คำพิพาทษาของซาตาน

-

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.37 น.

  2 ตอน
  6 วิจารณ์
  4,771 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) ความช่วยเหลือ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          "เช้านี้มีรายการซื้อของ ลูกไปคนเดียวได้ไหม?" เสียงใครคนหนึ่งดังมาจากข้างหลัง ในขณะที่ฉันกำลังนั่ง

หม่ำข้าวต้ม ฉันหันกลับไปมอง ก็เจอกับ ชายร่างท่วม สีผิวดำแดง ไม่ใส่เสื้อ นุ่มแต่ผ้าขาวม้า ป๊ะป๊าฉันเอง

"ค่ะ...ไปได้" ฉันตอบกลับไป แล้วหันมาหม่ำต่อ

"ตังค์ตั้งไว้ในลิ้นชักให้แล้วนะ รีบไปรีบกลับหล่ะ" พ่อกำชับลูกสาว

"ค่ะพ่อ แต่ขอหม่ำให้เสร็จก่อนนะ" ฉันรีบตอบกลับทันที เพราะคุณท่านพูดเสร็จก็เดินออกไปจากห้องครัวทันที

          เสร็จจากการกินข้าวเช้าแล้ว ฉันก็เดินไปเอาเงินในลิ้นชักที่ป๊ะป๊าตั้งไว้ให้เพื่อซื้อของ นับเงินเสร็จเรียบร้อย

ฉันก็เดินไปขึ้นรถคันสีน้ำเงิน ติด CAB ยี่ห้อเซฟโรเลต  และขับรถออก เมื่อขับรถมาได้ครึ่งทาง เสียงโทรสัพท์ฉัน

ก็ดังขึ้น "จะเก็บเงินไว้ไปศัลยกรรมที่เกาหลี ไปกรีดตาให้ต๊๋ ไม่ต้องสงสัย ไปฉีดผิวให้ขาว ให้เด่งให้โดนใจ จะ

ทำให้เธอละลายละลายต่อหน้าฉัน"

"โอ้ย...จะโทรมาทำไมตอนนี้เนี้ย!!!" ฉันบ่นกับตัวเอง แต่ถ้าให้จะถูก ต้องเรียกว่าตะโกนมากกว่า แล้วก็ปล่อยให้

โทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้น

          จนแล้วเมื่อฉันขับรถมาถึงแม็คโคร ฉันเดินเข้าไปซื้อของ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูสายที่ไม่ได้รับ เบอร์ที่

โชว์เป็นเบอร์ที่ไม่มีชื่อ ฉันจำได้ทันทีว่าเป็นเบอร์ของพี่แว่น เพราะอะไรเหรอ? เพราะว่า ไม่เคยมีเบอร์แปลกที่ไหน

จะหลงโทรเข้ามาหาฉันนะสิ

"มีเรื่องไรอีกหล่ะ" ฉันถามกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับลังเลใจว่าจะโทรกลับดีหรือเปล่า แต่ถ้ามีธุระจริงๆ ก็น่าจะติดต่อ

กลับมาเองแหล่ะนะ ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเหมือนเดิม แล้วเดินซื้อของต่อไป

          ณ จุดชำระเงิน

" 1477932 ค่ะ" ฉันบอกรหัสสมาชิกให้กับพนักงานแคชเชียร์ที่เคาร์เตอร์  แทนการยื่นบัตร

"เช้านี้ลูกค้าเยอะจังเลยนะค่ะ" ฉันเริ่มบทสนทนากับพนักงานแคชเชียร์ก่อน พร้อมกับส่งยิ้มไปให้

"ส่วนมากลูกค้าจะออกมาซื้อของเช้ากันค่ะ เพราะช่วงสายๆ จะได้ขายของกัน" พนักงานตอบ

"นั่นสินะ" ฉันอุทานขึ้นมา พนักงานหันมายิ้มให้ฉัน ในความเป็นจริงแล้ว ฉันเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ตอนเช้าซื้อ

ของ ช่วงสายๆ ก็ขายของ ไม่น่าถามเลยฉัน

"แต่เช้านี้ลูกค้าเห็นจะเยอะเป็นพิเศษค่ะ เพราะว่าใกล้วันสงกรานต์แล้ว ต้องซื้อของเตรียมไว้เยอะๆ" พนักงานเริ่ม

สนทนาต่อ

"เหนื่อยกว่าเดิมสินะค่ะ" ฉันถาม

"ก็เหนื่อยอ่ะค่ะ เวลาทำงานต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ก็หนุกดี เครียดดี" พนักงานตอบฉันด้วยรอยยิ้ม

"ทั้งหมด 18590 บาท 75 สตางค์ค่ะ" พนักงานบอกยอดซื้อทั้งหมดให้กับฉัน

"ค่ะ สักครู่นะค่ะ" ฉันตอบพนักงาน พร้อมทั้งล่วงมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ เพื่อเอาเงินมาจ่าย

          ขณะเดียวกันโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น "จะเก็บเงินไว้ไปศัลยกรรมที่เกาหลี ไปกรีดตาให้ต๊๋ ไม่ต้องสงสัย

ไปฉีดผิวให้ขาว ให้เด่งให้โดนใจ จะทำให้เธอละลายละลายต่อหน้าฉัน" 

"รับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ค่ะพี่" พนักงานบอกฉัน

"ค่ะๆๆๆๆๆ" ด้วยความเกรงใจ ฉันจึงตัดสายทิ้ง แล้วเอาเงินออกมานับ

"นี่ค่ะ 18600 บาท" ฉันยื่นเงินให้กับพนักงาน เะอรับเงิน แล้วนับเงินต่อหน้าฉัน

"รับเงินมา 18600 บาทนะค่ะ" พนักงานขานรับเงินฉัน

"เงินทอน 9 บาท 25 สตางค์ค่ะ ขอบคุณค่ะ" พนักงานยื่นเงินทอน พร้อมกับใบกำกับภาษีมาให้ฉัน

"ขอบคุณค่ะ" ฉันบอกกับพนักงาน พร้อมส่งยิ้มให้กับเธอ

          ฉันเดินออกมาที่รถ แล้วล่วงมือลงไปยื่มโทรศัพท์ภายในกระเป๋า กดไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสาย

แล้วกดโทรออก แน่แหล่ะ ฉันรู้ว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา อยากรู้เหมือนกันว่า มีเรื่องไร

"ฮัลโหลครับ อยู่ไหนอ่ะเธอ" เสียงจากปลายสายถามฉัน

"ว่ายังไง เมื่อกี้น้องซื้อของในแม็คโคร กำลังจ่ายตังค์อยู่ เลยตัดสาย มีไรม้าย?" ฉันถามกลับไปเมื่อชี้แจงเหตุผล

การตัดสายเสร็จ

"แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนนิ" เขายังถามต่อ

"แม็คโคร"

"แต่ซื้อของเสร็จแล้วใช่ม้าย?"

"ค่ะ"

"ม้ายนิ ฉันว่าจะเข้าไปรับเธอที่บ้าน พอดีจะชวนออกไปซื้อของหน่อยอ่ะ เธอว่างม้าย" 

"ฮืม..ไม่แน่ใจนะว่ามีคนอยู่ร้านป่าว ถ้ามีคนอยู่ร้านให้ก็ไปได้" ฉันตอบกลับไป

"ถ้าอย่างนั้น เธอถึงบ้านแล้วโทรมา หรือโชว์เบอร์มาก็ได้นะ เดี๋ยวฉันโทรกลับเอง"

"ได้ๆๆๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ จะขับรถแล้ว"

"ได้ๆ ครับ" ฉันตัดสายทันที่เมื่อจบเสียงของเขา

 

          ขณะที่ฉันขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางฉันพยายามคิดว่า ที่เขากลับมาคุยกับฉัน คงเป็นเพราะตอนนี้เขาเพิ่ง

จะกลับมาอยู่บ้าน ยังไม่มีเพื่อนที่ไหน เลยโทรมาหาฉัน ก็คงแค่นั้นแหล่ะ ฉันเองไม่อยากที่จะคิดอะไรให้มากไป

กว่านี้อีกแล้ว 

 

          ฉันขับรถมาจอดสนิทที่หน้าร้าน ลงมาเปิดกะบะท้าย และยกของลงจากรถ มีพ่อกับแม่ที่ช่วยยกของลง

เมื่อเสร็จแล้ว ฉันก็ขับรถเข้าไปจอดในโรงรถข้างบ้านทันที ฉันเดินเข้าร้าน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดไป

ที่เบอร์พี่แว่น เสียงสัญญาณเรียกสายดัง 2 ครั้ง แล้วเป็นเสียงของเขาแทน

"ถึงบ้านแล้วเหรอ?" เป็นคำถามแรก เมื่อเขารับสาย

"ค่ะ แล้วพี่จะไซื้ออะไร ที่ไหนอ่ะ" ฉันถามกลับไป

"ฮืม...เนี้ยพี่อยู่ที่ปากซอยบ้านน้องแล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปรับเลยได้ใช่ม้าย?" เป็นคำถามที่ 2 

"ฮืม...ได้ แล้วจะไปซื้อของที่ไหน ซื้ออะไร?" ฉันยังคงถามคำถามเดิม และเริ่มจะหงุดหงิดแล้วด้วย

"พี่จะซื้อพวงมาลัย ดอกไม้ ไปไหว้ศาลพระภูมิที่บ้านอ่ะ" เขาตอบ

"อ่อค่ะๆ งั้นรอที่บ้านนะ แค่นี้แร๊ะ" ฉันวางสาย นี่คือเหตุผลที่จะมารับฉันออกไปซื้อของ "ใช่เหรอ???" ฉันถามกับ

ตังเอง

 

          เมื่อรถ Honda civic สีขาว ป้ายแดงมาจอดหน้าร้าน ฉันลุกขึ้นยืนดู รถใครหว๋า??? สวยมากมาย และ

แล้วเมื่อฉันได้ยินเสียงโทรศัพท์ ฉันก็รู้ทันที ฉันเดินออกไปหน้าร้าน 

"แม่....แม่....ลูกออกไปข้างนอก เดี่ยวกลับมา" ฉันตะโกนบอกแม่ ซ่ึ่งนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน

ฉันเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งข้างออกมา แล้วเข้าไปนั่ง หันไปมองหน้าคนขับ "ใช่จริงๆ"

"นี่แม่นั่งอยู่หน้าบ้านเหรอ?" เขาถามฉัน

"ค่ะ" ฉันตอบกลับไป แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองฝั่งคนขับ เห็นพี่แว่นเปิดประตูออกไป

"แม่..สวัสดีครับ พอดีผมชวนกาญออกไปซื้อของนิดครับ" เขาเปิดประตูออกไปทักทาย พร้อมสวัสดีแม่ฉัน

"จ้าๆๆๆ ไปต่ะไม่เป็นไร" แม่ฉันรับไหว้

"ครับ" เขาขานรับ แล้วเข้ามาในรถ ขับรถออกไป

 

          ภายในรถ civic สีขาว ภายในหรูหราม๊าก....ทุกอย่างในรถดูดีหมดเลยในสายตาฉัน โห..นี่ต้องแพงมาก

เลยอ่ะ

"ซื้อรถใหม่แล้วเหรอ?" ฉันเริ่มถามเขา เมื่อรถออกมาจากบ้านไม่ไกลนัก

"ม้าย...นี่เป็นรถน้าพี่เอง พี่ยื่มมาขับอ่ะ" เขาตอบ

"อ่อ...สวยมากเลยนะ เห็นพี่ไม่ซื้อสักคันหล่ะ" 

"ตังค์ที่ไหนหล่ะเธอ ยื่มเธอได้ป่าวหล่ะ?" เขายิ้มให้ฉัน ถ้ามีให้พี่ยื่มนะ ฉันซื้อไว้ใช้เองดีกว่าค่ะพี่แว่น

"เอาสิ จะเอาเท่าไหร่หล่ะ? สัก...ยี่สิบ สามสิบบาท เครม้าย?" ฉันหยอกล้อเขากลับ เราทั้งคู่หัวเราะออกมา

"มีร้านดอกไม้ที่ไหนใกล้ๆ บ้างหล่ะ เดี๋ยวพี่ต้องกลับแล้ว เอารถกลับไปให้น้าอีก" เขาหันมาถามฉัน อันที่จริง เรา

ยังขับรถออกไปไม่ถึงปากซอยบ้านฉันเลยนะ แต่เขาบอกจะรีบกลับแล้ว อะไรกันนี่

"เลี้ยวขึ้นไปหลังโรงพยาบาลตรังสิ แถวนั้นมี" ฉันตอบกลับไป ด้วยน้ำเสียงเย็นชา อารมณ์เปลี่ยน เสียงก็เลย

เปลี่ยน และดูเหมือนเขาเองก็รู้ตัวแล้วเหมือนกัน

 

          ฉันพาเขามาถนนรักษ์จันทร์ และจอดรถหน้าร้านดอกไม้ร้านหนึ่ง หน้าร้านมีดอกดาวเรือง ดอกเบญจมาศ

พวงมาลัยแขวนอยู่เต็มราว 

"จะซื้อดอกไรบ้าง" ฉันหันไปถามเขา

"ดอกดาวเรืองก็ได้" เขาตอบ 

"พวงมาลัย ซื้อกี่ช่อ?" ฉันถามต่อ

"พวงมาลัยช่อเดียว, ดอกดาวเรืองเอาสัก....." เขานั่งนึก และนับออกมา 1 2 3 4 5 6 7  "ดอกดาวเรืองเอามา

7ช่อ" เขาตอบฉันกลับมา

"ดอกดาวเรืองใช้ใส่แจกันใช่รึ ทำไมไม่เป็นเลขคู่หล่ะ" ฉันถามกลับเพื่อความแน่ใจ

"งั้นเอามา 8 ช่อเลยก็ได้" เขาตอบกลับมา พร้อมกับยื่นเงินมาให้ฉัน เป็นแบงค์ 500 บาท 1 ใบ ฉันรับเงินนั้นมา

แล้วเอาไปจ่ายให้แม่ค้า

 

          เมื่อฉันซื้อดอกไม้ และพวงมาลัยให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถกลับมาส่งฉันที่บ้าน ก่อนที่จะขับรถ

เข้าซอยบ้านฉัน 

"นี่เธอ...ช่วยไรพี่หน่อยสิ" เขาเริ่มพูดออกมา และฉันเองก็หันหน้าไปมองเขา ซึ่งตอนนี้เขากำลังตั้งใจขับรถอยู่

"เรื่องไรอ่ะ ช่วยได้ก็ช่วยนะ" ฉันตอบกลับไป

"เธอพอจะหาเงินให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะเอาไปคืนที่ร้านอ่ะ พอดีฉันเอาเงินสดสำรองจ่ายค่าน้ำของที่้ร้านมาจ่ายค่า

อะไหล่รถที่บ้าน ก็เลยต้องหาเงินไปคืนที่ร้านก่อน พี่ถึงจะเบิกเงินค่าตำแหน่งของพี่คืนได้ ไม่งั้นบริษัทไม่ให้เบิก

คืน เธอพอจะหาของใครให้พี่ก่อนได้ม้าย" เขาอธิบายเหตุผลให้ฉันฟัง

"เท่าไหร่ได้หล่ะ" ฉันถามกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

"20000 อ่ะ" เขาตอบกลับมา อย่าว่า แต่ 20000 ต่ะ 200 ยังไม่กล้ายื่มใครเลย งานเข้าแล้วฉัน

"นี่เธอ ลองยื่มใครให้ก่อนนะ เดี๋ยวประมาณ 1 เดือนฉันก็เบิกคืนให้" เขาบอกกับฉัน

"เดี๋ยวจะลองดูให้นะ แต่ไม่รับปากว่าจะได้ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าจะยื่มจากใครให้เธอ" ฉันตอบกลับไป ในใจก็คิด

ว่า ที่วนเวียนมาหาฉัน โทรมาหาฉัน เพราะเรื่องเงินสินะ นี่ถ้าไม่มีเรื่องนี้ คงไม่มาหรอก

 

          เมื่อขับรถมาถึงหน้าบ้าน ฉันเปิดประตูรถออกมา และก้าวขาลงจากรถ ทันใดนั้น เขาก็พูดขึ้นมาย้ำกับฉัน

อีกครั้ง

"นี่เธอ...ดูๆ ให้หน่อยนะ เดือนเดียวเอง" 

"เดี๋ยวดูให้ แต่ไม่รับปากว่าจะได้" ฉันตอบกลับไป

"วันพุธนะ" เขาย้ำฉันอีก แค่นี้ก็เครียดขึ้นสมองแล้ว

"ฮืม...ได้ค่ะ" ฉันพยายามบีบเสียงให้เป็นปกติที่สุด แล้วปิดประตูรถทันที ฉันยืนอยู่หน้าร้าน รอให้รถเขาออกกลับ

ไปเสียก่อน จึงค่อยเดินเข้าไปในร้าน

"แว่นกลับไปแล้วเหรอกาญ" เสียงแหลมๆ ที่ดังมาจากในครัวถามฉัน ม๊าม๋าฉันเอง

"กลับแล้วค่ะ" ฉันตอบกลับไป ในใจก็ท่องแค่คำว่า สองหมื่นๆๆๆๆๆๆ ไม่ต้องรอถึงวันพุธหรอกนะ พรุ่งนี้จะโทรไป

บอกเองเลยว่า "ไม่มี หาให้ไม่ได้" เฮ้ย...เครียดๆๆๆๆๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา