Dandelion(แดนดิไลออน) คืนฝันวันล่าจินตนาการ

8.3

เขียนโดย มะมาย

วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.58 น.

  21 ตอน
  9 วิจารณ์
  25.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19.14 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

17) แผนการณ์ข้ามเขตแดน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มะมายบอกข่าว :

กลับมาแล้วจ้าพร้อมกับข่าวดีที่ว่าเขียนเรื่องนี้จบแล้ว แต่เอาไว้จะทยอยลงเรื่อยๆฝากติดตามด้วยนะคะ สนุกแน่รับประกัน 

ลืมบอกไปว่า แดนดิไลอ้อนเป็นนวนิยายเรื่องยาวนะคะ ทีแรกกะจะแค่เขียนสั้น ๆแต่มันดันยาวเยียด ขอโทษด้วยที่เอามาลงตรงเรื่องสั้น

...................................................

ดราฟรินบูชาหมี เขาคิดว่าความน่าเกรงขามของมันจะทำให้เผ่าพันธุ์ดราฟรินยิ่งใหญ่

ถ้าเป็นอย่างที่โซเนียบอกคงมีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ฉันจะช่วยเดรกได้นั่นคือขอความช่วยเหลือจากริงตั้น แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือบลูม่า เจ้านั่นตามติดฉันแจตามคำสั่งของโซเนีย ฉันคงจ้องหาวิธีดึงความสนใจจากบลูม่าแต่จะด้วยวิธีไหนกันล่ะ? ขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิดอยู่ เซียน่าหญิงเจ้าของร้านดอกไม้ซึ่งฉันจำได้ว่าเราพบกันในวันแรกที่ฉันมาถึงที่นี่ เธอแวะเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“อรุณสวัสดิ์เอลิซ่า”

เซียน่าบินล่อนลงมาจากอากาศด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เธอสลัดปีกสองสามครั้งให้เกล็ดสีเหลืองที่เคลือบอยู่บนปีกหลุดออก

“ไปเก็บเกสรดอกไม้มาหรอเซียน่า” ฉันทักทาย

“มีมาฝากเจ้าด้วยล่ะเอลิซ่า ว่าแต่โซเนียล่ะ?” เซียน่ากวาดตามองหา

“ไม่อยู่หรอก”

“เสียดายจังข้ากะว่าจะชวนไปปาร์ตี้แสงอาทิตย์ที่ร้านซะหน่อย”

“ปาร์ตี้หรอ”

ฉันพอจะนึกหาหนทางที่จำทำให้ตัวเองรอดพ้นจากสายตาเจ้าแมลงเต่าทองบลูม่าได้แล้ว

“เจ้ากับบลูม่าไปด้วยกันสิ คนยิ่งเยอะงานก็ยิ่งสนุกนะ” เซียน่าท่าทางกระตือรือร้นกับงานนี้เอามาก

“ตายจริง!ข้าคงต้องไปก่อนที่งานจะเริ่ม” เธอนึกขึ้นได้ว่ามีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่เธอต้องกลับไปจัดการ

“ข้าคงต้องกลับก่อนล่ะ บาย”

“บายจ๊ะ” ฉันโบกมือ มองเซียน่าบินจากไปอย่างยิ้มๆ แล้วเหลือบมองบลูม่าที่เฝ้าอยู่

“บลูม่านายไม่สนใจไปงานปาร์ตี้หรอกหรอ ฉันว่าต้องสนุกแน่ๆเลย ว่าไหม”

ฉันหยอดคำเชิญชวนแต่ดูบลูม่าจะรู้ทันเลยเอาแต่เชิดหน้าไม่สนใจ

“ไม่อยากไปจริงๆหรอ”

บลูม่าหันมาสบตาใสๆที่ดูไหวเอนต่อคำพูดไม่กี่คำ “ฉันสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน” ฉันกระพริบตาถี่ๆแต่มันก็ทำแชเชือน

“โอเคนายคงไม่อยากไป”

ทีแรกฉันคิดว่าแผนจะล้มเหลวแต่ทันใดนั้นบลูม่าก็บินมาหยุดอยู่ตรงหน้า มองฉันด้วยแววตาขรึมแล้วเริ่มบ่นด้วยภาษาจิ้งหรีดซึ่งฉันฟังไม่เข้าใจ แต่ก็พอจะเดาความหมายได้ไม่ยากว่ามันคงกำลังสั่งห้ามไม่ให้ฉันออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่ามันจะกลับมา

“นายไปเถอะบลูม่า ฉันไม่ผิดคำพูดแน่” ฉันทำเสียงหนักแน่น และมันได้ผล

ฉันรอให้บลูม่าบินออกไปจากบ้านดอกไม้ซะก่อนว่าแล้วจึงจะก้าวออกไปบ้างแต่ก็ต้องชะงักเมื่อกาเลตส่งเสียงเตือน

“จะไปไหนสาวน้อย”

ฉันสะดุ้งชักเท้ากลับ “หนูนึกว่าคุณหลับอยู่ซะอีก” ฉันคอตกเมื่อถูกจับได้

“ดอกไม้ไม่เคยหลับใหลหรอกนะสาวน้อย” กาเลตบอกเสียงหวาน

“จะกลับไปที่ธารน้ำอย่างงั้นหรอ ขอโทษที่ถือวิสาสะอ่านความคิดของเธออีกหน”

“ไม่เป็นไรกาเลตหนูไม่โกรธคุณหรอก”

“ขอบใจแต่ที่นั่นอันตราย โซเนียบอกเธอแล้วเมื่อคืน”

“หนู่รู้แต่จะให้หนูอยู่เฉยๆรอให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ทำอะไรเลยหรอกาเลต แล้วเดรกจะเป็นยังไง” ฉันเศร้าเมื่อนึกถึงเขาและชะตากรรมที่เขาต้องพบเจอ

“อย่ากังวลไปเลยสาวน้อย โซเนียกำลังจัดการกับเรื่องนี้ บางทีที่เธอหายไปก็เพราะกำลังหาทางช่วยพี่ชายเธออยู่ก็ได้”

“หนูรู้กาเลตว่าคุณโกหกเพื่อปลอบให้หนูมีความหวัง”

กาเลตนิ่งไปชั่วครู่เมื่อรู้ว่าฉันรู้ทัน “เจ้ารู้หรอ?”

ฉันผงกศีรษะลงช้าๆด้วยแววตาเศร้าที่ประกายชัดแม้พยายามหลบเลี่ยง

“ดราฟรินไม่มีทางอยู่แน่ถ้าหากว่าพวกเขารู้ว่าเฮริบเบิ้นแตะต้องกับหมีซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาเคารพบูชา และถ้าหากมันนำมาสู่สงครามหนูคงเสียใจมากกาเลต”

 “เธอก็เลยจะขอความช่วยเหลือจากเด็กผู้ชายคนนั้น คนที่นั่งตกปลาอยู่ที่ธารน้ำงั้นหรอ”

“มันเป็นวิธีเดียวกาเลตที่หนูสามารถทำได้”

“แต่เธอจะตกอยู่ในอันตรายนะสาวน้อย”

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนูคงกลัวแต่ตอนนี้หนูไม่มีความจำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป เพราะที่นี่คือโลกของหนู”

ความกล้าปรากฏชัดเจนขึ้นในทุกครั้งที่ฉันนึกถึงเบรนด้าและคำพูดของเธอมันทำให้ฉันยิ้มได้

“ได้โปรดกาเลต หนูสัญญาว่าจะกลับมาให้ทัน ก่อนที่โซเนียจะมาถึง”

ฉันอ้อนวอนกาเลตจากความรู้สึกฮึกเหิมที่ซึมซ่านออกมาผ่านจิตใจที่เข้มแข็ง

“เอาล่ะ ขนาดดอกไม้ที่ไร้ซึ่งหัวใจอย่างฉันยังต้องใจอ่อนยอมเธอเลยสาวน้อย”

“แปลว่าคุณยอมให้หนูไปได้แล้วใช่ไหม” ฉันตาเป็นประกาย

กาเลตแง้มกลีบดอกไม้สีสวยปล่อยฉันให้เป็นอิสระสู่ภายนอก เธอมอบกลีบดอกไม้ขนาดใหญ่พอดีตัวให้กับฉันไว้

“ใช้มันอำพรางตอนที่เธอบินข้ามไปอีกฝั่ง มันจะช่วยลวงตาดราฟรินที่คอยเฝ้าเขตแดนอยู่”

“ขอบคุณนะกาเลต”

ฉันโอบกอดกาเลตด้วยความซาบซึ้งทั้งหมดที่มีก่อนจะบินไปที่ลำธาร กาเลตบอกว่าให้บินไปเรื่อยตามลำน้ำจนกว่าจะพบหินแหลมสามก้อนที่เรียงต่อกันเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมเพราะที่นั่นจะปราศจากสายตาจับจ้องแต่ฉันก็ไม่ประมาทมองซ้ายขวาตรวจทานให้แน่ชัดว่าจะไม่มีทหารดราฟรินซุ่มดูอยู่ณอาณาบริเวณนี้ ว่าแล้วจึงซุกตัวอยู่ภายในกลีบดอกไม้ ปล่อยกระแสลมให้พัดพาข้ามไปอีกฟากฝั่ง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา