งานวิจัยชี้ Gen Z ครึ่งหนึ่งเสี่ยงปวดหลัง! สาเหตุและวิธีป้องกันที่คุณต้องรู้

งานวิจัยชี้ Gen Z ครึ่งหนึ่งเสี่ยงปวดหลัง! สาเหตุและวิธีป้องกันที่คุณต้องรู้

ผลงานวิจัยล่าสุดน่าตกใจ! พบว่าคน Gen Z หรือกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับอาการปวดหลังเรื้อรังมากถึงครึ่งหนึ่ง สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลที่ต้องนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน การใช้สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ในท่าทางที่ไม่เหมาะสม รวมถึงการออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ มาเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีป้องกันอาการปวดหลังในกลุ่ม Gen Z กัน

พฤติกรรมติดจอ สาเหตุหลักที่ทำร้ายกระดูกสันหลัง Gen Z

วิถีชีวิตของ Gen Z ผูกติดอยู่กับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียนออนไลน์ การเล่นเกม หรือการใช้โซเชียลมีเดีย การนั่งหรืออยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานๆ เช่น หลังค่อม ก้มคอ หรือนั่งไขว่ห้าง ส่งผลเสียต่อกระดูกสันหลังโดยตรง ทำให้กล้ามเนื้อหลังและคอเกิดการตึงเครียดและอ่อนแอลง จนนำไปสู่อาการปวดหลังในที่สุด

ท่าทางที่ไม่เหมาะสม

การใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การก้มคอดูในระยะใกล้ หรือการนั่งหลังงอขณะใช้งาน เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Gen Z เสี่ยงต่ออาการปวดหลัง การอยู่ในท่าทางเหล่านี้เป็นเวลานานๆ จะเพิ่มแรงกดบนกระดูกสันหลังส่วนคอและหลัง ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและอาจนำไปสู่ปัญหาเรื้อรังในระยะยาว

การออกกำลังกายไม่เพียงพอ กล้ามเนื้ออ่อนแอ

การออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง ซึ่งทำหน้าที่พยุงกระดูกสันหลัง หาก Gen Z มีกิจกรรมทางกายน้อย ไม่ค่อยออกกำลังกาย จะทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้อ่อนแอลง ไม่สามารถรองรับกระดูกสันหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่าย

ผลกระทบระยะยาว

หากอาการปวดหลังใน Gen Z ไม่ได้รับการดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างถูกต้อง อาจกลายเป็นอาการปวดหลังเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ มีปัญหาในการนอนหลับ และอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจอีกด้วย การรักษาปวดหลังตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

วิธีป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังสำหรับ Gen Z

• ปรับเปลี่ยนท่าทาง: นั่งหลังตรง พิงพนักเก้าอี้ ปรับระดับความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสมขณะทำงานหรือเรียนออนไลน์ พักสายตาและเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 20-30 นาที
• ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างถูกวิธี: ยกอุปกรณ์ให้อยู่ในระดับสายตา ลดการก้มคอ และพักการใช้งานเป็นระยะ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เน้นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลัง หน้าท้อง และกล้ามเนื้อรอบลำตัว เช่น โยคะ พิลาทิส หรือการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
• ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ: ทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
• จัดสภาพแวดล้อม: เลือกใช้เก้าอี้และที่นอนที่รองรับสรีระ
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

สรุป

งานวิจัยนี้เป็นสัญญาณเตือนให้ Gen Z ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพกระดูกสันหลังตั้งแต่เนิ่นๆ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการใส่ใจในท่าทาง จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการปวดหลังเรื้อรัง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว อย่ารอให้สายเกินแก้ เริ่มดูแลหลังของคุณตั้งแต่วันนี้!