แม้จะทำกิจกรรมกลางแจ้งแค่ไหน ก็ไม่กลัวว่าผิวจะเสีย ถ้าทาครีมกันแดด
ในโลกยุคใหม่ที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น กิจกรรมกลางแจ้งจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน ปีนเขา เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือแม้แต่การเดินเล่นรับลมแดดเบาๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจสดชื่น อย่างไรก็ตาม แสงแดดที่เราเผชิญอยู่ทุกวันนั้น นอกจากจะให้วิตามินดีที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังแฝงมาพร้อมกับ “รังสียูวี” ที่เป็นภัยเงียบต่อผิวพรรณ หลายคนอาจมองว่าแค่แสงแดดธรรมดาๆ ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่ในความเป็นจริง รังสียูวีโดยเฉพาะ UVA และ UVB เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย แห้งกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัย และในระยะยาวยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมกลางแจ้งมากน้อยแค่ไหน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ “การทาครีมกันแดด” อย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง
ครีมกันแดดไม่ใช่แค่เครื่องสำอาง แต่คือเกราะป้องกันผิว ที่ช่วยกรองรังสียูวีไม่ให้ทะลุผ่านเข้าสู่ชั้นผิวลึก ลดการทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของผิว ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ทั้งยังป้องกันจุดด่างดำ ฝ้า กระ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ ที่มักเกิดจากการเผชิญแสงแดดบ่อยๆ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องออกกลางแจ้งเป็นประจำ หลายคนอาจมีความเข้าใจผิดว่า ทาครีมกันแดดแค่ครั้งเดียวตอนเช้าเพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือ ครีมกันแดดควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ หรือมีกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก หรือสัมผัสน้ำ เช่น ว่ายน้ำ เดินป่า หรือเล่นกีฬาชายหาด ยิ่งควรเลือกครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ (water resistant) และมีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม โดยทั่วไปค่า SPF 30 ขึ้นไปและ PA+++ ขึ้นไปถือว่าเพียงพอสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไป การทาครีมกันแดดควรเป็นนิสัยประจำวัน ไม่ว่าจะออกจากบ้านหรือไม่ เพราะรังสียูวีสามารถสะท้อนจากพื้นผิวต่างๆ เช่น คอนกรีต น้ำ หรือกระจกเข้าสู่ผิวของเราได้ แม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม หรืออยู่ในร่ม ก็ยังมีรังสียูวีบางส่วนเล็ดลอดเข้ามาได้เช่นกัน การละเลยในเรื่องเล็กๆ นี้ อาจกลายเป็นผลเสียระยะยาวต่อผิวพรรณที่ยากจะแก้ไข นอกจากการทาครีมกันแดดแล้ว เรายังสามารถเสริมการปกป้องผิวด้วยวิธีอื่น เช่น การใส่หมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด เสื้อแขนยาวสีอ่อน และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. – 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่รังสียูวีเข้มข้นที่สุด การดูแลผิวจากภายในก็สำคัญเช่นกัน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือเบต้าแคโรทีน เพื่อช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด หรือจะให้ผู้เชี่ยวชาญใช้ melanotan เพื่อดูแลผิวและสุขภาพภายในของเรา ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมกลางแจ้งมากน้อยเพียงใด ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าผิวจะเสีย หากคุณทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน สุขภาพผิวที่ดีไม่ได้เกิดจากโชคหรือพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการดูแลและปกป้องอย่างมีวินัยในทุกวัน
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้