เรื่องเล่าจากความมืด

9.0

เขียนโดย AraTemp

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.06 น.

  10 ตอน
  6 วิจารณ์
  18.93K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 22.11 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

4) เส้นผม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ครูสาวโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในวันนี้เธอต้องอยู่ทำงานจนดึกดื่นมืดค่ำกว่าทุกวัน

“เฮ้ออออ เสร็จสักที” ครูสาวผู้นี้กำลังนั่งทำหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน หลังจากนั่งทำมาหลายชั่วโมงในที่สุดก็เสร็จเสียที

ครูสาวมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ทำให้รู้ว่าตอนนี้ข้างนอกมืดมากแล้ว สายตาของเธอมองไปยังนาฬิกาที่ติดอยู่ที่ฝาผนัง หน้าปัดนาฬิกาตอนนี้บอกเวลาเกือบสี่ทุ่ม ดึกขนาดนี้แล้วครูคนอื่นๆ คงกลับกันไปหมดแล้ว ทั้งโรงเรียนตอนนี้เหลือแค่เธอเพียงคนเดียวแน่ๆ

 ครูสาวลุกจากเก้าอี้ ในมือถือกระดาษที่เต็มไปด้วยรูปภาพและข้อความสำหรับพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ เธอเดินตรงไปยังเครื่องถ่ายเอกสารที่อยู่ตรงมุมห้อง

ครูสาวค่อยๆ ยกฝาปิดขึ้นจากนั้นจึงนำกระดาษที่เป็นต้นฉบับมาวางคว่ำลงไปก่อนจะดึงฝาปิดลงมาทับเอาไว้

     “โอเค เรียบร้อย ที่นี้ก็กดปุ่ม” เธอใช้นิ้วชี้กดลงไปเบาๆ ที่ปุ่มใหญ่ๆ สีเขียว จากนั้นเครื่องก็เริ่มทำงาน มีแสงไฟจากเครื่องถ่ายเอกสารลอดออกมาแวบหนึ่ง

     “ติ๊งงงงง ต๊องงงง” จู่ๆ เสียงสัญญาณเลิกเรียนก็ดังขึ้นมากะทันหัน ทำให้ครูสาวถึงกับตกใจ

     “ทำไมมาดังตอนนี้ได้ล่ะ” เสียงนั้นดังไปทั่วทั้งโรงเรียน และไม่นานก็หยุดลง พร้อมกับเอกสารที่ถูกถ่ายออกมาเสร็จพอดี ครูสาวได้แต่ยืนนิ่งจนเสียงสัญญาณเงียบสนิท

     “เอ๊ะ! นี้มันอะไรกัน” ครูสาวหยิบกระดาษที่ถ่ายออกมาดูด้วยความสงสัย

บนกระดาษที่ถูกถ่ายเอกสารออกมานั้น นอกจากจะมีภาพจากตัวต้นฉบับที่ถูกถ่ายออกมาเหมือนปกติ แต่นอกเหนือจากนั้นกลับมีเส้นสีดำบางๆ สองถึงสามเส้นอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นด้วย

ครูสาวไม่รู้ว่าเส้นพวกนั้นคืออะไร ด้วยความสงสัยเธอจึงยกฝาเครื่องถ่ายเอกสารขึ้น และหยิบกระดาษที่เป็นตัวต้นฉบับออกจากเครื่องถ่ายเอกสาร

ทันทีที่กระดาษตัวต้นฉบับถูกหยิบออกมานั้น เพียงชั่วพริบตาสายตาของครูสาวก็ได้สังเกตเห็น ใบหน้าของหญิงสาวที่มีผมยาวสีดำเข้มสะท้อนขึ้นมาในกระจกสแกนของเครื่องถ่ายเอกสาร

ครูสาวตกใจจนเผลอปล่อยมือจากฝาเครื่องถ่ายเอกสารทำให้ฝาตกลงมาปิด เธอเดินถอยหลังไปสองถึงสามก้าว

“เมื่อกี้มันอะไรกัน” ครูสาวพยายามทำใจให้กล้าแล้วค่อยๆ เดินไปยังเครื่องถ่ายเอกสารอีกครั้งหนึ่ง เธอค่อยๆ ยกฝาเครื่องถ่ายเอกสารขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเปิดขึ้นมาก็กลับพบแต่ความว่างเปล่าเสมือนไม่มีอะไรอยู่ในนั้นตั้งแต่แรก

“สงสัยจะเหนื่อยเกินไปสินะ” ครูสาวใช้มือขยี้ตาทั้งสองข้าง จากนั้นเธอจึงดึงฝาเครื่องถ่ายเอกสารลงมาปิดอีกครั้งแล้วกดปุ่มใหญ่ๆ สีเขียวเพื่อเริ่มถ่ายเอกสารอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเธอกดปุ่มแล้ว ทันใดนั้นเครื่องถ่ายเอกสารก็เกิดอาการสั่นอย่างรุนแรง อีกทั้งยังส่งเสียงดังออกมาไม่หยุด

     “คราวนี้อะไรอีกล่ะ” ครูสาวตกใจกับอาการแปลกๆ ของเครื่องถ่ายเอกสารที่ตอนนี้ทั้งส่งเสียงทั้งสั่นไม่หยุด

     “ดึกขนาดนี้คงไม่มีใครอยู่หรอกนะ” เมื่อเธอพูดกับตัวเองจบ เธอจึงตัดสินใจใช้เท้าขวาเตะเข้าไปที่เครื่องถ่ายเอกสารครั้งหนึ่ง และแล้วทุกอย่างก็สงบทั้งเสียงทั้งอาการสั่นของเครื่องถ่ายเอกสารก็ได้หยุดลง เหลือเพียงเสียงที่บ่งบอกว่าขณะนี้เครื่องกำลังทำงาน ไม่นานกระดาษก็ออกมา คราวนี้กระดาษที่ถูกถ่ายออกมาดูจะไม่มีอะไรที่ผิดปกติ

“ตี๊ดดดดดด ตี๊ดดดดดด” จู่ๆ เครื่องถ่ายเอกสารก็เริ่มทำงานอีก กระดาษที่ถูกถ่ายค่อยๆ ไหลออกมาเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด

“เอ๊ะ! เกิดอะไรขึ้น อะไร…” หญิงสาวหันกลับมามองด้วยความตกใจ เพราะเธอกดถ่ายเอกสารแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วทำไมถึงยังทำงานได้อยู่อีกล่ะ เธอยื่นมือไปหยิบกระดาษที่ถูกถ่ายออกมาดู สองแผ่นแรกที่เธอหยิบมากลับพบว่ามีเส้นสีดำบางๆ อยู่บนกระดาษเหมือนกับตอนแรกไม่มีผิด

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ครูสาวหยิบกระดาษที่ถูกถ่ายเอกสารออกมา เธอสำรวจดูทุกแผ่นและพบว่าเส้นสีดำประหลาดกลับยิ่งมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ยิ่งแผ่นที่ออกมาใหม่กลับแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างสำหรับภาพหรือข้อความของตันฉบับเลยด้วยซ้ำ ทั้งแผ่นกลับเต็มไปด้วยเส้นสีดำบางๆ เต็มไปหมด

“ทำไมถึงยังทำงานอยู่ล่ะ หยุดสิ!! หยุด!!!” ครูสาวพยายามกดปุ่มยกเลิกสลับกับปุ่มปิดเครื่องอยู่หลายครั้ง แต่เครื่องถ่ายเอกสารก็ยังคงทำงานต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุดลงเลย เครื่องถ่ายเอกสารยังคงส่งเสียงเพื่อให้รู้ว่ากำลังทำงานอยู่ และแสงที่เกิดจากการสแกนของเครื่องถ่ายเอกสารก็ยังคงสว่างวาบออกมาอยู่เรื่อยๆ เช่นกัน กระดาษที่ยังคงออกมาไม่หยุด ทำให้ครูสาวเริ่มวิตกกังวลจนทำอะไรไม่ถูก

“อ๊ะ จริงสิ” ครูสาวเหลือบสายตาไปเห็นปลั๊กไฟของเครื่องถ่ายเอกสารที่เสียบอยู่ข้างๆ กับตัวเครื่อง เธอจึงก้มลงแล้วยื่นมือไปจับจากนั้นก็ออกแรงดึงปลั๊กที่เสียบอยู่จนมันหลุดออกมาจนได้

ทันทีที่ปลั๊กไฟของเครื่องถ่ายเอกสารถูกดึงออกมา เครื่องก็หยุดทำงานในทันที ทุกอย่างหยุดชะงักจนเกิดความเงียบขึ้นในทันที

“เฮ้อ หยุดแล้วสินะ” ครูสาวถอนหายใจ ก่อนจะใช้มือเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

ครูสาวค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เครื่องถ่ายเอกสารอย่างช้าๆ เธอยื่นมือไปจับที่ฝาของเครื่อง มือของเธอเริ่มสั่นเบาๆ ด้วยความกลัว แต่เธอก็ยังพยายามที่จะเปิดดูขใต้ฝาว่าในนั้นมีอะไรอยู่กันแน่

คราวนี้เมื่อฝาของเครื่องถ่ายเอกสารถูกเปิดขึ้นมา กลับพบว่ามีเส้นสีดำประหลาดอยู่บนกระจกสแกนของเครื่องถ่ายเอกสารเต็มไปหมด

“เอ๊ะ!! นี่มันอะไรกัน” ครูสาวยืนนิ่งสายตายังคงจ้องไปที่เส้นบางๆ เหล่านั้น ทันใดนั้นเองเส้นบางๆ เหล่านั้นก็เริ่มขยับอย่างช้าๆ มันค่อยๆ เคลื่อนที่ไปทางขวาลงไปยังด้านข้างของตัวเครื่องถ่ายเอกสาร

ครูสาวยังคงมองตามเส้นบางๆ เหล่านั้น เธอเห็นมันค่อยๆ ถูกดึงกลับเข้าไปในเครื่องถ่ายเอกสารจนในที่สุดมันก็หายกลับเข้าไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่เพียงเส้นเดียว

ครูสาวพยายามควบคุมสติตัวเองเอาไว้ แต่ถึงจะพยายามเท่าไรมือของเธอก็ยังคงสั่นอยู่ดี เธอค่อยๆ ยื่นมือไปอย่างช้าๆ พยายามที่จะเปิดช่องใส่กระดาษซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เส้นบางๆ ก่อนหน้านี้กลับเข้าไปเช่นกัน เธอดึงช่องกระดาษออกมาอย่างช้าๆ

เมื่อดึงออกมาได้แล้ว เธอจึงตัดสินใจเปิดออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งภายในนั้นกลับไม่มีอะไรเลยเหลือแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

“เฮ้ออออ” ครูสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อไม่เจออะไรอยู่ในช่องสำหรับใส่กระดาษ เธอจึงค่อยๆ ดันช่องใส่กระดาษกลับเข้าไปยังที่เดิมของมัน

“โธ่ นี้มันอะไรกันเนี่ย” ครูสาวร้องออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนเพลีย จนในที่สุดเธอก็เตรียมตัวกำลังจะกลับ เธอหันกลับมามองที่เครื่องถ่ายเอกสารและพบว่าฝาของเครื่องยังคงเปิดทิ้งเอาไว้

ครูสาวเดินกลับไปที่เครื่องถ่ายเอกสารอีกครั้งหนึ่ง เธอยื่นมือไปยกฝาเครื่องลงมาปิดเอาไว้

ทันใดนั้นเอง สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวผิวขาวซีด ผมยาวสีดำสนิท ยืนอยู่ข้างหลังเครื่องถ่ายเอกสาร กำลังมองมาที่เธอ ภายในดวงตาคู่นั้นเป็นสีดำสนิท

“กรี๊ดดดดดด!!!” เสียงของกรีดร้องของอีกฝ่ายดังผสานกับเสียงร้องของครูสาว

                เช้าวันต่อมา

               ครูที่มาถึงห้องพักครูเป็นคนแรก เมื่อมาถึงห้องก็กลับพบศพของครูสาวนอนเสียชีวิตอยู่ข้างๆ กับเครื่องถ่ายเอกสาร สภาพศพของครูสาวนั้นกลับพบว่ามีเส้นผมสีดำสนิทม้วนกันเป็นกระจุกติดกันอยู่ในปากของเธอ และมือทั้งสองข้างที่ลักษณะท่าทางเหมือนพยายามจะดึงมันออกจากปาก แต่ไม่ทันเสียแล้ว ครูสาวได้เสียชีวิตลงเสียแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา