องค์ชายจอมปีศาจกับสาวเมทจอมพลัง

9.1

เขียนโดย Soman

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.50 น.

  5 chapter
  4 วิจารณ์
  7,017 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2558 11.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) จุดเริ่มต้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               ในกาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานในอีกโลกหนึ่งซึ่งมืดมิดและน่ากลัวมีพวกปีศาจ ที่ปกครองดินแดนเหมือนมนุษย์ซึ่งมีราชาเป็นผู้ออกคำสั่งทุกอย่างและ ผู้ที่เป็นราชาต้องปกครองดินแดนของตนให้อยู่อย่างสงบสุข ปกป้องจากภัยต่างๆที่เข้ามา การปกครอง การเลี้ยงดูหรือสิ่งต่างๆนั้น  ปีศาจก็ไม่ได้แตกต่างจากมนุษย์สักเท่าไหร่นัก และแน่นอนว่า ราชาผู้ปกครองบัลลังค์ก็ต้องมีผู้สืบทอดราชบัลลังค์  นั่นก็คือองค์ชายนั่นเอง

               องค์ชายผู้นี้มีนามว่า  มาซึระ  โอเนโยชิ  เป็นองค์ชายที่ได้กล่าวกันว่าดุร้ายที่สุดและเขานั้นก็อายุ 17 ปีแล้ว เขาไม่ค่อยจะออกไปนอกพระราชวังเท่าไหร่นักเพราะมาซึระนั้นมีเหตุผลบางอย่างที่มิอาจจะพูดออกมาได้ และมีสิ่งหนึ่งที่องค์ชายอยากจะไปจริงๆนั่นคืออีกโลกหนึ่งซึ่งมองเห็นได้จากท้องฟ้าอันไกลโพ้น

               มันเป็นโลกที่ดูสวยงามมากมีสีฟ้า เป็นพื้นสีที่มองแล้วสบายใจ เวลาองค์ชายมาซึระ นั้นเศร้า หรือเป็นอะไรก็จะมองโลกใบนั้นอยู่เสมอมันจึงเป็นโลกที่เขาต้องการจะไปมากที่สุดเพราะองค์ชายนั้นหวังอยากจะไปดูว่ามันมีอะไรที่ทำให้โลกนั้นดูสวยอย่างนั้นบ้าง แต่ก็เป็นเพียงฝัน เพราะวันๆองค์ชายมาซึระนั้นต้องรบกับข้าศึกที่จะมาแย่งดินแดนของตนอยู่ตลอดเวลาแทบจะไม่มีเวลาพัก เพื่อช่วยพระราชบิดาปกป้องบัลลังค์จึงจำเป็นต้องออกรบ มันคือหน้าที่ที่มิอาจหลีกหนีได้

 

              

บนชั้นที่ 3 ของพระราชวัง

               องค์ชายมาซึระ ได้ยืนแหงนหน้ามองท้องฟ้าไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เขาได้มองอยู่อย่างนั้นเป็นพักใหญ่ๆ เขาพึงนึกในใจ  โลกที่เขาได้เฝ้ามองอยู่ตลอดเวลามันจะดูสวยงามสักเพียงใดถ้าได้มองจากที่ที่ใกล้กว่านี้  และน่าจะมีสิ่งที่สวยงามและสนุกมากว่าโลกแห่งนี้ที่มีแต่การรบราฆ่าฟันกันไปวันๆ  เพื่อที่จะได้ครองบัลลังค์หวังจะเป็นใหญ่  เขาพึงนึกคิดว่าโลกนั้นมันคงไร้ซึ่งสงครามและสวยมากแน่ๆ  เหมือนกับที่เขาได้มองเปลือกโลกนั้นมองกี่ทีมันก็ดูสวยงามตลอดเวลาสุดสายตาที่เอื้อมถึงแต่เขามิอาจจะใกล้ชิดโลกใบนั้นได้

              “องค์ชายขอรับ พระราชาให้มาเชิญท่านไปงานเต้นรำขอรับ”

องค์รักษ์ส่วนตัวขององค์ชายได้เชิญให้ไปห้องโถงใหญ่ตามคำสั่งของพระราชบิดา

             “อย่างนั้นหรอ เจ้าไปเรียนท่านพ่อให้เราทีว่าเดี่ยวข้าลงไป”

              องค์ชายได้หันหน้ากลับออกมาทางนอกหน้าต่างเช่นเดิม เขานั้นทำสีหน้าที่ดูเศร้าสร้อยอย่างอธิบายไม่ถูกมันเหมือน องค์ชายผู้นั้นไม่ค่อยจะเต็มใจที่จะทำเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่แต่ก็ต้องทำเพื่อพระราชบิดา

              "วันนี้ก็คงงานเลี้ยงที่ได้ชัยพิชิตพวกที่รุกรานมาพื้นที่เราแน่นอน"

องค์ชายยืนมองเลือกชุด ที่จะใส่ไปงานเลี้ยงของพระบิดาของตน เขาได้หาชุดที่เหมาะสมกับงานๆนี้โดยเฉพาะเพียงเพื่อจะไม่ทำให้ราชบิดานั้นเสียหน้าเพราะเขานั้นอยู่ในฐานะองค์ชายผู้สืบทอดราชบัลลังค์องค์ต่อไป

              องค์ชายได้เลือกชุดที่เหมาะแล้วเขาจึงเปิดประตูออกจากห้องเพื่อเดินไปที่ห้องโถงกลางพระราชวัง ที่มีงานเลี้ยงจัดรออยู่อย่างยิ่งใหญ่ แต่มันก็ไม่ทำให้องค์ชายนั้นดีใจมีแต่สีหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึกต่างๆ

 

              ระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังเริ่มไปได้อย่างครึกครื้น เสียงเปิดประตูได้ดังขี้น

              แอ็ดๆ  แอ็ดๆ แอ็ดๆ

             "องค์ชายเสด็จแล้ว"  "องค์ชายเสด็จแล้ว"

              ทุกที่กำลังมีความสุขกับงานเลี้ยงที่ครื้นเครงอยู่ พอได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งสงัดและคุกเข่าโค้งคาราวะองค์ชายผู้มีชัยในครั้งนี้  ในห้องโถ่งขนาดใหญ่เสียงที่ดังก็เงียบหายไปหมดมีแต่เสียงฝีเท้าขององค์ชายที่กำลังเดินไปหาราชบิดา  จนองค์ชายนั้นเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าพระพักตร์ของพระราชบิดา

             "ว่ายังไงลูกแห่งข้าเจ้ามีชัยเหนือศึกทั้งปวงข้านั้นดีใจที่มีลูกชายอย่างเจ้า"

              พระราชามางิ โอเนโยชิได้เอื้อมมือเข้ามากอดองค์ชายมาซึระด้วยความภาคภูมิใจที่ตนเองนั้นมีลูกที่เก่ง  และเป็นที่พึ่งของทุกๆคนในที่นี้  และได้ช่วยดินแดนแห่งนี้ปลอดภัยจากภัยต่างๆที่ย่างกลายเข้ามา มันทำให้ทุกๆคนสรรเสริญองค์ชาย

              "มิบังอาจท่านพ่อข้าควรจะดีใจที่มีพ่ออย่างท่านเป็นแบบอย่างที่ดีแบบนี้"

               องค์ชายได้ก้มหัวลงและคุกเข่าต่อหน้าพระพักต์ของพระบิดามันทำให้น้ำตาผู้เป็นพ่อหลั่งไหลออกมาจากดวงตาของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยหลั่งน้ำตาต่อสิ่งใด บรรยากาศรอบข้างก็ทำให้ทุกคนซาบซึ้งและปลาบปลื้มปิติยินดีต่อองค์ชาย

              "ท่านพ่ออย่างร้องไห้เลย ตัวข้านี้มีวันนี้ได้เพราะท่านพ่อ ต่อให้ตายหรือเสี่ยงแค่ไหนก็จะทำตามคำสั่งของท่านพ่อที่ได้มอบหมายให้มาจนสำเร็จไม่ว่าตัวข้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม"

              พระราชบิดาได้เข้ามาโอบกอดองค์ชายด้วยความอบอุ่นที่หาจากไหนไม่ได้ มือสองข้างขององค์ชายก็ได้โอบกอดพระบิดาของตน ด้วยความรักและเป็นห่วงพระบิดาอย่างที่สุด และงานเลี้ยงก็ได้เริ่มขึ้น ทุกๆคนนั้นต่างพากันดื่มสุราและอาหารอย่างเอร็ดอร่อย  จนฟ้าสางทำให้ปีศาจทุกตนนั้นเมาไม่ได้สติและหลับไปตามๆกันมีเพียงแต่องค์ชายเท่านั้นที่ไม่ได้ดื่มสุราหรือกินอะไรไป  เขาได้เดินออกจากห้องโถงเพื่อจะเดินไปนอกพระราชวังไปที่ที่องค์ชายนั้นได้ดูโลกที่ตนเองนั้นใฝ่ฝันอยากจะไป

             "โลกที่มีสีฟ้าแบบนั้นทำไมดูกี่ทีก็รู้สึกสบายใจจังนะ แต่ยังไงก็คงไม่มีโอกาส"

              องค์ชายได้หยุดที่จะมองโลกใบนั้นที่อยู่บนท้องฟ้าเพื่อจะกลับเข้าไปในพระราชวัง แต่จู่ๆ ก็มีปีศาจร่างใหญ่ตนหนึ่งผุดขึ้นมาจากดินมันอยู่ที่หลังขององค์ชาย มันทำให้องค์ชายนั้นหยุดนิ่งไปชั่วครู่ และหันไปดูว่าใครที่อยู่หลังของเขา

              "มาเซอร๊อบ!!  นายเองหรอวันนี้ข้าอารมย์ไม่ดีอย่ามีเรื่องจะดีกว่า"

               องค์ชายมาซึระ ได้พูดออกไปพร้อมกับสีหน้าที่ดูน่ากลัว เหมือนจะบอกถ้าเข้ามาใกล้ก็คงมิอาจจะรอดไปได้

              "ไม่เอาน่ามาซึระ ข้ามาตัดสินการต่อสู้เมื่อวันก่อนต่อให้จบเลยไหมล่ะ"

               มาเซอร๊อบได้ท้าทายองค์ชาย และดูเหมือนองค์ชายจะรับคำท้าทายเหล่านั้นมาเซอร๊อบไม่รอช้าเขาได้รีบพุ่งเข้าไปหาองค์ชายพร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากมือด้านขวาของเขา 

              "คิดว่าแค่นั้นมันจะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรอมาเซอร๊อบ?" 

               องค์ชายยืนนิ่งๆพร้อมกับยื่นมือข้างซ้ายกางมือออกรับพลังที่มาเซอร๊อบนั้นได้ปล่อยออกมาองค์ชายนั้นรับพลังนั้นด้วยมือซ้ายข้างเดียวมันทำให้มาเซอร๊อบตกใจ และใช้พลังที่มียิงออกไปหาองค์ชายแบบไม่ยั้งมือ  ทำให้ที่ที่องค์ชายมาซึระอยู่เป็นรูขนาดใหญ่และลึกพร้อมฝุ่นที่ตลบไปทั่วบริเวณ ทำให้มองอะไรไม่เห็น

             "ห้าๆๆ แค่นี้ก็ตายไปซะทีเซี่ยนหนามของข้าเจ้าองค์ชายงี่เง่าห้าๆๆ"

มาเซอร๊อบ หัวเราะอย่างสะใจที่ในบริเวณที่เขาได้ปล่อยพลังออกไปมันไม่มีร่างขององค์ชายอยู่จึงทำให้มาเซอร๊อบคิดว่าตายสลายหายไปแล้ว  แต่ไม่นานนักมาเซอร๊อบก็ต้องชะงักอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเขาได้ยินเสียงขององค์ชาย

             "ก็ข้าบอกแล้วไงมาเซอร๊อบพลังเจ้ามันทำอะไรข้าไม่ได้น่ะ"

              เสียงที่มาเซอร๊อบได้ยินนั้นมันทำให้ตกใจตัวเขานั้นแข็งทื่อไปชั่วขณะหนึ่ง และมองไปทางต้นเสียงที่เอ่ยออกมาซึ่งต้นเสียงนั้นมันอยู่ข้างหลังของเขาเอง  

             "นี่กะ แก โดนไปขนาดนั้นยังไม่เป็นอะไรอีกหรอ?  ถ้าแบบนั้น!!"

              ในระหว่างที่มาเซอร๊อบกำลังจะปล่อยพลังใส่อีกครั้งองค์ชายได้หายไปอยู่ข้างหน้าของมาเซอร๊อบ และจับแขนบิดไปมามันทำให้แขนมาเซอร๊อบนั้นหักปล่อยพลังออกไปไม่ได้องค์ชายก็ได้ถีบ มาเซอร๊อบที่ท้องอย่างแรงกระเด็ดลงมากระทบกับพื้นฝุ่นนั้นตลบ  พื้นดินเป็นรูขนาดใหญ่

             "คงจะมีแค่นี้แหละมั้งมาเซอร๊อบ งั้นฉันไปละมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำ"

              องค์ชายได้กล่าวจบก็ได้เดินออกมาจากที่ตรงนั้นเพื่อจะเข้าไปในพระราชวัง แต่เขาได้หารู้ไม่ว่า มาเซอร๊อบนั้นได้กระทำการอันใดอยู่  มาเซอร๊อบได้ใช้พลังครั้งสุดท้ายสร้างมิติตรงช่วงระหว่างพื่นที่องค์ชายมาซึระได้ยืนอยู่โดยที่องค์ชายไม่ทันระวังตัว  องค์ชายนั้นก็ได้โดนดูดลงไปอย่างช้าๆมันทำให้องค์ชายนั้นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

              "นี่มันอะไรกันมาเซอร๊อบ แกจะทำอะไรกันแน่?"

               องค์ชายได้พูดขึ้นสีหน้าของเขาเหมือนจะโกรธสุดๆแต่ก็ทำเช่นไรไม่ได้เพราะมิติสีดำนั้นค่อยๆดูองค์ชายมาซึระลงไปเรื่อยๆจนจะมิดหัวของเขาแล้ว

              "แกน่ะหายไปได้ซะก็ดี ข้าจะได้ครองที่นี่สักทีแค่นี้ก็หมดเสี้ยนหนามแล้ว"

               มาเซอร๊อบ ยืนหัวเราะไม่หยุด ด้วยความสะใจของเขาที่สุด จนองค์ชายพร้อมกับมิติสีดำนั้นได้หายไปจากพื้นที่ตรงนั้น  มันทำให้มาเซอร๊อบพอใจกับผลงานตัวเองที่โค่นองค์ชายที่ว่าแข็งแกร่งที่สุดลงได้

 

และเหตุการ์รต่อจากนี้จะเป็นเช่นไรต่อไป

โปรดติดตามตอนต่อไป    คอมเม้นหรือวิจาร์ได้นะครับ อิอิ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา