โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนโดยไม่ทันตั้งตัว
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของไขมันและคราบหินปูนในผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวายได้
ความอันตรายของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ภาวะหัวใจขาดเลือด : หัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก
- หัวใจวาย (Heart Attack) : หากหลอดเลือดอุดตันอย่างสมบูรณ์ อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ : ส่งผลให้หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว
- ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure): หัวใจทำงานไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย บวมที่ขาและเท้า
อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- เจ็บหน้าอก (Angina) – อาจรู้สึกแน่นหรือปวดบริเวณกลางหน้าอก ลามไปที่แขน คอ หรือกราม
- เหนื่อยง่าย – โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง
- หายใจลำบาก – รู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้อง
- เวียนหัว หรือหน้ามืด – อาจเกิดจากภาวะหัวใจสูบฉีดเลือดไม่เพียงพอ
- เหงื่อออกมากผิดปกติ – แม้ไม่ได้ออกแรงมาก
- คลื่นไส้ หรืออาเจียน – พบได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในผู้หญิง
วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ควบคุมอาหาร : ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เช่น ของทอด อาหารแปรรูป
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
ควบคุมน้ำหนัก : ลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้
เลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ : บุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัวเร็วขึ้น
ควบคุมความดันโลหิต : หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม และตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน
จัดการความเครียด : ใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น โยคะ หรือการทำสมาธิ
ดื่มน้ำให้เพียงพอ : ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น
วิธีรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต – ปรับปรุงการกิน ออกกำลังกาย และควบคุมความเครียด
- การใช้ยา – เช่น ยาลดไขมัน ยาลดความดัน ยาต้านเกล็ดเลือด (Aspirin) และยาไนโตรกลีเซอรีน (ช่วยขยายหลอดเลือด)
- การทำบอลลูนขยายหลอดเลือด (Angioplasty) – ใช้สายสวนเข้าไปขยายหลอดเลือดที่ตีบ
- การใส่ขดลวด (Stent) – เพื่อช่วยเปิดหลอดเลือดให้กว้างขึ้น
- การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือด (Bypass Surgery) – ใช้หลอดเลือดจากส่วนอื่นของร่างกายมาเชื่อมแทนหลอดเลือดที่ตีบ
สรุป
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคร้ายแรงที่สามารถป้องกันได้หากดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้