My dear เวทมนตร์นี้เพื่อเธอ

-

เขียนโดย ฝนดาวตก

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 09.19 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,984 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.33 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

10) 10

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 10

          ฉันลืมตาตื่นขึ้นในห้องที่ไม่คุ้นเคย มันเป็นห้องของโลกมนุษย์ คล้ายกับที่ลาเบลเคยพักเมื่อครั้งก่อน ว่าแต่ใครกันนะกล้าเล่นตลกกับแม่มดอย่างฉันกัน มันต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนเลย

          “ตื่นแล้วหรอ แม่มดน้อยของข้า” เสียงใครกัน

          “เจ้าเป็นใคร แล้วรู้ได้ยังไงว่าข้าเป็นแม่มด”

          “ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญที่ข้าต้องการอะไรจากเจ้ามากกว่า หรือเจ้าไม่สงสัยว่าข้าจับเจ้ามาทำไม”

          “ข้าก็ต้องสงสัย และอยากรู้อยู่แล้วล่ะว่าเจ้าจับข้ามาทำไม แต่ในเมื่อถามแล้วเจ้าไม่บอก ข้าจะถามให้เปลืองน้ำลายเพื่ออะไรกัน และถ้าเจ้าแน่จริงก็หยุดปลอมเสียง และถอดหน้ากากของเจ้ามาเจอหน้ากับข้าดีกว่าไหม”

          “งั้นเจ้าตอบมาก่อนว่าเจ้ามาที่นี่ทำไมกัน เจ้ามาตามหาใคร”

          “หรือว่า เจ้ารู้ว่าพวกเขาอยู่ไหน”

          “แน่นอน ข้ารู้ว่ามนุษย์นั่นอยู่ที่ไหน แต่ว่าข้าไม่รู้ว่าพ่อมดหนุ่มอยู่ที่ไหน”

          “แล้วตะวันอยู่ที่ไหนกัน บอกข้ามาเร็วๆ เข้า”

          “ดูท่าเจ้าจะรักไอ้มนุษย์นั่นมากสินะ ถึงได้เป็นห่วงมันนัก”

          “มันไม่เกี่ยวกับเจ้า บอกข้ามาว่าเขาอยู่ที่ไหน”

          “อยู่ในป่าที่ข้าสร้างคำสาปไว้ว่า ถ้ามันผู้ใดหลงเข้าไปมันผู้นั้นจะไม่มีวันออกมาได้จนกว่าจะเจอกับรักแท้ ซึ่งถ้ามันหารักแท้ของมันไม่เจอ มันก็ต้องอยู่ในนั้นไปตลอดอายุไขของมัน”

          “ข้าจะไปช่วยเขา เจ้าพาข้าไปที ข้าขอร้อง”

          “เจ้าจะไปพิสูจน์หรอว่า เขาและเจ้าเป็นรักแท้ของกันและกันหรือเปล่า”

          “นั่นมันเรื่องของข้า”

          “ถ้าเจ้าจะเข้าไปข้าก็จะไม่ว่าหรอกนะ แต่ถ้าเจ้าและเขาไม่ได้เป็นรักแท้ของกันและกันแล้วนั้น จะต้องมีหนึ่งคนที่จะต้องอยู่ในนั้นไปจนตลอดอายุไข จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่รอดออกมาได้ เจ้าแน่ใจจะเข้าไปใช่ไหม”

          “ใช่ ข้าจะเข้าไป เพราะข้าเขาถึงต้องมาเจอเรื่องประหลาดมากมายขนาดนี้”

          “ได้ ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็จงไปที่นั้นเดี๋ยวนี้” สิ้นเสียงนั่นลง ฉันก็มาโผล่อยู่ในป่าจริงๆ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นป่าธรรมดาๆ ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน แล้วฉันทำไมถึงได้กล้าเข้ามาที่นี่ทั้งๆที่ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าชายคนนั้นพูดจริงหรือเปล่า

          “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เอ๊ะ นั่นเสียงเหมือนตะวันเลยนี่ เขาอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย ชายคนนั้นไม่ได้โกหก ฉันต้องช่วยเขาออกไปให้ได้ มันต้องมีวิธีอื่นนอกจากรักแท้บ้าบออะไรนั่น

          “ตะวัน เจ้าอยู่ที่ไหน ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว” ฉันตะโกนเรียกชื่อตะวันออกไป พร้อมกับเดินหาเขาไปด้วย เขาต้องไม่เป็นอะไรนะ ทำไมฉันเป็นห่วงเขาจัง แต่ฉันไม่ได้รักเขานะ เพราะฉันรักเฮเซมากกว่าชีวิตของฉันนี่ฉันจำได้ ในความทรงจำของฉันก็บอกแบบนั้น

          “ใครเรียกชื่อเรา เราอยู่ตรงนี้ ช่วยด้วย” นั่นเสียงตะวันตะโกนอีกแล้ว ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ

          “ตะวันข้าอยู่ตรงนี้ เจ้าได้ยินไหม”

          “ช่วยด้วย เราไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย” เสียงตะวันดังมาจากทางหน้าผานี่ ฉันต้องรีบไปทางนั้น ใครตะวันจริงๆด้วย เขากำลังจะตกจากหน้าผา ฉันต้องรีบใช้เวทมนตร์ช่วยเขา แต่ฉันใช้เวทมนตร์ไม่ได้นี่ ทำไงดีล่ะ รีบคิดเร็วๆ เข้าสินิวเยียร์

          “ตะวัน เจ้าใจเย็นๆ ก่อนนะ ข้ากำลังหาทางช่วยเจ้า”

          “เธอเป็นแม่มดนี่ เราจำได้ เธอช่วยฉันเร็วๆ เข้าสิ” ฉันลองใช้เวทมนตร์ดู มันใช้ได้แล้วเวทมนตร์ใช้ได้แล้ว และฉันก็ช่วยเขาลงมาอย่างปลอดภัย

          “ตะวัน เจ้าไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไรกัน”

          “เราหนีลูกไฟสีดำ ลูกใหญ่มา จนผลัดตกลงมานี่ล่ะ ว่าแต่เธอช่วยใช้ภาษามนุษย์คุยกับเราได้ไหม”

          “อือ ได้สิ”

          “เธอมาที่นี่ได้ยังไง หรือว่าตาลุงแกๆ นั่นส่งเธอมาเพื่อหารักแท้แบบที่เราโดนส่งมาใช่ไหม”

          “ก็ประมาณนั้นล่ะ แต่รักแท้ของฉันเขาชื่อเฮเซ คงไม่ใช่นายหรอกนะ”

          “แต่เราชอบเธอนะ และที่ยอมมาที่นี่ก็เพื่อให้เธอตามมาช่วย เราเข้ามาที่นี่หลายวันแล้ว คิดถึงเธอตลอดเลย และเธอก็มาจริงๆ เธอต้องเป็นรักแท้ของเราแน่ๆเลย”

          “อย่ามามัวได้ไหมเจ้ามนุษย์ปัญญาอ่อน”

          “เธอใช้ภาษามนุษย์เก่งขึ้นนี่ ความจริงเราไม่ได้ชอบเธอหรอกนะ แต่เรารักเธอรักตั้งแต่แรกเจอเลย เธอไม่รู้สึกรักเราบ้างหรอ หรือแค่ชอบเราบ้างก็ได้นะ”

          “นี่นาย ฉันแค่มาตามหาเฮเซ คนที่ฉันรักมากที่สุด แต่บังเอิญมาเจอนาย ก็เลยช่วยไว้เท่านั้นเอง” ทำไมฉันต้องโกหกด้วยนะ เฮ้อ แต่เขารักเราจริงๆหรอ

          “ทำไมนายรักฉัน ทั้งๆที่ฉันกับนายก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน” ฉันถามหลังจากเขาเงียบไป และทำสีหน้าเสียใจกับคำตอบของฉัน

          “เรารู้จักเธอ และเราก็รักเธอ ไม่งั้นวันนั้นเราไม่เอาชีวิตเราไปช่วยเธอไว้หรอกนะ”

          “ช่างเถอะไม่อยากจะเถียงด้วย พวกเรามาหาทางออกไปจากที่นี่กันเถอะ”

          “เธอเจอรักแท้ของเธอแล้วหรอ ถึงอยากจะออกไปจากที่นี่”

          “ฉันว่าพวกเราโดนหรอกแล้วล่ะ เพราะฉันไม่เห็นได้ยินกระแสจิตของเฮเซคนรักของฉันเลย”

          “แต่เรารู้ว่าคนรักของเธออยู่ไหน เดี๋ยวเราพาไป เธอจะได้ออกไปจากที่นี่กับคนรักของเธอ” เขาพูดเสียงเศร้าๆ แววตาก็แลดูเศร้าและเสียใจอย่างเห็นได้ชัด

          “ไปสิ เขาอยู่ตรงไหน” ยังไงฉันก็ต้องช่วยพวกเขาออกไปจากที่นี่ให้ได้ทั้งสองคน ฉันจะไม่มีวันทิ้งใครไว้ที่นี่เด็ดขาด

          “นั่นไง เขาอยู่ตรงนั้น นอนนิ่งมานานแล้ว ตั้งแต่เราเข้ามาที่นี่เราก็แวะเอาน้ำ เอาของกินมาให้เขาแต่ก็ไม่เคยเขาตื่นมากินสักครั้งเดียว ของกินก็ยังอยู่ตรงนั้นไง”

          “เฮเซ ใช่เจ้าจริงๆด้วย ข้าดีใจที่สุดที่ได้เจอเจ้าเฮเซ” แต่จะปลุกเขาได้ยังไงกัน

          “เจ้าคิดจะปลุกเขาใช่ไหมแม่มดนิวเยียร์” นั่นเสียงของชายคนที่ส่งฉันมาที่นี่ใช่ไหม

          “ใช่ ข้าจะปลุกเขาได้ยังไง บอกข้าทีได้โปรด”

          “เจ้าก็แค่เลือกเท่านั้นเองนิวเยียร์ เลือกว่าเจ้ารักใคร แต่เจ้าต้องจำไว้นะว่าถ้าเจ้าเลือกใครแล้วเจ้าจะไม่ได้เจอคนที่เจ้าไม่ได้เลือก และเขาจะหายไปจากชีวิตเจ้า แม้แต่ความทรงจำของเขาที่มีเกี่ยวกับเจ้าก็จะหายไปด้วย เจ้าจงเลือกตามเสียงหัวใจของเจ้าซะ”

          “ทำไมข้าต้องเลือกด้วยละท่าน ข้ารักเฮเซนี่ความทรงจำของข้าก็บอกอย่างนั้น แต่ตะวันข้ารู้สึกผูกพัน ห่วงใยและรอคอยเขา”

          “เจ้าต้องเลือกเพราะที่นี่คือป่าแห่งรักแท้ จะมีแต่รักแท้เท่านั้นที่จะพาเจ้าและเขาออกไปได้เพราะฉะนั้นเจ้าต้องเลือกหัวใจของด้วยหัวใจและความรู้สึก ไม่ใช่สมองและความทรงจำของเจ้า และตอนนี้เขาทั้งสองคนกำลังจะหายไป เจ้าลองดูร่างกายของพวกเขาสิ ถ้าเจ้าไม่เลือกตอนนี้ เจ้าคงต้องเสียพวกเขาไปทั้งสองคน”

          “แล้วข้าจะเลือกใคร” ฉันหลับตาแล้วใช่สมาธิ เพียงแค่เสียววินาทีที่ฉันลืมตาขึ้นมาและเห็นร่างของพวกเขาจะหายไป วินาทีนั้นเองฉันก็คว้ามือไปร่างของตะวัน และร่างของเฮเซแต่ร่างของเฮเซหายไป นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ยทำไมฉันไม่คว้าร่างของเฮเซไว้ ฉันรักเขาไม่ใช่หรอ

          “เราดีใจที่เธอเลือกเรานะ แม่มดนิวเยียร์”

          “ข้าแค่รู้สึกเสียใจมากถ้าต้องเห็นเจ้าหายไป เพราะความรู้สึกและหัวใจที่เหมือนจะแตกสลายไปเมื่อร่างของเจ้าค่อยๆจางหายไป”

          “นั่นเพราะเจ้ารักข้าน่ะสิ”

          “ทำไมหน้าตาของเจ้าค่อยๆเปลี่ยนไปล่ะ ใครทำอะไรเจ้ากัน มันต้องมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”

          “เจ้าไม่ต้องตกใจไป แค่เจ้าบอกว่ารักข้า ข้าก็จะกลับมาเหมือนเดิม”

          “ข้า เออ... อือ... คือว่า...”

          “นี่เจ้าจะพูดหรือไม่พูดกัน เดี๋ยวข้าก็หายไปอีกหรอก”

          “ข้าจะพูดก็ต่อเมื่อเจ้าตอบมาก่อนว่าทำไมเจ้าพูดภาษาพ่อมดแม่มดได้”

          “ข้าเรียนรู้จากหลายๆ สิ่งไงล่ะ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย”

          “เจ้าเป็นอะไร ร้องทำไม บอกข้ามา”

          “ก็เจ็บที่เจ้าเลือกข้า แต่ไม่บอกรักข้าสักคำ”

          “ก็ได้ ข้ายอมแล้ว ข้ารักเจ้า ตะวัน”

          “เจ้าเรียกชื่อข้าผิด เจ้าลองมองหน้าข้าชัดๆ และบอกใหม่สิว่าเจ้ารักใคร” ฉันค่อยๆ ปาดน้ำตาที่ไหลเพราะความเสียใจที่ช่วยเจ้าชายเฮเซไว้ไม่ได้ และค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหน้าของตะวันแล้วก็ต้องตกใจเพราะที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่ตะวัน ไม่นะ แต่ที่พูดคุยกันมันเสียงของตะวันนี่ ฉันจำเสียงเขาได้ขึ้นใจ

          “เจ้าเงียบไปนานแล้วนะ ตกลงจะบอกได้หรือยังว่าเจ้ารักใคร”

          “ข้ารักเจ้า เฮเซ เป็นเจ้าจริงๆใช่ไหม แต่ทำไมตะวันถึงกลายเป็นเจ้าไปได้ล่ะ เจ้าอธิบายมาเดี๋ยวนี้”

          “ข้ากับตะวันเป็นคนเดียวกัน ข้าได้ท้าท้ายท่านพ่อไว้ว่า ไม่ว่าข้าจะเป็นใคร นิวเยียร์จะตามหาข้าเจอ และจะรักข้าเสมอ ต่อให้ข้าเป็นแค่มนุษย์ที่ไร้ซึ่งเวทมนตร์ นิวเยียร์ก็ยังจะรักและเลือกข้าเสมอ”

          “ทำไมเจ้าต้องท้าทายราชาด้วย ข้าไม่เข้าใจ”

          “เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าข้ากับเจ้ารักกันด้วยใจที่บริสุทธิ์ และถ้าข้าชนะ เจ้าจะได้ความทรงจำที่เกี่ยวกับเราคืนทั้งหมด”

          “แต่ข้าได้ความทรงจำคืนแล้วนะ”

          “นั่นแค่ความทรงจำด้วยสายตา แต่ที่ข้าจะมอบให้เจ้าหลังจากที่ข้าชนะท่านพ่อคือ ความทรงจำจากความรู้สึกทั้งหมดของเจ้า”

          “คือข้าได้ยังไงกันล่ะ ข้างง”

          “ท่านพ่อข้าชนะท่านแล้ว ข้าจะคืนความทรงจำที่เหลือให้กับคนที่ข้ารักนะท่านพ่อ”

          “ได้ ข้าแพ้เจ้าแล้ว เอ้า ข้าตามใจเจ้า” เสียงของชายคนที่ส่งฉันมาที่นี่คือราชาหรือนี่

          “แล้วจะคืนความทรงจำให้ข้าได้ยังไงกัน”

          “ก็จูบไง”

          “เจ้าจะบ้าหรอ ถ้าต้องทำแบบนี้ ข้าไม่เอาคืนแล้ว”

          “นั่นเป็นการคลายเวทมนตร์ทั้งหมดของศิลา ที่ข้าและเจ้าได้ทำการเปลี่ยนแปลงข้อความบนศิลา”

          “เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะศิลาอย่างนั้นหรอ”

          “ใช่ แล้วนี่เจ้าจะให้ข้าคืนความทรงจำได้หรือยังล่ะ”

          “ข้าไม่อยากได้คืนแล้ว”

          “งั้นเวทมนตร์ของศิลาก็ไม่หายไป แต่ข้าอาจจะต้องหายไปแทน” พอสิ้นเสียงของเฮเซฉันก็หันไปจูบเฮเซทันทีด้วยความกลัวว่าเฮเซจะหายไป และฉันก็ได้ความทรงจำจากความรู้สึกคืน แต่พอฉันถอยตัวออกมาเฮเซก็จับตัวฉันไว้แล้วบอกว่า

          “ข้ารักเจ้านะ นิวเยียร์ แม่มดของข้า”

          “ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน เฮเซ พ่อมดของข้า”

          “แต่เมื่อกี้เจ้าแอบขโมยจูบของข้านะแม่มดนิวเยียร์ เพราะอย่างนั้นข้าจะเอาคืน”

          “ข้าเปล่าซะ.....” ฉันพูดยังไม่ทันจบ เฮเซก็คว้าตัวฉันเข้าไป แล้วริมฝีปากหนาที่อบอุ่นของเฮเซก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาประกบลงบนริมฝีปากบางๆ ของฉันอย่างเนินนาน นานจนพวกเราลืมไปเลยว่าเวทมนตร์ทั้งหมดที่พวกเราได้ทำให้มันเกิดขึ้นได้ค่อยๆคลายลง และทุกอย่างก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม แม้กระทั่งหัวใจของเราทั้งสองคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีให้แก่กันและกัน

 

- The End By ฝนดาวตก -

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา