ผลบุญ

10.0

เขียนโดย Hotaru

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 14.51 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  4 วิจารณ์
  4,109 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผลบุญ


  
 สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ที่ได้อ่านข้อความสั้นๆกะทัดรัดจบลง เพราะป้ายดังกล่าวเขียนบอกว่า ‘เนื่องด้วยพิษเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทต้องปิดทำการลง ดังนั้น จึงแจ้งมายังพนักงานทุกคนเพื่อทราบ ฯลฯ’ 
 
   บริษัทเล็กๆแถบชานเมืองจำต้องปิดทำการลง เนื่องด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้พนักงานหลายพันคน ถูกลอยแพ ‘อาทิตย์’ ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เมื่ออ่านจบ ก็หันหลังกลับและเดินกลับบ้านอย่างทอดอาลัย.......................

   “ เป็นงี้ก็ซวยดิ” พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นขณะเดินออกมาพร้อมๆกันกับอาทิตย์
   “ ช่างมันปะไร หางานใหม่เอาก็ได้วะ” เพื่อนอีกคนบ่นตามหลังขึ้นมา

   เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ อาทิตย์ก็ไม่นิ่งดูดาย คอยให้หมดเวลาไปเฉยๆ เขาเมื่ออกจากที่นั่นมา ก็รีบหาสถานที่ทำงานใหม่ทันที เพราะใหนจะค่ากิน ค่าใช้ ค่าห้อง และค่าอื่นๆอีกตั้งเยอะ..................

   “ สวัสดีครับ เอ่อ........คือ มาสมัครงานน่ะครับ” เขาเอ่ยขึ้นขณะที่เข้าไปสมัครงาน
   “ โทษนะคะ ตอนนี้เรายังไม่รับพนักงานเพิ่มหรอกค่ะ”
   “ อืม............เหรอครับ งั้นขอบคุณมากนะครับ” เขากล่าว แล้วเดินออกจากที่นั่นด้วยความสิ้นหวัง

  เนื่องจากพิษเศรษฐกิจ จึงไม่มีบริษัทไหนรับพนักงานเพิ่ม เขาตระเวนหางานอยู่เป็นสัปดาห์ จนในที่สุด เขาก็ได้งานที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ในย่านอุตสาหกรรมชื่อดัง นับว่าโชคดีทีเดียวที่ได้ทำงานบริษัทนี้

   เข้าทำงานวันแรกก็เป็นช่วงทดลองงาน 2 เดือน ในฐานะพนักงานเช็คของในสต๊อก วันแรกที่เข้าทำงานเขาทำงานอย่างเต็มความสามารถ............................

   ตอนนี้เวลาผ่านไปสองเดือนแล้ว............... เขาได้รับบรรจุเข้าเป็นพนักงานบริษัทเรียบร้อยแล้ว แต่งานที่ทำก็เช่นเคย เป็นคนที่ไม่เกียจคร้าน ขยันทำงานเต็มที่ เขาจึงเป็นที่รักของทุกๆคน ยกเว้นบางคน ที่อิจฉาริษยาเขา แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้าน แม้บางครั้งก็ถูกคนกลุ่มนี้แกล้งอยู่เสมอ..........

 


  “โอเคครับ งั้นวันนี้ เป็นอันตกลงตามนี้นะครับทุกๆท่าน ถ้าไม่มีอะไรเป็นที่สงสัยกันแล้ว ผมขอปิดการประชุมครับ” เสียงจากประธานบริษัทดังขึ้นเมื่อปิดประชุม.......................

   “ที่ประชุมคุยเรื่องอะไรบ้างครับ เห็นเรียกประชุมแต่เฉพาะหัวหน้าสายงานเท่านั้น” นิเวศรองหัวหน้าถามขึ้น ขณะเดินไปพร้อมๆกัน เมื่อเขาคอยอยู่ที่หน้าห้องประชุมเป็นนานสองนาน
   “คุณว่าพนักงานที่เข้ามาใหม่ปีนี้ มีประมาณกี่คนได้” สุรชัยถามขึ้นบ้าง โดยไม่ได้สนใจในคำถามมากนัก
   “ก็ประมาณสัก 5000 คนเห็นจะได้น่ะครับ”
   “เหรอ.............. ก็ที่ท่านประธานเรียกประชุมน่ะ เพราะปีนี้เศรษฐกิจตกวูบ หุ้นก็ตกไปหลายแห่ง จึงอยากจะคัดพนักงานออกน่ะ ท่านเลยให้มาคิดกันว่า จะให้ทำกันอย่างไรได้บ้าง” 
   “แล้วท่านมีความคิดอย่างไรหรือครับ”
   “นี่แหละผมว่าจะมาปรึกษากับคุณ และท่านก็กำชับมาอีกว่า จะให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปถึงกลุ่มพนักงานเด็ดขาด เพราะเป็นความลับ”  
   “ผมว่าเดี๋ยวผมรับผิดชอบเรื่องนี้ไปเองดีกว่านะครับ เพราะคุณก็งานเยอะอยู่แล้ว”
   “ตกลง งั้นผมให้คุณเอางานนี้ไปทำเลยล่ะกัน” สุรชัยกล่าว พร้อมชี้แจงรายละเอียดต่างอยู่ครู่หนึ่ง ก็แยกย้ายกันไปทำงานในส่วนของตน..........................

                   

   ในวันเดียวกันนี้เอง อาทิตย์เมื่อออกงาน ก็เดินทางกลับบ้านตามปกติ เพระเขาไม่มีรถเป็นของตัวเอง จึงต้องขึ้นรถประจำทางไป 3 - 4 ทอด และต้องข้ามสะพานลอยอีก 7 - 8 แห่ง

   ระหว่างทางที่เขากลับบ้าน เขาเหลือบไปเห็นหญิงชรา กำลังยกของหนักขึ้นสะพานอยู่ ก็เลยเกิดความคิดว่า ‘ถ้าเป็นเรา เราจะไปช่วยไหม’  แต่ไม่ทันไร เขาก็ก้าวเข้าไปช่วยเธอแล้ว

   “ ให้ผมช่วยเถอะนะครับ” เขาขันอาสา เมื่อไปถึงหญิงชราคนดังกล่าว
   “  มันจะดีเหรอพ่อหนุ่ม” เธอกล่าวตอบ
   “ เถอะน่าครับ ให้ผมช่วยเหอะ ผมไม่คิดอะไรมากหรอกครับ แค่สงสารคุณยายเท่านั้นเอง” เขาคะยั้นคะยอ
   “ ช่างจิตใจงามแท้ พ่อหนุ่ม นี่จ๊ะ ของที่มันหนักน่ะ”  

                  

   หญิงชราจากไปแล้ว  เขาผู้ที่ขันอาสา ก็ยังอิ่มอกอิ่มใจอยู่ แล้วก็รีบเดือนทางกลับบ้าน................... ความบังเอิญที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปนั้น ได้เกิดขึ้น เมื่อในขณะที่เขาช่วยเหลือหญิงชราคนดังกล่าวอยู่ มันตกอยู่ในสายตาของนิเวศทั้งสิ้น เพระตอนนั้นเขากำลังขับรถกลับบ้าน แล้วเหลือบไปเห็นเข้า จึงจำได้ทันทีว่าเป็นใคร..................และเขาก็ไม่รอช้า ที่จะเขียนบันทึกลงในสมุด เพื่อนำเสนอหัวหน้างาน...............................

   หนึ่งเดือนต่อมา...........................

   ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทที่อาทิตย์ทำงานอยู่ ก็ประกาศเรียกตัวเขาขึ้นพบท่านประธานบริษัท เพื่อพูดคุยเรื่องบางอย่าง สร้างความแปลกใจให้แก่ทุกคนในที่ทำงานเดียวกันเป็นอย่างมาก ต่างคนต่างคาดเดากันไปต่างๆนาๆ คนที่รักเขาก็คิดในเรื่องดี ส่วนคนที่ชังเขาก็หวังว่า จะให้เขาถูกไล่ออก.....................

   “ คุณรู้นะคะ ว่าควรทำตัวอย่างไร ขณะอยู่ต่อหน้าท่านประธาน” เลขาส่วนตัวประธานบริษัทถามเขา เมื่อไปถึงหน้าห้อง
   “ ครับ” 
   “ ท่านประธานคะ เขามาแล้วค่ะ”
  “ เชิญเขาเข้ามาได้ ” เสียงดังมาจากข้างใน
  “ เชิญค่ะ”

   เข้ามาข้างในบรรยากาศแตกต่างกันมากกับข้างนอก เมื่อเข้ามาแล้ว เขาก็ทำความเคารพทุกคนที่นั่งอยู่ข้างในทุกคน ซึ่งที่นั่งอยู่ภายในห้องนั้น มีอยู่แค่ 3 คน คือ ประธานบริษัท สุรชัย และนิเวศ แล้วก็นั่งลง

   “ คุณรู้ใหม ว่าวันนี้ที่เราเรียกตัวคุณขึ้นมา เพราะอะไร” ประธานเริ่มเปิดฉากก่อน
   “ ไม่ทราบครับ” เขาตอบ
   “ คุณเคยทำความดีอะไรบ้างไหม”
   “ ก็เคยครับ”

   “ อะไร”
   “ มีอยู่ครั้งนึง ผมเคยช่วยคนแก่คนหนึ่งยกของข้ามสะพานลอยครับ ซึ่งท่านก็แก่มาก แล้วก็ยังยกของหนักมากด้วย” อาทิตย์ตอบ
   “ แล้วคุณได้อะไรกลับคือมา”
   “ นอกจากความอิ่มอกอิ่มใจแล้ว คงไม่มีอะไรอีกหรอกครับ” 
   “ จริงรึ ”
   “ ครับ” 
   “ อืม...........ดีๆๆ คุณนี่เป็นคนดีนะ ยิ่งช่วงเศรษฐกิจขาลง ข้าวยากหมากแพงอย่างนี้แล้ว ไม่มีใครเห็นหัวใครกันหรอก คอยคิดแต่จะแย่งกัน แต่คุณนี่สิ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือคนอื่นอย่างนี้ นับว่าหายากแล้วในสังคมนี้” ประธานบริษัทกล่าวชมเชย
   “ ทางบริษัทเราอยากให้คนอย่างคุณมาทำงานเยอะๆ คุณรู้ไหมตกลงเราเรียกคุณมาเพื่ออะไร”
   “ ไม่ทราบครับ”
   “ ทางบริษัทเราลงความเห็นกันแล้วว่า อยากจะให้คุณย้ายมาประจำตำแหน่งหัวหน้าแผนกสินค้าคงคลัง เพราะตอนนี้มันยังว่างอยู่” 
   “ สุดแล้วแต่ท่านจะกรุณาเถิดครับ”
   “ เป็นอันว่าตกลง เราจะให้คุณย้ายมาประจำตำแหน่งนี้ สัปดาห์หน้าเลยละกัน”
   “ ขอบคุณครับ”
   “ เอ้อ............เกือบลืมไป เรื่องนี้จะมาถึงผมไม่ได้ถ้าขาด 2 คนนี้ ไป ขอบคุณเขาด้วยล่ะ”
   “ ครับ ขอบคุณมากนะครับ” เขารับคำ แล้วหันไปทางสุรชัยและนิเวศ ทั้งสองรับไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
   “ เอาล่ะ เป็นอันว่าเสร็จเรื่อง เชิญทุกคนกลับได้ ”

   หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...........................

    ที่บอร์ดกลางของบริษัท ได้ประกาศแต่งตั้งนาย อาทิตย์ ใจประเสริฐ ขึ้นรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกสินค้าคงคลัง สร้างความยินดีให้แก่คนในแผนกที่เขาเคยอยู่เป็นอย่างมาก และจัดเลี้ยงฉลองกันใหญ่โต........................
 
   ความดี..............แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อย ก็ควรทำ แต่ความชั่ว...............แม้เล็กน้อยก็ไม่สมควรทำ เพระควรจำไว้ว่า แม้ไม่มีใครเห็น แต่สิ่งที่เราทำนั้นนั่นแหละ จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุน ให้เราเป็นไปในอนาคต......................................

จบ

 



 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา