Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

28) Hot Room!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                                                      Hot Room!

 

 

          ร่างบางพาตัวเองกลับมาที่คอนโดของเขาตั้งใจว่าจะคุยทุกอย่าง ทุกเรื่อง ให้เสร็จสิ้น! พอกันทีกับการวิ่งหนีความจริงในเมื่อก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันที่จะหนีพ้น ดวงตากลมโตที่บอบช้ำจากการร้องไห้เป็นเครื่องยืนยันความเสียใจได้เป็นอย่างดี ที่เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เธอจะโทษใครได้ในเมื่อเธอเป็นคนยอมรับที่จะ ‘รัก’ เขาเอง ก็ต้องยอมรับกับความ ‘เจ็บ’ ที่จะตามมา

 

 

 

“เธอโง่เองแก้วที่ยอมให้เขาจูงจมูก เธอโง่เองที่ดันไปหลงรักเขา..”   แก้วต่อว่าตัวเองเบาๆเพื่อตอกย้ำในการตัดสินใจที่พลาดพลั้งไปแล้ว  หลังมือเนียนสวยยกขึ้นปาดน้ำใสๆที่เอ่อล้นท่วมขอบตาของตัวเองก่อนจะดินขึ้นคอนโดไป

 

 

 

 

“กลับมาแล้วเหรอ...แก้ว...เป็นอะไร?”  

 

 

 

 

          ทันทีที่คนที่เขาเฝ้ารอมาค่อนวันลับมาถึงร่างสูงก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ มือใหญ่ออกแรงรั้งร่างบอบบางเข้าสู่อ้อมแขนจนเจ้าของใบหน้าสวยตกอยู่ภายในอ้อมกอดของเขา ยิ่งใกล้ชิดเขาก็ยิ่งเห็นร่องรอยของน้ำตาจากแก้มใสและดวงตาบวมช้ำของแก้ว  จากความดีใจในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความขุ่นข้อง สาวน้อยของเขาเป็นอะไรไปทำไมต้องร้องไห้...

 

 

“ใครทำอะไร บอกมา”  

 

 

 

 

 

          นิ้วเรียวไกล่เกลี่ยหยาดน้ำตาที่รินไหลลงมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้  ทั้งที่สั่งตัวเองเอาว่าอย่าอ่อนแอให้เขาเห็นสุดท้ายความพยายามนั้นก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ยิ่งเห็นหน้าเขาก็ยิ่งรักเมื่อยิ่งรักก็ยิ่งเจ็บปวดกับคำหลอกลวง แก้วเฝ้าบอกตัวเองในใจยามที่สายตาคู่คมจดจ้องนัยน์ตาคู่สวยของตนอย่าต้องการคำตอบ อย่าได้เผลอไปหวั่นไหวกับคำจอมปลอมที่มีค่าอะไรไม่ต่างกับสายลม

 

 

ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปชนิดที่ไม่มีวันหวนคืน...

 

 

 

 

 

“ปล่อย...”  

 

 

 

 

          ถ้อยคำอันบางเบาออกจากริมฝีปากสวยในนาทีที่ต่างฝ่ายต่างเงียบงัน  แก้วดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา นัยน์ตาคู่หวานหม่นเศร้าและเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา หากแต่คนเอาแต่ใจยังคงดื้อแพ่งไม่ยอมปล่อยซ้ำร้ายเขากลับยิ่งรัดเธอแน่นราวกับงูใหญ่ที่จ้องจะรัดให้เหยื่อตายคามือ

 

 

 

 

“เป็นอะไร”   เขาถามย้ำเสียงเครียด

 

 

 

 

“ปล่อยฉันเถอะโทโมะ”    สรรพนามที่แปรเปลี่ยนบ่งบอกให้รู้ได้อย่างแน่ชัดว่าอีกคนได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

          มือใหญ่เลื่อนขึ้นไปจับไหล่เล็กทั้งสองข้างเอาไว้แน่นก่อนจะเผลอบีบด้วยความลืมตัวเมื่ออีกฝ่ายร้องเจ็บเขาก็รีบปล่อยและดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มมองแก้วอย่างลึกซึ้งตอนนี้เขากำลังทรมานไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอันใดที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปเขาก็ไม่อยากรับฟังทั้งนั้น หัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอกด้านซ้ายเป็นสัญญาณบ่องบอกได้ชัดว่ากลัวความคิดของร่างในอ้อมกอดเสียเหลือเกิน...

 

 

 

“เป็นอะไร”   โทโมะถามซ้ำประโยคเดิม แววตายังคงจับจ้องไปที่แก้วไม่เบนหนีหาสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

 

 

 

“ก็บอกให้ปล่อยฉัน!”

 

 

 

“ถามว่าเป็นอะไรก็ตอบมา”  น้ำเสียงที่พยายามจะข่มไม่ให้สั่นไหวเอ่ยออกไป เขาไม่เข้าใจผู้หญิงตรงหน้าคนนี้จริงๆ ไม่เข้าใจ ยังไงก็ไม่เข้าใจ!

 

 

 

“อย่าทำกับเพื่อนแบบนี้สิโทโมะ ไม่ดีเลยนะ”    

 

 

 

 

          น้ำเสียงอ่อนหวานออกแววเยาะทำให้โทโมะรู้สึกสับสนจนหัวปั่น แก้วต้องการจะบอกอะไรกับเขากันแน่  มือเรียวเล็กพยายามแกะมือของเขาออกคราวนี้เธอทำสำเร็จเพราะโทโมะไม่ได้คิดจะรั้งร่างของแก้วเอาไว้แต่กลับปล่อยให้เธอถอยหนีได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

เพราะรู้ดีว่ารั้งไปก็เท่านั้น คำตอบของแก้วก็ยังคงเย็นชาคงเดิมไม่แปรเปลี่ยน

 

 

 

“กลับไปหาว่าที่คู่หมั้นของตัวซะ”

 

 

 

“อะไรนะ!”   คราวนี้เป็นโทโมะที่เดือดขึ้นมาบ้าง เสียงแหบห้าวเผลอคำรามเสียงดังด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

 

 

          ใบหน้าหวานกระเดียดไปทางสวยเสียมากกว่าเริ่มตึงเครียดคิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมแน่น ริมฝีปากบางสวยเม้มเป็นเส้นตรงดวงตาคู่คมเริ่มฉายแววแห่งความไม่สบายใจเอาไว้เต็มเปี่ยม เขาไม่คิดเลยว่าพี่ชายที่เขาเฝ้าเคารพจะหลงเข้าข้างผู้หญิงที่ตัวเองรักจนถึงขนาดยอมทำร้ายน้องชายตัวเองได้ขนาดนี้  ถ้าเดาไม่ผิดแก้วคงออกไปเจอเบลล์กับพี่เคนจิมาและคงจะได้ฟังคลิปเสียงนั่นแล้วด้วย

 

 

 

“ตกใจเหรอที่ความลับรั่วไหล...” 

 

 

 

 

 

          ไม่บอกก็รู้ว่าคนพูดประชดระชันแค่ไหน น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลหากแต่มันผิดแปลกไปจากครั้งก่อน  ปกติแล้วน้ำเสียงแบบนี้เขาจะได้ยินก็ต่อเมื่อผู้หญิงตรงหน้ากำลังออดอ้อนเขาไม่ใช่กำลังด่าทางอ้อมแบบนี้!

 

 

 

“มันไม่ใช่ความลับและไม่ใช่เรื่องจริง เหลวไหลกันไปใหญ่แล้ว!”

 

 

 

“เหรอ...งั้นฟัง”    คลิปเสียงจากไอโฟนตัวเก่งดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา โทโมะฟังเสียงของตัวเองราวกับเทปที่เปิดกรอไปมาด้วยอาการนิงเฉยไม่ได้แสดดงสีหน้าตื่นตระหนกอะไร

 

 

 

“แล้วไง นั่นก็แค่ตอนเมา”   โทโมะตอบเสียงเรียบ

 

 

“เหอะ...”  เสียงเยาะผ่านลำคอระหงยิ่งทำให้เขาโกรธจัดไม่ใช่โกรธที่แก้วมาทำปั่นปึ่งใส่แต่โกรธไอ้คนที่ทำให้เรื่องมันบานปลายแบบนี้ต่างหาก!

 

 

“เอาเป็นว่าโทโมะยอมรับว่านั่นเป็นเสียงของโทโมะจริงๆ แต่มันเป็นเพียงคำพูดที่ทำให้พี่เคนจิสบายใจก็เท่านั้น  โทโมะกับเบลล์คบกันเพราะพี่เคนจิ เขาขอร้องให้โทโมะรับรักเบลล์เพราะไม่ต้องการเห็นผู้หญิงที่ตัวเองรักเสียใจ...” 

 

 

“โกหกอีกแล้ว”

 

 

“ไม่ได้โกหก พูดเรื่องจริงถ้าไม่เชื่อ....”

 

 

“พอเถอะแก้วเหนื่อยมามากพอแล้ว อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นกับพี่ชายของนายเขายืนยันและ...ย้ำกับฉันเป็นอย่างดีว่านายจะหมั้นกับเขา  ฉันผิดเองที่ปล่อยใจไปกับนายจนเรื่องราวมันเลยเถิดแบบนี้ ฉันผิดเอง!”

 

 

 

 

 

 

          ดวงตาคู่สวยที่เคยสุกใสบัดนี้มันกลับพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำตาที่ล้นเอ่อและรินร่วงลงมาราวกับสายฝน ม่านตาที่พร่าเบลอทำให้แก้วไม่อาจมองทะลุผ่านผู้ชายตรงหน้าได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ สะใจ ดีใจ หรือเสียใจที่เห็นเธอต้องเจ็บปวดกันแน่  หากแต่ความคิดก็หยุดไว้แต่เพียงเท่านั้นเมื่อแก้วรู้สึกได้ถึงฝ่ามืออันร้อนผ่าวของเขาที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มใส  นิ้วเรียวของเขาช่วยไกล่เกลี่ยหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนุ่มที่เขาเคยจุมพิตมาหลายต่อหลายครั้ง...

 

 

 

 

 

          พอแล้ว พอทีกับการทำดีให้เธอตายใจ แก้วรู้ดีว่ายังไงวันนี้มันก็ต้องมาถึงเรื่องของเธอกับเขาเกิดขึ้นจากข่าวลือบ้าๆนั่นและมันก็สมควรแล้วที่มันจะต้องจบแบบนี้ จบในแบบที่ความรักไม่อาจกลายเป็นความจริงดังที่หวังได้ เธอต้องยอมรับความจริงว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอควรจะรัก  เมื่อเริ่มจากความเป็นเพื่อนสุดท้ายแล้วมันจะลงเอยที่ใดในเมื่อก็รู้อยู่แก่ใจว่าคงต้องจบด้วยคำนั้น

 

 

 

 

          ถึงเขาจะบอกว่านั่นเป็นเพียงคำพูดที่ทำให้พี่ชายของเขาสบายใจ แต่...มันจะไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือกับการที่ถ้อยคำนั่นเปรียบเสมือนสัญญาทางใจกับผู้หญิงอีกคน  อย่างไรเสียโทโมะก็ต้องรับผิดชอบในคำพูดของเขา ถ้าหากวันใดคลิปเสียงนั่นหลุดออกไปคนที่จะเดือดร้อนก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวของเขาเอง และคนที่จะช่วยยุติปัญหานี้ได้ก็คือเธอ....

 

 

 

 

 

 

“เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วโทโมะ แก้วเหนื่อยแล้ว เหนื่อยแล้วจริงๆกับเรื่องนี้”   เสียงสะอื้นคลอมาตามสาย ประโยคที่พูดถูกก้อนสะอึกในลำคอขัดขวางอยู่ร่ำไป 

 

 

 

“ไม่! แก้วไม่รู้หรือไงกว่าที่โทโมะจะจบปัญหานี้ได้มันยากแค่ไหน มันคุ้มแล้วเหรอที่เราจะต้องเสียใจทั้งสองฝ่ายกับแค่ผู้หญิงคนเดียว!” 

 

 

 

 

 

 

 

           น้ำเสียงเกรี้ยวกราดและแววตาขึงขังนั่นทำให้แก้วมองเขาผิดไป จริงอยู่ที่เขารักเธอมากและเธอเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารักเขามากเช่นกันแต่ความรักของเขาอาจจะดูเห็นแก่ตัวไปสักนิด เขาไม่สนใจความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าเธอจะพยายามทำอะไรเพื่อเขาก็ตามแต่ มันเป็นความรักที่ตั้งอยู่บนความเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น ผู้หญิงด้วยกันเธอเข้าใจ...เข้าใจดีว่าเบลล์จะต้องรู้สึกยังไงถ้าเธอได้ยินประโยคที่เขาพูดเมื่อครู่

 

 

เพียะ!

 

 

 

มือเรียวตวัดลงบนแก้มใสของเขาอย่างไม่ยั้งคิด

 

 

 

“อย่าดูถูกความรักของคนอื่น ถ้าไม่รักก็อย่าไปทำลายความรู้สึกของใครแบบนี้!”

 

 

 

“แล้วยังไง จะว่าโทโมะเห็นแก่ตัวก็ได้จะเห็นแก่คนอื่นไปทำไมในเมื่อไม่เคยมีใครเห็นใจโทโมะเลย ไม่มีเลยแม้แต่แก้ว...”

 

 

 

 

          น้ำเสียงห้าวหาญสั่นเครือด้วยเจือไปด้วยความน้อยใจ  ไม่เคยเลยที่เขาจะชนะผู้หญิงตรงหน้านี้ได้ไม่ว่าจะยกกี่ร้อยเหตุผลมาเข้าข้างตัวเอง  ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมจำนนอยู่ดี ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงตรงหน้าถึงมีอิทธิพลต่อจิตใจของเขามากถึงขนาดนี้

 

 

 

Rrrrrr~

 

 

 

 

          เสียงโทรศัพท์ของแก้วดังขึ้นกลบความเงียบงันที่เกิดขึ้นภายในห้อง หน้าจอปรากฏชื่อของ ‘ป้อง’ ขึ้น ร่างบางเหลือบมองอีกคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยอาการไม่สู้ดีนักและรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงโมโหจนถึงขึ้นจะฉีกเนื้อเธอได้เลยล่ะ แต่ความคิดก็ต้องดับวูบเมื่อคิดไปอีกทางว่าเขาจะมาหึงเธอทำไมในเมื่อเธอเป็นคนขอยุติเอง ไม่ควรคิดเข้าข้างตัวเองเลยจริงๆ

 

 

 

“ค่ะ”

 

 

 

 

           เจ้าตัวรับสายด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา ทั้งสองยืนสนทนากันท่ามกลางสายตาเรียบเฉยของโทโมะที่มองมา แววตาที่เคยมองเธอด้วยความอ่อนโยนทะนุถนอมบัดนี้มันกลับว่างเปล่าไร้เยื่อใยได้อย่างสิ้นเชิง  แก้ววางสายลงด้วยระยะเวลาอันสั้น

 

 

“อ๋อ ที่อยากเลิกนักเลิกหนาเนี่ยเพราะติดใจไอ้คนที่กองละครมากกว่ามั้ง เหอะ...”

 

 

“อย่ามาพูดจาพาดพิงคนอื่นนะ!”

 

 

“ทำไมจะพูดไม่ได้หลักฐานมันก็ฟ้องอยู่ให้เห็นกับตา มาบอกเลิกปุ๊บชู้รักก็โทรหาปั๊บ สปาร์คกันไวจริงๆนะไอ้เรื่องแบบเนี้ย!”

 

 

“โทโมะ!”

 

 

“ที่โมโหเนี่ยโกรธที่โทโมะจับได้หรือเปล่าครับทูนหัว”  

 

 

 

 

 

          ร่างสูงรวบตัวของแก้วเข้าสู้อ้อมกอด แววตาเยาะเย้ยและน้ำเสียงดูถูกทำให้แก้วถึงกับโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ถึงจะรู้ว่าเขาประชดแต่แก้วก็เกลียดการประชดมากด้วยเช่นกันโดยเฉพาะข้อหาที่เขายัดเยียดให้น่ะ  มือบางพยายามดันอกแกร่งของเขาออกหากแต่ความแข็งแรงที่เขามีมากกว่าทำให้ร่างสูงตรงหน้าไม่ขยับเขยื้อนแม้สักน้อย

 

 

 

 

“ปล่อยนะ!”

 

 

 

“ทำสะดิ้งเหรอ จำไม่ได้หรือไงว่ามากกว่านี้ก็สัมผัสมาแล้ว ทำไม?ไอ้ลุงนั่นมันทำให้แก้วลืมรสชาติของเราไปเลยเหรอ...เก่งจังเลย”

 

 

 

 

 

          ถ้อยคำถากถางดูถูกยิ่งยั่วโทสะให้แก้วเข้าไปยกใหญ่มือเรียวทุบอกเขาดังปึกหากแต่จอมวายร้ายก็ยังไม่ยอมแพ้ ดวงตาคมเข้มตวัดมองหญิงสาวอย่างต้องการจะกินเลือดกินเนื้อ  ร่างกายร้อนระอุราวกับกองเพลิงรัดร่างบอบบางของเธอแน่นอย่างไม่ต้องการปล่อยให้แก้วเป็นอิสระ หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจตายไปเสียตรงนั้น

 

 

 

 

“หยาบคาย! ปล่อยนะ เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เรา ‘จบ’ กันตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”

 

 

“อยากจบก็จบไปคนเดียว โทโมะไม่จบด้วยหรอก!”   คำพูดหนักแน่นนั้นแสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริง

 

 

 

 

 

          โทโมะเป็นแบบนี้เสมอบทจะดีก็ดีเหลือเชื่อบทจะร้ายก็ร้ายกาจได้อย่างไม่น่าให้อภัย  แววตาคมเข้มกระหวัดมองแก้วด้วยสายตาอ่านยากมันแฝงไปด้วยความรักอย่างมากล้นและผสมปนเปไปพร้อมกับความโกรธเหลือร้าย ไม่มีวันซะหรอกที่เขาจะปล่อยเธอไปเฉยๆโดยไม่ทำอะไร แก้วเป็นผู้หญิงของเขาและไม่มีวันจะไปเป็นของใครได้อีก!

 

 

 

“อย่ามาทำตัวอันธพาลแบบนี้นะ เลิกก็เลิก อ้ะ...”  

 

 

 

 

 

          ริมฝีปากร้อนฉกวูบลงมายังกลีบปากหวานนุ่มนวลที่เขาเคยจุมพิตเช้าเย็นอย่างเจ็บปวด สัมผัสแนบชิดหลอมละลายความเป็นตัวของตัวเองราวกับทั้งคู่รู้ดีว่าต้องการและโหยหากันมาเพียงใด  หากแต่โทโมะกลับเป็นฝ่ายหยุดชะงักความวาบหวามนั่นไว้  ดวงตาคู่คมดุจเหยี่ยวมองหญิงสาวอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่าด้วยรู้ดีว่าไม่มีทางใดที่ผู้หญิงตรงหน้าจะต่อกรเขาได้ รอยยิ้มเยาะๆกรีดขึ้นบนริมฝีปากร้อนฉ่าสร้างความขุ่นเคืองให้แก้วได้ไม่น้อย

 

 

 

ผู้ชายบ้า! ขนาดบอกให้ตัวเองเกลียดเขาแล้วยังเผลอหวั่นไหวไปกับสัมผัสยั่วยวนนั่นเสียอย่างนั้น!

 


 

โทโมะไม่ยอมนะกริกริ

 

#แก้วดื้องี้ต้องถูกทำโทษอิอิ

 

#สวัสดียามบ่ายนะจุ้บๆ

 

#อิช้อเปอร์ลูกรักนุกเจ๊งเลยมาอัพช้า XD

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา