Our Destiny เพราะเธอคือรักแท้

9.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 20.51 น.

  6 ตอน
  147 วิจารณ์
  15.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

            ผมถอนใบหน้าออกจากยัยเด็กสติแตกตรงหน้าด้วยความรวดเร็วหลังจากที่ถูกเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ขโมยจูบกันดื้อๆ วูบนึงในใจก็อยากจะคว้าร่างเล็กนั่นมาตีซะให้เนื้อลาย แต่ขืนทำแบบนั้นไป...มีหวังเจ้าตัวได้วิ่งไปฟ้องแม่เขาแล้วผมนี่แหละจะซวย แต่ใครจะรู้บ้างล่ะว่ายัยเด็กคนนี้จะกล้าทำเรื่องเซี้ยวๆแบบนั้นไปได้

 

 

 

 

ยังไงผมก็ยืนยันว่าผมอยากจะตียัยเด็กคนนี้จริงๆ!

 

 

 

 

“นี่...เราทำอะไร?!”   ผมถามยัยเด็กตรงหน้านี้ทันที ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีแดงระเรื่อแล้วก็เอาแต่ก้มหน้างุด ไม่มองหน้าผม

 

 

“...”

 

 

“พี่ถาม...ทำไมไม่ตอบ!”  ผมถามแก้วอีกครั้งด้วยเสียงอันดัง ก็มันน่าตีจริงๆไม่ใช่หรือไง เป็นเด็กเป็นเล็กริอ่านทำตัวแก่แดดแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ถ้าผมไม่ใช่พี่ชายของแก้วแต่เป็นผู้ชายคนอื่นล่ะ...ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากที่เรา...เอ่อ...จูบกัน

 

 

 

“ก็...พี่ว่าแก้วเด็ก...ทำไม...”

 

 

 

“แล้วเราทำอะไร แก่แดดใหญ่แล้วนะ มันใช่เรื่องเหรอกับการที่ต้องมาประชดพี่ด้วยวิธีแบบนี้น่ะ ถ้าพี่เป็นผู้ชายคนอื่น...ป่านนี้แก้วไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้หรอก”

 

 

 

“แล้วแก้วจะไปอยู่ที่ไหนคะ...”   เด็กผู้หญิงตรงหน้าเอ่ยถามผมเสียงแผ่วเพราะรู้ดีว่าผมกำลังไม่พอใจเอามากๆ แล้วดูสิ...ยังจะกล้ามาถามอีก แล้วจะให้ผมตอบว่ายังไง พูดไปแล้วเจ้าตัวจะรับได้เหรอ?

 

 

 

“ไม่ต้องรู้แล้ว แค่นี้ก็แก่แดดแก่ลมมากพอแล้ว แก้วกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ”

 

 

 

“พี่โทโมะ แก้วขอโทษ...”

 

 

 

“พี่บอกให้กลับบ้าน!” 

 

 

 

 

            คนตัวเล็กมองหน้าผมพร้อมกับน้ำตาเม็ดใสๆที่ค่อยๆไหลริน ผมก็รู้สึกสงสารอยู่หรอกนะ...แต่ที่ผมอยากให้แก้วกลับบ้านเป็นเพราะเป็นห่วงชื่อเสียงของแก้ว อย่าลืมสิ ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านกับแก้วแค่สองคน แล้วถ้าเมื่อกี๊มีใครมาเห็นเข้าแก้วจะเสียหายแค่ไหน ผมไม่อยากทำให้ลูกสาวใครเสื่อเสียงชื่อเสียงเพราะผมหรอก

 

 

 

 

 

“อย่าโกรธแก้วนะ...แก้วขอโทษ”  ยัยตัวเล็กโผเข้ากอดผมอีกครั้ง ผมรู้ดีว่าแก้วกำลังอ่อนแอและต้องการอ้อมกอดของใครสักคน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลย...แก้วยังมีคดีก่อนหน้านี้กับผมอยู่นะ

 

 

 

 

เด็กหนอเด็ก ทำอะไรไม่รู้จักคิด

 

 

 

 

 

 

“แก้ว อย่าทำแบบนี้...”   ผมพยายามแกะมือเล็กๆที่พันอยู่รอบเอวผมออกแต่เจ้าตัวกลับซุกหน้าลงกับแผงอกผมแน่น ผมเหนื่อยไม่น้อยเลยนะกับการที่ต้องมาสู้รบปรบมือกับเด็กดื้อคนนี้น่ะ

 

 

 

“แก้วขอโทษ...”

 

 

 

“ปล่อยพี่นะแก้ว...อย่าทำแบบนี้สิเด็กดื้อ~!”

 

 

 

“แก้วไม่ได้ตั้งใจ...” 

 

 

 

“เด็กดื้อ!”

 

 

 

“แก้วไม่ได้ตั้งใจจะจูบพี่ แก้วขอโทษ...แก้วก็แค่ประชดที่พี่บอกว่าแก้วเป็นเด็กไม่โตเสียที แก้วไม่ได้ตั้งใจจะจูบพี่...คือ...อื้อ~”

 

 

 

 

 

 

            ผมดันร่างเล็กออกจากตัวก่อนจะประคองใบหน้าสวยหวานที่ผมมองจนชินตาด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะกดริมฝีปากลงทาบทับกับริมฝีปากบางๆของเจ้าตัวอย่างหนักหน่วง ก็อยากจะให้รู้กันไปข้างว่าการ ‘จูบ’ ไม่ใช่เรื่องสนุก ที่คิดจะทำเล่นๆกับใครที่ไหนก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปทำเพราะต้องการประชดใคร !

 

 

 

 

            ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำมันอาจจะดูไม่ดีและความเชื่อใจที่แก้วมีให้ผมคงกำลังจะสลายลงไป แต่ผมก็เลือกที่จะทำ...โอเค แก้วบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เปล่าเลย แก้วยังไม่โตและยังอ่อนต่อโลกใบนี้มากนัก ทุกเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่แก้วคิดเสมอไปถ้าวันนี้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ผม...ถ้าผู้ชายคนนั้นเลือกที่จะไม่หยุดการกระทำของตัวเอง แก้วคง...เสียหายไปแล้ว

 

 

 

            เนิ่นนานเลยทีเดียวกว่าที่ผมจะถอนริมฝีปากออกจากยัยตัวเล็กที่ยืนแข็งทื่อมองผมด้วยสายตาที่คลอเอ่อไปด้วยหยดน้ำใสๆนั่น ถึงแม้ว่าแก้วจะไม่ใช่จูบแรกของผม...แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นจูบที่ผมรู้สึกดีที่สุด ไม่ใช่แค่อยากจะสั่งสอนเด็กดื้อคนนี้ มันไม่ใช่แค่นั้น...

 

 

 

 

 

 

                                        ในมุมที่เงียบงันเหมือนมันไม่เหลือใครอ้างว้างเดียวดายสักแค่ไหน

                                      อย่าได้ท้อเพราะใจของเธอถูกสร้างไว้ เพื่อให้ใครสักคนมาค้นเจอ

 

 

 

 

“พะ...พี่โทโมะ...”  แก้วขานเรียกชื่อผมเสียงสั่นไหว ผมรู้สึกได้ถึงความตกใจและสั่นสะท้านจากดวงตากลมสวยคู่นั้น

 

 

 

“รู้แล้วใช่มั้ยว่าการที่จะไปเที่ยวทำแบบนี้กับใครต่อใครมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง!”

 

 

 

“...พี่..คะ”

 

 

 

“และมันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด ลองคิดบ้างสิว่าถ้าผู้ชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าแก้วไม่ใช่พี่ ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง”

 

 

 

“...”

 

 

 

“ฟังนะ...อย่าเอาชนะใครด้วยวิธีนี้อีก เรื่องที่แก้วจูบพี่...พี่จะไม่ถือโทษเพราะพี่จะคิดว่าจูบกับตุ๊กตาก็แล้วกัน ส่วนเรื่องที่พี่จูบแก้ว...พี่ไม่ขอโทษนะเพราะว่าพี่ตั้งใจจะสั่งสอนเด็กที่ไม่รู้จักโตแล้วยังบอกว่าตัวเองโตแล้ว และพี่ก็อยากให้แก้วรู้เอาไว้ด้วยว่า ถ้าไม่ใช่คนรัก อย่าไปทำแบบนี้กับเขา!”  

 

 

 

 

“จูบกับตุ๊กตางั้นเหรอ?!”   แก้วทวนคำแล้วมองหน้าผมด้วยแววตาเคืองขุ่น ทำหน้าแบบนั้นสงสัยอยากจะเจ็บตัวรอบสองอีกล่ะมั้ง เหอะ ยัยเด็กงีเง่า

 

 

 

“ใช่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับบ้านไปซะ”

 

 

 

“ผู้ชายบ้า ทำไมต้องมาว่าเค้า...จูบแรกของเค้าไม่มีความหมายเลยงั้นสิ เกลียดจัง...คนนิสัยไม่ดี”     คนตัวเล็กทำท่าปั้นปึ่งใส่ผม ก่อนจะเดินเข้ามาผลักอกผมเต็มแรงแล้ววิ่งออกจากบ้านไป ร้อนถึงผมต้องรีบวิ่งตามไปเพราะฝนตั้งเค้าจะตกอีกคลื่นใหญ่ ถ้าไม่ติดฝนผมจะไม่วิ่งตามเลยให้ตายเถอะ...

 

 

 

“กลับเข้าไปในบ้าน ฝนหายแล้วพี่จะพาไปส่ง”

 

 

 

“ก็ไล่กันอยู่แท้ๆ คนที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วทำไมถึงกลืนน้ำลายตัวเองล่ะ”  ดูสิ! เด็กอะไรเถียงเก่งเป็นบ้า ผมชักจะหมดความอดทนกับยัยเด็กคนนี้แล้วจริงๆนะ

 

 

 

“เป็นห่วง...พอใจมั้ย เข้าบ้านเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ติดฝนพี่จะไม่ออกมาตามแก้วเลยเถอะ”

 

 

 

“เป็นห่วง?”

 

 

 

“พี่กลัวว่าคุณน้าจะมาต่อว่าพี่ได้ต่างหาก ก็ไม่อยากจะห่วงนักหรอก..แก้วโตแล้วนี่”  เชื่อเลย! แก้วเป็นเด็กที่ดื้อมากจริงๆ ผมว่ายังไงก็ไม่ยอมทำตามสักอย่าง

 

 

 

“งั้นแก้วจะฟ้องคุณแม่ว่าพี่โทโมะจูบแก้ว...”

 

 

 

“เอาสิ...พี่ก็จะบอกคุณน้าเหมือนกันว่าลูกสาวคุณน้าทำตัวแก่แดด อยู่ดีๆมาขโมยจูบพี่เฉยเลย เอาสิ...ฟ้องสิ”  

 

 

 

 

            เมื่อหมดหนทางที่จะต่อรองกับผม ยัยตัวเล็กก็ได้แต่ถอนหายใจฟึดฟัดแล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์เสีย เชื่อเถอะ...ว่าแก้วน่ะหัวปั่นได้ไม่เท่าผมหรอก ถ้าเป็นลูกสาว หลานสาวนะ จะหยิกให้เนื้อเขียวเป็นจ้ำเลยคอยดู ไม่น่ารักดีนักนี่!

 

 

 

 

            นี่ก็เกือบๆสองทุ่มแล้วฝนข้างนอกก็ดูท่าจะยังไม่เบาบางลงเลย นี่คงไม่ต้องถึงเที่ยงคืนหรอกนะ ผมยังต้องไปส่งแก้วอีก แน่นอนว่าผมไม่ยอมให้แก้วค้างที่นี่ด้วยเป็นแน่ แก้วยังเด็กและผมก็เป็นผู้ใหญ่พอ ผมคงไม่ยอมให้ใครมองแก้วในทางเสียหายแน่นอน ต่อให้ฝนไม่หยุดผมก็จะไม่ยอมให้แก้วอยู่ที่นี่ต่อแน่

 

 

 

 

 

            ตอนนี้ยัยตัวแสบนอนนิ่งหลับสนิทอยู่บนโซฟาทั้งที่ตามเนื้อตัวยังคงพร่างพราวไปด้วยน้ำฟ้าเมื่อครู่นี้  บ้าจริง! ทำไมไม่รู้จักป้องกันตัวเองนะ..ไม่รู้หรือไงว่าเสื้อตัวเองมันบางขนาดไหน แล้วยิ่งเป็นสีขาวด้วย...ป่านนี้เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมมองเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างระอาใจเล็กๆก่อนจะตัดสินใจปลุกให้เจ้าตัวตื่นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

 

 

“แก้ว...แก้ว ตื่นครับ”

 

 

 

“หา...อืม คะ? จะปลุกแก้วขึ้นมาว่าอะไรอีกเหรอ?”  ทำไมแก้วถึงได้เป็นเด็กขี้ประชดประชันแบบนี้กันนะ น่าตีนัก!

 

 

 

 

“พี่จะบอกว่า แก้วควรไปเปลี่ยนเสื้อนะ”

 

 

 

“...?”   ดวงตากลมใสมองผมอย่างงงๆก่อนจะเลื่อนสายตาลงสำรวจเรือนร่างของตัวเอง

 

 

 

“พี่โทโมะแอบมองแก้วเหรอ?!”

 

 

 

 

            เสียงเล็กๆแหวใส่ผมหลังจากที่แก้วได้เห็นถึงสภาพของตัวเองในตอนนี้แล้ว...เสื้อยืดสีขาวที่เปียกชื้นจนมองเห็นทะลุผ่านชั้นในแนบเนื้อแบบนั้น เจ้าตัวรีบยกมือปิดของสงวนของตัวเองก่อนจะหันมามองผมตาเขียวปั๊ดแล้วยังจะกล่าวหาว่าผมเป็นพวกถ้ำมองอะไรทำนองนั้นอีก

 

 

 

“พี่ไม่ได้จะมอง...แต่แก้ว...”

 

 

 

 

“ไม่รู้แหละ! พี่โทโมะนิสัยไม่ดี แก้วขอถอนคำพูดที่บอกว่าใครได้พี่ไปเป็นแฟนคงจะโชคดีตายเป็นโชคร้ายตายเลยเพราะพี่ไม่ใช่สุภาพบุรุษแล้ว แอบมองหน้าอกผู้หญิง” 

 

 

 

“ไปกันใหญ่แล้ว...”

 

 

 

“เรื่องใหญ่เลยล่ะ...”   ริมฝีปากบางๆเชิดรั้นจนมันมู่ทู่ติดจมูกเรียวของเจ้าตัวได้อย่างน่าหมั้นไส้ ตัวเองไม่รู้จักระวังตัวเองแท้ๆยังจะมาโทษนั่นโทษนี่คนอื่นเขาอีก

 

 

 

“ทำไมถึงเป็นเด็กดื้อแบบนี้นะ พี่จะไปแอบมอง...เอ่อ...มองเราทำไม ถ้าพี่จะแอบมองจริงๆพี่จะบอกให้เรารู้ตัวเหรอ คิดบ้างสิเด็กโง่”

 

 

 

“ค่ะ...ขอบคุณค่ะ!!”  

 

 

 

 

            ยัยตัวเล็กยอมจำนนต่อเหตุผลของผมก่อนจะเดินหนีลิ่วๆเข้าห้องน้ำไปและเปลี่ยนชุดออกมาด้วยเสื้อเชิ้ตของผมเอง มันดูตลกอย่าบอกใครเลยล่ะ...เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งยาวจนถึงครึ่งหน้าขาของแก้วเพราะเจ้าตัวดันเกิดมาเอวบางร่างน้อยเลยทำให้มันไม่ค่อยจะเข้ากับแก้วไหร่ แต่ถึงแบบนั้นมันก็ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ...ผมไม่ได้มองแก้วแบบที่ทุกคนเข้าใจนะ ผมหมายถึงเสื้อที่ยาวถึงหน้าขาทำให้มองไม่เห็นกางเกงขาสั้นที่แก้วสวมใส่มันให้ความรู้สึกเหมือนสาววัยรุ่นเปรี้ยวๆอย่างไงอย่างงั้น

 

 

 

 

“มองอะไรคะ...ชอบมอง ‘เด็ก’ ด้วยเหรอ?”   ดูเหมือนผมจะมองเค้านานเกินไปจนเจ้าตัวรู้สึกได้แล้วล่ะ ผมรีบกลบสายตาก่อนจะเดินเขาไปเกี่ยวมือเล็กๆนั่นเพื่อจะพากลับบ้านเพราะตอนนี้ฝนเริ่มซาลงแล้ว

 

 

 

“ไม่ได้มอง...ไป...กลับบ้าน”   แก้วเดินตามผมมาเงียบๆก่อนจะยอมเดินเข้าไปนั่งในรถแต่โดยดีไม่มีเถียงอะไรสักคำ

 

 

 

 

            ระหว่างทาง...เราสองคนแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย แก้วเองก็ทำท่าปั้นปึ่งใส่ผมสงสัยจะยังงอนไม่หายที่ไปว่าเจ้าตัวเป็นเด็กแบบนั้น ก็ช่วยไม่ได้...ไม่ได้ดูนิสัยตัวเองเลยว่าเด็กหรือไม่เด็ก ซ้ำยังมาทำแก่แดดกับผมแบบนั้นอีก แล้วจะให้ผมรู้สึกยังไง เวลามีผู้หญิงมาจูบน่ะ...ผมคงรู้สึกเฉยๆได้หรอกนะ เหอะ!

 

 

 

“อ้าว ทำไมกลับมาสภาพแบบนี้ล่ะลูก?”   ทันทีที่มาถึงร้าน แก้วก็รีบวิ่งเข้าไปหาคุณแม่ของเขาทันที แถมยังทำหน้าบึ้งใส่ผมอีก งานนี้ผมว่าคงต้องเคลียร์กับคุณยาวอีกยาวแน่ๆ

 

 

 

“ตากฝนครับคุณน้า ผมเลยให้แก้วใส่เสื้อผมมาก่อน”

 

 

 

 

“เหรอจ้ะ...แล้วนี้ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันลูกสาวแม่ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าจ้ะโทโมะ?”  คนเป็นแม่หันไปถามลูกสาวตัวดีพร้อมกับลูบเม็ดฝนที่เกาะอยู่ตามไรผมของลูกสาวให้อย่างอ่อนโยน แต่คนลูกนี่สิ...ทำหน้าบุ้ยเบ้ใส่ผมใหญ่เลย น่าหมั้นไส้จริงๆ!

 

 

 

 

“ถามคนนู่นดูสิคะ แม่ขา...แก้วขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนข้างบนแล้วนะคะ ปวดหัวจังเลย”   ยัยตัวแสบหอมแก้มแม่ของตัวเองเบาๆก่อนจะรีบวิ่งแจ้นขึ้นบันไดไปซ้ำร้ายยังจะโยนความผิดมาให้ผมคนเดียวแบบนั้นอีก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทะเลาะอะไรกันเหรอจ้ะ ดูท่ายัยแก้วง๊อนงอน”

 

 

 

 

            ตอนนี้ผมมานั่งจิบโกโก้ร้อนที่คุณน้าชงมาให้แก้หนาวอยู่ตรงมุมนึงของร้ายซึ่งมีคุณน้าตามมานั่งคุยด้วย เมื่อแก้วทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ผมเลยพลอยต้องมาตามกู้ตามแก้เสียจนหัวปั่น จะให้ตอบแม่เขาว่ายังไงล่ะ ....ผมจูบลูกสาวคุณน้าแล้วยังไปว่าเหมือนจูบกับตุ๊กตาอีกครับ หรือ ผมแอบมองหน้าอของลูกสาวคุณน้าครับเจ้าตัวเขาถึงงอน?

 

 

 

“เอ่อ..ผมไปว่าเขานิดหน่อยนะครับ”

 

 

 

“ว่าน้องแรงเลยเหรอถึงได้งอนแบบนั้น ปกติลูกสาวน้าไม่ขี้งอนแบบนี้น้า~”  คุณแม่ของแก้วกึ่งถามกึ่งหัวเราะ ผมรู้ดีว่าท่านไม่โกรธผม ผมกับท่านรู้จักกันมานานและท่าก็น่าจะรู้ดีว่าผมคงไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับลูกสาวท่านหรอก

 

 

 

“ผมบอกแค่ว่าแก้วยังเป็นเด็กอยู่...ยังไม่โต ดูสิ...งอนผมเลย”

 

 

 

“แล้วน้องไปทำอะไรที่เกินเด็กหรือเปล่าจ้ะ เราถึงได้ว่าเขาเด็กแล้วแม่ตัวดีก็งอนมาแบบนั้น ฮะๆๆ ยัยแก้วไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลยนะ น้าพูดจริงๆ”  

 

 

 

 

          จะให้ผมตอบยังไงล่ะทีนี้ จะให้บอกว่าลูกสาวคุณน้าทำตัวแก่แดดมาขโมยจูบผมอย่างนั้นนะเหรอ ผมไม่มีวันพูดหรอก...แต่เรื่องที่ผมจูบแก้วมันก็ผิดอยู่ น้องยังเด็กและผมก็ไม่ควรโต้กลับด้วยความรุนแรงแบบนั้น ผมเองก็ได้แต่ว่าแก้วไม่รู้จักโต...แต่ผมลืมไปว่าคนที่โตแล้วอย่างผมกลับทำอะไรงี่เง่าเป็นเด็กเหมือนกัน!

 

 

 

“ยังไงน้าก็ฝากแม่ตัวดีด้วยแล้วกันนะจ้ะ...เรื่องงอนเรื่องง้อมันเป็นเรื่องของหนุ่มสาว น้าไม่ขอยุ่งแล้วกัน แต่น้าบอกไว้ก่อน ลูกสาวน้าน่ะ...ง้อไม่ยากหรอก แป๊บเดียวก็ใจอ่อนแล้ว”

 

 

 

“ค..ครับ”

 

 

“น้าเชื่อว่าน้องงอนเราได้ไม่นานหรอก ง้อเขาหน่อย คิดซะว่าง้อเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักๆซักคนก็ได้ ”

 

 

 

“ครับ...คุณน้า”

 

 

 

            ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนี้ไปจริงๆนะ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะมาขอลูกสาวเขายังไงยังงั้น  ไอ้ง้อน่ะผมง้อแน่ ยังไงแก้วก็น้องสาวผมคนนึง...แต่ที่คุณน้าพูดมันก็น่าแปลกอยู่หรอก แก้วไม่เคยมีนิสัยขี้งอนแบบนี้กับใครแต่ยัยตัวดีก็เลือกที่จะมามีกับผม แล้วเกิดมาผมเคยง้อผู้หญิงหรือก็ไม่...

 

 

 

ทำไมเด็กคนนี้ชอบหาเรื่องหนักใจมาให้ผมทุกทีเลยนะ...เด็กดื้อ~

 

 

                                                            รักคือเพื่อนคนหนึ่ง บังเอิญเป็นคนช่างฝัน
                                                   ทะเลาะกันบ้างบางวัน แค่เชื่อใจเท่านั้นถึงไม่ค่อยเข้าใจ

 

 

 

 

 

 


 

โทโมะเค้าสุภาพบุรุษอ้ะต้องเข้าใจ รักรักรักโทโมะแก้วจังเลยย♥

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา