอย่างดุเดือด
“ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยนะท่าน”
“ที่จวนข้ายังไม่มีหัวของเจ้า จะให้ข้าอยู่เฉยได้อย่างไร”
ปะทะดาบใส่กันอย่างดุเดือดแต่ทว่าฝีมือระดับเหวินเจี๋ยเจ้าชายแห่งสงครามนั้นแข็งแกร่งเกินบรรยาย เพียงไม่นานก็ปราบหัวหน้าโจรลงได้อย่างง่ายดาย
“กะอัก..แหะๆแข็งแกร่งจริงๆ”
“เสี่ยวรุ่ยบอกข้าว่าเจ้าคือนักฆ่ารับจ้าง ผู้ใดสั่งเจ้า!!”
“ข้า..ข้าไม่รู้ มีเพียงจดหมายภารกิจมาพร้อมกับเงินเท่านั้น“
”ดี..งั้นถึงเวลาที่ข้าจะเด็ดหัวเจ้าแล้ว“
เหวินเจี๋ยง้างดาบหวังตัดคอหัวหน้าโจร
”เดี๋ยวก่อนท่าน!! ข้ามีข้อเสนอ“
”เจ้าพูดมา“ เหวินเจี๋ยหยุดชะงักชั่วขณะพร้อมรับฟังหัวหน้าโจร
”วันนี้เป็นวันนัดที่ในจดหมายบอกไว้ คนที่สั่งข้าจะมาเพื่อมาทราบว่าภารกิจเป็นอย่างไรบ้าง หากท่านดักอยู่ที่นี่ ท่านก็จะพบกับคนที่บงการ“
ฟังจบเหวินเจี๋ยก็หันไปหากับเสี่ยวรุ่ยมือขวาของเขา เสี่ยวรุ่ยทําสายตาเชื่อมั่นและพยักหน้าให้กับเหวินเจี๋ย
หมู่บ้านเซียมซี หน้าทางเข้าหมู่บ้านเซียมซี
“เหตุใดถึงบังคับให้ข้าหยุดอยู่ที่นี้”
“เจ้าจะบ้ารึไง หากไปต่อไกลกว่านี้และไปโผล่เมืองหลวงขึ้นมาจะทําอย่างไรเล่า”
“ก็ฟังดูดีไม่ใช่รึ”
“ดูดีอะไรของเจ้า ที่นี้เขตหยินนะ!! ”
“เขตหยิน? หยินทําไมรึ” เฉินยวิ้นทําหน้าใสซื่ออย่างตรงไปตรงมา
“……” หลินหลินสีหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยินประโยคนี้
“เจ้าไม่รู้เรื่องดินแดนหยินกับหยาง งั้นหรือ”
“ส่ายหน้า”
“เจ้าคงอยู่แต่ในถ้ำสินะ งั้นข้าจะอธิบายให้เข้าใจ ตั้งใจฟังล่ะ”
“พยักหน้า” ขณะนี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเทพผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฉินยวิ้น เขาก็ไม่รู้ตัวของเขาเองว่าทําไมเขาถึงได้เชื่อฟังหลินหลินมากขนาดนี้ หลินหลินอธิบายทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับเขตหยินและเขตหยาง ให้กับเฉินยวิ้นได้รู้และเข้าใจ
“เข้าใจหรือยัง”
“ข้าเข้าใจแล้ว” ข้าฟังอะไรอยู่ไม่เห็นจะเข้าใจเลย โลกมนุษย์เพี้ยนไปกันใหญ่แล้ว
“เข้าไปดูหมู่บ้านนี้กันเถอะ“
”หื้อ!? “ มนุษย์นี่ประหลาดจริงๆ… เฉินยวิ้นตกใจหน้าแดงหลังจากหลินหลินยิ้มและจูงแจนเขาไป
หลังจากเฉินยวิ้นบอกว่าเข้าใจในสิ่งที่หลินหลินพูด หลินหลินยิ้มออกมาอย่างสดใส ดูไม่เหมือนคนที่พึ่งเจอเรื่องเลวร้ายมาสักเท่าไหร่ พร้อมจับแขนของเฉินยวิ้น พาเดินเข้าไปยังหมู่บ้านเซียมซี หลินหลินรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ได้เห็นวิถีชีวิต บรรยากาศต่างๆ และผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้
“น้ำตาลปั้น หวานๆ จ้าทุกท่านน”
เสียงพ่อค้าแม่ค้าในท้องตลาดหมู่บ้านเซียมซี คึกคักกันอย่างมาก หลินหลินอดใจไม่ไหวที่จะวิ่งแจ้นไปดูสินค้าหรือของกินต่างๆในตลาดอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่ทว่าไม่มีเงินเลยสักกะนิด
“หื้ม เจ้านี่คืออะไรรสชาติดีเยี่ยมเลย”
“หมั่นโถว่ค่ะ ท่านชาย”
เฉินยวิ้นไล่เดินหยิบทุกสิ่งอย่างกินตามร้านต่างๆอย่างใสซื่อ
ถ้าท่านพ่อและทุกคนได้เห็นตลาดที่นี้คงดีมากเลยนะ หลินหลินเสียใจที่ตัวเองไม่มีเงินและยังอาลัยอาวรณ์ถึงครอบครัวของตัวเองเลยเบะปากกลับมาหาเฉินยวิ้น
“ไงรเจ้า ขรองกินพรวกนรี้รสชารติดดีรมากๆเรย ฮ่าฮ่า(ไงเจ้า ของกินพวกนี้รสชาติดีมากๆเลย ฮ่าฮ่า )“
เฉินยวิ้นทําสีหน้าเหมือนเด็กที่น่าเอ็นดูทักทายหลินหลิน พร้อมอาหารที่กําลังเคี้ยวเต็มปาก
”นี่…เจ้าไปเอามาจากไหนเนี่ย“ หลินหลินตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าแต่ก็อดยิ้มเล็กๆให้กับความน่าเอ็นดูของเฉินยวิ้นไม่ได้ แต่จู่ๆแม่ค้านับสิบคนก็เดินมาหาหลินหลิน
”ทั้งหมด 50 ตําลึง! 120 ตําลึง! 70 ตําลึง! 270 ตําลึง! “ เหล่าแม่ค้าทุกคนต่างพูดราคาพร้อมๆกันให้กับหลินหลิน
”หา!!? นี่เจ้าทําไมเหล่าแม่ค้าถึงแม่เก็บเงินที่ข้าล่ะ“
”ข้าบอกไปว่า ให้มาหาเจ้า ข้าไม่รู้เงินคือสิ่งใดนี่หน่า“
”…..“ หลินหลินสีหน้าซีดเผือก
”โอ้ยยยยย ไอตาบ้านี่!!!! “
”ฮ่าฮ่า สีหน้าเจ้าช่างน่าขัน…..“
ตุ้บ!
สิ้นการหัวเราะชอบใจของเฉินยวิ้น ก็โดนหลินหลินทุบจนหมดสติไปแล้ว เหล่าแม่ค้าทั้งหลายไม่พอใจเป็นอย่างมาก
”ชายผู้นี้สติไม่ดี ข้าต้องขอโทษแม่ๆทุกท่าน ข้าจะหาเงินมาชดใช้แน่นอน“
หลินหลินพูดคุยกับเหล่าแม่ค้าทุกคนหวังจะชดใช้เงินให้อย่างแน่นอน เหล่าแม่ค้าและผู้คนในหมู่บ้านเซียมซีจิตใจดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้โอกาสหลินหลินได้ชดใช้ หลินหลินโค้งคํานับขอบคุณทุกๆคน
“ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ ว่าเจ้า…” ขณะที่เฉินยวิ้นหมดสติ เขาได้เห็นภาพนิมิตอันเลือนราง เสียงผู้หญิงคนนึงที่เหมือนกําลังดุใครสักคน สะท้อนเข้ามาในหัวของเขาเรื่อยๆและดังขึ้นทุกที เสียงนั่นดูคล้ายกับหลินหลินเอามากๆ
บ้านไม้หลังเล็กๆริมแม่น้ำแห่งนึงในหมู่บ้านเซียมซี
“พักทีนี้ไปก่อนนะแม่หนู ที่นี้เป็นของข้าเอง ไม่มีใครอยู่อาจจะไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่นะ”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่มีชายคาให้พักพิงก็เป็นพระคุณอย่างมากแล้วค่ะ“
”ไม่ต้องมากพิธีหรอก ว่าแต่ว่าเจ้าต่อยคนรักของเจ้าแรงไปหรือไม่ ป่านนี้ยังไม่ได้สติเลย“
”เอ่อ…ไม่ใช่คนรักของข้าหรอก แต่อีกไม่นานก็ฟื้นค่ะ“
”ฮ่าฮ่า ตามสบายเลยนะพวกเจ้าทั้งสอง“
ผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านเซียมซี ได้ให้ที่พักอยู่อาศัยให้กับหลินหลินและเฉินยวิ้น ให้อยู่สักระยะเพื่อชดใช้หนี้ให้กับแม่ค้าทั้งหลายในหมู่บ้าน ไม่นานเฉินยวิ้นก็รู้สึกตัว
“ข้าหลับไปหรือ สงสัยจะอิ่มท้องมาก”
“ใช่แล้วว เจ้าหลับไปหนะ” หลินหลินยิ้มให้และกัดฟันพูด
“ที่นี้ที่ไหน”
“บ้านชั่วคราวของพวกเรา”
“ข้ารู้ว่าข้าคือเทพที่ใครๆก็หมายปอง แต่ข้าไม่ได้ตกลงปงใจจะอยู่กับเจ้าหรอกนะ”
“หยุดบ้าเลยนะ เพราะเจ้าถึงได้มีหนี้สิ้นมากมายขนาดนี้”
“หนี้สิน…คือสิ่งใด”
“โถ่เอ้ย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าสติไม่ดีนะ ข้าได้ฆ่าเจ้าแน่”
“สติไม่ดีอะไรกัน นี่เจ้าไม่เห็นข้าช่วยเจ้าจากเหล่าทหารนั้นหรือไง”
“ข้าเป็นลมไปจะเห็นได้ไงเล่า ไม่รู้แหละ เจ้าจะเป็นเทพอะไรก็เรื่องของเจ้า แต่เจ้าต้องช่วยข้าใช้หนี้ที่นี้!!” ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ทําให้หลินหลินไม่สงสัยเรื่องที่เฉินยวิ้นบินได้และช่วยเธอจากเหล่าทหารเขตหยินด้วยวิธีใดเลยสักนิดเดียว
“ ชิ้! ” เห้อะ ดันมาเป็นลมตอนที่ข้าแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นยัยนี่บาปหนาเหลือเกิน ในหมู่เทพไม่มีผู้ใดกล้าทํากับข้าเช่นนี้ เฉิ้นยวิ้นส่งเสียง ชิ้ และหันหน้าหนี
“ยังจะมา ชิ้ อีก!! ”
ต่อล้อต่อเถียงกันได้สักพัก หลินหลิน ก็ครุ่นคิดเตรียมแผนการในการหาเงินเพื่อชดใช้หนี้ในหมู่บ้านแห่งนี้
ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานจนแสงจันทร์ส่องเต็มดวงอยู่กลางฟ้า ชายลึกลับคนนึงแต่งตัวอย่างมิดชิดปกปิดหน้าตาได้เดินมาอย่างช้าๆ เข้าไปในแคมป์ของกลุ่มนักฆ่า กลับพบว่า หัวหน้าโจรถูกมัดและปิดปากอยู่
“สวัสดี มีธุระอะไรลองเปิดหน้ามาคุยกับข้าแทนดีหรือไม่”
เหวินเจี๋ยเอาดาบวางไว้ที่คอของชายลึกลับจากข้างหลัง
การพบกันของผู้บงการสั่งฆ่าตระกูลหลิน และ บุรุษแห่งสงครามเหวินเจี๋ย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ