เพื่อนรัก

9.9

เขียนโดย jundee

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19.14 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  25 วิจารณ์
  9,287 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         รื่นฤดีไม่อยากจะเชื่อเลยว่า  นพจะปล่อยให้เธอรอนานขนาดนี้  ดีนะที่วันนี้เป็นวันลอยกระทงไม่งั้นไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะหาเหตุผลอะไรที่จะออกมาข้างนอกหลังทานข้าวเย็นกับแม่ได้    นพกับเธอได้สนิทสนมคบหากันมานานแล้วตั้งแต่เด็กเพราะทั้งคู่เกิดปีเดียวกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มเดินได้ด้วยซ้ำไป  หากไม่เกินความจริงไปหน่อย  หรือบางทีอาจมีคุณหมอคนเดียวกันด้วย (คุณหมอทำคลอด) บ้านก็อยู่ระแวกเดียวกัน  ไปโรงเรียนเดียวกันมาตลอดตั้งเล็กจนโต 

         ตอนนี้ทั้งคู่อายุ17ปีแล้ว  กำลังจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างกันเป็นครั้งแรกในชีวิต  นพต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯส่วนตัวเธอเองต้องเรียนอยู่ที่เดิมคือเชียงใหม่  ที่ๆจะมี หนุ่มสาวในปีการศึกษาที่จะถึงนี้มามากมาย  

        เมื่อวาน ตอนกลับจากโรงเรียนนพกับเธอถีบจักรยานกลับด้วยกันเช่นเดิม  พอถึงหัวโค้งก่อนแยกทางไปบ้านใครบ้านมัน  นพชะลอรถแล้วเรียกให้เธอหยุดก่อน  นพบอกเธอว่า  .."..เออรื่น..คืนพรุ่งนี้ไปลอยกระทงด้วยกันนะ  เราจะรอที่นี่ล่ะ ไม่อยากไปนั่งรอที่บ้านเธอ เดี๋ยวแม่เธอซักมากเราอายน่ะ."  รื่นฤดีรู้ว่า นพอึดอัดเวลาที่มีผู้ใหญ่ชอบพูดทำนองว่าเธอกับนพอาจเป็นแฟนกัน  บางทีเธอก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของนพนัก  แต่บางครั้งบางหนเธอก็ได้รับความอ่อนโยนที่แตกต่างไปมากจนเกินเพื่อนธรรมดาๆจากนพบ่อยๆ    จนบางทีเธอเองก็รู้สึกดีๆไปด้วย    บางครั้งที่เธอแกล้งกระเซ้านพด้วยซ้ำว่านพชอบเธอเหรอ  นพก็ทำเสียงสูงหลอกทำหน้าตาไปเฉยๆ เสียอย่างนั้น ..

      "  อย่างเธอนี่นะ  เราไม่ยอมเสียท่าให้เธอมองขาอ่อนเราร้อกรื่น  " 

    นพพูดทำนองนี้กับเธอเสมอ  หากนพเผอลส่งความหมายบางอย่างที่เธอเองไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง  ส่วนตัวเธอนั้น นพคือเพื่อนรักของเธอเสมอมา และมีบางเวลาที่เธอรู้ว่า  "คนรัก" กับ  "เพื่อนรัก" ของเธอเป็นคนๆเดียวกัน  ...ก่อนที่เธอจะพยักหน้าง่ายๆตามแบบฉบับที่เธอมักทำบ่อยๆ  เมื่อไม่รู้จะว่าอะไรดี   แล้วเตรียมแยกไปทางบ้านของเธอ . ..

      ..."หัดคิดก่อนพยักหน้าได้มั๊ย?" ว่าแล้ว  นพก็ฉุดข้อมือเธอเอาไว้  มองเข้ามาที่ดวงตาของเธอตรงๆ  แบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน   พร้อมกับเน้นย้ำคำพูด

       ".. รื่น...สัญญานะว่าเธอต้องมาให้ได้  เราจะรอเธอที่ตรงนี้  ไม่เจอเธอเราไม่กลับ  เรามีเรื่องอยากบอกเธอ.." 

       รื่นก้มหลบสายตานพที่ดูจริงจัง  แล้วพยักหน้ารับ  หลังจากแยกมาแล้ว รื่นรู้สึกเหมือนตัวเธอจะลอยไปไกลๆเสียให้ได้  คงใช่แล้วล่ะ  ที่นพจะทำให้เธอมีความจริงกับใจตัวเองซะที  เมื่อกลางวันมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกับเธอบางคนแอบกระซิบบอกเธอว่า  "นี่  นพเค้ามีอะไรจะบอกเธอนะรื่น....แหม..คันปากจัง..คู่แท้นี่ต้องคบกันมาตั้งแต่เด็กๆซีนะ."  จากคำๆนี้  เธอไม่ได้โง่นักแต่ก้อไม่อยากแสดงอาการอะไรออกมา  แต่เธอรู้ว่า  นพต้องบอกกับเธอแน่ๆ  ในคืนนี้...

         ....อากาศหนาวเย็นจับใจ  เธอกระชับเสื้อกันหนาวตัวหนา  ผ้าพันคอโดนทบอีกชั้นเพื่อกันลมเย็นเชียบ  นาฬกาบอกเวลาเกือบทุ่ม  หน้าหนาวยิ่งมืดเร็วอยู่ด้วย  แล้วไอ้หัวโค้งนี้ก็เงียบจัง  เมื่อปีก่อนโน้นมีเด็กผู้ชายขี่จักรยานหลบรถบรรทุกเลยโค้งไปชนเอาต้นไม้ริมทางอาการหนักจนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล  นี่ถ้าหากนพมาช้าอีกนิดนะ เธอจะไปแอบดูที่บ้านนพเลย  มัวทำอะไรอยู่ของเค้านะ  แต่เธอรู้ว่านพต้องมาแน่ๆ  นพไม่เคยผิดคำพูด  ยิ่งคำว่า"สัญญา" มันได้แทงเข้าฝังรากลึกในใจ  นพยิ่งต้องมา     

        ฝั่งตรงข้ามเป็นโบสถ์คริส ด้านหลังมีสุสานมองเห็นไม่ไกลนัก  แต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอะไรออกเหมือนสวนด้วยซ้ำ  มีรั้วเตี้ยๆสีขาวล้อมรอบเอาไว้  ใกล้ประตูทางเข้ายังมีเก้าอี้เหล็กยาววางไว้สองตัวให้คนที่มาทำธุระที่นี้นั่งพักได้  เสาไฟฟ้าก็ยังเปิดไฟส่องสว่างลงมาพอดิบพอดีกับถังขยะ2ใบที่เต็มไปด้วยพวงหรีดช่อดอกไม้แห้งๆที่ญาติๆผู้ไปสวรรค์ตามความเชื่อต่างนำมาตกแต่งสุสานคนที่ตัวเองรักและผูกพันกันมา    

          ตอนเด็กๆเธอกับนพยังเคยเอามาเล่นสวมคอกันเลยตอนที่มาโบสถ์กับครอบครัวในวันหยุด   " วัดเราไม่น่ากลัวเลยนะรื่น  ไม่เหมือนวัดไทย กับกุโบที่บ้านทางโน้น.."   พลางชี้มือไปทางตรงข้ามที่ห่างออกไปไกลจากสายตา  "เขาไม่ให้เราเข้านะที่กุโบ  ถึงให้เข้า  แต่เราไม่กล้าหรอก  เรากัวง่ะ  เธอเคยเข้ารึยังรื่น? "  นพเคยบอกและถามเธอแบบนี้    "แต่เธอเก๊าะ ชอบลายไทยมากล่ะ  เราเห็นได้คะแนนเต็มทู้กทีเลย"   คำพูดระหว่างเธอกับนพยังก้องดังอยู่...    มองข้ามเข้าไปเห็นมีไฟเปิดอยู่อีกดวงตรงบ้านพักเล็กๆของผู้ดูแลสุสานแห่งนี้  เธอไม่ค่อยชอบลุงแก่ๆคนนี้เท่าไหร่  เหมือนแกเป็นคนไม่เต็ม  ชอบพูดคนเดียวงึมงำๆ  ทุกคนมักว่าแกเป็นคนบ้าๆบอๆ   และมีผู้ใหญ่บางคนเคยเล่าว่าแกสามารถคุยกับผีได้ด้วย  

       ... เธอไม่อยากยืนขาแข็งอยู่ตรงนี้เลยข้ามถนนไปนั่งที่เก้าอี้หน้าทางเข้าสุสาน  ขณะที่เธอจ้องไปที่บ้านลุงแก่ไม่เต็มนั้น   แกก็ได้เปิดประตูออกมาเดินถือกระสอบเก่าๆติดมือมาด้วยใบหนึ่ง  เธอแกล้งทำเป็นไม่มองลุงคนนั้น    เพราะเธอไม่อยากคุยอะไรกับแกนัก  ยิ่งเวลาแบบนี้ยิ่งไม่อยากคุย  ในใจก็นึกว่า   นพคงติดอะไรอยู่แน่ๆ  ไม่งั้นคงมาแล้ว  คอยดูนะจะแกล้งงอนให้ง้อจนเหนื่อยเลย  เธอคิด  

      ตาลุงนั่นเดินผ่านไปที่ถังขยะคุ้ยหาขวดพลาสติค กระป๋องอะไรอีกหลายๆอย่างที่ขายเป็นเงินได้  แล้วแกก็หยุดหันมามองเธอแว๊บนึง..แล้วคุ้ยหาของต่อไป  จนขยะใน2ถังนั้นคงหมดที่แกต้องการแล้ว  แกเดินเลยมานั่งที่ม้านั่งอีกตัวถัดเธอไป  พลางตรวจดูสิ่งของในถุงนั้น  เหมือนมันเป็นสมบัติ  พลางลอบมองมาที่เธอแล้วแกก็เอ่ยกับเธอลอยๆว่า "เค้าไม่มาหรอก...ทำไมไม่ไปซะ.  รอทำไม เสียเวลา." 

         รื่นตาเขียวใส่แก  ในใจนึกเกลียดขี้หน้าแกอย่างเหลือเกิน  มันเรื่องอะไรของแกล่ะ  คนยิ่งกระวนกระวายใจอยู่   ทำไมต้องมาพูดอะไรด้วย  คนเค้าไม่ได้อยากคุยด้วยสักหน่อย  ..     ลุงแกไม่ว่าอะไรต่อ  เพียงแต่ลุกขึ้นลุกขึ้นยืนคว้ากระสอบหันหลังเดินเข้าบ้านไป

           รื่นใจร้อนขึ้นมาอย่างเหลืออด  ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าทำไมนพไม่มาสักที    เธอเดินไปทางบ้านนพ  นึกในใจว่าทำไมเวลาอย่างนี้ไม่เอาจักรยานมานะ  เราเองก็แปลกคน...ทนเดินอยู่ได้ 

       ที่บ้านนพเปิดไฟสว่าง  แสดงว่าทุกคนอยู่บ้านทั้งหมด  เธอมองไปยังชั้นสองของบ้านเห็นนพนั่งอยู่ที่โต้ะเขียนหนังสือในห้องส่วนตัว  ห้องนี้เธอเคยมาหลายหนแล้ว  มาทำรายงาน  มาเล่น  มาดูหนังกับนพตั้งแต่เด็กจนโต  อ๋อ...คงทำงานส่งไม่เสร็จแน่ๆ  มิน่าล่ะ  ให้รอซะนานเชียว  รื่นก้มลงหยิบก้อนหินเล็กๆ  ขยับไปใกล้ริมรั้วแล้วขว้างก้อนหินเล็กๆนั้นเป็นสัญญาณเหมือนที่เธอชอบทำเสมอเวลามาหานพ

     ..นพหันมามองนิดนึง  แล้วเปิดหน้าต่างที่เป็นกระจกออกมองหาเธอ  เธอหลบหลังพุ่มไม้เอามืออุบที่ปากก่อนยิ้มหัวเราะเบาๆกับตัวเอง  แล้วเดินก้มต่ำๆบังแนวรั้วห่างออกมา   กลับไปรอที่เดิมดีกว่า  เพราะนพรู้แล้วว่าเธอมาตามล่ะ  เดี๋ยวคงออกมาแล้ว  เธอคิด  และเดินกลับมานั่งรอที่เดิม   แม้จะสบายอกสบายใจเพราะรู้สาเหตุที่นพมาช้า  แต่ลึกๆแล้วเธอกลับรู้สึกเหงาและอ้างว้างโดดเดียวอย่างไรพิกล  เหมือนเธอกำลังอยู่คนเดียวในโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น  "ความรักทำให้เหงาได้แฮะ  .." รื่นคิดเข้าข้างตัวเอง   เธอยิ้มอีกครั้งก่อนมองดวงจันทร์ที่สุกสกาวตาเพราะเป็นวันขึ้น15ค่ำ   ลอยกระทงกับนพปีนี้มันคงมีความหมายกว่าเดิมหลายเท่าตัวแน่ๆ  ก่อนจะแยกย้ายจากกันไปเรียนที่อื่น.......

        ...นพรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองเขา  เสียงที่ได้ยินเบาๆนั้น   ทำให้เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน   ครบปีแล้วนะรื่น  ที่เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ  วันนั้นหากเขาไปหาเธอที่บ้าน  เธอคงไม่เป็นแบบนี้ เธอถูกรถชนตอนที่ยืนรอเขาที่ริมหัวโค้งนั่น  พวกขี้เมาวัยรุ่นในคืนวันลอยกระทงมันขับรถชนเธออย่างจัง    

    ...     น้ำตาเขาไหลอาบแก้มอย่างเศร้าหมอง   ในอกรุ้สึกอัดแน่นไปหมด  ... เป็นเพราะเขาแท้ๆ  ที่ทำให้ผู้หญิงที่รักจากไป  จากไปทั้งๆที่เค้ายังไม่มีโอกาสบอกอะไรเธอเลย...

       ... ลมวูบใหญ่พัดมา พาเอาการด์กระดาษเก่าๆปลิวลอยมาบนตักเธอ  ..รื่นก้มหน้าจะใช้มือปัดออกจากตัก  แต่แสงไฟที่เสานั้นทำให้เธอตัวชา....ลายมือของนพบนกระดาษแผ่นนั้น...

     "...ขอให้รื่นนอนหลับอย่างเป็นสุขชั่วนิจนิรันดร์

            รักเสมอ.."   จากนพ.

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา