Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

37) The traces of you won't erase

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                              The traces of you won't erase 

 

 

 

 

 

            จะว่าไปแก้วนี่ก็ยังเด็กอยู่มากเลยนะกับเรื่องของความรัก...ไม่รู้สิ ถึงผมจะอายุมากกว่าแก้วแค่สองปีแล้วยัยตัวเล็กของผมก็ดูท่าว่าจะโตแซงหน้าไปแล้ว แต่เรื่องความคิดความอ่านนี่แก้วยังไม่ทันใครเท่าไหร่เลยแฮะ เป็นไปได้เหรอที่ผู้หญิงเก่งอย่างแก้วจะอ่อนแอในเรื่องแบบนี้น่ะ เหอะ! มันเป็นไปแล้วล่ะ แล้วผมก็หลงรักในความร้ายกาจแบบเด็กสามขวบของแก้วด้วย

 

 

 

 

            เราสองคนผ่านเรื่องราวอะไรมามากและนั่นก็ทำให้ผมรู้ว่าแก้วคือคนที่สำคัญที่สุดมาตลอด ผมไม่คิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาทำอะไรเพื่อใครอีกซักคนนอกจากคนในครอบครัวได้มากขนาดนี้ ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ...เวลาที่ผมอยู่กับแก้ว ผมรู้สึกสบายใจไปซะทุกอย่างถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะงอนผมบ่อยมากก็เถอะ บางทีผมก็เหนื่อยจะง้อ แต่พอเห็นแก้มใสๆนั่นพองออกเวลาถูกขัดใจ ริมฝีปากจิ้มลิ้มแทบจะขึ้นไปชนกับจมูกรั้นๆของเจ้าตัวมันอดไม่ได้ที่ผมจะต้องตามเทคแคร์

 

 

 

 

“หวงมากนะ รู้ไหม?”  ทันทีที่ผมพูดจบ เจ้าตัวก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เห็นมั้ยล่ะ ว่าแก้วของผมน่ารักขนาดไหน ยัยตัวเล็กเป็นคนเขินง่าย ปากแข็งแล้วก็ขี้งอนเป็นอันดับหนึ่ง ผมเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนขี้งอนได้เท่าแก้วอีกแล้วล่ะ

 

 

 

 

“รู้แล้วน่า...”  แก้วรับคำเสียงสูงก่อนจะเบนหน้าหนีผมด้วยความเขิน

 

 

 

 

“วันนี้ถ่ายMVเป็นไงบ้าง เห็นว่ามีเด็กมาจีบเหรอ”  ผมแซวเจ้าตัวเรื่องที่วันนี้แก้วออกไปถ่ายMVตัวล่าสุดของน้องมิณฑร์มา อันที่จริงผมก็แค่แซวเล่นไม่ได้จริงจังอะไร

 

 

 

 

 

ไม่ได้จริงจัง แต่ไม่ต้องใกล้ชิดกันเกินไปก็น่าจะดีนะ...

 

 

 

 

 

 

“บ้า แก้วไม่ชอบเด็ก”

 

 

 

 

“เหรอ แสดงว่าชอบคนมีอายุล่ะสิ ฮึ?”  ยอมรับว่าข้อนี้ผมพูดประชดใส่แก้วเรื่องไอ้พระเอกนั่น ส่งผลให้ยัยตัวแสบหันขวับด้วยความไม่พอใจแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่ผมอีกไปตามระเบียบ

 

 

 

 

“คุณวิศว!”

 

 

 

 

“เรียกเต็มยศแบบนี้นี่คือโกรธมากใช่หรือเปล่าน้า...”  ผมเอื้อมมือไปเกลี่ยแก้มใสเล่นเบาๆ

 

 

 

 

 

“ก็บอกว่าไม่ชอบไง จะเด็ก จะแก่ก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ!”

 

 

 

 

“แล้วชอบแบบไหนล่ะ”

 

 

 

 

“มะ...ไม่รู้”  คนตัวเล็กหลบสายตาผมวูบเมื่อผมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ รินรดลมหายใจขนาบพวงแก้มใสที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ

 

 

 

 

“ชอบแบบนี้หรือเปล่า”

 

 

 

 

 

 

 

 

            ให้ตาย! โทโมะทำให้หัวใจของฉันเต้นผิดปกติเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ต่อวัน เขาจับมือฉันทาบลงบนหน้าอกข้างซ้ายของเขา แววตาเจ้าเล่ห์ที่ใช้มองมันทำให้ฉันรู้ทันทีเลยว่าเวลานี้ฉันไม่ควรจะปฏิเสธเขา แต่...แต่จะให้ฉันยอมเขาง่ายๆอย่างนั้นน่ะเหรอ ลืมไปได้เลย! เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องไปถ่ายMVที่ค้างไว้แต่เช้า ไม่มีเวลาให้เขารังแกทั้งคืนหรอกนะ คงไม่มีใครรู้ว่าโทโมะน่ะบ้าพลังขั้นสุดยอดไปเลย!

 

 

 

 

            เขาชอบกักขังฉันไว้ด้วยอ้อมแขนอบอุ่นแล้วก็คำพูดหวานๆจนทำให้ฉันไปทำงานสายทุกครั้งที่อยู่กับเขา บ้าเถอะ! ไม่ได้หรอกกก ทำแบบนั้นไม่ได้นะยัยแก้ว!

 

 

 

 

 

“โทโมะ...หยุด...หยุดสิ...แก้วบอกให้หยุดไง อย่าซนนะ!”  ร่างสูงไม่ฟังอะไรฉันเลย เขาผลักร่างฉันลงบนเตียงก่อนที่ตัวเขาจะตามมาประกบทีหลัง จากนั้นมือซนๆก็ไม่ปล่อยให้ฉันดิ้นหลุดหนีไปได้

 

 

 

“ต้องซนหน่อยล่ะ แก้วน่ารักขนาดนี้ ให้ทนไหวยังไงล่ะ”

 

 

 

 

            ร่างสูงไม่รอให้ฉันปฏิเสธเขาเหมือนที่ผ่านมา ริมฝีปากรุมร้อนจัดการกดลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อหยุดเสียงโวยวายของฉันลง และเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้มือทั้งสองว่าเปล่าเสียเมื่อไหร่ ผู้ชายคนนี้จ้องจะรังแกฉันทุกเมื่ออยู่แล้วนี่ ยังไงเขาก็ต้องหาข้ออ้างมาใช้กับฉันได้อยู่แล้ว เชื่อสิ!

 

 

 

“น่ารักอีกแล้ว ชมแก้วว่าน่ารักทีไรต้องหาเรื่องรังแกตลอดเลย”  ฉันตัดพ้อเขาในขณะที่ริมฝีปากร้อนๆยังคงลากไล้อยู่แถวๆต้นคอ เห็นมั้ยล่ะ! ทั้งซนทั้งเอาเปรียบ โทโมะเป็นผู้ชายบ้าที่สุดเลย

 

 

 

“ก็แก้วโตขึ้นทุกวัน ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก...ยิ่งโตก็ยิ่งสวย พอสวยขึ้นโทโมะก็ต้องหวง พอหวงก็เลยต้องทำให้คนอื่นรู้ว่าแก้วมีเจ้าของแล้ว...”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“แล้วโทโมะก็แพ้ทางผู้หญิงน่ารักด้วย อยู่ใกล้นานๆไม่ได้...เห็นแล้วมันอยากเป็นเจ้าของตลอดเวลา”

 

 

 

 

“แปลว่ากับคนน่ารักคนอื่นโทโมะก็อยากเป็นเจ้าของงั้นเหรอ?!”  พูดจาน่าตบจริงๆเลยโทโมะนี่นะ เขาพูดแบบนี้ฉันก็คิดไปไกลได้เหมือนกันแหละน่าถึงจะรู้ดีว่าผู้หญิงน่ารักที่เขาว่ามันหมายถึงฉันก็ตามทีเถอะ

 

 

 

 

“แก้วรู้...ว่าโทโมะหมายถึงใคร”

 

 

 

 

“ไม่รู้สิ!”

 

 

 

 

“ทำหน้าแบบนี้ไม่เรียกว่าไม่รู้นะ...” 

 

 

 

 

 

            คนเจ้าเล่ห์จัดการกดริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาลงมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีคำว่าโอนอ่อนผ่อนปรนให้ฉันได้ถ่วงเวลาอีกต่อไป จุมพิตครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งแรกเมื่อนาทีก่อน...มันร้อนแรง ดุดันแต่ก็แฝงไปด้วยความทะนุถนอมของเขา ร่างกายของเราแนบชิดไปหมด ฉันสัมผัสได้ถึงแผ่นอกกว้างแน่นขนัดไปด้วยมัดกล้ามแล้วก็ร้อนเหมือนท่อนไม้ที่ถูกเผาไฟใหม่ๆด้วย แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมฉันถึงกระเสือกกระสนพาตัวเองเข้าใกล้ความร้อนนั้น...

 

 

 

 

เหมือนพระเจ้ากำลังกลั่นแกล้งให้ฉันหันหน้าเผชิญกับสิ่งที่อันตรายต่อหัวใจและร่างกาย...

 

 

 

 

 

 

 

 

            ผมมองใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้กำลังขึ้นสีแดงจัดเพราะต้องแนบชิดกับผมอยู่แบบนี้ ผมบอกแล้วว่าแก้วเป็นคนขี้อาย...ถึงแม้ว่านี้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่สาวน้อยก็ยังเขินอายกับผมได้ตลอดเวลา เห็นแบบนั้นผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับความเดียงสาของแก้ว เปล่าเลย...ไม่ใช่ว่าแก้วจะไม่รู้เรื่องอะไรกับใครเขา มันเป็นความเดียงสาที่น่าหมั่นเขี้ยว มันเป็นความไม่รู้ที่ทำให้ผมอยากจะสอนทุกวิธีให้กับแก้ว...และใช้ความรู้ที่ผมสอนกับผมคนเดียว...แค่คนเดียวเท่านั้น

 

 

 

 

“อื้ออออ”  เสียงหวานเล็ดลอดออกจากริมฝีปากบางนั่นทำให้ผมแทบคลั่งจนไม่อาจพาร่างกายนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เสียงหายใจหอบหนักเริ่มเข้ามาทดแทนเมื่อผมไม่ปล่อยให้สาวน้อยใต้ร่างได้มีโอกาสพักผ่อนเพื่อหายใจ ไม่รู้ล่ะ ไหนๆผมก็ซนกับแก้วมาถึงขนาดนี้แล้ว จะปล่อยให้หลุดมือไปนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมควรทำเลย ถูกมั้ย?

 

 

 

 

“หยุดดิ้นได้แล้วเด็กดี อย่าดื้อกับโทโมะนะ...ไม่งั้นจะถูกทำโทษ” ผมกระซิบชิดริมฝีปากสวยที่เผยอออกนิดๆเพื่อรับอากาศ ใบหน้าเปื้อนเหงื่อนั่นหันกลับมามองผมด้วยสายตาดุๆ ก่อนจะตัดพ้อผมอย่างน่ารัก

 

 

 

 

“ทำโทษ...ทำโทษทั้งปี หาเรื่องรักแกเค้าแล้วยังมาโทษว่าเป็นความผิดเค้าอีก แบบนี้ไม่น่าให้อภัย!”

 

 

 

 

“ก็อย่าทำตัวให้หวงนักสิ เดี๋ยวนี้ไว้ผมยาว...ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อเอวลอยใหญ่เลยนะ พอโทโมะไม่ห้ามน่ะ...เห็นแล้วมันหวงๆยังไงไม่รู้ ถ้าไม่เกรงใจนี่ติดป้ายแขวนคอไปแล้วนะว่าคนนี้น่ะ...เมียผม”

 

 

 

 

“โอ้ย! คนบ้า ใครจะยอมให้ทำแบบนั้นกัน”  แก้วกำลังต่อต้านผมเพราะเธอกำลังโกรธที่ผมพูดให้อับอาย แต่ถึงเป็นแบบนั้นก็ใช่ว่าผมจะไม่มีวิธีจัดการ และวิธีจัดการแก้วมันก็ง่ายนิดเดียวด้วย...

 

 

 

 

 

            ผมรั้งร่างนุ่มเข้ามาเบียดแนบชิดก่อนจะหลอมรวมร่างของเราสองคนให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างไม่รีบร้อน ผมรู้ดีว่าแก้วไม่ชอบให้ผมใจร้อนใส่ เด็กน้อยของผมชอบความอ่อนหวานแล้วก็อ่อนโยน...นั่นทำให้แก้วรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงและผมเป็นเพียงคนรับใช้ที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเธอ...

 

 

 

 

ถึงจะดูด้อยค่าเป็นแค่คนรับใช้แต่มันก็ถือว่าคุ้มที่ได้ครอบครองเจ้าหญิงแบบแก้วนะ...

 

 

 

 

 

            และมันอดไม่ได้จริงๆที่ผมจะกัดเนื้อนิ่มเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว ร่างกายขาวผ่องที่มาพร้อมกับความหอมอ่อนๆโดยไม่ต้องปรุงแต่งนั่นเร้าอารมณ์ผมจนแตกกระเจิงชนิดกู่ไม่กลับ สัมผัส...เรือนร่างที่ผมหลงใหลมานานทุกซอกมุมอย่างค้นหาแม้เจ้าตัวจะต่อต้านอยู่กลายๆแต่นั่นเป็นสิ่งที่ผมมองว่า...เป็นการต่อต้านที่แสนหวานหยดเหลือเกิน ทนไม่ได้ที่ต้องนิ่งเฉยอยู่แบบนี้อีกต่อไป...

 

 

 

 

“คนขี้โกง..อ๊ะ! ปล่อยแก้วนะ”  คนตัวเล็กดีดดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของผมแต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย เราสองคนหอบหายใจแรงๆพร้อมกันเสมือนว่านั่นคือลมหายใจเดียวกัน...ร่างกายไม่อาจทานทนต่อความต้องการที่อัดแน่น

 

 

 

 

อุณหภูมิในห้องดูจะร้อนจนถึงขีดสุด...เมื่อผมไม่สามารถหยุดทุกความรู้สึกที่มีต่อแก้วได้

 

 

 

 

          สัมผัสนั้นลึกล้ำร้อนแรงเหมือนไฟแผดเผา...ยากที่จะควบคุมและดับลงให้มอดไหม้ได้เพียงเสี้ยวนาทีเมื่อเชื้อเพลิงอย่างแก้วพร้อมจะจุดติดกับแก๊สชนิดรุนแรงอย่างผมได้ทุกนาทีที่พบกัน ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ที่ผมจูบแก้วเอาไว้แบบนี้...กอดแบบนี้...และทำทุกๆอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนๆเดียวกันแบบนี้...

 

 

 

 

          ไม่ปฏิเสธเลยว่าแก้วเหมือนคนที่กำลังฆ่าผมให้ตายทั้งเป็น...ทำให้ผมคลั่งได้อย่างไม่น่าให้อภัย หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆเวลาที่เราสัมผัสกันแนบชิด เต้นแรงขึ้น...และก็พร้อมจะหยุดเต้นทุกเมื่อ ความหนาวเหน็บที่ได้รับกลับมาทำให้หัวใจของผมเหมือนถูกฟีซเอาไว้ในช่องที่อุณหภูมิติดลบ และไม่ช้า...แก้วก็หลอมละลายผมด้วยความร้อนจากร่างกายที่เสมือนเปลวไฟลุกไหม้ ทำให้ผมรู้สึกคล้ายๆว่าตัวเองกำลังจะตกนรก แต่ต่างกันตรงที่มันเป็นนรกที่ผมเต็มใจพาตัวเองก้าวลงไป!

 

 

 

 

            ในที่สุดผมก็พาตัวเองรังแกแก้วอีกจนได้ ไม่น่าให้อภัยแบบที่แก้วว่าไว้จริงๆนั้นแหละ พรุ่งนี้แก้วมีงานแต่เช้า จะทำอะไรมากก็ไม่ได้...ถ้าจูบหนักๆมากไปริมฝีปากบางสวยเสมือนลูกเชอร์รี่สีแดงสดที่วางอยู่บนวิปครีมละเอียดนุ่มก็อาจจะช้ำได้ และผมก็ไม่อยากให้แฟนผมต้องอดข้าวเช้าเพราะตื่นสายไปทำงานด้วย...ผมเป็นห่วง แก้วทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา ตัวก็ผอมแห้งแรงน้อย...ไม่อยากจะคิดภาพเลยเถอะ!

 

 

 

 

ผมควรหยุดตัวเองเอาไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะความรักไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวที่เอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว

 

 

มันไม่ใช่แค่ความลึกซึ้งที่เรามีต่อกันแต่นั่นหมายถึงความรักและความสมัครใจด้วย...ผมไม่อยากขัดใจแก้วเพราะรู้ดีว่าแก้วเป็นคนรักงานแล้วก็ไม่อยากเสียงานเพราะผม...ผมเลยต้องเลือกที่จะหยุด...เพื่อแก้ว

 

 

 

 

“หลับให้สบายนะตัวเล็ก พรุ่งนี้โทโมะจะปลุกเอง ไม่ต้องกลัวไปทำงานสายนะครับ”  ผมก้มลงจูบหน้าผากคนที่หลับสนิทไปแล้วเบาๆ ก่อนจะคว้าร่างนั้นมาขึ้นมานอนหนุนแขนผมต่างหมอน

 

 

“แก้วน่ารักไปหมดทุกอย่างเลย...ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารักขึ้นจนโทโมะหวง หวงมากนะรู้ไหม”

 

 

 

“รู้แล้วน่า”  เจ้าตัวตอบผมทั้งที่ยังหลับตา เหอะ! แสบจริงๆเถอะ หลอกผมว่าเพลียจนหลับได้ ร้ายกาจจริงๆยัยตัวแสบ มันอดไม่ได้จริงๆนะที่ผมต้องเอื้อมมือไปบีบจมูกรั้นๆนั่น

 

 

 

 

 

            ผมรอจนแก้วหลับสนิทไปจนตัวเองเริ่มจะหันมาหลับบ้างแล้วแต่เสียงข้อความมือถือที่เข้าทำให้ผมสะดุ้งนิดก่อนจะหยิบมันมาเปิดอ่านและพบว่ามันเป็นข้อความจากพี่ชายแท้ๆของผมเอง...พี่เคนจิ

 

 

 

 

[พรุ่งนี้แกกับแก้วออกมาเจอฉันหน่อยได้มั้ย...ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย วางใจได้ว่าฉันไม่ได้มีแผนร้ายอะไรอีก ขอให้เชื่อใจพี่แกเป็นครั้งสุดท้าย]

 

 

 

 

 

“ถึงพี่จะขัดขวาง ผมก็ไม่ยอมหรอก”  ผมบอกตัวเองเบาๆก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิม

 

 

 

 

ให้ตายเถอะ! มันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่านะ

 

 

 

 

 

“ไปเจอพี่เคนจิ??” 

 

 

 

 

            หลังจากทำงานเสร็จโทโมะก็มารับฉันกลับรงเวลาเป๊ะไม่เผื่อให้ฉันมีโอกาสนั่งหายใจมั่งเลย เขาบอกว่าไม่อยากให้ฉันอยู่คนเดียวนานๆเดี๋ยวมีใครมาเกาะแกะอีก ซึ่งเขาไม่ชอบ โถ่เอ๊ย! เป็นผู้ชายที่เรื่องมากขึ้นเทพแถมยังขี้หึงสุดๆไปเลยนะเนี่ย แต่นั่นก็ไม่น่าหนักใจเท่าเรื่องที่โทโมะกำลังบอกฉันอยู่ตอนนี้นักหรอก

 

 

 

พี่เคนจิมีเรื่องอยากจะคุยกับฉันและโทโมะ

 

 

 

ฉันจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่ออกไปพบเขากับเบลล์นั่นเป็นสาเหตุให้ฉันกับโทโมะต้องเลิกยุ่งกันไปรอบนึงแล้ว!

 

 

 

 

 

 

ถึงเขาจะเป็นพี่ชายของคนที่ฉันรัก...ฉันก็ไม่กล้าไว้ใจ

 

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องกลัวนะ โทโมะไม่ปล่อยให้ใครทำอะไรเราสองคนได้อีกแล้ว”  เขาดึงมือฉันไปกุมไว้แน่นเหมือนรู้ดีว่าตอนนี้ฉันกำลังไม่สบายใจ ไม่มีใครรู้ใจฉันดีไปกว่าโทโมะอีกแล้วล่ะ ฉันรักเขาจัง...

 

 

 

 

“แต่แก้วยังกลัวอยู่เลย ไม่เอาแล้วนะ...คราวนี้เขามีแผนอะไรอีกหรือเปล่า พี่เคนจิน่ะไม่เท่าไหร่แก้วรู้ว่าที่เขาทำไปก็เพื่อต้องการให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข แต่ผู้หญิงคนนั้น...แก้วยังไม่วางใจ”  ฉันกอดแขนโทโมะเอาไว้แน่นเพื่อให้รู้ว่าฉันรู้สึกกลัวอย่างที่พูดจริงๆ

 

 

 

 

 

            โทโมะถอนหายใจยาวๆก่อนจะเอื้อมมือมาแตะข้างแก้มฉันแผ่วเบาให้สบตามองกับเขา ทำให้ฉันเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่มีวันให้ใครมาทำร้ายฉันได้อีก

 

 

 

“แก้วเชื่อใจโทโมะหรือเปล่า?”

 

 

 

 

“เชื่ออยู่แล้ว ไม่เห็นต้องถามเลย”

 

 

 

 

“งั้นไม่ต้องกลัวนะ ใครก็ทำอะไรแก้วไม่ได้ถ้าหากโทโมะยังยืนอยู่ตรงนี้...”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“ถ้าแก้วกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก...”

 

 

 

 

“....”

 

 

 

 

 

            โทโมะนิ่งไปสักพักก่อนที่เขาจะถอดสร้อยคอที่มีแหวนรูปหัวใจคล้องอยู่แล้วสวมให้ฉัน...สวมให้ด้วยความอบอุ่นที่มีล้นจนทะลักทะลาย ฉันไม่คิดว่าเขาจะรักฉันมากขนาดนี้เลยนะ...รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกเลยจริงๆ

 

 

 

 

 

“สวมแหวนให้แก้วทำไม โทโมะเคยบอกว่านี่เป็นแหวนที่คุณแม่ให้ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เก็บไว้ เอามาให้แก้วแบบนี้คุณแม่คงเสียใจ”

 

 

 

 

“คุณแม่คงดีใจด้วยซ้ำเพราะท่านบอกว่าให้โทโมะเก็บไว้สวมให้ลูกสะใภ้ของท่าน”

 

 

 

 

“เห?”

 

 

 

 

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราอีกในวันนี้ แก้วรู้ไว้เลยนะว่าโทโมะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากแก้ว...ต่อให้เราต้องผิดใจกันอีกกี่ครั้งโทโมะก็จะรักแก้ว แล้วก็จะแต่งงานกับแก้วคนเดียวด้วย...รักษาแหวนวงนี้ให้ดีนะสาวน้อย ถือว่าโทโมะจองไว้ก่อนก็แล้วกันครับ” 

 

 

 

 

“ทำไมชอบทำซึ้งเนี่ยคุณชายผีดิบ”  ฉันเอื้อมมือไปตีแขนเขาเบาๆแก้เขิน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโทโมะถึงร้ายกาจไม่เบาอย่างนี้!

 

 

 

 

 

โอ๊ยยยยยยย! หัวใจฉันจะวายอยู่แล้วนะ >/////< 

 

 

 

 

 

“มัวแต่ทำเย็นชาได้ยังไงไหวล่ะ ดูแฟนสิ...สวยขนาดนี้”  สาบานเลย! สาบานจริงๆว่าโทโมะกำลังทำให้ฉันเขินจนตัวแทบแตก เขารุกไล่ฉันเกินความจำเป็นเกินไปแล้ว งื้อออ!~

 

 

 

 

 

XXX Club

 

 

 

 

 

            ผมพายัยตัวเล็กมาที่สถานที่นัดหมายของผมกับพี่เคนจิ แน่นอน...ว่าเจ้าตัวมาถึงรอผมก่อนหน้านั้นแล้ว  ผมกระชับมือข้างที่จับมือแก้วเอาไว้ให้แน่นขึ้นอย่างเปิดเผยไม่ได้เกรงต่อสายตาผู้คนที่อาจจะจำผมกับแก้วได้ ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว...

 

 

 

 

“พูดธุระของพี่มาดีกว่า”

 

 

 

 

“พี่รู้ว่าแกโกรธพี่กับเบลล์มากที่ทำแบบนั้น วันนี้พี่แค่อยากจะขอโทษ...”  ผมไม่รู้ว่าผมจะสามารถไว้ใจพี่ชายแท้ๆของผมได้อีกต่อไปหรือเปล่า ผมควรจะทำยังไงดี

 

 

 

 

“ช่างมันเถอะครับ แค่พี่อย่าให้เบลล์มายุ่งวุ่นวายกับแก้วก็พอ”

 

 

“รักกันมากเลยสินะ”  เหมือนว่าพี่เคนจิจะเห็นแหวนที่ผมสวมให้แก้วแล้วนะ เขาถึงพูดออกมาแบบนั้น

 

 

 

 

“ถ้าพี่รู้อย่างนี้แล้วคงไม่คิดจะขัดขวางผมกับแก้วแล้วก็ยัดเยียดเบลล์ให้ผมอีกหรอกนะ ผมคงทำตามคำที่พี่ขอให้ไม่ได้แล้ว”

 

 

 

 

“พี่ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นอีกแล้วล่ะ”

 

 

 

 

“หมายความว่าไง”

 

 

 

“แม้แต่น่าพี่...เบลล์ยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำ เขาโกรธที่พี่ปิดบังความจริงมาโดยตลอด โกรธที่พี่ไปขอร้องแกให้คบกับเขา แล้วก็โกรธที่พี่...รักเขา”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“แต่ช่างเถอะ มันก็สมควรแล้วที่พี่ต้องเจ็บแบบนี้...พี่ทำลายความรักของแกกับแก้วก่อนนี่นา มันก็สมควรแล้วล่ะ...”

 

 

 

 

“แก้วว่ารอให้เขาใจเย็นก่อนเถอะค่ะ เขาคงคิดได้เองว่าที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเขา...”

 

 

 

 

“พี่ขอโทษเธอด้วยนะแก้วสำหรับทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องโทโมะแล้วก็เรื่องที่พี่กอดเราวันนั้น”

 

 

 

 

“กอด!?”  ผมเผลอขึ้นเสียงใส่อย่างไม่ทันได้ยั้งตัวแต่พี่เคนจิรีบโบกมือห้ามเอาไว้ก่อน

 

 

 

“ใจเย็นโทโมะ...ใช่ ตอนนั้นที่แกพาแก้วไปที่บ้านแล้วบังเอิญว่าเบลล์ก็อยู่ที่นั่น ฉันสงสัยในความสัมพันธ์ของแกกับแก้ว...พอแก้วไปเข้าห้องน้ำ ฉันก็เลยตามไปหา...แล้วก็แกล้งกอดเพื่อดูปฏิกิริยาของแก้วและนั่นก็ทำให้ฉันได้รู้ว่าแก...เคยกอดแก้วแบบนี้เหมือนกัน และคนที่เป็นเพื่อนกันคงไม่ทำอะไรแบบนี้”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“พี่ขอโทษจริงๆนะแก้ว ขอโทษจริงๆ...พี่ไม่ได้ตั้งใจจะลามปามแก้ว”

 

 

 

 

 

“ของแบบนี้มันแกล้งกอดกันได้ด้วยเหรอพี่!”  ผมโมโหจริงๆนะ พี่เคนจิกล้าดียังไงมากอดแฟนผมแบบนี้ รับรองได้เลยว่าถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์นั่นด้วยผมคงได้วางมวยกับพี่ชายตัวเองไปแล้ว! และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น แก้วก็พยายามดึงแขนผมให้นั่งลงพลางลูบหลังผมเบาๆให้มีสติมากกว่านี้

 

 

 

 

“โทโมะ!...เอ่อ เรื่องมันแล้วก็แล้วกันไปเถอะค่ะ แก้วไม่ได้ถือโทษอะไรแล้ว”

 

 

 

 

“ขอบใจมากนะแก้ว แกด้วย...ฟังเหตุผลกันก่อนไม่ได้หรือไง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับแก้วแบบนั้นหรอกน่า”

 

 

 

 

“ก็ลองพี่คิดสิ!”  ถึงจะเป็นพี่ชายก็เถอะ ผมไม่ไว้ใจทั้งนั้นแหละ!

 

 

 

 

“ฉันรักเบลล์” 

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“แล้วก็รักมานานแล้วด้วย...ไม่มีวันรักคนอื่นได้อีกหรอก แกสบายใจได้”

 

 

 

 

 

            พี่เคนจิพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เหอะ! บางทีผมก็นึกสงสารพี่ตัวเองอยู่หรอก แต่สิ่งที่เขาทำกับแก้วและผมมันก็ใช่ว่าจะลบล้างกันได้ง่ายๆ ตอนนี้ผมเชื่อสนิทใจเลยว่าความรักมันยิ่งใหญ่จริงๆ...ทำให้คนเป็นบ้าเพราะความรักได้อย่างเหลือเชื่อ และนั่นหมายถึงผมที่บ้าเพราะรักแก้วจะเป็นจะตายแบบนี้ด้วย!

 

 

 

 

“แต่ฉันไม่ได้รักนาย!”  เสียงผู้หญิงที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้เราทั้งหมดต้องรีบหันกลับไปดูทางด้านหลังและพบว่ามันไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากคนที่เรากำลังพูดถึง...

 

 

 

 

เบลล์!

 

 

 

 

 

“จำไว้นะเคนจิ ต่อให้นายพยายามทำอะไรเพื่อฉันก็ตามแต่...คนที่ฉันรักคือโทโมะ ไม่ใช่นาย! ส่วนเธอ..แก้ว! วันนี้เธออาจจะชนะฉัน แต่รับรองเลยว่าฉันไม่ได้ยอมแพ้แค่วันนี้วันเดียวหรอก จำไว้ด้วย”

 

 

 

 

“เลิกบ้าได้แล้วเบลล์ เลิกหลอกตัวเองสักที...เราสองคนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ เบลล์รักโทโมะแต่โทโมะกับแก้วเรารักกัน โทโมะไม่ได้รักเบลล์แล้วโทโมะก็จะไม่มีวันยอมให้เบลล์ทำอะไรแก้วด้วย”  ผมชักทนไม่ไหวแล้วกับการกระทำของเบลล์ ผมต้องการให้เธอหยุด...นั่นไม่ใช่หมายถึงแค่หยุดทำร้ายแก้ว แต่ที่ผมอยากให้เธอหยุดก็เพราะตัวเธอเองด้วย

 

 

 

ไม่ว่าเธอจะพยายามเพื่อผมยังไง...มันก็มีค่าเป็นศูนย์เพราะผมรักแก้วคนเดียว!

 

 

 

“ทำไม! เบลล์ไม่ดีตรงไหน เบลล์ทำเพื่อโทโมะมาโดยตลอด ทำดีให้ทุกอย่างแต่ทำไมกลับไม่เคยรักกันเลย”

 

 

 

“มันไม่ใช่ว่าเบลล์ไม่ดี...แต่โทโมะแค่รักแก้ว เบลล์ก็รู้ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ ครั้งหนึ่งโทโมะเคยพยายามจะรักเบลล์และต้องการลืมแก้วเพราะรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้...รู้ไหมว่าโทโมะต้องฝืนและทรมานแค่ไหน ต้องทนอยู่กับคนที่เราไม่ได้รักแล้วก็เฝ้ามองคนที่ตัวเองรักอยู่อย่างเลื่อนลอย ไขว่คว้าไม่ได้เลย...”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“แต่พอโทโมะรู้ว่าแก้วก็รักโทโมะเหมือนกัน นั่นทำให้โทโมะตัดสินใจได้...ว่าโทโมะจะรักแค่แก้วคนเดียว และจะไม่พยายามรักใครเหมือนที่พยายามกับเบลล์อีก ขอโทษด้วย”

 

 

 

 

 

            ผมตัดสินใจเดินไปจับมือแก้วแล้วพาออกไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่ต้องการให้แก้วไม่สบายใจเพราะใครอีก เดาเลยนะว่าเบลล์เองก็คงจะเห็นแหวนที่ผมสวมให้แก้วแล้วเหมือนกัน ถึงได้ปรี๊ดแตกไม่แคร์ใครแบบนั้น มันช่วยไม่ได้จริงๆที่ผมจะเห็นแก่ตัว...ผมยอมให้ทุกคนมองว่าเห็นแก่ตัวเพื่อรักษาตุ๊กตาน้องของผมเอาไว้ ไม่ให้ใครแย่งไปกอดเล่นอีกแล้ว!

 

 

 

 

 

“โทโมะ กลับมานะ! เบลล์บอกให้กลับมา โทโมะ!”

 

 

 

 

“เบลล์...หยุดเถอะ...พอได้แล้ว มีสติบ้างสิ”

 

 

 

 

“รู้ไหมเคนจิ...นายเป็นคนที่น่าสมเพชที่สุด ฉันไม่ได้รักนายแต่นายก็ยังทำดีกับฉัน เพื่ออะไร...เพื่อความน่าสงสารงั้นเหรอ เหอะ! มันไม่ได้ผลหรอกนะ แล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรด้วย!”  คำพูดที่ออกจากปากผู้หญิงที่เขารักทำให้เคนจิหน้าชาไปไม่น้อย หมดแล้วกับความเป็นเพื่อนที่มีให้กันมา วันนี้เขาทำลายมันลงด้วยคำว่ารักสั้นๆแค่เดียว...แค่คำเดียวจริงๆ

 

 

 

 

“มันไม่ต่างกันเลยนะเบลล์...”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“โทโมะก็ไม่ได้รักเบลล์เหมือนกัน แต่ทำไมเบลล์ถึงเลือกที่จะวิ่งตามโทโมะล่ะ ...ยิ่งวิ่งตามมันก็ยิ่งวิ่งหนี เบลล์ควรจะพอได้แล้ว ถึงแม้ว่าเบลล์จะไม่รักเคน แต่ขอร้องล่ะ...รักตัวเองบ้าง อย่าให้ผู้ชายเพียงคนเดียวทำให้ชีวิตเบลล์ต้องเป็นแบบนี้เลย”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“เขาสองคนรักกันมาก เบลล์รู้ดีใช่ไหม...”

 

 

 

 

“...”

 

 

 

 

“คงเห็นแหวนบนนิ้วของแก้วแล้วสินะ”

 

 

 

 

 

“หยุดพูดไปเลย!”  ดอกไม้ที่วางอยู่ในแจกันบนโต๊ะที่มือเรียวสวยหยิบขึ้นมาพร้อมกับขว้างใส่หน้าผู้ชายที่ยืนตรงข้ามกับเธอ เคนจิยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ มองตามแผ่นหลังบางที่ค่อยเรือนหายออกไปนอกร้านด้วยความเศร้าอย่างถึงที่สุด

 

 

 

 

คนไม่รักก็คือไม่รัก จะให้บังคับใจกันมันคงเป็นไปไม่ได้...

 

 

 

 

 


 

 สวัสดีคร้าบเราเคยรู้จักกันรึเปล่า =[]=!?

 

หายหัวไปเป็นชาติกับเรื่องนี้5555555555

 

ไม่ใช่อะไรสั้นๆเลย ขี้เกียจ คิ้คิ้ (^o^)

 

เพราะงี้ไงก็เลยจัดให้ยาวๆตอนนี้ ไถ่โทษๆงับ!

 

โทโมะ : แก้วสวยขึ้นทุกวันแบบนี้...ผมหวงครับ!

 

แก้ว : หวงทำไม...ทั้งหมดนี่ก็ของโทโมะอยู่แล้ว -/////-

 

นุกกี้(?) : (' ') เห้~ สองคนนั้นเห็นฉันอยู่ตรงนี้หรือเปล่า!?!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา