บริการดูแลความปลอดภัย แบบผสมผสาน

ในยุคที่องค์กรต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งทางกายภาพและทางดิจิทัล การออกแบบ บริการดูแลความปลอดภัย ให้ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอกองค์กรจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การผสานระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพเข้ากับการจัดการข้อมูลและพฤติกรรมบุคลากรภายในองค์กร จะช่วยให้เกิดการควบคุมเชิงป้องกันที่รัดกุมและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน

ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในกระบวนการทำงานประจำวัน

การเข้าถึงข้อมูลและพื้นที่โดยไม่จำเป็น

หนึ่งในความเสี่ยงหลักที่องค์กรจำนวนมากมองข้ามคือ การที่พนักงานบางส่วนสามารถเข้าถึงพื้นที่หรือข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานของตน เช่น ห้องเก็บของ ล็อกเกอร์เก็บเอกสาร หรือระบบเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลหรือการลักทรัพย์

พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ทำงาน

แม้ไม่ใช่การโจรกรรมโดยตรง แต่พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การใช้เวลางานส่วนตัว การแอบใช้อุปกรณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการละเลยมาตรการความปลอดภัย สามารถสะสมจนกลายเป็นต้นเหตุของความเสียหายในอนาคต

ประโยชน์ของการใช้บริการแบบผสมผสาน

ตรวจจับและจัดการภัยคุกคามได้ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ

ระบบกล้องจะทำหน้าที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหว ระบบ Access Control จะกรองสิทธิ์ของผู้ใช้งาน ส่วนทีมเจ้าหน้าที่ภาคสนามจะเป็นด่านสุดท้ายในการตอบสนองเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ ซึ่งช่วยให้องค์กรมีระบบป้องกันครบทั้ง 3 มิติ

ลดภาระฝ่าย HR และ IT ในการควบคุมภายใน

ระบบสามารถให้รายงานสรุปการเข้าออก สถิติการใช้งานพื้นที่ และแจ้งเตือนพฤติกรรมเสี่ยงแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและฝ่ายไอทีมีข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ โดยไม่ต้องตรวจสอบเองตลอดเวลา

เพิ่มความโปร่งใสภายในองค์กร

เมื่อมีระบบตรวจสอบที่เป็นมาตรฐาน พนักงานจะตระหนักถึงวินัยในที่ทำงาน ลดการลักลอบใช้งานทรัพยากรองค์กรโดยไม่เหมาะสม และเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยและโปร่งใส

สรุป

องค์กรยุคใหม่ไม่สามารถพึ่งเพียงกล้องวงจรปิดหรือรปภ.ได้อีกต่อไป การเลือกใช้บริการดูแลความปลอดภัยแบบผสมผสานที่ผนวกเทคโนโลยี อุปกรณ์ และบุคลากรที่มีประสบการณ์เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับการบริหารความเสี่ยงให้ครอบคลุมทั้งภายนอกและภายในองค์กร เหมาะสำหรับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ การเติบโต และภาพลักษณ์ในระยะยาว