วัดหัวใจ ลั่นไกปืน

1.7

เขียนโดย KaiChoeng

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.11 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,252 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556 00.26 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ลุงคนขับรถ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หินและดำทำหน้าตาเหลอหลาๆ  เพราะมันแสนจะงงเสียเหลือเกิน  อยู่ๆก็มีคนไล่กระทืบดำมาจนมีเรื่องมีราวที่ร้านกาแฟ  แล้วยังไม่พอ  มีเสียงปืนดังขึ้น  ทุกคนก็เงียบกริบ  จากนั้นก็มีคนบอกให้ไปเจอกันที่ถนนหมาๆอะไรสักอย่าง

  "เห้ยไอ้สองหนุ่ม  เอ็งสองคนไม่ใช่คนแถวนี้นิหว่า  แล้วเอ็งละมีปืนมั้ย  ดูแล้วไม่น่าจะมี  อะข้าให้ยืม" ตับ ตับ

ชายวัยกลางคน  ที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อต  เดินเข้ามาเท้าข้างหนึ่งเหยียบเก้าอี้  แล้ววางปืนพกสั้นสองกระบอกลงบนโต๊ะ  ก่อนจะใช้นิ้วดันหมวกของเค้าขึ้น  หน้าตาดูดีเลยทีเดียว  หน้าเรียว  หน้าผากกว้าง  คิ้วดก  จมูกโด่ง  ผิวขาว  แต่แววตาเจ้าเล่ห์เหลือร้ายเลยทีเดียว

  "ใจเย็น!  (พี่โม่ ปืนคู่)  ไม่ต้องถึงกับถนนหมาหอนหรอกพี่  ไอ้เด็กสองคนนี่มันหลานผมเอง  เพิ่งมาจากกรุง  ไม่รู้อิโหน่เหน่  เดียวผมจะสั่งสอนมันเองพี่โม่  ถือว่าผมขอละกัน"

  "อ้าว!  นึกว่าใคร  (สิงห์  หมวกฟาง)  นี่เอง  ไอ้สองคนนี่มันเป็นหลานเอ็งหรอกหรอว่ะ  เห็นแก่คนเก่าคนแก่นะ  เอาละข้าจะเคลียให้" 

  "เอาละพวกเอ็งสี่ตัว  ข้าขอละกัน  เลิกลากันไปซะ   ที่นี้ข้าคุม  โอเคมั้ยไอ้หมา  พาลูกน้องเอ็งไปให้พ้นๆซะ"

   "พวกเอ็งสองคนขอบใจพี่โม่เค้าซะ"  ลุงหนวดเครารุงรังสวมหมวกฟาง พูดขึ้น  ก่อนจะสะกิดให้ทั้งสองเดินตามมา

หินและดำสภาพสะบักสะบอม  ฝ่ายนั้นก็ยับเยินไม่น้อยเหมือนกัน  เหตุการณ์เมื่อกี้มันเกิดขึ้นเร็วและงงมาก  แต่ที่งงไปกว่านั้น  ลุงคนขับรถมาช่วยพวกเค้าทั้งสงไว้ทำไมกัน  อาจจะเป็นเพราะน้ำใจ  หรืออะไรก็ตาม  มันช่างงงไปหมด ทั้งสองเดินตามลุงสิงห์ไปที่รถ

  "หินๆ  ลุงคนขับรถนี่หว่า  ทำไมแกมาช่วยเราว่ะ  ดูๆแล้วเหมือนคนไม่มีน้ำใจเรยยยย สักกะนิสสสส"

   "ลุงครับลุง  ไหนลุงจะไปขับรถต่อละ  ทำไมถึงมาช่วยพวกผม  ไงก็ขอบคุณนะครับ"  หินถามด้วยความสงสัย

   "พอดี  ข้าคอแห้งเลยแวะไปร้านกาแฟ  ข้าเตือนพวกเอ็งแล้วว่าอย่าเดินสุ่มสี่สุ่มห้า  แล้วไปเดินเหยียบตีนใครเข้าละ"

   "เอ่อ  คือผมไปจีบเมียเค้าเข้าอะดิลุง  ก็เห็นสวยซะขนาดนั้น  จีบหน่อย  อาศัยฟลุ๊ค ไม่นึกจะฟลุ๊คโดนตีนอะดิ"

   "ฮ่าๆสมควร!  ว่าแต่พวกเอ็งจะไปบ้านลั่่นไกทำไมกันว่ะ  ที่นั้นเห็นเค้าว่ากันว่า  เป็นหมู่บ้านร้างไปแล้วนิ  จะมีก็แต่พวกหลบคดีแหละไปอยู่กัน  ข้าชื่อสิงห์  แล้วพวกเอ็งละชื่ออะไร"

  "ผมหิน  นี่ไอ้ดำครับ"

   "เอาล่ะไปทำแผลบ้านข้ากันก่อน "

   "แล้วลุงไม่ไปวิ่งรถแล้วเหรอ"

   "ไม่ละ  พักหน่อย  อย่าถามมากเลยนี่ก็ค่ำแล้วพักบ้านข้าก่อนละกัน  เห้อ!"

   ลุงสิงห์แกมีเจตนาอะไรกันแน่  ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  แถมยังให้อาศัยค้างคืนอีก  เวลาแกยิ้มก็ออกมีเลศนัยเหลือเกิน  แต่ถึงยังไงก็ไม่มีที่ไปแล้ว  หากออกไปเดินหาโรงแรม  อาจจะเจอดีอะไรเข้าอีกก็ไม่รู้

   "เห้ย! อาบน้ำเสร็จก็ลงมากินข้าวซะ ไอ้ดิน ไอ้หำ"

    บ้านไม้สองชั้น  ใต้ถุนโล่ง  หินและดำเดินลงมาหลังจากอาบน้ำอาบท่า  ทำแผลเรียบร้อย

   "เอ้า!  มองหน้าอะไรกัน  กินสิว่ะข้าไม่ใส่ยาพิษปลดทรัพย์พวกเอ็งหรอก ไอ้ดิน ไอ้หำ"

   "หินกับดำลุง  ดำนะ  ไม่ใช่หำ" ดำพูด

   หินและดำมองหน้ากันเหลอๆหลาๆ  ก้มมองกับข้าว  มองแล้วมองอีก

   "ไอ้กลัวลุงวางยาก็กลัวอยู่หรอก  แต่!!!!ลุงเล่นมีแต่น้ำพริกกับผัก  ปากพวกผมจะไม่พองกันหรอ  ลุงดูปากพวกผมดิ"  ดำชี้แผลที่ปาก

   "เออ  เดียวข้าไปเจียวไข่ให้ละกัน"

  ทั้งสามคนอิ่มหมีพีมันกันแล้ว  ก็ออกมานั่งเล่นที่ชานบ้านชั้นสอง  บ้านลุงสิงห์อยู่ออกห่างจากตัวเมืองหน่อยๆ  บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ  เพราะระแวกบ้านตั้งห่างกัน  แถมมีแต่ป่ากล้วยและต้นไม้พฤกษาขึ้นน้อยใหญ่  หินยังอดนึกสงสัยไม่ได้ในตัวลุงสิงห์

  "ลุง!  ทำไมลุงถึงดีกับผมและไอ้ดำขนาดนี้ละ"

  "ก็ไม่มีอะไรมากหรอก  สร้อยที่คอเอ็งมันเตะตาข้าว่ะ"

  "ลุงอย่าบอกนะ  ว่าลุงชอบสร้อยเก่าๆของผม  นี่มันเป็นของแม่ผมให้มาตั้งแต่เด็ก"

  "เปล่าๆ  ข้าก็มีเหมือนเอ็ง  นี้ไง"  ลุงสิงห์หยิบสร้อยรูปพระอาทิตย์ในยามขึ้นมา  ที่ตัวกลางวงพระอาทิตย์มีเลขนัมเบอร์  เป็นเลขสามอักษรไทยสลักไว้  ซึ่งเหมือนกันกับของหิน  ต่างกันก็ตรงเลข  ของหินเป็นเลขเจ็ดไทย

  "เอ็งรู้มั้ยสร้อยที่เอ็งห้อยเหมือนข้า  มันเป็นสร้อยของมือปืนในอดีต  "

  "งั้นลุงก็เป็นมือปืนอะดิ" ดำหน้าซีด

  "เออ!  ข้ามีฉายาว่า  (สิงห์  หมวกฟาง)  แต่นั้นมันอดีต  ข้าวางมือแล้วตั้งแต่เจ้าของสร้อยที่เอ็งห้อยหายสาบสูญไป  แล้วเอ็งเป็นอะไรกับเจ้าของสร้อยละไอ้หนุ่ม"  ลุงสิงห์หน้าตาเคร่งขึมหน้าเชิด  ปากพ่นควันยาเส้น  แต่ตาจองมองหรี่ๆมาทางหิน

  "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  แม่ให้ไว้  แม่บอกว่าเป็นของพ่อ"

  "เออๆ เอาล่ะข้าเหนื่อยล่ะ  มีอะไรไว้คุยกันพรุ่งนี้  ไปนอนกันได้ละ  พวกเองนอนตรงนี้แหละ  เดียวข้าเอาเสื่อหมอนมุ่งมาให้"

  แววตาของลุงสิงห์และหินเต็มไปด้วยความสงสัย  เพียงแต่รอโอกาสว่าใครจะเปิดฉากถามกันก่อนเท่านั้นเอง

  เสียงจิ้งหรีดร้องแววมา  เสียงนกกลางคืนดังก้องเป็นระยะ  สายลมพัดเอื่อยๆ  คืนนี้คงปลอดภัยแล้วสำหรับทั้งสอง  พรุ่งนี้จะมีเหตุการณ์อะไรอีกยังไม่รู้เลย 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา