Fiction Rewrite

9.3

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.09 น.

  17 ตอน
  857 วิจารณ์
  35.01K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) ในรอยรัก The End

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

                               ในรอยรัก           

 

       เสียงจอแจของผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินส่งเสียงดังเซ็งแซ่ หากแต่ว่ามันไม่ได้ผ่านโสตประสาทของโทโมะเลยแม้แต่น้อย  ร่างสูงกำพาสปอร์ตแน่นเดินไปตามทาง เพื่อรอเวลาที่จะขึ้นเครื่องสู่เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ  ‘ลอนดอน’

 

 

                                  ---------------------------------------

 

 

“ไม่นะ..!!”   แก้วสะดุ้งตื่นจากนิทราที่เธอเผลอหลับไป เม็ดเหงื่อใหญ่น้อยผุดขึ้นตามดวงหน้าสวยที่บัดนี้ซีดเผือดไร้สีเลือดเหมือนแต่เก่าก่อน สาเหตุที่เธอสะดุ้งตื่นมานานคงมาจากความฝันเมื่อครู่ ... มันทำให้แก้วใจหาย และเสียใจเหลือแสน หากเขาจะไปจริงๆ...

 

 

คุณ..เอ่อ..พี่จะไปไหน?”

 

ฉันจะกลับอังกฤษ ขอให้เธอโชคดีกับคนรักที่เธอเลือก ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันขอโทษ ขอโทษที่ทำร้ายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ฉันขอโทษ”      ชายหนุ่มหลั่งน้ำตาก่อนที่จะรวบตัวหญิงสาวมาสวมกอด ดวงหน้างามซุกกับแผ่นอกของเขาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่กำลังรินรดจนเปียกชุ่มสาบเสื้อของโทโมะ .. มือหนายกลูบเส้นผมของคนในอ้อมกอดด้วยความอาธรณ์

 

ฮึก...แก้วรักพี่โทโมะ ต่อให้พี่ทำร้ายแก้วแค่ไหน แก้วก็จะยังคงรัก  ฮึก..แก้วดูโง่มากใช่ไหม?” 

 

            เสียงสะอึกสะอื้นปนร่ำไห้ของหญิงสาวจวนเจียนจะขาดใจ หากเขาต้องหายไปจากชีวิตของเธอจริงๆ ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ปากก็พร่ำบอกว่าโกรธเกลียดและขยะแขยงเขายิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือแต่ยามเขาจะไปเธอก็ทนอดรนไม่ได้  ราวกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจ  ..รู้ดีว่าเขาทำร้ายให้เธอต้องเจ็บช้ำ ต้องทนทรมานมาตลอดเกือบๆ 5 ปี  แต่จะให้เธอทำอย่างไร เมื่อทิฐิที่เคยมีกับหัวใจ ... มันสวนทางกัน

 

พี่ต้องไปแล้ว..หากพี่ยังอยู่ ก็รั้งแต่จะให้แก้วเจ็บปวดกับอดีตที่พี่เคยทำระยำใส่เธอ พี่ขอโทษนะคนดี..พี่รักเธอนะ”

 

         นิ้วเรียวปาดหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลสองข้างช้าๆด้วยความรักก่อนจะบรรจงจูบหน้าผากของแก้ว และล่ำลาเธอครั้งสุดท้าย  ชายหนุ่มละจากอ้อมกอดของหญิงสาวก่อนจะค่อยๆปลีกตัวออกห่างไปตามทางที่เขาเลือกเดินแต่นี้ต่อไป..เมื่อหันหลังกลับก็ไม่มีวันที่จะหันกลับมา แม้แต่จะมองหน้าหญิงคนรัก ไม่ว่าเธอจะร่ำร้องพร่ำเรียกชื่อเขาปานขาดใจ

 

เขาไปแล้ว และเขาจะไม่มีวันกลับมาในชีวิตขงเธออีก..

 

 

 

                                    ----------------------------------------------

 

 

 

“แก้ว..แก้วเป็นอะไรไป แก้ว ๆ!”  มือหนาเขย่าไหล่ของแก้วเบาๆเพื่อเรียกสติ ดวงตากลมโตของแก้วปริ่มไปด้วยน้ำใสๆที่พร้อมจะรินไหลได้ทุกเมื่อ เคนตะมองเธอด้วยความตกใจถึงอากัปกิริยาของคนรัก ไม่อาจเดาได้เลยว่าตอนนี้เธอคิดเช่นไร  เธอเป็นอะไร และ...เธอรักใคร?

 

“ฮึก ๆ... ฮือ”   เสียงสะอื้นฮักของแก้วดังขึ้นเรื่อยๆ มือบางจิกกำผ้าห่มผืนหนาแน่นราวกับจะยึดมันเป็นที่พึ่งสุดท้าย  ไม่ว่าเคนตะจะพยายามร้องเรียกเท่าไหร่ดูเหมือนแก้วก็จะไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งสิ้น

 

“แก้ว แก้วเป็นอะไร บอกเคนตะได้ไหม อย่าเป็นแบบนี้เลย...ขอร้อง”  เคนตะคว้าตัวแก้วเข้าไปกอดพลางลูบหัวปลอบปะโลมทั้งที่เธอยังไม่หยุดสะอึกสะอื้น 

 

             จนกระทั่งแก้วตั้งสติได้ หยุดร้องไห้...แต่กับนิ่งเงียบไม่พูดจาจนเคนตะอ่อนใจ เธอไม่รู้บ้างหรือ?ว่าเขาเป็นห่วงแค่ไหน เห็นอาการเธอเป็นแบบนี้ เขายิ่งร้อนใจ  แต่ในเมื่อเธอไม่พร้อมที่จะบอก เขาก็จะไม่เซ้าซี้ให้เธอหน่ายใจและรำคาญ 

 

“เคนตะ จะไม่ถามว่าแก้วเป็นอะไรอีกแล้ว เพราะถามไปแก้วก็คงไม่สนใจที่จะให้คำตอบ..อย่าคิดมากนะ ถ้าแก้วพร้อมเมื่อไหร่  บอกเคนตะได้เสมอง เคนตะจะรอ”

 

“อย่ารอแก้วเลย”   แก้วแย้งขึ้นโดยไม่มองหน้าเขา ไม่สิ..เรียกว่าไม่กล้าสบสายตาเขาต่างหาก คนพูดก็เอาแต่งนิ่งงันหลังจากประโยคบาดหัวใจคนฟังหลุดออกจากปาก  เคนตะแค่นยิ้มให้กับตัวเองอย่างนึกสมเพช ที่เขาไม่สามารถฉุดรั้งหัวใจของคนรักเอาไว้ได้

 

          มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าที่เธอต้องทนทุกข์ใจอยู่แบบนนะมันเป็นเพราะอะไร?..หากไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนั้น คนรักของแก้ว คนที่แก้วรักมาโดยตลอดถึงแม้ตอนนี้เธอจะเป็นคนรักของเขาก็ตาม

 

“รักเขาอยู่ใช่ไหม? ไม่ต้องกลัวหรอกนะแก้ว ถ้าหากแก้วยังรักเขาอยู่ แก้วกลับไปหาเขาเถอะ”

 

“ฮึก...เคนตะ”

 

“ถ้าความรักคือการที่เราได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข เคนตะก็ควรจะทำแบบนั้น ถึงแม้ว่า...เคนตะจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ไปหาเขาเถอะแก้ว  อย่าทำให้เคนตะต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย”

 

“ฮึก..แก้วขอโทษ ความจริงแล้ว แก้วไม่เคย..ไม่รักเขา แก้วขอโทษที่ทำให้เคนตะ...ฮึก .. ต้องเจ็บปวด  คนที่รู้สึกและสำนึกผิดต้องเป็นแก้วสิ ไม่ใช่เคนตะ ไม่ใช่เลย ฮือ”

 

             หญิงสาวหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจเธอทำให้เคนตะต้องเจ็บปวด ทำให้โทโมะต้องเจ็บปวด และที่สำคัญเธอทำให้ตัวเองเจ็บปวด เคนตะระบายยิ้มอ่อนๆส่งมาให้พร้อมกับสวมกอดเธอด้วยความห่วงใย ยิ่งแก้วได้เห็นท่าทีอ่อนโยน ความดีของเขา มันยิ่งทำให้เธอกลายเป็นคนเลวในสายตาผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..สายตาของตัวแก้วเอง  

 

             หากเธอเลือกที่จะละโทโมะเพื่อที่จะได้กลับไปอยู่กับผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก แต่ความดีของเขาก็อาจจะทำให้ในภายภาคหน้าแก้วคงรักเขาได้อย่างไม่ยากเย็น

 

            แต่...เธอเป็นฝ่ายเลือกเองที่จะยอมละทิ้งผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตเพื่อที่จะกลับไปหาผู้ชายที่เลว..แต่รักที่สุดของเธอ  ยอมที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดอีกครั้ง หลายๆคนอาจมองว่าเธอเป็นคนที่เห็นแก่ตัว ที่กล้าทำร้ายจิตใจผู้ชายที่แสนดีอย่างเคนตะ .. และแก้ว ‘ยอมรับมันโดยไร้ข้อกังขาใดๆ’

 

“ผิดสิ เคนตะผิด ผิดที่พยายามจะรั้งแก้วไว้ ทั้งๆที่รู้..ว่าแก้วกับเขารักกัน เคนตะขอโทษนะแก้ว เคนตะขอสารภาพ สารภาพว่าเคยคิดที่จะแยกแก้วออกจากเขาหลังจากที่พอจะรู้เรื่องในอดีตของแก้วกับเขามาบ้าง ฮะๆ น่าสมเพชมากเลยเนอะ เคนตะเป็นคนไม่ดีเลย....ขอโทษอีกครั้งนะแก้ว”

 

“ไม่เลย..ฮึก..ถ้าคนที่จะผิด มันก็เป็นแก้วเอง แก้วผิด เอง แก้วเลวเอง แก้ว...”

 

“ไม่เอาแล้วคนดี...เคนตะว่าแก้วไม่ควรจะนั่งโทษตัวองอยู่แบบนี้นะครับ รีบกลับไปหาเขาเถอะ เคนตะจะไปส่งเอง”    เคนตะดันไหล่แก้วให้เผชิญหน้ากับเขา พร้อมเกลี่ยหยาดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน มองแก้วด้วยสายตาเป็นมิตร เป็นเพื่อนกับเธอ...

 

              ผ้าเช็ดหน้าอ่อนนุ่มของเคนตะกำลังถูกเจ้าตัวใช้ทำความสะอาดใบหน้าให้อดีตหญิงคนรักที่เขายังคงรัก อย่างเบามือก่อนจะฉุดรั้งมือเล็กให้ลุกตามเขาไป   หญิงสาวหยุดสะอื้นพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงงว่าเขาจะพาเธอไปไหนจนต้องเอ่ยถาม

 

“พาแก้วไปหาคนที่แก้วรักไงครับ”  ใบหน้าคมเข้มของเคนตะถูกแต่งเติมด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างที่เจ้าตัวชอบทำบ่อยๆ เรียกสำนึกให้แก้วต้องรู้สึกผิดจนต้องหลั่งน้ำตาอีกครั้ง  เพียงแค่เขายอมให้อภัยคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอก็มากพอแล้ว มากเกินไปด้วยซ้ำ  แล้วนี่อะไร? ขอพาเธอมาหาโทโมะ พาตัวเองมาเจ็บช้ำทำไมกัน ยังไงเสียแก้วก็ไม่มีวันที่จะไปกับเขาเด็ดขาด เธอไม่อาจทำร้ายคนดีอย่างเขาได้อีกต่อไป

 

“อย่ามายุ่งกับแก้ว ออกไป..ฮึก ..อย่ามายุ่ง อย่ามาทำดีกับคนเห็นแก่ตัวอย่างแก้ว ได้โปรดเถอะ เคนตะ ได้โปรดเกลียดแก้ว ..ฮึก” 

 

         แก้วตวาดลั่นหวังเหลือเกินที่จะให้เขาโกรธเกลียดเธอ เพื่อไม่ให้ตัวเองดูน่าสมเพชแล้ว และเป็นการไถ่โทษ เพราะการที่เขาเกลียดเธอ นั่นหมายความว่าเขาอาจจะลืมเธอได้ง่ายกว่า ไม่ต้องจดจำเรื่องราวเลวร้ายให้ต้องทุกข์ใจเล่น   แต่..ผิดคาดเสียแล้ว   เคนตะถอนหายใจยาวๆก่อนจะเดินเข้ามาหาแก้วด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเคย เขาไม่ยอมเกลียดเธอตามคำขอ ไม่สิ ไม่เคยคิดที่จะเกลียดเลยเสียมากกว่า เพราะ..

 

“ทำไม..ทำไมไม่เกลียดคนเลวๆแบบแก้ว ไป ทำไม!”

 

“ทำไมถึงอยากให้เคนตะเกลียดแก้ว เคนตะไม่เข้าใจนะครับ”

 

“ฮึก..บางที ถ้าเคนตะเกลียดแก้วไปเลย แก้วจะได้รู้สึกผิดน้อยลง และเคนตะจะลืมแก้วได้ง่ายมาขึ้น”

 

“เคนตะทำไม่ได้หรอก”

 

“ทำไมล่ะ ทำไม? ทำไมถึงไม่ยอมเกลียดแก้ว ..ฮึกๆ..ทำไม”  หญิงสาวร้องไห้โฮอย่างไม่แคร์สายตาใคร จนชายหนุ่มต้องรั้งตัวประคองไม่ให้เธอทรุดลงเพราะความอ่อนแอที่กำลังเข้าครอบงำจิตใจของเธอ ก่อนที่แก้วจะสงบลงเพราะประโยคสุดท้ายที่เขาพูด...และเธอก็ยอมที่จะเดินขึ้นรถไปกับเขา ยอมให้เขาพาไปหาโทโมะ..!!

 

 

        ตลอดการเดินทางไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากของทั้งคู่ จุดหมายครั้งนี้คือคอนโดของโทโมะ ใกล้ๆกับบ้านของแก้ว ศีรษะของหญิงสาวพิงกับกระจกรถ สาตาทอดมองแนวถนนยาวสุดลูกหูลูกตาราวกับเธอไม่ได้พกพาจิตวิญญาณของตนมาด้วย  ส่วนเคนตะ..เขายังคงนั่งยิ้มด้วยความสบายใจกับการที่เขาได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง การที่นำพาให้คนรักที่พลัดพรากได้กลับมาครองรักกันอีกครั้ง นั่นถือเป็นกุศลครั้งยิ่งใหญ่ 

 

        และเขาหวังว่าสักวัน บุญกุศลในครั้งนี้ พระเจ้าคงจะเห็นใจสิ่งใครสักคนมาเป็นคนรักของเขา หรือไม่ เขาก็พอใจที่จะอยู่เพื่อรักเธอตลอดไป...ก็แค่นี้เอง ชีวิตของผู้ชายที่ชื่อเคนตะ...

 

“ถึงแล้ว..โชคดีนะแก้ว  จำไว้นะ หากวันไหนแก้วไม่เหลือใคร หรืออะไรก็ตามแต่ แก้วยังมีเคนตะอยู่เสมอ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องรู้สึกผิด แก้วจะรักใครไม่ใช่เรื่องผิด อยู่ที่ตัวแก้วเองมากกว่า ...  สิ่งสุดท้ายต่อจากนี้ที่เพื่อนคนนึงอยากจะบอกก็คือ  เคนตะรักแก้ว...โชคดีครับ”

 

            เขาเดินมาส่งเธอตรงล็อบบี้คอนโด ก่อนจะเอ่ยคำรักให้ฟังเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะได้พูดกับเธออีกแล้ว แก้วโผเข้ากอดเขาแน่น ริมฝีปางบางพร่ำขอบคุณเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อนจนเคนตะต้องเอ่ยเตือนสติ นั่นแหละเธอถึงได้ยอมคลายอ้อมกอดจากเขา..

 

“ขอบคุณนะเคนตะ ขอบคุณที่รักแก้ว ขอบคุณ”

 

          แก้วปาดน้ำตาพลางส่งยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มจริงใจถึงแม้ว่าเธอกำลังฝืนมันอยู่ก็ตาม เคนตะโบกมือให้น้อยๆก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับไป กลับไปในทางเดินที่เขาเคยเดินมา  รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยเลือนหายไป แปรเปลี่ยนเป็นหยดน้ำตาของลุกผู้ชายคนนึง  ไม่ได้รู้สึกว่าตนเสียศักดิ์แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่ต้องหลั่งน้ำตาให้กับความรู้สึกของตัวเอง...

 

         เขาดีใจที่ได้บอกรักเธอ ไม่ได้หวังให้เธอบอกรักเขากลับแม้แต่น้อย เพราะยังไงซะ..เธอก็ไม่ได้รักเขา ฉะนั้น หน้าที่ของเขาหมดลงแล้ว เธอได้อยู่กับคนที่เธอรัก ต่อจากนี้..เขาคงเป็นได้เพียงเพื่อนที่แก้วให้ความไว้วางใจ และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป....

 

 

 

                                 --------------------------------------------

 

 

        แก้วสูดหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูเรียกเขา  แต่ทว่า ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนในห้อง ยิ่งทำให้เธอใจเสียคิดว่าเขาจะจากไปอย่างในฝันของเธอจริงๆ  แก้วพยายามร้องเรียกโทโมะซ้ำแต่สิ่งที่สะท้อนกลับมาหลังประตูบานนั้นคือความว่างเปล่า และความเงียบงัน..เขาคงไม่รักเธอแล้ว 

 

พาลทำให้เธอนึกไปถึงประโยคสุดท้ายของเคนตะ..

 

“ทำไม..ทำไมไม่เกลียดคนเลวๆแบบแก้ว ไป ทำไม!”

 

ทำไมถึงอยากให้เคนตะเกลียดแก้ว เคนตะไม่เข้าใจนะครับ”

 

ฮึก..บางที ถ้าเคนตะเกลียดแก้วไปเลย แก้วจะได้รู้สึกผิดน้อยลง และเคนตะจะลืมแก้วได้ง่ายมาขึ้น”

 

เคนตะทำไม่ได้หรอก”

 

ทำไมล่ะ ทำไม? ทำไมถึงไม่ยอมเกลียดแก้ว ..ฮึกๆ..ทำไม”

 

ไม่มีใครเกลียดคนที่ตัวเองรักได้ลงคอหรอกแก้ว ก็เหมือนกับที่แก้วไม่เคยเกลียดคุณโทโมะได้อย่างที่ปากว่าสักครั้ง  ต่อให้เขาจะเลวใส่แค่ไหน  แก้วก็ยังคงรัก  ไม่ใช่หรือ? เพราะฉะนั้น..เคนตะก็จะไม่มีวันเกลียดแก้วเหมือนกัน  เคนตะนับถือในความรักของแก้วนะ...ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นยังไง เราก็จะยังคงรัก ยิ้มได้แล้วคนดี เขารอแก้วอยู่นะ” 

 

“ไม่จริงหรอก...พี่ไม่ได้รอแก้วแล้ว”

 

“.....”

 

“ฮึก..พี่โทโมะ พี่เปิดประตูให้แก้วได้ไหม..ฮึกๆ...ได้โปรด เปิดประตูให้แก้วที”  ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่ยอมเปิดประตูให้เธอ จนกระทั่งพนักงานทำความสะอาเดินเข้ามาสอบถามจนเธอได้ความว่า..

 

“คุณโทโมะนะเหรอค่ะ..เขาไม่กลับมาแล้วละค่ะ เห็นว่าจะกลับไปอยู่อังกฤษตามเดิม”

 

“อะไรนะค่ะ?”

 

“คุณเป็นเพื่อนของคุณโทโมะหรือค่ะ เอ..เธอไม่บอกคุณก่อนไปหรือเนี่ย?”

 

          คำตอบที่เธอได้รับราวกับคมมีดที่กำลังกรีดลึกสู่ก้อนเนื้อภายในอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกดีใจที่จะได้เจอเขา และแปรเปลี่ยนเป็นเต้นช้าลงด้วยความรู้สึกใจหาย ที่เขาไปแล้ว คนที่เธอรักจากเธอไปอีกครั้ง..นี่คงเป็นบทลงโทษสำหรับพระเจ้าในสิ่งที่เธอได้ทำไว้กับเคนตะ เธอถึงได้ไม่มีวันรักใครได้อย่างมีความสุข

 

“ช่วยเปิดห้องให้ฉันหน่อยได้ไหมค่ะ..นะคะ”  แก้วพยายามขอร้องแม่บ้าน จนเธอยอมใจอ่อนเปิดห้องให้ หญิงสาวก้าวเข้ามาช้าๆ ภายในห้องถูกเก็บกวาดอย่างสะอาดตามีเพียงกล่องหนึ่งใบที่ถูกวางทิ้งไว้บนเตียงขาวสะอาด 

 

“อ้อ คุณเป็นเพื่อนคุณโทโมะใช่ไหมค่ะ คือตอนที่ดิฉันเข้ามาทำความสะอาด ดันเจอเจ้านี้ตกหล่นอยู่นะคะ สงสัยคุณโทโมะเธอจะลืมเอาไป ยังไงคุณก็ช่วยเก็บไว้แทนด้วยนะคะ ดิฉันไม่รู้จะเอาไปคืนกับใคร”

 

“ค่ะ”

 

         แก้วรับคำด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยก่อนจะหยิบกล่องใบนั้นขึ้นมาดู  เปิดออกมาจึงพบว่ามันเป็นสร้อยรูปหัวใจที่เธอเคยบ่นว่าอยากได้ แต่พอเขาจะซื้อให้เธอกลับปฏิเสธ เพียงเพราะไม่อยากรบกวนและเธอก็ต้องการใช้กำลังทรัพย์ของเธอเองด้วย  ..  มิน่าล่ะ วันนั้นที่เธอพยายามหาสร้อยเส้นนี้ คนขายจึงบอกว่ามันถูกซื้อไปเมื่อ 5 ปีก่อน เป็นเขาเองหรือ...?

 

“ฮึก..ทำไมพี่ไม่รอแก้ว พี่ไม่รักแก้วแล้วใช่ไหม?”

 

        หญิงสาวหยิบสร้อยเส้นงามขึ้นมาก่อนจะค่อยๆบรรจงใส่มันทั้งน้ำตา พร้อมกับฟุบหน้าลงกับเตียงพื้นกว้างนั้นด้วยความคิดถึง และโหยหา เตียงที่เขาเคยนอนตะกองกอดเธอ...

 

 

 

 

                                   -------------------------------------------

 

 

 

“อะไรนะครับ? คุณจะให้ผมกลับไปส่ง...พูดเป็นเล่น เดี๋ยวก็ตกเครื่องหรอกครับ”

 

“เท่าไหร่ผมก็จ่าย  พาผมกลับไปส่งที ผมลืมของสำคัญเอาไว้!”  

 

“เอ่อ..ก็ได้ครับ แต่ผมบอกคุณไว้ก่อนเลยว่า ยังไงก็กลับมาไม่ทันเครื่องแน่นอน”

 

          ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่กลับคอนโด ด้วยเหตุที่ว่าเขาลืมของสำคัญบางสิ่งไว้ที่นั่น ของที่มีชิ้นเดียว และสำคัญที่สุดในชีวิตแม้จะไม่เคยได้ให้มันกับคนที่รักก็ตามแต่..

 

“เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอครับ?”

 

“โอเคครับ โอเค”

 

     คนขับรถเร่งเต็มที่เพื่อหวังให้เขาไปถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถามถึงสิ่งที่สำคัญของเขา มันสำคัญมากถึงขนาดต้องยอมตกเครื่องเลยหรือ?

 

“ขอโทษนะครับ คุณลืมอะไรไว้เหรอ?”

 

“หัวใจครับ...ผมลืมหัวใจของผมไว้”

 

หัวใจของเขา...สร้อยเส้นนั้น...ตัวแทนของเธอ

 

                   

                      THE END

..............................................................................................................................

ยะ เย้>O< จบซะที กะรีไรท์น้ำเน่า วะ ฮ่าๆๆ

ขอบคุณที่ติดตามขอร้าบบบ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้อัพ อิอิ^^

สาบานเลยว่ารีไรท์เรื่องต่อไปจะไม่ดราม่า ฮี่ๆ (จิงอ่ะ?)..จริ๊ง><

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา