ขนาดตู้เย็น ควรเลือกแบบไหนดี ให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด
ขนาดตู้เย็นเริ่มตั้งแต่ 5 คิวขึ้นไป พร้อมแนะนำวิธีเลือกขนาดตู้เย็นด้วยปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อให้ได้ตู้เย็นที่ตอบโจทย์การใช้งาน เหมาะกับพื้นที่บ้านของคุณมากที่สุด
"ตู้เย็น" เครื่องใช้ไฟฟ้าคู่ครัวที่ขาดไม่ได้ เปรียบเสมือนคลังอาหารสด อาหารแห้ง และเครื่องดื่มเย็น ๆ คอยเติมพลังให้มื้ออร่อย แต่รู้หรือไม่ว่า การเลือกขนาดตู้เย็นและคิวของตู้เย็นที่เหมาะสมนั้น จะส่งผลต่อความสะดวกสบาย ประหยัดไฟ และช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้
ประเภทและขนาดตู้เย็น
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้หลักการทางฟิสิกส์เพื่อสร้างความเย็นภายในตู้ ช่วยเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่และอยู่ได้นานขึ้น โดยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการบูดเน่า โดยตู้เย็นมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ การใช้งาน และขนาดตู้เย็นที่แตกต่างกันไป ประเภทของตู้เย็นที่พบเห็นทั่วไป ได้แก่
- ตู้เย็นมินิบาร์ (Minibar) เป็นตู้เย็นขนาดเล็กที่มักถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นทรงลูกบาศก์ โดยทั่วไปจะมีขนาดความจุไม่เกิน 5.5 ลูกบาศก์ฟุต หรือ คิว โดยขนาดตู้เย็นมินิบาร์มีความจุตั้งแต่ 40 - 150 ลิตร ให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม นิยมนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้องพักโรงแรม, ออฟฟิศ, ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
- ตู้เย็น 1 ประตู (One Door) เป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีบานประตูเพียงบานเดียว โดยขนาดตู้เย็น 1 ประตูจะมีความจุตั้งแต่ 12 - 25 คิวบิกฟุต สามารถจัดเก็บอาหารได้หลากหลายประเภท ซึ่งหลายรุ่นมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกโซน ช่องเก็บน้ำแข็งอัตโนมัติ ฯลฯ เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บอาหารจำนวนมาก
- ตู้เย็น 2 ประตู (Two Door) เป็นตู้เย็นขนาดกลางที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ช่องแช่เย็นอยู่ด้านบน และช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง โดยขนาดตู้เย็น 2 ประตูมีความจุโดยทั่วไปตั้งแต่ 9 - 20 คิวบิกฟุต มักมีช่องแช่แข็งขนาดพอเหมาะสำหรับการเก็บอาหารแช่แข็งทั่วไป หลายรุ่นมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกโซน ช่องเก็บผักผลไม้ ฯลฯ เหมาะสำหรับครัวเรือนทั่วไป
- ตู้เย็นไซด์บายไซด์ (Side by Side) เป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีประตูบานใหญ่ 2 บาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ช่องแช่เย็นอยู่ด้านบน และช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง โดยทั่วไปจะมีความจุตั้งแต่ 20 - 30 คิวบิกฟุต มักมีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการเก็บอาหารแช่แข็งจำนวนมาก เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
- ตู้เย็นมัลติดอร์ (Multi Door) เป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีประตูมากกว่า 2 บาน ขึ้นอยู่กับรุ่น โดยทั่วไปจะมี 3 - 4 บาน แบ่งออกเป็นช่อง ๆ สำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน มักจะมีความจุตั้งแต่ 20 - 40 คิวบิกฟุต หลายรุ่นมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกโซน ช่องเก็บน้ำแข็งอัตโนมัติ จอแสดงผลดิจิทัล ฯลฯ
จะเลือกขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมได้อย่างไร
แล้วจะทราบได้อย่างไร ว่า ควรจะใช้ขนาดตู้เย็น กว้าง ยาว สูงเท่าไร จำเป็นต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ คือ
ขนาดตู้เย็นกับลักษณะการใช้งาน
พิจารณาขนาดตู้เย็นจากลักษณะการใช้งานเป็นอย่างแรก เช่น
- ลักษณะการทำอาหาร
- ทำอาหารเองบ่อย: เลือกตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เก็บเพียงพอสำหรับวัตถุดิบ
- ชอบทำอาหารที่มีวัตถุดิบหลากหลาย: เลือกตู้เย็นที่มีช่องเก็บที่หลากหลาย โดยอาจจะเลือกขนาดตู้เย็น 20 คิว
- ต้องการเก็บอาหารสำเร็จรูป: เลือกตู้เย็นที่มีช่องเก็บอาหารสำเร็จรูปโดยเฉพาะ เพื่อรักษาความสดของอาหาร
- พฤติกรรมการซื้อของ
- ชอบสต็อกของ: เลือกตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีความจุมากกว่าปกติเผื่อไว้
- ซื้อของสดบ่อย: เลือกตู้เย็นที่มีช่องแช่ผักผลไม้ขนาดใหญ่
- ซื้อของแช่แข็งบ่อย: เลือกตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่
- พฤติกรรมการซื้ออาหาร
- ซื้อของสดเป็นประจำ: เลือกตู้เย็นที่มีช่องเก็บผักผลไม้ขนาดใหญ่
- ซื้อของแช่แข็งบ่อย: เลือกตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่
- ชอบทำอาหาร: เลือกตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เก็บวัตถุดิบเพียงพอ
พื้นที่ภายในบ้านกับขนาดตู้เย็น
ขนาดตู้เย็น กว้าง ยาว สูงเท่าไร จะต้องพิจารณาว่า ต้องการวางตู้เย็นในบริเวณใดของบ้าน โดยวัดขนาดพื้นที่ กว้าง x ยาว x สูง เผื่อพื้นที่ว่างด้านข้างและด้านบนตู้เย็น ประมาณ 10 ซม. พร้อมทั้งตรวจสอบว่าประตูตู้เย็นสามารถเปิดได้สะดวก สามารถพิจารณาพื้นที่ในการจัดวางได้ ดังนี้
- พื้นที่จำกัด อย่างเช่น ห้องนอน, ห้องทำงาน, ห้องนั่งเล่น อาจจะเลือกตู้เย็นขนาดเล็ก หรือตู้เย็นมินิบาร์
- พื้นที่กว้างขวาง อย่างเช่น ห้องครัว ก็สามารถเลือกตู้เย็นขนาดใหญ่ หรือตู้เย็นไซด์บายไซด์
จำนวนสมาชิกในบ้านกับขนาดตู้เย็น
จำนวนสมาชิกในบ้านเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกขนาดตู้เย็น โดยใช้เกณฑ์คร่าว ๆ ดังนี้
- 1 - 2 คน: ขนาดตู้เย็นควรมีความจุ 200 - 300 ลิตร (7 - 13 คิว)
- 3 - 4 คน: ขนาดตู้เย็นควรมีความจุ 350 - 530 ลิตร (12 - 18 คิว)
- 5 คนขึ้นไป: ขนาดตู้เย็นควรมีความจุ 530 ลิตรขึ้นไป (18 คิวขึ้นไป)
ขนาดตู้เย็นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหรือฟังก์ชันพิเศษ
นอกเหนือจากลักษณะการใช้งานและขนาดตู้เย็นแล้วนั้น จำเป็นต้องพิจารณาด้วยว่า ต้องการใช้ฟังก์ชันการใช้งานใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น
- เทคโนโลยีการทำความเย็น เช่น
- No Frost: ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลา Defrost เอง
- Twin Cooling Plus: ทำความเย็นแยกโซน เก็บรักษาความสดของอาหารได้ยาวนาน
- Inverter: ประหยัดไฟ ทำงานเงียบ
- Metal Cooling: เย็นเร็ว คงอุณหภูมิ
- ฟังก์ชันพิเศษ เช่น
- ช่องเก็บผักผลไม้รักษาความสด: ควบคุมความชื้นและอุณหภูมิ เก็บผักผลไม้ได้นานขึ้น
- ช่องแช่แข็งด่วน: แช่แข็งอาหารเร็ว เหมาะสำหรับเนื้อสัตว์
- ตู้เย็นอัจฉริยะ: เชื่อมต่อ Wi-Fi ควบคุมอุณหภูมิ สั่งซื้ออาหาร ผ่านแอปพลิเคชัน
- กรองน้ำดื่ม: สะดวก ไม่ต้องซื้อน้ำขวด
- ทำน้ำแข็งอัตโนมัติ: สะดวก ไม่ต้องเติมน้ำเอง
- ไฟ LED ภายใน: เป็นตู้เย็นขนาดเล็กประหยัดไฟ
ราคากับขนาดตู้เย็น
พิจารณางบประมาณกับขนาดตู้เย็น เพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะและราคาว่า มีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะแต่ละขนาดของตู้เย็นมีราคาที่แตกต่างกัน เช่น
- ขนาดตู้เย็นเล็ก ราคาประมาณ 4,000 - 6,000 บาท
- ขนาดตู้เย็น 1 ประตู ราคาประมาณ 5,000 - 7,000 บาท
- ขนาดตู้เย็น 2 ประตู แยกช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น ราคาประมาณ 9,000 - 30,000 บาท
สรุปเกี่ยวกับการแนะนำขนาดตู้เย็น
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับครัวเรือนทั่วไป ช่วยให้เก็บรักษาอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสะดวกสบาย โดยมีหลากหลายขนาด จำเป็นต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อให้ได้ขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่ในการจัดวาง โดยพิจารณาจากขนาดตู้เย็น กว้าง ยาว สูง หรือปริมาณคิว เช่น ขนาดตู้เย็น 3 คิว, ตู้เย็น 5.2 คิว, ขนาดตู้เย็น 12 คิว เป็นต้น
โพสตอบ
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเโพสตอบได้