ประชุมเมืองไทยอิ่มใจตามรอยพระราชดำริ : คลังอาหารเพื่อปวงประชา พระเมตตาปกทั่วหล้า

punkik

ขีดเขียนหน้าใหม่ (32)
เด็กใหม่ (0)
เด็กใหม่ (0)
POST:32
เมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.15 น.

 

ประชุมเมืองไทยอิ่มใจตามรอยพระราชดำริ : คลังอาหารเพื่อปวงประชา พระเมตตาปกทั่วหล้า

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) และสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) จัดโครงการ “ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ” ร่วมเทิดพระเกียรติปีมหามงคล 3 ปีติ

เนื่องในวาระครบรอบ 70 ปี ครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 88 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยได้ส่งเสริมการจัดกิจกรรมศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริ พร้อมผนวกการจัดงานไมซ์ไว้ในโปรแกรมด้วย อาทิ การจัดประชุมสัมมนา การฝึกอบรม กิจกรรมซีเอสอาร์ รวมถึงการท่องเที่ยวก่อนหรือหลังงานประชุม (Pre-post tour) ครอบคลุมพื้นที่โครงการฯกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ อาทิ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครพนม สกลนคร ราชบุรี เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช อยุธยา และอ่างทอง เพื่อให้องค์กรต่างๆได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ในการทำงานหรือชีวิตประจำวัน

สำหรับเส้นทางศึกษาดูงานโครงการตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในพื้นที่ จ.อ่างทองและอยุธยา ทีเส็บได้จัดนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโครงการที่ทรงพระราชทานเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความยากลำบากในการดำรงชีพเมื่อต้องเผชิญกับภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาแหล่งอาหารและอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังเช่นที่โครงการฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริบ้านยางกลาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความลำบากทั้งด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเมื่อครั้งที่เกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะอ่างทองซึ่งถูกน้ำท่วมเกือบทั้งจังหวัด โดยมุ่งทำฟาร์มตัวอย่างให้เกิดผลผลิตและสร้างงานในลักษณะเกษตรอินทรีย์ในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง  ตลอดจนเป็นแหล่งผลิตอาหาร (Food bank) ที่ปลอดสารพิษในการเลี้ยงประชากร ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม พร้อมทั้งเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง ซึ่งทรงมีพระราชดำริให้ช่วยเหลือบุตรหลานของครอบครัวราษฎรที่เดือดร้อน ให้เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพกับทางศูนย์ฯ เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ได้แก่ การทำเครื่องปั้นดินเผา ทอผ้า ปักผ้า และแกะสลักไม้ โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆอันเป็นผลงานฝีมือของชาวบ้านด้วย

จากนั้นไปรับฟังเรื่องราวการดำเนินงานเพาะพันธุ์กุ้งก้ามกรามตามแนวพระราชดำริ โดยทรงมีพระราชดำริให้สมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบางไทรศึกษาเพาะเลี้ยงพันธุ์กุ้งก้ามกราม เพื่อให้ราษฎรมีอาชีพเสริม ทรงรับซื้อลูกพันธุ์กุ้งและให้นำไปปล่อยในแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมากรมประมงและหน่วยงานต่างๆได้ร่วมกันสนองพระราชดำริเพาะพันธุ์และปล่อยลูกกุ้งลงสู่แม่น้ำอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นับเป็นบทเริ่มต้นของการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของกุ้งก้ามกรามในแม่น้ำเจ้าพระยา นำมาซึ่งอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับราษฎรริมสองฝั่งแม่น้ำ จนชาวบ้านแถบนั้นพากันเรียกกุ้งก้ามกรามเหล่านี้ว่า “กุ้งสมเด็จ”

โพสตอบ

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา