i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  251.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19) 15 - Why ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

15 - Why ?

 

 

ไม่รู้ไปไงมาไงไอ้หล่อจังไรมันถึงได้มาส่งที่หน้าหอผมได้ แม่งเล่นบังคับซะ...แต่ก็แปลกดีนะ บังคับผมในสิ่งที่ทำให้ผมนั้นสะดวกสบาย แต่อย่างไอ้การมารับผมที่หอเพื่อไปเรียนทุกวันมันก็เกินไปหน่อยมั้ง?

 

“กูจะมารับมึงทุกวันก่อนไปเรียน” เอาอีกแล้ว ผมเกลียดรูปประโยคแบบนี้ ไม่ใช่คำถามแต่มันคือคำสั่ง!

 

ถ้ามันอายุแก่กว่าผมสัก10ปีผมคิดต้องเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพ่อลูกที่ผลัดพรากกันมานมนานแน่

 

“คือมึงก็ปี3 เรียนวิดวะ แต่เสือกช่วยทำให้โลกร้อนโดยการใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลืองเนี่ยนะ?” ผมหันไปด่ามัน “ใช้หัวส้นตีนคิดเหรอ หอกูเดินไปถึงม.ไม่เกิน10นาทีด้วยซ้ำ จะมารับกูทำซากไร”

 

“กูพอใจ”

“เรื่องของมึง แต่บอกไว้ก่อนว่าไม่ต้องมารับกู ขืนมึงมามึงเจอดีแน่” แค่นี้ก็ประสาทแดกจะตายอยู่ละ ผมลงจากรถมันโดยไม่มีคำล่ำลาหรือคำขอบคุณใดๆทั้งสิ้น มันก็ดีนะกับการที่มีคนมาทำดีด้วยแต่แบบนี้มันเยอะไป ผมไม่รอดูว่ามันจะยังอยู่ที่เดิมหรือจะไปแล่นออกไป กดลิฟท์ขึ้นห้องโดยที่ไม่หันกลับไปมอง

 

ผมพาลที่เล่นฮอนแพ้มัน? ปล๊าวววววววว

 

แค่พอถึงห้องปุ๊ปก็เปิดคอมปั๊ป พอเครื่องรีบูทเสร็จก็เข้าเกมทันที ... เท่านั้นเอง

 

ไอ้เต็งหนึ่งออนไลน์? แม่งมีเวลามานั่งเล่นเกมด้วยเหรอวะเนี่ย ผมไม่รอช้าชวนมันตั้งทีมทันที บอกให้รอแปบเพราะโทรถามไอ้ทัช ไอ้แต๊ง ไอ้บิ๊ก พวกมันไม่ปฏิเสธ กลายเป็นว่าครบ5คนพอดี

 

อื้อหือ หายากนะเนี่ย ทีมผมครบพร้อมหน้าแบบนี้

พวกผมก็ทำการเกรียนใส่ฝ่ายตรงข้ามตีป้อมๆดันครีบๆแพ้บ้างชนะบ้าง แต่ส่วนใหญ่พอแพ้แล้วไอ้4ตัวที่เหลือมันจะโทษผมอะ ทำไมว้า? กูก็เล่นดีนะ

 

“ไอ้สัดเล่นดีพ่อง โดนคิลไปกี่ดอกแล้วห่า” ไอ้ทัชพิมตอบกลับมาครับ

 

อะไร๊ ก็แค่โดนคิลไป15เอง T_________T

 

เกมๆนึงมันประมาณ1ชั่วโมงหรืออาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น ผมเล่นไปเรื่อยๆจนลืมดูเวลา ซึ่งปาไปตี1กว่าแล้วๆ ทุกคนเลยแยกย้ายกันไปนอน และผมไม่ลืมที่จะถามไอ้ทัชว่าพรุ่งนี้เรียนกี่โมงและที่ไหน มันเลยทำการส่งตารางเรียนมาให้เป็นไฟล์รูปแถมมีการบอกว่าเอาไว้ตั้งเป็นหน้าจอเดสก์ทอปอีก

 

ก่อนจะปิดคอม ไม่ลืมที่จะเช็คเฟสบุคและทวิตเตอร์

หืม ใครแอดมาวะเนี่ย เยอะแยะไปหมด ผมกดรับทุกคนก็จริง แต่ขอส่องหนังหน้าหน่อยเถอะ เผื่อมีสวยๆหลงมาบ้าง ผมไล่กดรับไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

 

เฟสไอ้เหี้ยพอสนี่หว่า

 

ว่าแล้วก็กดรับแล้วเข้าไปส่องดูหน่อยละกัน

อื้อหือออออ หน้าวอลคุณท่านมีแต่สาวๆมาทัก รูปโปรไฟล์มันก็ไม่ได้หล่ออะไรเล้ยยย ผมหล่อกว่าเยอะ แต่ไม่รู้ว่าใครหลงไปกดไลค์ให้มันตั้ง 400กว่าไลค์ สงสัยแม่งต้องจ้างมากดแน่ๆ ไม่พอยังมีคนกดติดตามมันเกือบพันคนอีก

 

แม่งจะป๊อปไปไหนวะ กูหมั่นไส้!!

 

 

 

 

 

 

เช้าแล้วยังอยู่บน..ที่นอน....เพลงของพี่บอยพีชเมกเกอร์เหมาะกับผมในทุกๆเช้าเป็นอย่างมาก มันดังคลอมาในสมองพอให้รู้นิดๆว่า จะสายแล้วนะมึง จะโทษนาฬิกาปลุกก็ไม่ได้ที่โดนผมตบใส่ทุกๆ5นาที หวังให้มันเงียบ แต่มันก็ยังซื่อตรงต่อหน้าทีแผดเสียงดังๆจนข้างห้องตื่นต่อไป

 

8.10 AM

ชิบหายตื่นเต็มตาเลยกู! มีเรียน8โมง อ๊ากกกกกกกก

 

รีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความไวแสง คว้าไรได้คว้า หยิบไรได้หยิบ ล๊อคห้องเรียบร้อย วิ่งหน้าตั้งลงมาจากหอ แต่ดันมาสะดุดกับคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

 

พี่วอร์ม

 

“หวัดดีพี่ ไม่มีเรียนเหรอ” ผมทักก่อน

“มีแต่รอไปเรียนพร้อมมึงเนี้ยละ”

“อ้าวพี่ไม่ได้ลงตัวเดียวกับผมนี่”

“เออน่ะ สายแล้ว มีเรียน8โมงไม่ใช่ไง๊?” พี่วอร์มเตือนความจำ นั่นทำให้ผมรีบวิ่งทันที “เห้ยยย วิ่งไม่รอพี่มันเล้ยยยยย” เสียงโอดครวญที่ตามมาทำให้ผมหยุดชะลอ

“โหยยย กูอุตส่ามารอตั้งแต่7โมงครึ่ง แม่งงง..”

“มีไรเปล่าพี่? ผมรีบอะ”

“ก็สมควร เสือกตื่นสายเอง...” พี่วอร์มยังด่าผม ผมทำสายตาประมาณว่าเข้าเรื่องสักทีกูรีบพี่แกเลยจัดให้ “เออๆ กูแค่จะถามว่าวันที่ไปกินเหล้ามึงกลับยังไงไปนอนที่ไหนกับใคร”

ผมกำลังจะตอบไปตามความจริง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไอ้เหี้ยพอสมันต่อยพี่วอร์มไปแล้ว ดังนั้นพี่วอร์มก็ควรเข้าใจว่าไอ้พี่พอสมันจะไม่มายุ่งเกี่ยวไรกับผมอีก

“กับ..เอ่อ...ไอ้ทัชนะ คอนโดมันก็เหมือนคอนโดผมแหละ”

“เออแล้วไป” ทำสีหน้าโล่งใจหมายความว่าไง?

“ถามไมอะ”

“เปล่าๆ ไม่มีไร รีบไปเรียนเถอะ”

 

 

เอี๊ยดดดดดดด ผมเบรกที่หน้าห้องเลคเชอร์พอดิบพอดี ค่อยๆดันประตูเข้าไปอย่างเงียบๆ ก้มหน้าพยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดเดินไปหาไอ้ทัช เมื่อก้นหย่อนลงบนที่นั่งปุ๊ปก็สบายใจทันที แต่ไอ้คนที่ตามมาด้วยเนี้ย ว่างมากรึไง

 

“เช็คชื่อยังวะ”

“ยัง”

 

ฟู่ววว รอดไป

 

“แล้วพี่วอร์มมาทำไมวะ” ไอ้แทนที่นั่งหน้าเป็นคนถามผม

“กูก็ไม่รู้ ถามเองดิ”

“ก็แค่จะมาดูแลน้องรหัส” ไอ้พี่วอร์มมันตอบหน้าตาย

 

สาดดดด เพิ่งจะนึกได้เร๊อะ? อยากจะด่าจริงๆ

 

“เรียนไปๆ เดี๋ยว9โมงพี่ก็ต้องออกไปเรียนจริงๆแล้ว” พี่วอร์มบอกให้ทุกคนสบายใจ หรือให้ผมสบายใจก็ไม่รู้ ตัวเองมีเรียน9โมงแต่ดันตื่นเช้าเพื่อถ่อมารอน้องรหัสที่หน้าหอตั้งแต่8โมงกว่าๆเนี่ยนะ?

 

พวกผมเลยไม่สนใจอีก นั่งเรียนกันต่อไป จนได้เวลา9โมง พี่วอร์มก็กระซิบบอกผมว่าจะไปแล้ว ผมพยักหน้ารับรู้  แต่แทนที่พี่แกจะได้ออกง่ายๆ ดันมีคนมานั่งต่อ

 

“น้องครับ เถิบหน่อย พี่จะออก” คนที่นั่งถัดไปเงยหน้าจากเลคเชอร์ หันมามองพี่วอร์มขวางๆ ให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่มันก็เลื่อนเก้าอี้นิดหน่อยนะครับ นิ้ดดดเดียวจริงๆ พี่วอร์มเลยต้องพูดอีกรอบ

 

“น้องหมิง ซับน้ำครับ พี่ชื่อวอร์มปี2 ภาคเครื่องต้องการจะออก ดังนั้นขอให้น้องช่วยกรุณาเขยิบเก้าอี้เพื่อให้พี่ออกได้ด้วยครับ” จัดเต็มครับพี่รหัสผม มาแบบนี้ เรื่องถึงหูปี2ภาคทรัพยากรน้ำแน่ มันเห็นพี่วอร์มพูดแบบนั้นเลยรีบเขยิบจนเป็นทางกว้างเดินออกไปได้ง่ายๆเลย

 

ที่พี่วอร์มรู้ก็เพราะป้ายที่แขวนที่คอยังไงละ ป้ายชื่อขนาดA4เคลือบแผ่นใส บอกชื่อนามสกุลจริง ชื่อเล่น ภาควิชา รหัสนักศึกษาพร้อมเสร็จสรรพ...สงสัยเป็นการรับน้องของเจอร์ซับน้ำ

 

ผมไม่สนใจ มองดูนาฬิกา โหยยยยย อีกตั้งชั่วโมงกว่าจะจบบรรยาย หลับดีกว่า

 

 

 

 

ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะกิ๊งช่วยปลุก เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ แสดงว่าอาจารย์ปล่อยแล้ว ผมเดินไปกินข้าวกับเพื่อนๆในเจอร์เป็นกลุ่มใหญ่ ตอนนี้ผมเริ่มจำชื่อเพื่อนๆได้หมดแล้วนะครับ ดีใจหน่อยเร้วววว เยเย้

 

“ไอ้แกนน้อย ได้ข่าวว่ามึงต้องไปดูพี่พอสซ้อมบาสเย็นนี้เหรอ?” ไอ้ส้มหรือนังส้มโอทรงไม่โตมันเข้ามาตบบ่าผม ไอ้ตบบ่าน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผมงงกับสิ่งที่มันพูดมากกว่า

“ฮะ? อะไรของมึง”

“ก็กูเห็นพี่พอสไปโพสหน้าวอลมึงอะ แหมๆๆ ไปสนิทกันตอนไหนไม่บอกกูเลยนะ เดี๊ยะๆๆ” นังส้มโอยังคงตบบ่าผมเป็นการลงโทษที่ไม่ยอมบอกมัน “กูขอติดตามไปด้วยคนได้มั้ยวะ ฮ่าๆๆ อยากเห็นกล้ามพี่พอส แอร๊ยยยยยยยย”

 

เสียงเขินอุบาทว์ได้อีก

 

อีนี่มันเป็นคนห้าวๆลุยๆแบบฉบับสาววิศวะแหละครับ หลงใหลหลงรักหลงผิดตัวไอ้เหี้ยพอสอย่างมาก เพ้อได้ตลอดเวลา จนมีครั้งนึงผมเคยถามมันว่าทำไมไม่ลองจีบดูเลยละ เพราะท่าทางไอ้พอสมันก็เล่นกับสาวทุกคนอยู่แล้ว คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ

 

‘กูขอแค่ได้มองพี่เค้าอยู่ห่างๆแบบนี้ก็สุขใจแล้วไอ้แกนน้อย มึงไม่เข้าใจหรอก’

 

เออ กูไม่เข้าใจ! จากข่าวค(ร)าววงในของไอ้พอสที่ได้ยินมาก็แบบว่านะ...ควงสาวไม่ซ้ำหน้า ลีลาเด็ดถึงใจไรงี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไปชอบอีก

 

หญิงสาวสมัยนี้เข้าใจยากจริง รูปหล่อนิสัยดีแบบผมไม่ชอบ (ห้ามอ้วก!) แต่ดันไปชอบหล่อเลวอย่างไอ้พอสซะงั้น

หรือมันไม่ท้าทายพอครับ? งั้นจะให้ผมเลวให้ดูก็ได้นะ แต่ผมเลือกที่จะแสดงออกมากกว่า

 

“กูจะตามไอ้แทนไปซ้อมการแสดงประกวดดาวเดือนก็ไม่ได้ แม่งบอกว่ารบกวนสมาธิ เหอะ ช่างแม่ง กูไม่ง้อ กูมาง้อแกรนด์น้อยยังดีกว่าอีก คิกคิก” แล้วไอ้ส้มมันก็เดินไปซื้อข้าว สาเหตุที่มันเรียกผมว่าแกรนด์น้อยนั้นก็ไม่มีไรมากหรอกครับ แค่มันเห็นว่าผมตัวเล็กสุดใน T2G ก็เท่านั้นเอง (ขอบคุณที่มันเลือกใช้คำนี้ ไม่ได้ย้ำว่าผม ‘เตี้ย’ สุดใน T2G)

 

ว่าแล้วผมก็ขอเช็คเฟสสักหน่อย ไม่รู้ว่าไอ้ส้มมันแกล้งอำผมเล่นรึเปล่า

แต่ข้อความโพสหราที่แสดงบนไทม์ไลน์ผมนั้นเป็นสิ่งที่บอกให้รู้ว่าจริงเมื่อ2ชั่วโมงที่แล้ว แค่นั้นยังไม่พอยังมีคนกดไลค์ด้วยนะ..ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้เพื่อนตัวดีอย่างทัชกับแทนนั่นแหละ

 

อะไรของแม่งวะ จะไปซ้อมบาสก็ไปดิ บอกกูให้ไปดูทำไม กูไม่ได้ชอบเล่นบาสซะหน่อย

 

ช่างแม่ง กูไม่ไปซะอย่าง

 

ตัดสินใจได้แล้วก็จัดการยัดก๊วยเตี๋ยวเส้นหมี่ต้มยำลงกระเพาะทันที แน่นอนว่าไร้ถั่วงอก เมื่อรับประทานเสร็จ ก็ระเห็จตัวเองและผองเพื่อนไปยังซุ้มประจำ ได้เวลาเปิดประเด็น ซึ่งหัวข้อในวันนี้ก็คือ...

 

“พี่พอสแม่งเท่ห์วะ”

“นั่นดิ ขนาดกูเป็นผู้ชายกูยังอิจฉาพี่เค้าเลย ชาติที่แล้วทำบุญด้วยอะไรวะ”

“อยากเห็นแฟนพี่เค้าจัง คงสวยหรือไม่ก็ต้องน่ารักมากแน่ๆ” นางคนใดคนหนึ่งเพ้อ

“เรายอมเข้าว๊ากทุกครั้งเพราะพี่พอสเลยนะ อิอิ”

 

ผมไม่ได้อยากฟังหรอก แต่นั่งใกล้ๆกัน หูก็ไม่ได้หนวก มันต้องได้ยินบ้างแหละ

 

“แต่ได้ข่าวมาว่าพี่พอสไม่คบใครจริงจังไม่ใช่เหรอ?”

“ชอบฟันแล้วทิ้ง” ใครพูดวะ กูเห็นด้วยสุดๆ “แต่ถ้าเป็นกูนะจะฟันแล้วทิ้งวันละ3คน ฮ่าๆๆๆ” เอ่อ...เลวได้อีก

ขณะที่แต่ละคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นิสัยส่วนตัวของไอ้พี่พอสนั้น จู่ๆไอ้แทนมันก็พูดขึ้นมาว่า

 

“พี่พอสมีรักแรกที่เจ็บ...จนไม่สามารถรักใครได้อีก พี่เค้าก็เลือกเลือกที่จะทำตัวอิสระมากกว่าเพราะไม่อยากเจ็บซ้ำสอง” ทำเอาแต่ละคนเงียบก่อนจะคะยั้นคะยอให้ไอ้แทนเล่าที่มาที่ไป แต่มันก็ปฏิเสธ “เรื่องส่วนตัวพี่เค้า อย่าให้กูพูดเลยวะ”

 

“ใครน้าที่จะสามารถเปิดหัวใจของพี่พอสได้อีกครั้ง...?” นังส้มเข้าสู่โหมดสาวน้อยช่างฝันไปแล้วครับ

“แต่วันนั้นเราเห็นพี่พอสเดินกับใครก็ไม่รู้ ตัวเล็กๆขาวๆผมยาว ท่าทางน่ารัก” กิ๊งพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก

“วันไหนเหรอกิ๊ง” ส้มถาม

“ช่วงที่เราทำคัท เตรียมบูมให้พี่บัณฑิตอะ”

 

อ๋อ ที่กูไม่เจอไอ้เหี้ยพอสเลยเพราะมันมัวแต่กกสาวอยู่สินะ

 

“เอ้า ไหนว่าคุยกับพี่บลู ดาวม.GH อยู่ไง”

 

ใช่ๆ วันนั้นที่มันพากูไปโรงบาลก็ได้ยินมันพูดชื่อนี้

 

“แต่ในInstragamพี่เค้าถ่ายรูปคู่กับพี่พลอยที่เป็นนางแบบนี่”

 

อู้ววววว รู้ลึกรู้จริง

 

ยิ่งฟังยิ่งเยอะ ชื่อผู้หญิงแต่ละคนก็เด็ดๆทั้งนั้น แถมดูเหมือนไอ้พวกผู้หญิงเจอร์ผมก็กลายเป็นสาวกมันไปซะแล้ว ยิ่งกว่าแฟนพันธ์แท้อีกมั้ง

 

“แกรนด์ๆ..แกรนด์ ได้ยินที่เราถามรึเปล่า?” กิ๊งเขย่าตัวผม นั่นทำให้ผมหลุดจากห้วงความคิดแล้วหันมาสนใจกิ๊งแทน

“หะๆ ว่าไง ถามไรเหรอ”

“โธ่แกรนด์ ไอ้เราก็นึกว่าฟังอยู่”

“แหะๆ โทษที...ว่าแต่จะถามไรอะ?” กิ๊งทำท่าเขินเล็กน้อย

“เย็นนี้พวกเราขอไปดูพี่พอสซ้อมบาสด้วยได้มั้ยอะ?..นะ นะ นะ” กลัวว่าแค่คำพูดอย่างเดียวไม่พอเลยอาศัยการอ้อนเข้าช่วย

 

“คือตอนเย็นเราไม่ว่างอะ” ผมปฏิเสธไป ยังไงๆก็ไม่ไปเฟ้ยยยย ไม่ใช่ธุระกงการไรซะหน่อย

“ไปไหนสัด...ไหนบอกว่าเย็นนี้ว่าง ยังบ่นกับกูอยู่เลยว่ากลับหอแล้วเบื่อๆ ไม่มีไรทำ” เชี่ยทัช!

“นั่นไง ไปนะ..เดี๋ยวเราให้ลอกงาน..นะนะ พาพวกเราไปด้วยน้า” น่านนนมีของแถม...

 

สายตาของผู้หญิงแต่ละคนในเจอร์ประกายวิ๊งๆ หวังที่จะเจอไอ้พอส แต่มันเป็นไปได้ยาก เลยลงทุนขอร้องผม แลดูน่าสงสาร...

 

“จะคิดไรนักหนา ไงกูกับไอ้ทัชก็ไปด้วยอยู่แล้ว” ไอ้แทนมันขัดอย่างรำคาญ

 

เอาไงดีวะ...

 

“เออๆ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ”

 

“เย้!”

“แกรนด์น่ารักที่สุด”

“กรี๊ดดด อยากให้ถึงตอนเย็นไวๆจัง”

 

แต่ละนาง...ไม่สมเป็นหญิงไทยเล้ย

 

พอไปถึงสนามซ้อมค่อยย่องหลบออกมาก็ได้มั้ง ทำเป็นปวดขี้แล้วหายไปเลย..โอเค อ้างแบบนี้แหละเวิร์คสุด

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่ออาจารย์บอกเลิกคลาสปุ๊ป สาวๆแต่ละคนก็วิ่งปรู๊ดกันไปที่ห้องน้ำโดยที่ไม่ลืมหันมาบอกให้ผมรอก่อน พอออกจากห้องน้ำมานี่อย่างกับคนละคน หน้าเด้ง แก้มแดง ปากวาววับ ผมสลวยกันมาเชียว

 

“ปะ!”

 

ใครคนหนึ่งเดินนำไปที่สนามบาสทันที กระตือรือร้นยิ่งกว่าตอนเข้าเรียนอีก

 

“ทำไมหน้าทำงั้นวะ” ไอ้แทนที่เดินอยู่ข้างๆถามขึ้น

“กูเซ็ง ขี้เกียจไปเจอหน้าแม่ง”

“เออน่า ไม่มีไรหรอก” มันยิ้มๆ

 

นี่กำลังปลอบกูอยู่รึเปล่า?

 

ผมเดินไปเรื่อยๆมองปลายเท้าที่ก้าวไปแต่ละก้าวอย่างเชื่องช้า หัวใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

 

กลัว..?

โกรธ..?

โมโห...ต้องใช่แน่ๆ

 

ผมหลอกตัวเอง ทั้งๆที่รู้ดีว่าสาเหตุที่ใจเต้นแรงนั้นก็เพราะ...จะได้เจอหน้ามัน

 

ถึงที่หมายแล้ว โรงยิมขนาดใหญ่ คนไม่เยอะมากนัก เสียงลูกบาสกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ อากาศถ่ายเทได้ดีถึงแม้จะไม่มีพัดลม

 

ขาผมสั่งให้เดินตามเพื่อนขึ้นไปนั่งบนอัฒจรรย์ ตามองไปยังสนามบาส กวาดหาคนที่เรียกให้ผมมาดูแบบไม่รู้ตัว

 

นั่น มันกำลังผูกเชือกรองเท้า .. แค่นั้นก็เท่ห์ได้นะมึง

 

มันใส่เสื้อเบอร์ 8 กล้ามแขนขาวเป็นมัดๆทำเอาสาวๆที่ขอร้องจะมาด้วยหน้าแดง กระตุกเสื้อเพื่อนข้างๆ แบ่งปันอาหารตากันไป ผมละกลัวจริงๆว่ากำเดาคุณเธอจะไหล

 

ไอ้คนที่โดดเด่นที่สุดในสนามยืดตัวขึ้น หันมองมายังแถวที่ผมนั่งพอดี

 

“กรี๊ดดดดด พี่พอสมองมาทางนี้ด้วยอะ”

“หล่อมากๆอะแก ชั้นอยากลงไปลูบไล้กล้ามพี่เค้าจัง”

 

เข้าขั้นโรคจิต...น่ากลัววุ้ย

 

ถึงจะไกลแค่ไหนแต่ผมก็รู้ว่ากำลังสบสายตากับมันอยู่ แน่ะ ยกคิ้วกวนตีนใส่กูอีก สงสัยคงได้เวลาปวดขี้แล้วมั้ง... ผมหันไปบอกไอ้ทัชว่าขอตัวไปขี้ อาจจะนานหน่อย มันจะมาเป็นเพื่อน แต่ผมรีบบอกว่าไม่เป็นไร ไม่งั้นแผนชิ่งได้พังพอดี

 

“ไอ้แกนๆ พี่พอสเรียกมึงอะ” จู่ๆไอ้แทนก็หันมาดึงตัวผมที่กำลังจะลุก

“เรียกไมวะ กูปวดขี้ ปล่อย!”

“น่า คงมีไรจะคุยด้วยแป๊บนึงละมั้ง ลงไปหาพี่เค้าก่อนเหอะ”

 

อะไรของมันวะ แล้วทำไมกูต้องลงไปหาตามที่มันสั่งด้วยเนี่ย งงจริง

 

ลงมาแล้วเหมือนเป็นปมด้อยยังไงก็ไม่รู้แหะ...ในสนามมีแต่คนตัวสูงๆ แม่ให้แดกเสาไฟฟ้าเป็นอาหารกันรึไง?

“โค้ชครับ นี่ไงคนที่จะมาซ้อมด้วยอีกหนึ่งคน” ไอ้พอสชี้มาที่ผม แต่ตัวพูดกับคนที่ท่าทางจะเป็นโค้ช

 

ห๊ะ!!!!!!!!!

 

ผมหันควับไปที่คนพูดทันที

 

“ไม่ใช่นะครับคือ...”

 

“อ้อดีเลย ..หน่วยก้านท่าทางไม่เลว เอามาแทนไอ้เป้ที่มันขาดไปละกัน..ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารองเท้าในห้องไป ให้เวลา5นาที”

 

“เดี๋ยวก่อนครับผมไม่ได้...” โค้ชไม่ฟังผม แต่กลับดันตัวให้ไปทางห้องเปลี่ยนชุดนองนักกีฬา ปิดประตูดังปั้ง

 

โค้ชคร้าบบบบบบ เดี๋ยวก่อนนนน ผมไม่เล่นนนนนนนนนนนนน

 

โอ๊ยยยยย เพราะไอ้เวรพอสแท้ๆ แม่งงงงงงงงงง

 

เสียงเปิดประตูทำให้ผมหันกลับหวังว่าคงเป็นโค้ช...อ้าว ไอ้เหี้ยพอส มันเดินยิ้มร่าเข้ามาเลยครับ

 

“เปลี่ยนชุดๆ อย่ามัวโอ้เอ้ เสียเวลาซ้อมหมด”

“เหี้ยเหอะ ใครบอกจะซ้อมวะ แม่ง” อารมณ์เสียครับ ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆของมันพาลจะเข้าไปต่อยให้ได้ แต่ต้องยั้งมือไว้ก่อน

“กูอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเหลือมึง อยากให้มึงได้มีโอกาสสูงกับเค้าบ้างก็เท่านั้นเอง”

 

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย หลอกด่ากู!!!

 

“สัด กูเล่นไม่เป็น ไม่อยากเล่น”

“แต่มึงต้องเล่น แค่ซ้อม มึงจะกลัวไรนักหนา..อะนี่ชุด” ไอ้พอสมันเอาชุดมายัดมือผม “รีบๆเปลี่ยนคนอื่นรออยู่”

 

มันไม่ได้ช่วยให้ผมอยากเล่นเลยสักนิด

 

“หรือจะให้กูช่วยเปลี่ยน?”

“ไม่ต้อง! ออกไป กูเปลี่ยนเองได้”

 

เอ๊ะ! ผมพูดไรออกไป?

 

“งั้นก็ดี เร็วๆหน่อยละ หึหึ”

 

เวรเอ๊ย ปากพาจนชัดๆ สรุปนี่คือผมต้องเปลี่ยนชุดใช่มั้ยเนี่ย เห้ออออ เปลี่ยนก็เปลี่ยนวะ กะอีแค่เล่นบาส อะโด่ววว

 

เปลี่ยนเสร็จก็เดินออกมาจากห้อง ตอนเดินลงมาไม่ทันได้สังเกตเท่าไหร่ว่าชมรมบาสนี้ก็มีสมาชิกไม่น้อยแต่ก็ไม่เยอะ คงคัดคนก่อนเข้าชมรม แต่สงสัยจะคัดแต่ฝีมือ ปากไม่เกี่ยว เสียงนกเสียงกาเลยบินว่อนไปทั่ว

 

“วิดวิ้วววววววววว”

“น่ารักจุงเบยยยยยยยย จิบิ”

“มีแฟนยังครับน้องแกรนด์”

“ขาวจั้วะน่าเจี๊ยะ!”

 

เกิดมาเคยแต่แซวคนอื่น ไม่เคยโดนแซว ผมว่าผมเริ่มจะพอเข้าใจผู้หญิงที่โดนแซวแล้วล่ะ...

 

“พ่อเป็น....อุ๊บส์!” ไอ้พอสรีบเอามือมาปิดปากผม กระซิบข้างหูเสียงเหี้ยม “ถ้ามึงยังไม่อยากขี้คล่องก็เงียบปากไป”

 

“เมื่อกี้น้องเค้าจะพูดไรวะ” ใครไม่รู้หน้าตาแย่กว่าผมมาก แต่ก็สูงกว่าผมมากเหมือนกัน

“น่านดิ แค่นี้ทำหวงเหรอสัดพอส”

 

“พอๆ เสียเวลามามากและ ซ้อมๆ” เป็นโค้ชที่จบเรื่องนี้ จัดการแยกย้ายลูกทีมออกเป็น 2 ฝั่ง อาศัยการแบ่งด้วยการ...โอน้อยออก

 

คลาสสิคมาก... กี่รุ่นๆก็ยังใช้วิธีนี้

 

ผลที่ออกมาคือผมได้อยู่ทีมเดียวกับไอ้พอส อีก2คนเป็นตัวจริง และ1สำรอง ส่วนอีกฝั่งนั้นมีตัวจริง2คน ตัวสำรอง3คน ผมพอรู้กติกาการเล่นมาคร่าวๆบ้าง เนื่องจากเคยเรียนสมัยม.5 แต่บอกได้เลยว่าเล่นได้ห่วยแตกมาก ให้ผมไปเตะบอลยังจะดีกว่า

 

ทุกคนยืนประจำตำแหน่ง มีไอ้คนที่ลากผมลงมาเล่นด้วยเป็นคนจั้มพ์บอล ตั้งท่ากระโดดเตรียมพร้อม สายตามันดูจริงจังมาก

 

เมื่อลูกบาสขึ้นสู่จุดสูงสุด คนจั้มพ์บอลทั้ง2ก็โดดตามทันที ปลายนิ้วเรียวยาวของไอ้พอสปัดบอลมาทางฝั่งผม ทุกคนกระจายตัวออก รู้หน้าที่ของตนเอง มีแต่ผมเนี้ยละที่ยืนเคว้งอยู่กลางสนาม

 

“ไอ้แกนมึงไปทางซ้าย!” มันสั่งผม เป็นครั้งแรกที่ผมปฏิบัติตามอย่างเต็มใจ ไม่อยากยืนเอ๋ออยู่กลางสนาม

 

“แกรนด์!!”

 

ห๊ะ ใครเรียกกูวะ?

ผมหันไปตามเสียงเรียก บอลพุ่งมา ผมรับได้ทันอย่างหวุดหวิด

 

เห้ยยย แม่งมาจากไหน มากันไวชิบ

ฝั่งตรงข้ามมาประกบผมทันทีที่ได้ลูก ทำให้ผมต้องเลี้ยงบอลหลบหลีก แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร อาศัยหางตามอง มีคนหนึ่งในทีมว่างอยู่ ผมส่งต่อลูกอย่างไม่ลังเล คนๆนั้นก็ส่งต่อให้ไอ้พอสอีกทอด มันเลี้ยงลูกหลบหลีกได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีใครสามารถสกัดมันได้สักคน จนกระทั่ง…

 

ตึงงงง!!

 

“เฮ!!!!”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”

 

ทีมผมนำไป2แต้มเพราะการดั้งของชายที่มีนามว่าพอส ช่วงขาที่ยาวและแข็งแกร่งทำให้มีสปีด พลังดีดตัวสูง ราวกับโบยบินอยู่ในอากาศ เหมือนที่ประโยคสุดฮิตของพวกนักบาสดังๆระดับโลกว่าไว้ ‘I believe I can fly’ ผมว่ามันใกล้เคียงกับประโยคนี้ทีเดียว ทางด้านอัฒจรรย์ก็ส่งเสียงเชียร์ไอ้พอสอย่าออกหน้าออกตา

 

แค่ดั้งง่ายๆ...กูก็ทำได้วะ

 

สถานการณ์ผลัดกันรุกผลัดกันรับ (เกมบาสจ้ะเกมบาส อย่าคิดไปไกล) แต้มทีมพอสนำอยู่แต่ก็ไม่ห่างมากนัก ถึงแม้โค้ชจะบอกว่าเป็นการซ้อม แต่ทุกคนก็ดูเอาจริงเอาจัง ประจำตำแหน่งตัวเองโดยมีพอสเป็นตัวบุก (Power Forward) เน้นการดั้งและเลย์อัพ เมื่อถึงเวลาตั้งรับก็จะมีเข้าไปแย่งรีบาวด์ลูกบ้าง ดีเฟ้น(ป้องกัน)ฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่ จนบางครั้งถึงกับเกิดอุบัติเหตุ ล้ม กระแทก หน้าทิ่ม ขัดขา ก็ว่ากันไป...โดยเฉพาะคนที่ถูกเรียกให้มาซ้อมอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่

 

อาจเพราะแทบจะไม่ได้เล่น รู้วิธีการเล่นแค่งูๆปลาๆ ไม่ชำนาญ เลยไม่สามารถช่วยทีมอะไรได้มากนัก นอกจากส่งลูก แค่เลี้ยงลูกไม่ให้โดนสตีล(แย่งลูก)ไปก็แย่แล้ว แต่เจ้าตัวกลับไม่คิดแบบนั้น...

 

แม่งงงงงงงง จะอะไรกับกูนักหนาวะ!! กระแทกมาอยู่นั้น ตัวก็ควายๆทั้งนั้น ไอ้เหี้ยพอสก็ดั้งเอาๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆอยู่นั่นแหละ หมั่นไส้โว๊ยยยยย

 

ด้วยความที่เลือดขึ้นหน้า ไม่เจียมตัวเอง ไอ้แกนเลยทำการบุกเลี้ยงลูกเข้าไปใต้แป้นและ...

 

 

ตึงงงงง!!!

ผลั่กก!

 

“โอ๊ย!”

 

ไม่ใช่เสียงผมนี่? แล้วเสียงใคร...?

 

เอาละ เรียบเรียงลำดับใหม่นะ

ด้วยความคิดที่บ้าบิ่นของผม อยากดั้งให้ดูเท่ห์แบบไอ้พอสบ้าง เลยทำการเลี้ยงลูกเข้าไปใต้แป้น เมื่อถึงระยะก็ทำการกระโดดทันที หวังจะยัดไอ้ลูกกลมๆลงห่วง แต่ทว่า...ระยะมันไม่ถึง กระโดดสูงไม่พอ ผลเลยเป็นอย่างที่เห็น...

 

ผมล้มลงมา ลูกบาสกระทบกับแป้นเด้งหายไปไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตัวเองต้องเจ็บแน่ๆ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น หลังผมสัมผัสกับสิ่งมีชีวิต..

 

“ลุกได้ยังสัด!” อ่า..สิ่งมีชีวิตนั้นพูดได้ด้วย...

 

ผมรีบลุกทันที

 

เห้ย! ไอ้เหี้ยพอส!!

 

มันนอนกุมข้อมือ ท่าทางมันจะกระโดดมารับผมไว้ได้พอดี ทุกคนเลิกเล่นแล้ววิ่งมาดูผมกับมัน โค้ชแหวกทางเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง

 

“เจ็บตรงไหนมั้ย?”

“ไม่ครับ”

“แล้วพอสละ?” โค้ชหันไปถามคนที่ยังนอนสำออยอยู่

 

เรียกคะแนนความสงสารอีกสิมึง เหอะๆ เสือกอยากกระโดดมารับกูทำไม

 

ไอ้พอสมันไม่ตอบ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่นโดยมีเพื่อนๆในทีมช่วย มันยังกุมข้อมือขวาอยู่ สีหน้ามันดูเจ็บปวด ไม่รู้ว่าการแสดงหรือว่าเจ็บจริง

 

“ข้อมือซ้น?” จากท่าทางของมันทำให้โค้ชเดา “ใครก็ได้ไปหยิบสเปรย์พ่นมาให้ที” แล้วก็มีคนไปหยิบมา โค้ชจัดแจงข้อมือมันมาสำรวจ พลิกไปมาก่อนจะพ่นสเปรย์ลงไป “คงต้องไปหาหมอเพื่อความชัวร์” ไอ้คนเจ็บข้อมือพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะลุกเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โค้ชหันมาสั่งลูกทีมที่เหลือว่าให้ซ้อมกันต่อไป ส่วนผมเหรอ...ไม่มีกะจิตกะใจจะไปซ้อมแล่ว เลยเดินตามมันเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนชุด

 

“ไอ้แกน มาช่วยกูเปลี่ยนเสื้อหน่อย” ผมหันไปมองขวางๆ

“มือก็มี เปลี่ยนเองดิวะ”

“กูเจ็บข้อมือไม่เห็นเหรอสัด ... ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆกู แม่ง...” มันบ่นพึมพำ แต่ผมได้ยิน เน้นคำว่าสัตว์ด้วยนะ

“เออๆ”

 

ความรู้สึกผิดวาบเข้ามาในใจ

 

เดินตรงไปหามันอย่างช่วยไม่ได้ ยังไงๆมันก็ช่วยผมไว้แหละนะ ถึงจะไม่ได้ขอก็เถอะ

 

เมื่อถึงตัวผมจับปลายเสื้อมันถกขึ้น เจ้าตัวก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ชูมือขึ้นแบบเด็กๆ ทำให้ผมต้องเขย่งเพื่อที่จะเอาเสื้อออกทางหัว เขยิบเข้าไปชิดติดตัวแบบไม่ได้ตั้งใจ รู้ตัวอีกทีมันก็มองหน้าผมแล้ว ระยะห่างเพียงไม่กี่เซ็นต์เท่านั้น

 

ตึกตักตึกตักตึกตัก

 

เอาอีกแล้วหัวใจผม ทำไมต้องเต้นแรง?

 

ตึกตักตึกตัก

 

ใบหน้าเคลื่อนเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆ...

 

 

 

 

ตึงๆๆๆ!!!!

 

“ไอ้แกนเปิดประตูโว๊ยยยยยยยยย!!”

 

ชิบหาย! ผมผลักมันออกโดยอัตโนมัติ ก้มหน้างุดๆไปเปิดประตู

 

ไอ้ทัช ไอ้แทน และสาวๆที่ขอตามมาชมไอ้พอสเล่นบาสนั่นเอง แน่นอนว่าสาวๆต้องตรงไปหาเพื่อดูอาการของมันอยู่แล้วตามหน้าที่ของสาวกที่ดี ทัชกับแทนมันเลยเดินมาหาผม

 

“ไงมึง เตี้ยแล้วยังเสือกซ่าส์ จะดั้งเลียนแบบพี่พอสเร๊อะ?! หะ ไอ้แกน”

 

ป๊าบ!

 

ตามด้วยการตบหัวผมไปทีนึง...หนอยยย ไอ้ทัชชชชชชชชช

 

“ทำลุงรหัสกูเดือดร้อนเลยไหมสัด”

 

ป๊าบ!

 

โดนไปอีกดอกจากท่านแทน

 

ตกลงแม่งเป็นเพื่อนผมจริงรึเปล่าครับ? เห้ออออออ

 

“พี่พอสเจ็บมั้ยค่ะ?”

“แงๆ แล้วอาทิตย์หน้าพี่พอสจะได้ลงเล่นมั้ยอะ?”

“นั่นสิค่ะ ขอให้หายทันเถอะ”

“แต่ก่อนอื่นต้องไปหาหมอนะคะ ไปกันๆ”

 

เสียงสาวๆที่พยายามแย่งกันถามไถ่ คนถูกถามก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี เห็นแล้วหงุดหงิด

 

“เอ่อ..ขอบคุณครับที่เป็นห่วง แต่ตอนนี้พี่ต้องไปหาหมอก่อนนะ” มันสรุปแล้วลุกขึ้นยืน สาวๆยืนตามมันทันที

 

ไอ้พอสกับสาวๆออกจากห้องไปแล้ว เพราะต้องไปหาหมอต่อ แต่ผมสิยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย ผมเดินไปหยิบชุดที่พาดไว้ตรงมุมห้อง ถอดเสื้อออกโดยไม่สนใจสายตาอีก2คู่ที่มองอยู่

 

“มึงจะไม่รับผิดชอบอะไรหน่อยเหรอไง...” ไอ้แทนเริ่ม

“อย่างเช่นตามไปหาหมอหรือดูแล..” นายทัชต่อ

“ด้วยร่างกายอันขาวๆ...” เริ่มไม่ใช่ละ โลมเลียกูทางสายตาอีก

“กับริมฝีปากอวบอิ่ม...”

 

เท่านั้นแหละ..

 

“ไอ้เหี้ย! มึง2ตัวออกไปจากห้องเลยสัด”

 

ฟัคยูวมายเฟรนด์!

 

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ น้องแกรนด์น้อยอายว้อยยยย”

“หน้าแดงลามไปถึงหูแล้วนั่น ฮ่าๆๆๆๆๆ”

 

มัน2ตัวรีบถลาออกไปจากห้องโดยไม่อยู่รอให้ผมเข้าไปอัดมัน

แม่งงงงงงงงง ล้อมาได้ไงวะ

 

ให้ผมตามไปดูแลไอ้พอสด้วยร่างกายกับริมฝีปาก...เอ๊ะ! มันรู้ได้ไงวะว่าเมื่อกี้ผมกับมันเกือบ....

 

ผมหันไปมองที่ประตูห้องอย่างช้าๆ...ประตูไม่ได้ล๊อค! แล้วมันจะเคาะหาพระแสงอะไร!!!! ขัดจังหวะจริง! เอ๊ย ไม่ใช่ๆ งั้นแสดงว่ามันก็ต้องเห็น...

 

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

กูจะเอาหน้าไปไว้ที่หน๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย T_______________T

 

นั่งลงกุมขมับ ตายแน่ๆกู โดนล้อยันลูกบวชชัวร์ ต้องรีบไปแก้ข่าว...

 

ผมพับชุดที่ลงเล่นไว้ตรงมุมที่เขียนว่า ‘ส่งซัก’ เหลือบไปเห็นชุดเบอร์8ที่วางกองไว้ตรงเก้าอี้ อดไม่ได้ที่จะเดินไปหยิบขึ้นมาพับและวางซ้อนไว้ด้วยกัน

 

นี่คงเป็นสิ่งตอบแทนได้แล้วมั้ง....ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การพับผ้าส่งซักก็เถอะ

 

มือขาวๆของผมลูบไล้ไปตามลายสกรีนเลข 8

มันอดคิดถึงไม่ได้ว่า .. วันที่ 8 เดือน 8 วันเกิดผม...

 

มันแค่คงบังเอิญละมั้ง

 

พอนึกถึงไอ้คนที่ใส่ชุดนี้...

 

ข้อมือมันจะเป็นไรมากไหม?

อาทิตย์หน้ามันจะได้ลงเล่นรึเปล่า?

ทำไมต้องมาเจ็บตัวแทนผมด้วย?

ทำไมคนที่ช่วยเหลือผมทุกครั้งต้องเป็นมัน?

ทำไมต้องบอกว่าจะมารับตอนเช้า ทั้งๆที่ไม่จำเป็น?

ทำไมต้องคอยเป็นห่วงเป็นใยราวกับพ่อคนที่2?

ทำไมต้องคอยทำเหมือนไม่พอใจเวลาผมอยู่กับใคร?

 

และ

 

ทำไมผมต้องใจเต้นเมื่อรู้ว่าจะได้เจอหน้ามัน

 

แถมยังยิ่งเต้นรัวเมื่อได้ใกล้ชิด...

 

 

ทำไมนะ...?

 

ผมได้แต่ถามหัวใจตัวเอง      

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา