ปวดหลัง? เป็นเพราะบาดเจ็บ ที่นอนไม่ดี หรือแค่แก่ลงกันนะ?

ปวดหลัง? เป็นเพราะบาดเจ็บ ที่นอนไม่ดี หรือแค่แก่ลงกันนะ?

            การตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยใหม่ๆ ไม่ใช่วิธีเริ่มต้นวันที่ดีนัก และอาจก่อให้เกิดคำถามมากมาย คุณนอนท่าทางแปลกๆ เมื่อคืน หรือนี่เป็นผลจากการเล่นพิกเคิลบอลอย่างหนักหน่วงเมื่อวันก่อน? ท่าทางในการทำงานของคุณเป็นต้นเหตุ หรือนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความชรา?

แม้ว่าคุณอาจพยายามเพิกเฉยต่ออาการปวดเมื่อยและหวังว่ามันจะหายไปเอง แต่แพทย์ผ่าตัดหมอนรองกระดูกกล่าวว่าสิ่งสำคัญคืออย่ามองข้ามหากคุณรู้สึกไม่สบาย "ความเจ็บปวดเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายของคุณ มันพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับคุณ" Richard Ricciardi รองคณบดีฝ่ายปฏิบัติการทางคลินิกและการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ George Washington University School of Nursing กล่าวกับ Yahoo Life

บางครั้งแหล่งที่มาของความเจ็บปวดของคุณก็ชัดเจน เช่น คุณเพิ่มจำนวนครั้งในการออกกำลังกายขา และตอนนี้คุณก็รู้สึกได้ถึงมัน แต่ความเจ็บปวดอื่นๆ จำเป็นต้องมีการสืบสวนเล็กน้อย นี่คือเบาะแสที่สำคัญที่สุดที่แพทย์มองหาเมื่อใครบางคนเริ่มมีอาการปวดเมื่อยใหม่ๆ พร้อมกับสิ่งที่พวกเขาแนะนำให้ทำต่อไป

อาการปวดเมื่อยเป็นเรื่องปกติแค่ไหน?

อาการปวดโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ได้แก่ เฉียบพลันและเรื้อรัง ดร. เบิร์ต แมนเดลบาวม์ (Dr. Bert Mandelbaum) ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ และผู้อำนวยการร่วมของศูนย์ Regenerative Orthobiologics ที่ Cedars-Sinai Orthopaedics ในลอสแองเจลิส กล่าวกับ Yahoo Life อาการปวดเฉียบพลันเกิดจากสิ่งต่างๆ เช่น การบาดเจ็บเล็กน้อยหรืออาการป่วย และไม่คาดว่าจะอยู่ได้นานนัก ในขณะที่อาการปวดเรื้อรังเป็นสิ่งที่คงอยู่และอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่

จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention) ประมาณ 24.3% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันมีอาการปวดเรื้อรัง "แต่เป็นเรื่องปกติมากที่จะรู้สึกปวดเมื่อยเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น" ดร. บาร์บารา บาวเออร์ (Dr. Barbara Bawer) แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวที่ Ohio State University Wexner Medical Center กล่าวกับ Yahoo Life

การรักษาที่เหมาะสมสำหรับอาการปวดเมื่อยทั่วไปนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุเบื้องหลัง ซึ่งทำให้การพยายามค้นหาสาเหตุของความไม่สบายของคุณเมื่อทำได้เป็นสิ่งสำคัญ

คุณจะบอกได้อย่างไรว่าอาการปวดของคุณมาจากการบาดเจ็บหรือแค่แก่ลง?

หากคุณไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นและอาการปวดนั้นยังคงอยู่ ทางที่ดีที่สุดคือเข้ารับการประเมินจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพ แต่ในขณะที่คุณกำลังรอการนัดหมาย มีสัญญาณสำคัญบางอย่างที่บ่งบอกถึงสาเหตุของความไม่สบายของคุณ

คุณนอนผิดท่า

เวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกรณีนี้ "คุณอาจตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดคอหรือหลัง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อหลังจากนอนผิดท่า" ดร. วิตนีย์ ลุค (Dr. Whitney Luke) หมอเก่งด้านกระดูกสันหลัง ประธานภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ Ohio State University Wexner Medical Center กล่าวกับ Yahoo Life "มันอาจรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อเป็นตะคริว หรือคุณอาจสังเกตเห็นอาการปวดเมื่อหมุนศีรษะหรือหลัง" สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อ เช่น คุณเผลอหลับไปในท่านอนคว่ำโดยหันศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่ง

อาการปวดนี้มักจะอยู่ประมาณหนึ่งหรือสองวันก่อนที่จะดีขึ้น ลุคกล่าว (นี่คือวิธีบรรเทาอาการปวดคอหลังจากนอนผิดท่า พร้อมด้วยท่านอนที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการปวดหลัง)

ที่นอนของคุณไม่เหมาะสม

ที่นอนและหมอนที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อโอกาสที่คุณจะรู้สึกเจ็บปวด แมนเดลบาวม์กล่าว เป้าหมายโดยรวมคือการรักษาสภาพกระดูกสันหลังที่เป็นกลาง หมายความว่าคุณไม่ต้องการให้ศีรษะของคุณเอียงสูงหรือต่ำกว่ากระดูกสันหลัง กระดูกสันหลังที่โค้งตามธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุด

"หากที่นอนและหมอนของคุณแข็งเกินไป หรือคุณนอนเอียงผิดท่า คุณอาจมีอาการปวดเมื่อยที่หลังและคอในตอนเช้าได้" แมนเดลบาวม์กล่าว เช่นเดียวกับการนอนในท่าทางแปลกๆ อาการปวดเมื่อยเหล่านั้นอาจรู้สึกแย่ลงในตอนเช้าแล้วค่อยๆ ดีขึ้นตลอดทั้งวัน (นี่คือห้าสัญญาณว่าถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนแล้ว พร้อมด้วยเคล็ดลับในการเลือกหมอนที่เหมาะสมตามท่านอนประจำของคุณ)

คุณใช้เวลาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากเกินไป

หลักสรีรศาสตร์ของสถานีทำงานของคุณมีความสำคัญ ลุคกล่าว "หากโต๊ะหรือเก้าอี้ของคุณไม่ได้อยู่ในความสูงที่ถูกต้อง คุณอาจสังเกตเห็นอาการปวดที่คอหรือไหล่ ซึ่งจะดีขึ้นเมื่อยืดเหยียดหรือพักผ่อน" เธอกล่าว

หากนี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณเป็นประจำ Ricciardi แนะนำให้ประเมินการจัดวางโต๊ะทำงานของคุณใหม่ พร้อมกับท่าทางของคุณขณะทำงาน (นี่คือคู่มือที่มีประโยชน์เกี่ยวกับวิธีจัดตั้งสถานีทำงานตามหลักสรีรศาสตร์มากขึ้น)

คุณออกกำลังกายหนักเกินไป

อาการปวดเมื่อยบ้างเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติหลังออกกำลังกาย และมักจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเกิดสิ่งนี้ขึ้น "หลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก ร่างกายของคุณอาจปวดเมื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้ามเนื้อที่คุณไม่ได้ออกกำลังกายหรือใช้งานบ่อยนัก" ลุคกล่าว

อาการปวดเมื่อยและกดเจ็บนั้นเกิดจากรอยฉีกขาดเล็กๆ ในใยกล้ามเนื้อ ซึ่งจริงๆ แล้วช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเมื่อเวลาผ่านไป ข่าวดีคือ? คุณควรจะรู้สึกดีขึ้นในอีกสองสามวัน ลุคกล่าว ในระหว่างนี้ ท่าโยคะเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ แต่หากอาการไม่สบายดีขึ้นหลังจากผ่านไปสองสามวัน นั่นอาจเป็นสัญญาณของการบาดเจ็บ ซึ่งควรแจ้งให้แพทย์ของคุณทราบ

คุณเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคข้อที่เกี่ยวข้องกับการสลายตัวของกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อในข้อต่อเมื่อเวลาผ่านไป เป็นโรคข้ออักเสบที่พบบ่อยที่สุด และเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในผู้สูงอายุ ตามข้อมูลของสถาบันโรคข้ออักเสบและกล้ามเนื้อและผิวหนังแห่งชาติ (NIAMS)

ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป แต่ผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะมีอาการปวดและข้อฝืดในมือ เข่า สะโพก คอ และหลังส่วนล่าง ตามข้อมูลของ NIAMS

"อาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อมอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง" ลุคกล่าว "มักแสดงอาการปวดตามข้อซึ่งจะดีขึ้นในตอนเช้าหลังพักผ่อน และแย่ลงตลอดทั้งวันเมื่อคุณเคลื่อนไหวมากขึ้น" โรคข้อเข่าเสื่อมอาจทำให้คุณมีช่วงการเคลื่อนไหวลดลงกว่าเดิมด้วย เธอกล่าวเสริม

โรคข้อต่อนี้สามารถวินิจฉัยได้ผ่านการตรวจร่างกายของแพทย์ และอาจรวมถึงการเอกซเรย์หรือ MRI ตามข้อมูลของ NIAMS แม้ว่าจะไม่มีวิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมให้หายขาด แต่ก็มียาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบที่สามารถช่วยได้

คุณเคล็ดขัดยอกกล้ามเนื้อ

อาการเคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อถูกยืดเกินกว่าที่ควรจะเป็นตามปกติ แมนเดลบาวม์อธิบาย มีอาการเคล็ดขัดยอกหลายประเภท บางประเภทก็เล็กน้อยและบางประเภทก็รุนแรงกว่า และมักเกิดขึ้นที่หลังส่วนล่างหรือกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง การรักษาอาการเคล็ดขัดยอกโดยทั่วไป ได้แก่ การพักผ่อน การประคบเย็น การรัด และการยกสูง ตามข้อมูลของ Mayo Clinic

"หากเป็นการเคล็ดขัดยอกเล็กน้อย คุณจะกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 10 วันถึงสองสัปดาห์" แมนเดลบาวม์กล่าว "แต่สำหรับอาการเคล็ดขัดยอกที่รุนแรงกว่านั้น อาจใช้เวลาถึง 12 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น" ในกรณีที่รุนแรงอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด

สัญญาณบ่งบอกว่าอาการปวดเมื่อยของคุณเกิดจากวัยที่มากขึ้น

อาการปวดเมื่อยที่เกี่ยวข้องกับวัยที่มากขึ้นมักเกิดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ลุคกล่าว เธอระบุสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นสัญญาณว่าอาการปวดเมื่อยของคุณมาจากการแก่ตัวลง:

• คุณมีอาการปวดข้อ
• อาการปวดแย่ลงตลอดทั้งวัน
• อาการปวดรบกวนคุณมากขึ้นหลังจากการออกกำลังกายที่หนักขึ้นหรือการเดินที่นานขึ้น
• อาการปวดเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย

สาระข้อมูลดี ๆ จาก

https://www.yahoo.com/lifestyle/back-aches-injury-bad-mattress-090056226.html