My dear เวทมนตร์นี้เพื่อเธอ

-

เขียนโดย ฝนดาวตก

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 09.19 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,980 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 16.33 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 6

     ณ ห้องโถงพระราชวัง

          “ถวายบังคมพะยะค่ะ ราชาและราชินี พวกท่านสบายดีไหม” เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโถงพระราชวัง พ่อมดฮาเดสก็ได้ทักทายราชาและราชินีด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเกรงกลัวเอาซะเลย

          “เฮซู!!” ราชาและราชินีพูดพร้อมกันด้วยน้ำเสียงตกใจมาก

          “ใครกันเพคะ เฮซู” ฉันถามด้วยความสงสัย

          “ไม่ต้องไปถามพวกท่านหรอก เจ้ามาถามข้าดีกว่า เพราะฟังจากน้ำเสียงของพวกท่านแล้ว คงยังตกใจอยู่ที่ได้เห็นข้า” พ่อมดชั่วพูดพร้อมเอามือมาโอบไหล่ฉันและดึงเข้าหาตัว

          “เจ้าปล่อยข้านะ และอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟัง”

          “ถ้าเจ้าอยากรู้เรื่องมากขนาดนั้น เจ้าต้องทำตามเงื่อนไขของข้าก่อน” ฮาเดสยื่นข้อเสนอพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์

          “เงื่อนไขอะไรของเจ้า”

          “ก็เงื่อนไขที่จะให้แม่มดผู้เก่งกาจแห่งตระกูลแบล็คเวฟมาเป็นผู้หญิงของฮาเดสผู้นี้ไงล่ะ”

          “ไม่มีทางเด็ดขาด เจ้าฝันไปได้เลย ไอ้พ่อมดชั่ว”

          “หยุดเถอะ แม่ขอร้องนะ เฮซู” อะไรนะ ราชินีบอกว่าท่านเป็นแม่ของฮาเดส อะไรกันนี่ ฉันงงไปหมดแล้วนะคะ

          “ไม่มีทาง ในเมื่อพวกท่านเลือกที่จะรักแต่เฮเซ พวกท่านก็ไม่จำเป็นต้องมีข้าก็ได้”

          “แม่รักเจ้าทั้งสองคนเท่ากัน แต่นั่นเป็นคำทำนายของศิลาที่เราจะขัดไม่ได้”

          “โกหก ท่านลำเอียง ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่เลือกให้ข้าต้องอยู่ในชะตากรรมเช่นนี้แน่”

          “เจ้าหยุดต่อว่าราชินีนะ ไม่อย่างนั้น...”

          “ไม่อย่างนั้นเจ้าจะทำไมข้า หรือเจ้าจะตอบตกลงกับเงื่อนไขของข้า” ฉันยังพูดไม่ทันจบฮาเดสก็แทรกขึ้นมา

          “ไม่มีทางเด็ดขาด ระหว่างเจ้ากับข้าต้องตายกันไปข้าง เพราะนี่คือคำทำนายของศิลา และต้องเป็นเจ้าที่ต้องตายไม่ใช่ข้า”

          “ถ้าเจ้าไม่ตกลง ผู้ที่ต้องตายเป็นรายแรกก็คือ... ราชินีที่เจ้าเคารพดีไหม”

          “เฮซู!!! เจ้าหยุดหยาบคายกับแม่เจ้าเดี๋ยวนี้นะ” เสียงที่ดูน่าเกรงขามของราชาดังไปทั่งห้องโถงพระราชวัง

          “ท่านจะทำไมข้า ถ้าข้าไม่หยุด ฮึฮึ” ฮาเดสท้าทายต่ออำนาจของราชา ผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในดินแดนแห่งเวทมนตร์นี้

          “ข้าก็จะฆ่าเจ้าให้ตายไปพร้อมกับความเลวที่เจ้าได้ทำไว้กับน้องชายแท้ๆของเจ้า เจ้าลูกชั่ว” น้ำเสียงของราชาโกรธมาก 

          “นึกว่าข้าจะกลัวกับความตายหรือไง ถ้าข้ากลัวข้าคงไม่ได้มาไกลขนาดนี้หรอกนะ”

          “แล้วเจ้าจะเอายังไง ว่ามาได้เลย”

          “ข้ามา เพื่อทวงของที่ควรเป็นขอข้าคืน”

          “ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของเจ้าทั้งนั้น”

          “มีสิ นี่ไงล่ะ ของๆข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แล้วสายตาของฮาเดสก็มาจับจ้องที่ฉัน พร้อมเสียงหัวเราะที่น่าเกียจ

          “ข้าไม่ใช่ของๆเจ้า และไม่ใช่ของๆใครทั้งนั้น” ทำไมถึงได้วุ่นวายขนาดนี้นะเนี่ย

          “แสดงว่าเจ้ายังไม่ได้ความทรงจำคืนสินะ”

          “ความทรงจำอะไร”

          “ราชินี ท่านบอกมาดีกว่าว่าเอาความทรงจำของผู้หญิงของข้าไปไว้ที่ไหน ถ้าท่านยังอยากเห็นหน้าลูกชายของท่านก็รีบบอกมา”

          “แม่ให้คืนนิวเยียร์ไปนานแล้ว เฮซู” ราชินีพูดทั้งน้ำตา ว่าแต่ให้คืนฉันตั้งแต่ตอนไหนกัน แล้วความทรงจำอะไรที่หายไปกันนะ ปวดหัวจัง

          “ผู้หญิงของข้า เจ้าจงความทรงจำของเจ้าออกมาแล้วข้าจะทำให้เจ้ารู้ความจริง และข้าจะปล่อยเจ้ามนุษย์หน้าโง่นั่นด้วย”

          “ข้าไม่รู้ ความทรงจำอะไร”

          “เจ้าอย่ามาปากแข็ง หรือเจ้าอยากให้มนุษย์นั่นตาย”

          “เจ้าอย่าทำอะไรเขานะ” ทำไมฉันต้องรู้สึกห่วงมนุษย์คนนั้นมากมายขนาดนี้ด้วยนะ ว่าแต่ราชินีให้ความทรงจำนั่นมาตอนไหนนะ

          “เครื่องรางที่ข้าเคยให้เจ้าไงนิวเยียร์ เจ้ายังเก็บมันไว้อยู่ไหม” ราชีนีพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันทำหน้างง

          “จำได้เพคะ แต่ว่าตอนนี้เครื่องรางไม่ได้อยู่ที่หม่อนฉันเพคะ”

          “แล้วมันอยู่ที่ไหน บอกมา!!! ข้าจะไปเอามันมาให้เจ้า เจ้าจะได้จำข้าได้สักที” ฮาเดสที่ดูเหมือนจะสุขุม ตอนนี้กับดูร้อนรนเป็นอย่างมาก

          “อยู่นี่ไงล่ะ” เอ๊ะ เสียงนั่นมันเสียงของวาเลนนี่

          “วาเลน เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง แล้วถุงเครื่องรางไปอยู่ที่เจ้าได้ยังไงกัน”

          “ส่งมันมาให้ข้าถ้าเจ้าไม่อยากให้ข้าต้องทำร้ายพี่สาวของเจ้า”

          “ไม่มีทาง ขนาดข้าขโมยมาจากตัวของพี่นิวเยียร์ พี่ของข้ายังไม่รู้ตัวเลย แล้วจะให้ข้าส่งมันให้เจ้าง่ายๆ มันไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” วาเลนพูดท้าทายฮาเดส อย่างไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว จะว่าไปวาเลนเป็นน้องชายที่ฉลาดและเก่งมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะทำงานเล็กงานใหญ่ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง เรื่องความรอบคอบเป็นหนึ่ง ซึ่งต่างกับน้องชายอีกคนที่ใจร้อนมากๆ

          “เจ้ากล้ามากที่ขัดคำสั่งของข้า ฮาเดสผู้ยิ่งใหญ่ สงสัยเจ้าอยากให้พี่สาวเจ้าเจ็บตัวมากใช่ไหม” หลังสิ้นเสียงของฮาเดส วาเลนก็ยิ้มที่มุมปากแล้วตอบกลับไปว่า

          “ข้าไม่กลัวเจ้าจะทำร้ายพี่นิวเยียร์หรอกนะ เพราะข้ารู้ว่าเจ้ารักพี่นิวเยียร์ของข้ามากแค่ไหน แต่ในเมื่อทั้งคำทำนาย และหัวใจของพี่นิวเยียร์ไม่เคยรักเจ้าเลย เจ้าก็ควรตัดใจจากพี่ของข้า แล้วกลับมาเป็นเจ้าชายเฮซูผู้ใจดีคนเดิมเถอะนะ” ทุกคนรู้ว่าฮาเดสคือ เจ้าชายเฮซู แล้วเจ้าชายเฮซู คือใคร???

          “ข้าไม่เชื่อว่านิวเยียร์จะไม่รักข้า”

          “เชื่อเถอะ ข้าไม่ได้รักเจ้าจริง และไม่มีวันรักพ่อมดชั่วร้ายอย่างเจ้าเด็ดขาด”

          “ถ้างั้น เจ้ากล้าพิสูจน์ไหมล่ะ”

          “ข้ากล้า เจ้าจะให้พิสูจน์อย่างไร”

          “ความทรงจำในถุงเครื่องรางไงล่ะ เจ้าเอาออกมาแล้วใส่มันคืนไปในความจำของเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้ความจริงทุกอย่างว่าเจ้ากับข้ารักกันมากแค่ไหน”

          “ได้สิ ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าดูว่าข้าไม่เคยรักเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียว” สิ้นเสียงของฉัน ทุกคนทำสีหน้าเป็นกังวล ไม่เว้นแม้แต่วาเลน

          “เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหมพ่อมดวาเลน ส่งถุงเครื่องรางนั่นให้พี่สาวเจ้าซะ”

          “ส่งมันมาเถอะวาเลน พี่ไม่เป็นไร” วาเลนค่อยๆ ส่งถุงเครื่องรางมาให้ฉัน และทันทีที่ถุงเครื่องรางถึงมือฉัน ใจฉันก็เต้นเร็วราวกับว่ากลัวในสิ่งที่ฮาเดสพูดจะเป็นความจริง ทั้งเรื่องที่ฉันรักเขามาก เรื่องที่เขาเป็นลูกของราชาและราชินี รวมไปถึงเรื่องของคำทำนายที่วาเลนเคยเล่าให้ฟัง ไหนจะเรื่องที่ฉันกับเจ้าชายเฮเซรักกัน เรื่องที่ใช้เวทต้องห้าม เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมฉันต้องคิดมาก ในเมื่อความจริงอยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว แค่ฉันเปิดมันออกเท่านั้น

          “รีบเปิดสิ หรือเจ้ากลัวว่ามันจะเป็นความจริง”

          “พี่ไหวไหม ถ้าพี่ไม่ไหวไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นะ พวกเราอยู่ที่นี่ทุกคนแค่พี่พูดออกมาคำเดียว พวกเรายินดีสู้เพื่อพี่นะ”

          “พี่ไหว พี่ต้องรู้ความจริงให้ได้ แต่ขอเวลาพี่สักพักนะ”

          “ไม่อยากก็ไม่จำเป็นต้องทำนะ ข้าจะไม่ว่าเจ้าเลยนิวเยียร์” เสียงของราชาดังขึ้น ในน้ำเสียงนั้นแสดงถึงความเป็นห่วงและความกังวลอย่างชัดเจน

          “ใช่ นิวเยียร์ ข้าไม่อยากให้เจ้าจำมันได้เลย”

          “หม่อมฉันเต็มใจทำ เพคะ” ฉันค่อยๆ เปิดถุงเครื่องรางออก และทันทีที่เปิดถุงเครื่องรางออก ก็มีกลุ่มแสงหลากสีค่อยๆลอยขึ้นมา แล้วลอยเขาไปในหัวของฉัน หลังจากนั้นก็มีภาพและเรื่องราวมากมายหลายอย่างไหลเข้ามาในหัวของฉันอย่างมากมาย

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา