Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

35) ฉันไม่ร้าย ถ้าเธอไม่รัก(คนอื่น)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                                                 ฉันไม่ร้าย ถ้าเธอไม่รัก(คนอื่น)

 

 

 

 

 

          ร่างบอบบางไร้สติถูกวางลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ ร่างสูงใหญ่ถอนหายใจพรืดยาวแววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองที่ไอ้บ้าคนนั้นพยายามจะรังแก ‘ผู้หญิงของเขา’ คิดไปถึงเพียงแค่จับมือถือแขนอารมณ์หึงหวงที่มีอยู่ก่อนหน้าก็ยิ่งพุ่งทะยานถึงขีดสุด อยากจะตามไปตั้นหน้าไอ้พระเอกนั่นให้เลือดกบปากเสียอีกรอบ แต่ก็รู้ว่าขืนทำแบบนั้นไปนอกจะเรื่องจะบานปลายแล้วแก้วก็มีแต่จะเสียหายสู้เขาเก็บเอาไว้คิดบัญชีย้อนหลังทีเดียวเลยดีกว่า ถึงเขาจะยังไม่เอาเรื่องตอนนี้แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้คนชั่วลอยนวลไปได้ง่ายๆ!

 

 

อย่าหวังว่าจะรอดฉันไปได้นะ!

 

 

 

“สมควรแล้ว...เด็กดื้อ”      เสียงทุ้มพร่าพึมพำกับตัวเองเบาๆหากแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังร่างที่นอนสลบอยู่บนเตียงกว้างอย่างไม่อาจละสายตา

 

 

 

 

 

          ประโยคนั้นดูคล้ายจะเป็นการตำหนิที่แก้วไม่อาจเชื่อฟังเขาดื้อดึงยืนยันจะคบกับผู้ชายคนนี้เสียให้ได้ เขาไม่รู้หรอกว่าเธอจะทำไปเพราะประชดเขาหรือเป็นเพราะเธอหลงเสน่ห์ผู้ชายคนนั้นเข้าจริงๆ แต่ไม่ว่าจะกี่เหตุผลที่ยกมาสมอ้างเขาก็ไม่มีวันยอมเป็นแน่ ต่อให้แก้วรักผู้ชายคนนั้นจริงๆเขาก็จะตามไปไขว่คว้าแย่งเธอคืนกลับมาสู่อ้อมกอดของเขาให้ได้ดังเดิม ต่อให้ถูกเธอด่าว่าร้ายกาจก็ตามที ก็เขาเป็นแบบนั้นจริงๆ

 

 

 

 

 

          ร่างสูงทรุดกายลงนั่งข้างๆร่างบอบบางที่ยังคงไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของยาสลบ ฝ่ามือร้อนผ่าวลากไล้ใบหน้าหวานที่ดูซีดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วยความทะนุถนอม ผ้าห่มที่กองร่นอยู่ปลายเท้าถูกเจ้าของห้องดึงขึ้นมาปิดเรือนร่างให้แก้วจนถึงคอด้วยกลัวว่าความหนาวจากเครื่องปรับอากาศจะทำให้เธอเป็นไข้ โทโมะมองภาพของหญิงสาวด้วยความรักใคร่แกมเอ็นดู เธอดื้อเหลือเกิน แต่ก็น่ารักในแบบที่เขาชอบ

 

 

 

ไม่ต้องหวานไม่ต้องเรียบร้อย ผู้หญิงซ่อนเปรี้ยวแบบนี้แหละที่เขาชอบ

 

 

 

 

          ใบหน้าคมเคลื่อนคล้อยเข้าหาดวงหน้าหวานของแก้วช้าๆก่อนที่ริมฝีปากสวยได้รูปจะก้มจุมพิตที่หน้าผากเนียนใสเบาๆ  กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนผมที่ถูกเจ้าตัวไว้ยาวจนประบ่าทำให้โทโมะนึกถึงวันก่อนที่เขาเคยเชยชมร่างตรงหน้าอย่างเต็มกลืน ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด การกระทำของแก้วบ่งบอกได้ดีว่าเธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่ ‘คนตัวเล็ก’ คนเดิมของเขาอีกต่อไปแล้ว จากแววตาที่เต็มไปด้วยความรักเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นความเคืองขุ่นระคนน้อยใจ อยากจะงอนให้เธอตื่นมาง้อก็รู้ดีว่าแก้วคงไม่ทำแบบนั้น

 

 

 

เธอคงไม่รักเขาแล้วแน่...

 

 

 

 

“เด็กบ้า  ทำไมชอบมาทำให้รักแล้วก็ทิ้งกันฮะ อย่าหวังเลยว่าจะหลุดพ้นจากโทโมะง่ายๆ เหอะ...”   โทโมะตัดพ้อกับคนที่นอนไม่ได้สติอย่างขุ่นขวาง หากเธอได้สติอยู่ตอนนี้ก็คงจะลุกขึ้นมาเถียงเขาแว้ดๆและบทสรุปสุดท้ายก็คือการที่เขาอดทนไม่ไหวจนต้องดึงร่างเล็กนั่นมาปล้ำจูบอย่างยั่วอารมณ์

 

 

ก็ไม่รู้ทำไมโทโมะถึงชอบยั่วโมโหแก้วนัก เขารู้แต่เพียงยามที่ใบหน้าสวยๆนั่นเชิดใส่มันก็ยิ่งท้าทาย ดึงดูดให้เขาตกหลุมรักมากยิ่งขึ้นก็เท่านั้น!

 

 

 

 

 

 

 

          แก้วรู้สึกถึงความขบเมื่อยตามร่างกายอาจจะเป็นเพราะเธอหลับยาวนานเกินไปสายตาจึงพร่ามัวและพยายามอย่างยิ่งที่จะหาจุดโฟกัสสักที่ ทว่า...ท้ายสุดแล้วเธอกลับเห็นเงาของร่างสูงใหญ่เลือนๆพอเพ่งสายตามองไปรอบห้องกลับพบว่ามันเป็นห้องที่เธอคุ้นเคยดี ‘ห้องของโทโมะ’ ห้องที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี้มากกว่าคอนโดตัวเองเสียอีก แล้วสมองก็เริ่มประมวลภาพเหตุการณ์ ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้ก็คือ...

 

 

 

ภาพที่เธอกำลังจะถูกผู้ชายคนนั้นรังแกหากแต่โชคยังเข้าข้างเมื่อฟ้าส่ง ‘ใครบางคน’ มาช่วยเธอไว้ หลังจากนั้นสติที่มีก็ดับวูบรู้แค่เพียงสัมผัสอันคุ้นเคยเมื่อคืนมันเป็นของเขา...โทโมะ

 

 

 

“หือ...โท..โทโมะ”    ริมฝีปากอิ่มเผยอน้อยๆก่อนจะครางเรียกชื่อเขาแผ่วเบา ดวงตาเปรอปรือที่เขามองยังไงก็ดูว่าเธอเซ็กซี่ยั่วยวนเขาตลอดเวลา

 

 

 

“ตื่นแล้วเหรอ ตื่นแล้วก็กลับไปได้แล้ว”   น้ำเสียงเย็นชาจากเจ้าของห้องบอกให้แก้วรู้ดีว่าเขาคงโกรธเธออยู่มากเป็นแน่

 

 

 

 

          แน่สิ!เป็นใครก็คงจะโกรธอาจจะถึงขั้นเกลียดกันไปเลยด้วยซ้ำ เมื่อโทโมะพยายามเตือนแล้วว่าไม่ให้เธอเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นหากแต่เธอก็ยังดื้อดึงที่จะเอาชนะแล้วสุดท้ายคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุดก็ไม่ใช่ใคร เป็นเธอเองนั่นแหละ!  นับว่าเขายังใจดีมากแค่ไหนแล้วที่อุตส่าห์พาตัวเองไปช่วยเธอจากเงื้อมมือผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้น 

 

 

 

 

          แก้วนึกอย่างสมเพชตัวเอง ก็ยอมรับว่ายังรักโทโมะอยู่เต็มหัวใจหรือพูดง่ายๆว่าไม่เคยมีใครมาแทนที่เขาแม้แต่กับป้องเองก็ตาม ผู้ชายคนนั้นก็แค่เครื่องมือที่แก้วใช้เพื่อประชดเขาแต่สุดท้ายผลกรรมก็มาตกอยู่ที่เธอเอง ต่อให้ไปอ้อนวอนพร่ำบอกว่ารักเขาตอนนี้โทโมะก็คงจะไม่ฟัง ซ้ำแล้วจะหาว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายเสียอีก ที่ถูกผู้ชายคนนั้นหลอกก็จะกลับมาคืนดีกับเขา เธอคงดูทุเรศไม่น้อยหากต้องทำแบบนั้น

 

 

 

“ทำไมต้องไล่...”   เรียวปากอิ่มสวยเม้มแน่นอย่างน้อยใจที่เขาเอ่ยปากไล่ หากแต่ก็รู้ดีว่าคำตอบที่จะได้รับจะทำให้เธอเจ็บเจียนตาย

 

 

“แล้วจะอยู่ทำไมไม่ไปหาคนที่แสนดีของเธอหรอกเหรอ เหอะ...”  เขาประชดพลางเบือนหน้าหนีอย่างเคืองขุ่น

 

 

“โทโมะ...อย่าประชด”

 

 

“แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น?”   ร่างสูงเหยียดยิ้มอย่างเย็นชา อาการที่เขาแสดงออกกับเธอทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนมีมีดแหลมนับพันพุ่งเข้ามาปักกลางอกให้เธอรวดร้าวเจ็บเจียนตาย  น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะอย่างน่าสงสารหากแต่โทโมะไม่คิดแบบนั้น

 

 

“อย่ามาบีบน้ำตานะ เบื่อจริงน้ำตาผู้หญิง”

 

 

“ขอโทษ...”   คำพูดอันแสนบางเบาเล็ดลอดออกจากเรียวปากอิ่มสวยอย่างยากเย็น

 

 

“พักให้หายก่อนก็ได้ค่อยกลับ ฉันไม่ใจร้ายไล่คนป่วยทั้งที่ยังไม่หายดีหรอก ‘ไม่ใจร้ายพอ’!”   เขาเน้นประโยคสุดท้ายราวกับจะตอกย้ำว่าเธอเป็นคนใจร้ายที่ทำลายหัวใจเขา ใช่!เธอมันใจร้าย ก็สมควรแล้วที่เขาจะหมดรักและห่างเหินกับเธอ

 

 

“ไม่กลับ”  หญิงสาวยังคงดื้อแพ่ง

 

 

 

           เขาเลิกคิ้วสูงอย่างต้องการคำตอบหากแต่เจ้าของดวงหน้าอ่อนใสยังคงก้มหน้าเงียบ โทโมะจึงละความสนใจจากร่างตรงหน้าทั้งที่อยากจะเข้าไปรั้งมากอดให้เต็มอ้อมแขนแทบตายหากก็ต้องกักเก็บความรู้สึกเอาไว้  ร่างสูงโปร่งหันหลังเตรียมจะเดินออกจากห้องแต่แล้ว...ความรู้สึกอุ่นร้อนที่ทาบทับแผ่นหลังกว้างนั่นกลับทำให้เขาไม่อาจขยับเดินไปได้

 

 

 

 

          ใบหน้าสวยแนบซบลงกับแผ่นหลังของเขาอย่างโหยหาความอบอุ่น แขนเรียวโอบรอบเอวสอบของเขาเอาไว้แนบแน่นราวกับจะผูกรั้งเขาไว้ด้วยอ้อมกอดไม่ให้เขาหนีหาย หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอรินไหลรดเสื้อยืดของเขาจนเปียกชุ่ม เสียงครางพึมพำจากทางด้านหลังฟังไม่เป็นศัพท์จนโทโมะต้องเหลียวใบหน้ากลับไปมองเพียงเสี้ยวหน้า

 

 

“ปล่อย...เป็นบ้าหรือไงถึงทำอะไรแบบนี้”

 

 

“อย่าเย็นชากับแก้วนักได้มั้ยเล่า  รู้แล้วว่าผิด...แก้วขอโทษ”   ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดแผ่นหลังของเขาจนโทโมะร้อนผ่าว ร่างนุ่มที่เบียดเสียดเข้าหาเขาทำให้โทโมะแทบจะทนไม่ไหวอยากจะหันกลับไปคว้าร่างเล็กมากอดจูบลงโทษให้สาสมกับความผิด

 

 

แต่หากเขาทำแบบนั้นมันจะเป็นการให้อภัยคนใจร้ายอย่างเธอง่ายเกินไป สาวน้อยต้องได้รับบทเรียนจนเข็ดขยาดไม่กล้าต่อกรกับเขาไปอีกนานหรือไม่ก็ตลอดชีวิต!

 

 

“ง่ายไปกับคำๆนั้น เธอก็รู้ว่าฉันต้องเจอเรื่องอะไรมาบ้าง...”

 

 

“อย่ามาเธอกับฉันได้มั้ย ไม่ชอบ”   แก้วยังคงคอนเซปสาวน้อยจอมดื้อเอาไว้เสมอต้นเสมอปลายทั้งดื้อทั้งเอาแต่ใจทั้งที่ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องให้เขาทำอะไรทั้งนั้น

 

 

“มากไปหรือเปล่าสำหรับคำเรียกร้อง โอเค ถ้าอยากอยู่ก็อยู่ไปแต่ถ้าทนไม่ไหวจะกลับบ้านเธอก็ได้นะ เหอะ”   เขาแค่นยิ้มอย่างเยาะเย้ยก่อนจะสะบัดมือเรียวออกจากรอบเอวก่อนจะเดินจากไปและทิ้งให้เธอยืนนิ่งในห้องตามลำพัง

 

 

 

          ดวงตากลมเริ่มมีหยาดน้ำตารื้นขึ้นมารุกรานหัวใจอีกแล้ว เขาหมดเยื่อหมดใยกับเธอแล้วจริงๆ...ถึงแม้จะถูกเขาทำร้ายจนเจ็บหัวใจแค่ไหนแต่ท้ายที่สุดแล้วหัวใจก็สั่งให้เธออยู่ต่อ อยู่เพื่ออะไรนั้นแก้วไม่อาจรู้ได้ รู้แค่อยากให้เขาเห็นถึงความจริงใจที่เธอมีให้ก็แค่นั้น นี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่แก้วพอจะชดใช้ความผิดได้

 

 

 

 

          ทั้งที่เธอก็อยู่ในห้องด้วยแท้ๆแต่เขากลับทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนเป็นเพียงธาตุอากาศสำหรับเขาเสียอย่างนั้น โทโมะใจร้าย! แก้วได้แต่ต่อว่าเขาแล้วสุดท้ายก็ต้องกลับไปย้อนมองตัวเอง นึกถึงวันที่เธอทำร้ายเขา สมควรแล้วที่เรื่องต้องจบแบบนี้ ดูเอาเถอะแค่แม้แต่หางตาเขายังไม่คิดที่จะเหยียดมอง!

 

 

“มองอะไร”  เขาถามเสียงห้วนเมื่อแก้วเผลอมองใบหน้าสวยหวานนั่นอย่างแสนคิดถึง

 

 

“เปล่านี่”

 

 

“เปล่าอะไรก็เห็นๆว่ามองอยู่ มีอะไรข้องใจหรือเปล่า?”

 

 

“มองคนที่แก้วรัก...ผิดเหรอ”   น่าอายจริง! ไม่รู้ว่าแก้วกล้าพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง เขาจะมองว่าเธอ’ง่าย’ หรือเปล่ากันน่ะ? เธอไม่ควรพูดแบบนี้เลย ไม่ควรเลยจริงๆ

 

 

“ขอโทษนะ พอดีพระเอกคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่จะเอาโทรศัพท์โทรไปบอกรักกันมั้ยล่ะ เดี๋ยวให้ยืม”  เขาประชดอีกแล้ว  วันทั้งวันถ้าเขาไม่เงียบใส่ก็คอยแต่จะประชดประชันถึงเรื่องผู้ชายคนนั้น

 

 

“นี่!!!”   เสียงเล็กๆตวาดแว้ดใส่เขาอย่างเหลืออดไม่นานนักร่างเล็กก็พาตัวเองมาหยุดยืนต่อหน้าเขา กำปั้นน้อยๆทุบอกเขาดังปั้กหากแต่คนถูกทำร้ายกลับไม่เขยื้อนสักนิด

 

 

“พูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้”  เขารวบมือเล็กนั่นไว้แล้วดึงร่างเธอเข้าใกล้ สายตาผสานสายตา ลมหายใจรินรดกันและกัน ริมฝีปากเฉียดเข้าใกล้อย่างอยากที่จะห้ามใจ ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวสำหรับเขาเหลือเกิน อยู่ใกล้ที่ไรเขาต้องพ่ายแพ้ทุกที ไม่ควรเลย...

 

 

“จะพูดเรื่องเก่าทำไมก็บอกแล้วไงว่าแก้วผิดๆ จะไม่ให้อภัยกันหรือไงคนใจร้าย!”

 

 

“รู้นี่ว่าผิด”

 

 

“ก็ใช่ไง แล้วทำไมต้องทำเย็นชาใส่แบบนี้ด้วยอยากเห็นแก้วเป็นบ้าหรือไงกัน?!”

 

 

“ก็เอาสิ”   เขายิ้มยียวนกวนประสาท นั่นทำให้แก้วอยากจะคลั่งตายผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเข้าขั้นเอาการ บ้าจริง! ทำไมเธอจะต้องมาตามตื๊อเขาอย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ด้วยนะ!

 

 

“โทโมะ!”

 

 

“เรียกอะไรนักหนา เป็นแค่ผู้อาศัยอย่ามาทำปากดีกับเจ้าของห้องให้มากนัก ระวังจะเจ็บตัว”   โทโมะยิ้มกริ่มมองใบหน้าแสนหวานที่ตีกันยุ่งอย่างไม่พอใจในตัวเขาเอามากๆอย่างมีความสุข คนตัวเล็กทำท่าฟึดฟัดใส่เขา คิ้วโค้งเรียวสวยขมวดจนแทบจะชนกัน ไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะตอกย้ำอะไรเธอกันนักหนาหนา

 

 

“อย่ามาย้ำ ก็รู้ว่าผิดแต่จะตอกย้ำกันไปทำไมก็สำนึกผิดอยู่นี่!”

 

 

“คนผิดมักจะไม่มองว่าตัวเองผิด”

 

 

“เอ๊ะ!”   เสียงเล็กตวัดสูงอย่างไม่พอใจ เขาชักจะเล่นลิ้นกวนประสาทมากไปแล้วนะ

 

 

 

 

          โทโมะไม่ได้ว่าอะไรอีกเขาทำเพียงแค่ปล่อยสาวน้อยในอ้อมกอดเป็นอิสระก่อนจะเดินออกจากห้องไปและไม่กลับเข้ามาอีกเลยจวบจนเกือบจะเที่ยงคืน  ร่างบางผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียงกว้างพลิกตัวไปมาหลายตลบคนที่เฝ้ารอก็ไม่กลับเข้ามาเสียทีจนเธอชักหงุดหงิดเสียเต็มประดา

 

 

“ไปไหนของเขานะ...คุณชายจอมกวนประสาท!”   

 

 

 

ปัง!

 

 

 

          เสียงเปิดประตูอย่าแรงทำให้แก้วต้องหยุดคิดเรื่องอื่นกะทันหันและให้ความสนใจแต่กับที่มาของเสียง หญิงสาวแอบดีใจอยู่ลึกๆที่เขากลับมา ร่างเล็กรีบพาตัวเองออกไปพบเขาทันที หากแต่...ภาพที่เห็นกลับทำให้ความดีใจเมื่อครู่เหือดหายไปในพริบตา ร่างกายเริ่มปั่นป่วนจนสั่นเทิ้มไปหมดไม่รู้จะอธิบายยังไงดี...

 

 

 

 

          ภาพที่เขากำลังกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเปรี้ยวจัดคนนึงอยู่หน้าบานประตูไม่รู้ว่าไปเก็บตกหิ้วกันมาจากผับไหน! นี่เขาไม่เห็นว่าเธอมีตัวจนอยู่ในห้องนี้จริงๆหรือถึงได้ทำกันถึงขนาดนี้ คิดจะลากผู้หญิงคนไหนมาค้างก็พามา คิดจะทำอะไรก็ทำ โอเค! เธอเข้าใจว่าเขาเป็นเจ้าของห้องมีสิทธิ์ทุกอย่างแต่มันก็ออกจะเกินไปหน่อยไม่ใช่หรือไง!

 

 

 

 

          ก็ไม่รู้ทำไมถึงต้องเจ็บปวดกับภาพที่เห็นทั้งที่รู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวงเขา ไม่ว่าเขาจะทำไปเพราะประชดหรืออย่างไรเธอไม่มีวันยอมเป็นแน่ ทีเขา เขายังไม่ยอมให้เธอคบหาผู้ชายอื่นเลยแล้วเรื่องอะไรที่เธอจะต้องยอมด้วย แก้วบอกกับตัวเองก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติยามที่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิงคนนั้น

 

 

“อุ๊ย! อย่าค่ะ แหมโทโมะก็...ใจเย็นๆสิค่ะ”

 

 

“เอมี่...”   เขาครางเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นเสียงหวานออดอ้อนแกมไปด้วยความขัดใจ ดูท่าก็รู้ว่าโทโมะเมามากแค่ไหน น้ำเสียงอ้อแอ้บวกกับดวงตาคู่คมที่ปรือปรอยเวลามองผู้หญิงคนนั้นน่ะ อย่าให้พูดเชียว!

 

 

 

          แก้วยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ก่อนที่ความน้อยใจจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ เมื่อกี๊เธอแอบเห็นว่าเขาปรายตามองมายังจุดที่เธอยืนอยู่ มือเรียวกำเข้าหากันแน่นอย่างหมดความอดทน เขาจะเยาะกันมากเกินไปหน่อยแล้ว!

 

 

 

โอ๊ย! อย่าหวังเลยว่าจะมีความสุขน่ะ เชอะ! เอมี่...เอมี่จ๋า เดี๋ยวแก้วจะจัดให้จนกลับบ้านไม่ถูกเลยน้องเอมี่!  

 

 


 แก้วดื้อเองช่วยไม่ได้ผีดิบควรทำโทษอย่าหนักถึงจะสาแก่ใจ -,.-

 

มาอัพบ่อยๆไม่ได้ล้ะน้ากิกิ งานเยอะกิจกรรมแยะมากมาย

 

ไว้มีมหาลัยเรียนแล้วจะมาอัพให้ทุกวันหนึ่งอาทิตย์เต็มๆอิอิ

 

เอ้าสาธุ ^__^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา