The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)

9.2

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.28 น.

  40 ตอน
  1082 วิจารณ์
  123.04K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

30) ไม่เคยรู้...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)

 

 

ตอนที่30 ไม่เคยรู้เลย...

 

 

“โอ๊ย ฮือ ปวดท้อง ชะ ช่วยด้วย”หญิงสาวยกมือขึ้นกุมท้อง สีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวด แต่ที่สำคัญ....

 

 

บนพื้นกลับเจิ่งนองไปด้วยเลือด เขามองตามเรียวขาเล็กที่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดที่เปรอะเปื้อน

 

 

“ฟาง!!! ไม่เป็นไรนะคนดี”เขาช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นมาวางไว้บนเตียง ก่อนจะวิ่งไปหยิบเดรสมาสวมให้เธอ

 

อย่างรวดเร็ว แล้วช้อนร่างเล็กที่สะลึมสะลือขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่รถ เพื่อไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เท่าทีเขาจะ

 

ทำได้

 

 

         ร่างเล็กของฟางทีปรือตาอยู่น้อยๆของนำส่งเข้าห้องฉุกเฉิน มือหนากุมมือเล็กไว้อย่างต้องการจะ

 

ส่งผ่านกำลังใจไปให้เธอ มือหนาอีกข้างลูบผมนุ่มอย่างปลอบโยน ปากก็คอยพูดปลอบประโลมคนตัวเล็ก

 

ในขณะเดียวกันเท้าก็คอยวิ่งตามรถเข็นอย่างไม่ห่างจนร่างเล็กของฟางเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน พยาบาลจึงขอร้อง

 

ให้เขารออยู่ตรงนั้น...

 

 

“อย่าเป็นอะไรไปนะ”เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน น้ำตาลูกผู้ชายที่รื้นอยู่ที่ขอบตาก็ใกล้จะหล่นลงมา

 

เต็มที ในเมื่อคนรักต้องมาเป็นอะไรไป และที่สำคัญต้นเหตุคือเขา

 

 

ในใจได้แต่ภาวนาว่าขอให้เธอปลอดภัย ในเมื่ออาการของเธอมันแปลกๆเหมือนกับ...แท้ง

 

 

แวบแรกที่เขาเห็นก็ตกใจไม่น้อย ซึ่งอาการที่เห็นคงเป็นอะไรอื่นไกลไปไม่ได้ เขาก็พอจะรู้ไม่ได้โง่ถึงขนาดดู

 

ไม่ออก และที่สำคัญเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเขา เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาและเธอ...

 

 

“โธ่เว้ย!!!”มือหนากระหน่ำทุบกำแพงอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างไม่อายใคร จนพยาบาลต้อง

 

เข้ามาห้ามและพาไปทำแผลจนได้ เมื่อทำเสร็จถึงแม้ใครต่อใครจะบอกให้ชายหนุ่มพักผ่อนเสียก่อน แต่เขา

 

ก็ดั้นด้นกลับมาที่หน้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรอคนตัวเล็กที่ป่านนี้ยังไม่ออกมาเสียที    

 

 

เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของเขา ร่างสูงพุ่งไปกระชากหมอเข้ามาถามอาการคนตัวเล็กอย่างร้อนรน

 

 

“หมอครับ เมียผมเป็นยังไงบ้าง แล้วลูกผมล่ะ เขาปลอดภัยดีใช่มั้ย”เขารัวคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ

 

มานานนับหลายชั่วโมง

 

 

“ครับ ภรรยาและลูกของคุณปลอดภัยดี”และนั้นทำให้เขาโล่งอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

 

“แต่หมอขอคุยกับคุณหน่อยนะครับ”เขาพยักหน้าก่อนจะเดินตามหลังชายวัยกลางคนเข้าไปในห้องทำงาน

 

ส่วนตัวของคุณหมอ เขาทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามคุณหมอตามคำเชื้อเชิญ

 

 

“คุณทราบรึเปล่าครับว่าภรรยาของคุณตั้งครรภ์”

 

 

“ครับ”เขาพยักหน้ารับ

 

 

“ก็ดีแล้ว ผมตรวจดูร่างกายของเธอแล้ว ผมพบรอยฟกช้ำบางแห่ง อีกไม่กี่วันก็คงเขียวม่วงช้ำน่ากลัว อย่า

 

หาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ....ผมไม่รู้หรอกว่าพวกคุณทะเลาะอะไรกัน แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ช่วงนี่

 

เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการแท้งมาก อย่ารุนแรงกับเธอ อ้อ เธอตั้งครรภ์ได้2เดือน กับอีก2 สัปดาห์แล้วนะครับ

 

คุณควรพาเธอไปฝากครรภ์ได้แล้วนะครับ ช่วงของการตั้งครรภ์ต้องบำรุงให้มากๆนะครับ ลูกของพวกคุณ

 

จะได้แข็งแรง หมอขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคนใหม่ด้วยนะครับ”ชายวันกลางคนยิ้มให้เขาอย่างเป็น

 

มิตรเขายิ้มตอบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เพื่อสอบถามพยาบาลถึงห้องพักของภรรยาตัวน้อย

 

 

            เมื่อเปิดประตูเข้าห้องพักก็เจอร่างเล็กที่เพิ่งจะตื่นนอนขึ้นมา เขารีบปรี่ไปช่วยคนตัวเล็กที่ทำท่าว่า

 

จะลุกขึ้นนั่ง

 

 

“ฉันเป็นอะไรไปคะ”เขาแทบจะพูดไม่ออก เธอคงจะโกรธมาก หากรู้ว่าเขาเป็นคนทำร้ายลูก จนเกือบเสียแก

 

ไป เขาปั้นหน้ายิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะตอบ

 

 

“ฟางท้องแล้วนะ...ลูกของเราอยู่ในนี่”เขาเอื้อมมือสัมผัสหน้าท้อง ที่เขาเพิ่งรู้สึกว่านูนน้อยๆ

 

 

“จริง...จริงหรอคะ”แต่ที่น่าตกใจ คือ เมื่อเขาบอกข่าวดีสำหรับเขา แต่น้ำตาของเธอกลับไหลลงมาเสียดื้อ

 

มือเล็กจับหน้าท้องอย่างไม่เชื่อคำพูดของเขา

 

 

“จริงสิ ลูกของเรา”เธอกลับส่ายหน้าทั้งน้ำตา

 

 

“ไม่...ไม่จริง ฮือ ไม่จริง”กำปั้นน้อยๆทุบรัวเข้าที่หน้าอกแกร่งของเขา

 

 

“ฟางเป็นอะไรไป หยุดก่อนเถอะ”เขาจับมือเล็กที่ทุบรัวอย่างไม่คิดชีวิต

 

 

“ฉันไม่ได้ท้อง ฮึก ฮือ ไม่ได้ท้อง”เธอพูดออกมาอย่างเหม่อลอย เมื่อสยบอารมณ์ร้ายได้แล้ว

 

 

“ไม่ดีใจหรือไง”เขาเริ่มจะโมโหขึ้นมาเมื่อเธอพูดจาราวกับรังเกียจลูกของเขานักหนา

 

 

“จะให้ฉันดีใจยังไง ในเมื่อคุณกำลังจะทิ้งฉันไป แต่ฉันกลับท้องลูกของคุณ ฮึก ฮือ”

 

 

“ฉันเคยบอกหรอว่าจะทิ้งเธอ...คิดเองเออเองทั้งนั้น”

 

 

“จริงๆนะ สัญญานะว่าจะอยู่กับฉันกับลูก อย่าทิ้งเรานะคะ”มือเล็กเขย่าแขนเขา น้ำตาที่รื้นในดวงจากลมโต

 

ยิ่งทำให้เขาใจอ่อน เธอนี่มันทำอะไรก็มีอิทธิพลต่อเขาไปซะทุกอย่างสิน่า...

 

 

“ครับ ไม่ทิ้งหรอก เมียน่ารักขนาดนี้”เขาหยิกแก้มนวลอย่างหยอกล้อ เธอก้มหน้างุด แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย

 

 

“ฟางไม่ค่อยแพ้ท้องเลยนะคะ เลยไม่รู้ว่าท้อง สงสัยแกจะเลี้ยงง่าย”เธอลูบท้องของตัวเอง แล้วมองด้วย

 

สายตาที่เปี่ยมไปด้วยรัก รอยยิ้มสดใสผุดบนใบหน้าสวยหวาน เธอได้ทำสิ่งที่เธอสมควรจะทำแล้ว...

 

 

นั้นก็คือการทำทุกวิถีทางให้ลูกของเธอมีพ่อ...ลูกของเธอจะต้องมีทั้งพ่อและแม่

 

 

ไม่ว่าเธอจะดูร้ายกาจในสายตาของใครๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเป็นแม่คน คนเป็นแม่ย่อมทำทุกๆอย่างเพื่อ

 

ลูกของเธอ ยิ่งตอนนี้อันตรายยิ่งมีรอบตัว ทั้งแฟนของชายหนุ่ม และพระเอกหนุ่มที่คอยจะติดพันกับเธอ

 

ตั้งแต่เดินชนกันครั้งก่อน เธอแอบเห็นเขาอยู่กับพิมประภาตั้งหลายครั้ง ถ้าเดาไม่ผิดทั้งสองคงไม่ใช่คนรู้จัก

 

กันธรรมดาๆแน่ๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นพิมประภาคงไม่อยู่เฉยแน่ เธอคงกำลังวางแผนอะไรสักอย่างอยู่...

 

 

เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอต้องระวังตัวเองไว้ให้มากที่สุด

 

 

“คงจะเลี้ยงง่ายหรอก...แม่ดื้อซะขนาดนี้”เธอตวัดฝ่ามือเข้าที่หน้าท้องแกร่ง โทษฐานที่เขาล้อเธอ

 

 

“ลูกจ๋า...แม่รักหนูนะ”เธอพูดเบาๆกับลูกน้อยในท้อง

 

 

“พ่อก็รักหนูนะ...รักแม่ด้วย”เขาโอบกอดเธอไว้ ก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มของเธอแรงๆ

 

 

“ให้มันจริงเถอะค่ะ”ยิ่งพูดเขากลับจูบลงบนเรียวปากของเธอเร็วๆ

 

 

“พี่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่นะ กลัวท่านเป็นห่วง ส่วนเรื่องแต่งงานพี่จะคุยกับท่านเอง ท้องป่องแต่งงานฟางคง

 

จะเสื่อมเสียแน่ เราอาจจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆ แล้วก็จดทะเบียนกันดีมั้ย ส่วนเรื่องเรียนเดี๋ยวค่อยทำเรื่องโอน

 

มาเรียนต่อที่นี่ก็ได้นี่ เว้นไว้สักปีดีมั้ย ไว้ฟางให้นมลูกก่อน เขาบอกกันว่าเด็กที่ได้รับน้ำนมแม่น่ะ ฉลาดนะ

 

จะได้ไม่ดื้อเหมือนเราไง ไว้ถ้าฟางอยากเรียนต่อโท เดี๋ยวพี่จะส่งเองรอให้ลูกโตสักสองสามขวบก่อนดีกว่า

 

ถ้าอยากทำงานก็ทำกับพี่ เดี๋ยวจะยกตำแหน่งเลขาในห้องให้เลย...พิเศษสุด ว่าไง...ฟาง”ชายหนุ่มนิ่งไปเมื่อ

 

หันมามองร่างเล็กกลับรู้สึกว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่

 

 

“เป็นอะไรไปฟาง พี่ทำอะไรผิดใจเราหรือ”

 

 

“เปล่าหรอกค่ะ ฟางแค่ดีใจ อย่างน้อยคุณก็ยังอุตส่าห์วางฉันกับลูกลงในแพลนอนาคตของคุณ”เธอขยี้ตา

 

น้อยๆราวกับเด็กน้อยขี้แย

 

 

“พี่ตั้งใจจะทำ ไม่ได้ไม่เต็มใจ คำว่า อุตส่าห์ ใช้ไม่ได้นะครับ อ้อ แล้วก็ต่อไปนี้เรียกแทนตัวเองว่าฟาง แล้ว

 

เรียกพี่ว่าพี่ด้วย ได้ยินเราพูดแบบนี้ทีไร มันอยากจะจับกดนัก”เขาเหยียดรอยยิ้มเลศนัย

 

 

“คะ...ค่ะ”เธอพยักหน้าเร็วๆ

 

 

“หิวหรือยัง...พี่ไปซื้ออะไรให้ทานนะ เดี๋ยวจะล็อกประตูไว้ ถ้าพยาบาลมาเราค่อยเดินไปเปิดละกัน”เขาพูด

 

ก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ไม่ลืมล็อกประตูให้คนตัวเล็ก

 

 

                         ฟางยกมือเล็กขึ้นลูบท้องที่นูนขึ้นมาน้อยๆ เธอนี่มันเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ท้องได้ตั้ง

 

เกือบสามเดือนแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ต่อไปนี้ครอบครัวของเธอจะได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์เสียที

 

 

มีพ่อ แม่ ลูก ถึงตอนนี้เธอก็ไม่รู้หรอกว่าเขารักเธอจริงๆหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆเธอจะไม่เดินไปจากชีวิตของเขา

 

แน่นอน...ลูกของเธอจะต้องได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่ อย่างน้อยเขาก็คงไม่ใจดำพอที่จะทำร้ายเด็ก

 

ตาดำๆที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรอก...เธอเชื่อ

 

 

ประตูถูกเคาะเบาๆเธอหันไปมองที่ต้นเสียงก็พบกับเพื่อนสาวที่มีสีหน้าร้อนรนอยู่ เธอประคองตัวขึ้นลุก

 

ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้

 

 

“ยัยฟาง แกเป็นยังไงบ้าง ฮือ ไอ้พี่ป๊อปมันไม่ได้บอกฉันเลย ถ้าวันนี้ไม่พาโทโมะมาตรวจไมเกรน ก็คงไม่รู้ว่า

 

แกนอนเจ็บอยู่นี่”แก้วร้องไห้หนักเอาการและร่ายยาวขณะที่ยังยืนอยู่ที่หน้าประตูแท้ๆ

 

 

“เข้ามาก่อนเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”เธอเดินนำเข้ามาในห้อง ก่อนจะนั่งลงบนปลายเตียง

 

 

“เพราะพี่แหละพี่ป๊อป นิสัยไม่ดี ถ้าหลานแก้วเป็นอะไรไปนะ...ชิ”คนถูกว่าถึงกับโคลงศีรษะเบาๆ เขาโดนต่อ

 

ว่าตั้งแต่เล่าเรื่องภรรยาตัวน้อยให้แก้วและโทโมะฟัง ก็โดนด่าตามรายทางมา

 

 

“เออ รู้แล้วน่า ฟางยังไม่ว่าอะไรสักคำ”ป๊อปปี้เลื่อนโต๊ะที่มีชามข้าวต้มวางไว้มาตรงหน้าเธอ

 

 

“ทานหน่อยนะฟาง...เดี๋ยวลูกพี่จะหิว อ้อ จะได้ทานยาบำรุงครรภ์ด้วย”เขายกชามข้าวต้มไปจากเธอ ก่อน

 

จะตักมันขึ้นเป่า แล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ ซึ่งเธอก็ยอมงับมันเข้าปากแต่โดยดี จะมีงอแงบ้างตอนที่เขาบังคับ

 

ให้ทานผักก็เท่านั้น

 

 

“หมดเกลี้ยงเลย คนท้องอะไร้ ไม่เห็นจะแพ้ท้องเลย เอาอะไรให้กินก็กินหมด”เขาเอ่ยลอยๆ เพื่อแกล้งคนตัว

 

เล็ก ซึ่งก็ได้รับโทษจากกำปั้นน้อยที่ทุบตรงหน้าท้องแกร่ง เขาแสร้งร้องโอดโอย เมื่อไม่ได้รับคำปลอบโยนก็

 

ทำเป็นงอนตุ๊บป่อง แล้วเข้าไปล้างจาน เมื่ออกมาก็เห็นภรรยาตัวน้อยกำลังนั่งเมาท์กับเพื่อนสาวตาม

 

ประสาผู้หญิง เมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นว่าจะมีที่ว่างให้นั่งตรงไหน เขานั่งลงบนเตียงเบียดกับร่างเล็ก

 

 

“โอ้ย พี่ป๊อป มานั่งเบียดฟางทำไมเนี่ย อึดอัดนะ”เธอผลักเขาออกจากตัว เมื่อรำคาญกับแรงเล็กที่ระคาย

 

ผิวหนังเขา ชายหนุ่มจัดการยกเจ้าตัวปัญหามานั่งบนตักโดยไม่แคร์สายตาของสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ร่วม

 

ห้องด้วย ก่อนจะกระซิบที่ใบหูบอบบางเบาๆ

 

 

“อย่าดิ้นนะ ไม่งั้นได้โชว์หนังสดแน่”เธอพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปพูดกับผู้มาเยือนตามเดิม ระหว่างนั่ง

 

ฟังเธอคุยกับแขก เขาก็ไม่ปล่อยให้เวลาไร้ประโยชน์แอบตอดเล็กตอดน้อยจนภรรยาตัวน้อยขนลุกขนพอง

 

ไปตามๆกัน

 

 

“บ๊ายบาย พี่โมะขับรถดีๆนะคะ”เธอยกมือโบกลาโทโมะและแก้ว และก็ยกโบกตาม แต่ไม่ลืมสั่งรั้งท้าย

 

 

“ล็อกประตูให้ด้วยนะเว้ย ดึงม่านปิดกระจกบานเล็กที่ประตูให้ด้วย”โทโมะพยักหน้า ราวกับรู้ใจเขาก่อนจะ

 

ทำตามคำขอแล้วออกไป

 

 

“พี่ป๊อป พี่คิดจะทำอะไรฟาง”ร่างเล็กลนลานลุกจากตักของเขา

 

 

“เปล่าซะหน่อย เราล่ะคิดมากไปเอง”ถึงจะพูดไปแบบนั้นมือหนากลับไม่ยอมอยู่นิ่ง เลื้อยไปดึงปมเสื้อคนไข้

 

ออกช้าๆ

 

 

“ไหน...ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไง”เขาแทบกลั้นหัวเราะไม่ไหว เมื่อเสียงหวานนั้นสั่นยิ่งกว่าสั่น

 

 

“ก็จะเช็ดตัวให้ พี่ไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวเมีย”

 

 

“เอ๊ะ แต่ คุณพยาบาลเขาเป็นผู้หญิงเหมือนกับฟางนะคะ”เธอหันมาท้วงเสียงแข็ง

 

 

“ไม่รู้แหละ รอแปบนะครับ”เขาลุกจากเตียงเพื่อไปเตรียมอุปกรณ์เอาเปรียบร่างเล็กบนเตียงผู้ป่วย ก่อนร่าง

 

สูงจะเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับอ่างน้ำอุ่นและผ้าขนหนูในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะที่เลื่อนมาอยู่ข้าง

 

เตียงผู้ป่วยเมื่อตะกี้ มือหนาถอดเสื้อผู้ป่วยตัวเล็กออก และนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองพลาดไปแล้ว การ

 

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการทรมานตัวเองชัดๆ เขาเอี้ยวตัวมาบิดผ้าขนหนูที่ชุบน้ำพอหมาดๆ แล้วเช็ดตาม

 

 

 

 

 

เนื้อนวลของภรรยาตัวน้อยที่เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น เพราะเจ้าตัวเล็กในท้อง

 

 

“พลิกตัวครับ”เธอพลิกตัวอย่างว่าง่าย เขาเองก็พยายามหักห้ามใจก็หลายหน หากเธอไม่ป่วยอยู่แล้วมา

 

นอนให้เขาเช็ดตัวในสภาพนี้คงจะได้เหนื่อยแน่ๆ เขาใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำใหม่ ก่อนจะเลิกกางเกงผู้ป่วยมากอง

 

ไว้ที่เหนือเข่า และลงมือเช็ดตัวต่อ เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงจัดการสวมเสื้อให้ฟางตามเดิมก่อนที่เธอจะไม่มี

 

โอกาสได้สวมมันอีกครั้ง

 

 

“เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านไปเอาของ เราจะเอาอะไรรึเปล่า”เธอส่ายหน้าน้อยๆก่อน

 

จะหันไปสนใจจอโทรทัศน์เบื้องหน้าต่อ



 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา