Stubborn Love Plan แผนการณ์ขโมยหัวใจ รักนายปากแข็ง

9.1

เขียนโดย narami

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 22.08 น.

  24 chapter
  538 วิจารณ์
  64.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2556 22.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) Goodnight kiss

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Chapter 12


Goodnight kiss

 

 


:: Poppy Talk ::

 

ตอนนี้ผมนั่งดูผู้เข้าประกวดด้วยอารมณ์เซ็งสุดชีวิต ส่วนฟางก็ไปเข้าห้องน้ำยังไม่กลับมาเลย เป็นอะไรรึเปล่านะ....

 

“ไอ้ป๊อป ฉันว่าฟางไปเข้าห้องน้ำนานเกิดไปแล้วนะ ไม่โทรตามหน่อยหรอ”

 

เขื่อนที่รู้สึกได้ว่าฟางไปเข้าห้องน้ำนาน ถามผมขึ้น

 

“ก็อยากจะโทรไปนะ แต่ฟางไม่ได้เอากระเป๋าไปด้วย เดียวจบการสัมภาษณ์ฉันค่อยไปตามยัยนั้นกลับมา ตอนนี้ยังลุกไปไหนไม่ได้วะ”

 

ผมตอบเขื่อนไป เขื่อนได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะมองไปที่เวทีต่อ

 

คนนี้คนสุดท้ายแล้วสินะ...

 

“เอาละครับ ผู้เข้าประกวดก็ครบหมดทุกคนแล้วนะครับ หืม อะไรนะ?”

 

พิธีกรที่กำลังพูดอยู่บนเวที หยุดพูดไปกระทันหัน ก่อนจะฟังสตาฟคนข้างๆบอกอะไรสักอย่าง

 

“เรายังมีผู้เข้าประกวดอีกคนครับ ขอเชิญพบกับคุณฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ ครับ”

 

พิธีกรบอกชื่อของผู้เข้าประกวดก่อนหลบไปด้านข้าง

ชื่อคุ้นๆนะ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ งั้นหรอ..... เห้ยย!!!! นี่มันชื่อฟางนี่หน่า

 

ผมที่พึ่งรู้สึกตัวรีบมองขึ้นไปบนเวที อีก4คนที่เหลือก็มีอาการเดียวกับผม

 

ฟางที่เดินขึ้นมาบนเวทีนั้นดูสวยราวกับเจ้าหญิง ชุดไทยสีชมพูอ่อนนั้นช่วยขับให้ผิวของเธอดูขาวขึ้น ผมสีดำสนิทที่เกล้าไว้ข้างหลังอย่างเป็นระเบียบ แต่งหน้าแบบไม่จัดมาก แค่อ่อนๆ นี่มันนางฟ้าชัดๆ

 

ผมได้แต่จ้องเธอตาไม่กระพริบ ฟางไหว้สวัสดีทุกคน ก่อนที่หน้าสวยหวานนั้นจะเงยขึ้น

ดวงตาคู่นั้นปะทะเข้ากับดวงตาของผมทันที เธอได้แต่จ้องผมก่อนจะยิ้ม ยิ้มที่สดใสนั้นทำให้ใครหลายๆคนแถวนี้หลงรักเข้าไปเต็มๆ

 

“สวัสดีค่ะ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ค่ะ ตอนนี้ศึกษาอยู่Grade11 ที่NISค่ะ”

 

ฟางพูดแนะนำตัว แต่แล้วก็มีเสียงนึงขัดขึ้น

 

“คุณไม่ได้ศึกษาอยู่ที่ICSนิครับ แบบนี้ก็เข้าร่วมประกวดไม่ได้นะครับ”

 

พิธีกรคนชายเดิมเอ่ยขึ้น ทำให้ฟางหน้าเหวอไปทันที เธอส่งสายตามาขอความช่วยเหลือมาทางผม ดวงตาคู่นั้นมีแต่ความกังวลและกลัว ต้องช่วยเธอซะหน่อยแล้ว...

 

“ไม่เป็นไรครับ เราเปลี่ยนกฎใหม่ให้นักเรียนของNISสามารถร่วมประกวดได้ด้วยครับ”

 

ผมเผลอตะโกนออกไป ทำให้ทุกสายตาหันมามองผมอย่างงงๆ เขื่อนได้แต่ส่งสายตาถามมาว่า

มันมีกฎแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้ป๊อป

 

“เออ.... งั้นเรามาตอบคำถามกันดีกว่าครับ”

 

พิธีกรพูดทำลายบรรยากาศ ทำให้ทุกคนหันกลับไปสนใจบนเวทีแทน

 

“คำถามข้อแรกเป็นคำถามบังคับนะครับ ทำไมคุณถึงได้มาสมัครการประกวดครั้งนี้ครับ”

 

พิธีกรหญิงอีกคนถามฟาง ฟางสูดหายใจเข้าปอดน้อยๆก่อนจะตอบว่า

 

“ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยนะคะว่าฟางไม่ใช่นักเรียนของICS แล้วฟางก็ไม่ได้คิดจะมาประกวดด้วย แต่เมื่อกี้มีน้องคนนึงมาขอร้องให้ฟางประกวดแทนเพื่อนของเขานะคะ เพื่อนเขาประสบอุบัติเหตุเมื่อตอนกลางวัน ทำให้มาประกวดไม่ได้ น้องเขาก็เลยหาคนประกวดแทน สุดท้ายเขาก็ไปเจอฟางแล้วก็ขอร้องให้ฟางมาประกวดนี่แหละค่ะ”

 

ฟางบอกเหตุผมที่เธอมาสมัครการประกวดให้ทุกคนฟัง พิธีกรหยักหน้ารับก่อนจะถามคำถามข้อต่อไป

 

“คำถามข้อต่อไปเป็นคำถามจับฉลากนะครับ เชิญจับเลยครับ”

 

ฟางล้วงมือลงไปจับหมายเลขคำถามที่เธอจะตอบ เธอจับได้หมายเลข2 พิธีกรหญิงอีกคนเปิดซองก่อนจะถามคำถามที่อยู่ในนั้น

 

“คุณคิดยังไงกับพฤติกรรมของผู้ชาย เวลาที่ปะแป้งผู้หญิงแบบไม่ได้ถามคะ”

 

คำถามขอนี้ผมเชื่อว่าฟางสามารถตอบได้ดี เพราะเมื่อตอนกลางวันก็พึ่งโดนปะแป้งแบบไม่ได้รับอณุญาติเหมือนกัน คิดแล้วก็ต้องโมโหขึ้นมา พวกผู้ชายกลุ่มนั้นไม่มีมารยาทซะเลย

 

“เป็นคำถามที่ใกล้ตัวฟางมากนะคะ เพราะว่าเมื่อตอนกลางวันฟางก็พึ่งเจอมาเหมือนกัน ในฐานะของผู้หญิงคนนึง ฟางคิดว่ามันเป็นการไม่รักษามารยาทกันเลย อยู่ๆก็เข้ามาปะแป้งแบบไม่ขอ แล้วบางคนก็ไม่ยอมปะที่หน้า แต่ปะที่หน้าอกอะไรอย่างนี้ ก็ไม่ไหวนะคะ”

 

ฟางตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สงสัยจะยังโมโหไม่หาย

 

“คำถามข้อต่อไปจากคณะกรรมการนะครับ เชิญครับคุณหญิง”

 

พิธีกรชายพูดต่อ ก่อนจะหันมามองที่คุณแม่ผม

 

“คุณแม่ครับ คำถามนี้ผมขอถามเองได้มั้ยครับ”

 

ผมหันไปพูดกับคุณแม่ ท่านมองผมแปปนึงก่อนจะพยักหกน้าพร้อมกับส่งไมค์มาให้

 

“ผมขอถามคำถามทั้งหมด2ข้อได้มั้ยครับ”

 

ผมพูดใส่ไมค์เป็นเชิงถาม พิธีกรทั้ง2คนซุบซิบกันแปปนึงก่อนจะพยักหน้า ส่งสัญญาณว่าโอเค

 

“ข้อแรก ฟางลงสมัครทำไมไม่บอกกันก่อน แล้วที่หายไปตั้งนานไปไหนมา”

 

ผมถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด สังเกตุได้เลยว่าฟางหลบตาไม่กล้ามองสบตาผม

 

“ก็มันเร็วมากนิ น้องคนนั้นเขาเข้ามาขอฟางแล้วก็พาฟางไปแต่งตัวเลย เวลาก็ไม่ค่อยมี เลยไม่ได้บอก....”

 

ฟางตอบเสียงอ่อย... มันน่าโมโหมั้ยละครับ! คนเขาก็เป็นห่วงนึกว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้น

 

“เอาเถอะ เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คำถามข้อ2 น้องคนที่ลงประกวดแต่เขาเกิดอุบัติเหตุจนมาไม่ได้ เขาเป็นอะไร”

 

ผมถามสิ่งที่ยังค้างคาใจต่อ ฟางทำหน้านักใจสุดๆ

 

“ฉันต้องเล่าจริงๆหรอป๊อปปี้”

 

เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล ผมมองสบตาเธอสักพักก็รู้ว่าเธอไม่อยากพูด ผมลุกขึ้นเดินไปหน้าเวทีก่อนดึงมือฟาง ให้เธอโน้มตัวลงมาหาผม

 

“เล่าให้ฉันฟังสิ มันเกิดอะไรขึ้น”

 

ฟางได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเล่าเสียงเบาให้เราได้ยินกันแค่2คน

 

“โอเค ฉันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว เธอไม่ต้องคิดมากนะ เหลือคำถามอีกแค่ข้อเดียว สู้ๆ”

 

พอฟางเล่าจบผมก็เข้าใจทันที ผมกระซิบให้กำลังใจฟางนิดนึงก่อนจะเดินออกไป เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้งก่อนจะส่งยิ้มไปให้กรรมการ ประมาณว่า ถามคำถามข้อต่อไปได้เลยค่ะ

 

“เออ งั้นผมขออณุญาติถามคำถามข้อสุดท้ายนะครับ เป็นคำถามจากผู้ชม มีใครอยากจะถามอะไรมั้ยครับ”

 

พิธีกรหันไปถามคนดู ตอนนี้ผมกลับมาน่งที่เดิมแล้วละครับ มีหลายคนที่ยกมือ แหมมมม เห็นคนสวยทีไรพวกผู้ชายก็ยกมือกันให้ว่อน เห็นแล้วขัดตาขัดใจจริงๆ

 

“งั้นเชิญคุณผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านซ้าย แถวที่3ถามคำถามเลยครับ”

 

พิธีกรเลือกผู้ชายคนนึงให้มาถามคำถามฟาง ผู้ชายคนนั้นก็หน้าตาพอใช้ได้อยู่นะ แต่ผมหล่อกว่าเยอะ

 

“คุณมีแฟนรึยังครับ”

 

นายคนนั้นถามคำถามต้องห้ามออกมา ไอ้บ้าเอ่ย! ถามอะไรออกมานะ

 

ฟางที่ได้ยินคำถามก็ค้างไปสักพัก ก่อนจะมองมาทางผมแว๊บนึง แล้วหันกลับไปมองผู้ชายคนนั้น

 

“ยังไม่มีหรอกค่ะ”

 

ฟางได้แต่ตอบพร้อมกับยิ้มกลับไป ตอบอะไรของเธอเนี้ย น่าขัดใจชมัด!

 

“งั้นก็ดีครับ~”

 

นายคนนั้นพูดก่อนจะยิ้มกว้าง แล้วส่งไมค์คืนให้กับสตาฟที่ยืนรอรับไมค์อยู่

 

“งั้นผมขอเชิญผู้เข้าประกวดทุกคนขึ้นเวทีด้วยนะครับ ตอนนี้ทุกท่านสามารถซื้อดอกกุหลาบเพื่อนำมาให้คนที่ท่านชอบได้แล้วนะครับ ร้านขายอยู่ที่ข้างๆเวทีทางขวามือนะครับ”

 

พอพิธีกรพูดจบ สาวๆทุกคนก็เดินขึ้นเวที ผู้ชมส่วนมากเริ่มทยอยกันไปซื้อดอกไม้

 

ผมต้องไปยืนคุมฟางซะแล้ว ไม่งั้นได้โดนพวกผู้ชายหน้าหม้อแต๊ะอั๋งแน่ๆ

 

“จะไปไหนวะไอ้ป๊อป”

 

โทโมะถามขึ้นเมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืน

 

“มีธุระต้องทำนิดหน่อยวะ”

 

ผมตอบโทโมะ ก่อนจะรีบเดินไปหน้าเวทีตรงที่ฟางยืนอยู่ ทั้ง4คนมองผมอย่างงงๆในตอนแรก ก่อนจะเข้าใจทันทีว่าผมหมายความว่าอะไร

 

“ปะ ป๊อปปี้!”

 

ฟางร้องเสียงหลงทันที เมื่อผมเดินขึ้นบรรไดข้างเวที แล้วฉุดเธอไปคุยด้วยกันด้านหลัง

 

“เมื่อกี้เธอตอบอะไรออกไปรู้ตัวบ้างมั้ย!”

 

ผมตวาดฟางพร้อมกับจับแขนทั้ง2ข้างของเธอแน่น ฟางได้แต่หลบหน้าไม่ยอมจ้องตาผม

 

“กะ ก็... ฉันไม่มีแฟนจริงๆนี่หน่า นายจะให้ฉันตอบยังไงละ จะให้ฉันโกหกออกไปหรอ?”

 

ฟางพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ เธอตัวสั่นมากเลยละตอนนี้ ผมคลายมือจากไหล่เธอที่บีบแน่นก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก

 

“โทษที เมื่อกี้ฉันโมโหเกินไปหน่อย เธอออกไปรับดอกไม้ได้แล้วยัยบ๋อง แล้วห้ามจับมือหรือให้ผู้ชายคนไหนมาโดนตัวนะ ไม่งั้นฉันอาละวาดแน่”

 

ผมปล่อยแขนฟางก่อนจะพูดกำชับ เธอได้แต่พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แบบนี้สิถึงจะน่ารัก

 

“ฉันยืนดูอยู่หน้าเวทีนะ มีอะไรก็ตะโกนเรียกได้ตลอดเวลา หรือถ้าฉันเห็นใครจะลวนลามเธอฉันจะเข้าไปห้ามเอง”

 

ผมพูดจบก็เดินลงไปเฝ้าฟางที่หน้าเวที ผมไม่ได้ไปยืนบังอะไรขนาดนั้นหรอกครับ  แค่ยืนดูอยู่ห่างๆแค่นั้นเอง

 

ผู้ชมเริ่มทยอยกันมาให้ดอกไม้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้คนที่นำอยู่เด่นๆก็มีฟางกับผู้หญิงที่อยู่Grade10คนนึง ที่เหลือก็ได้กันไม่เยอะเท่าไหร่

 

น้องคนที่ได้ดอกไม้เยอะเกือบเท่าฟางมองเธออย่างอิจฉา

 

หลังจากนั้นสตาฟก็มานับดอกไม้ว่าได้กันไปคนละกี่ดอก ส่วนผมก็กลับโต๊ะเพื่อไปให้คะแนน แน่นอนว่าต้องให้ฟางชนะอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

“เรามาประกาศผลกันดีกว่าค่ะ ผู้ที่ได้เป็นเทพีสงกรานต์คนต่อไปของICSได้แก่...”

 

พิธีกรสาวเว้นจังหวะให้ทุกคนลุ้น ผมเห็นฟางกำมือแน่น สงสัยจะลุ้นมากๆแน่เลย

 

“ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ ค่ะ ดีใจด้วยนะคะน้องฟาง”

 

พอผลประกาศออกมา ผมก็เผลอดีใจจนยิ้มออกมา ตอนแรกฟางก็งงๆแต่พอรู้ตัวก็กลับมายิ้มอีกครั้ง

 

แต่น้องคนนั้นที่ได้คะแนนสูสีกับฟางได้แต่ทำหน้าบึ่ง ก่อนจะค่อยๆเดินไปหาฟางทางด้านหลัง แล้วเธอก็ผลักฟางลงจากเวที

 

“ว๊ายยยย”

 

ฟางร้องเสียงหลง ผมรีบวิ่งไปรับตัวเธอก่อนจะหล่นลงพื้นได้ทัน ถ้ารับไม่ทันนี้มีหวังแขนหักแน่

 

“ฟาง เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

 

ผมรีบมองสำรวจตัวเธอ ตอนนี้เธอยังตัวสั่นอยู่เลยครับ ฟางได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ ส่วนยัยเด็กคนนั้นก็ถูกพี่สตาฟผู้ชาย2คนล็อคตัวไว้ ฟางลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหน้าไปเผชิญกับตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอตกลงมา ก่อนจะเอ่ยว่า

 

“เธอใช่มั้ย ที่เป็นคนสาดน้ำผสมพริกไทยใส่ตาของน้องที่ความจริงต้องมาประกวดแทนฉัน จนต้องเข้าโรงพยาบาลนะ”

 

ฟางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาที่เอาเรื่องนั้นดูน่ากลัวไม่น้อยเลย

 

“ใช่! ฉันเป็นคนทำเองแหละ ยัยนั้นมันบังอาจมาสวยกว่าฉัน แล้วเธอก็เหมือนกัน! ฉันอุตส่าห์กำจัดตัวปัญหาไปคนนึงแล้วแท้ๆ เธอจะมาประกวดทำไม ถ้าไม่มีเธอ ฉันก็คงจะชนะไปแล้ว!”

 

ผู้หญิงคนนั้นเพิ่มพลังเสียงมากขึ้นจนน่าตกใจ พี่ๆสตาฟรีบพาตัวยัยนั้นออกไป ฟางที่ดูเหมือนจะหายข้องใจแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมา

 

“สบายใจได้แล้วนะ ยัยกระต่ายน้อย”

 

พูดจบผมก็เอามือไปโยกหัวฟางไปมา ฟางได้แต่ยิ้มนิดๆ น่ารักชมัดเลย

 

“ถ้าเรื่องจบแล้ว ขอเชิญน้องฟางขึ้นมารับรางวัลบนเวทีด้วยครับ”

 

พี่พิธีกรเอ่ยขึ้นขัดจังหวะที่ผมกำลังโยกหัวฟางอย่างสนุกสนาน ชอบขัดกันจังเลยนะ!

 

ฟางเดินขึ้นเวที ตามด้วยคุณแม่ที่ขึ้นไปมอบรางวัล ท่านเรียกผมกับทั้ง4คนที่เหลือขึ้นไปถ่ายรูปด้วย

 

“แฉะ แฉะ”

 

เสียงช่างกล้องรัวชัตเตอร์ไม่หยุด พอถ่ายเสร็จแล้วก็เจ็บงาน ผมและอีก4คนเดินมาที่ห้องแต่งตัวพร้อมกับฟาง พอมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้สมัครคนอื่นๆก็เปลี่ยนชุดกันจะเสร็จแล้ว

 

ก็เพราะว่ากว่าเราจะถ่ายรูปเสร็จก็กินเวลานานเลยยังไงละ

 

“เดียวฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก คงอีกนาน พวกนายกลับกันก่อนก็ได้นะ เฟย์ให้ใครไปส่งมั้ย”

 

ฟางที่เตรียมตัวจะเปลี่ยนชุดกล่าวขึ้น

 

“งั้นเดียวฉันไปส่งเฟย์เอง ไอ้โมะแกก็ไปส่งแก้วด้วยดิวะ”

 

เขื่อนพูดขึ้นมา มันตั้งใจจะกำจัดก้างให้ผม และมันก็อยากจะไปส่งเฟย์ด้วยผมรู้ ทำได้ดีมากเพื่อน

 

“งั้นเฟย์กลับก่อนนะพี่ฟาง แล้วจะถึงบ้านประมาณกี่โมงอะ จะได้บอกคุณพ่อกับคุณแม่ให้”

 

เฟย์ถามฟางขึ้น ฟางมองหานาฬิกาแถวนั้นแต่มันไม่มี ผมเลยยื่นแขนที่มีนาฬิกาข้อมือของผมให้ฟางดู ตอนนี้ก็1ทุ่มจะ2ทุ่มแล้ว เธอมองนาฬิกาอย่างครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะตอบออกไปว่า

 

“ไม่น่าจะเกิน3ทุ่มนะ ถ้ารถติดกลับบ้านช้าเลทสุดก็4ทุ่มอะ เฟย์ฝากบอกคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะ เขื่อนพาน้องฉันไปส่งให้ถึงบ้านละถ้าจะแวะที่ไหนก็อย่าให้ดึกมาก เดียวที่บ้านจะเป็นห่วงเอา”

 

พอฟางบอกเวลากับเฟย์เสร็จก็หันไปกำชับกับเขื่อนว่าให้ดูแลน้องสาวให้ดีๆ

เขื่อนได้แต่พยักหน้ารับไม่กล้าพูดอะไร ฮ่าๆๆๆ นานๆทีจะเห็นเขื่อนน้อยยอมผู้หญิง

 

ก็นะ อนาคตพี่สะใภ้ทั้งที หิ้ววววว (แซวแต่คนอื่น คู่ตัวเองยังไม่ถึงไหนเลยนะป๊อป :: นาระ)

 

“งั้นพวกฉันไปก่อนนะฟาง เจอกันที่โรงเรียนนะ บายย”

 

แก้วพูดลาฟางจบก็เดินนำออกไป ทั้ง3คนเดินตามแก้วออกไป

 

ในห้องแต่งตัวตอนนี้เหลือคนอยู่ไม่มากแล้ว

ฟางกำลังคุยกับน้องที่ขอให้ช่วยประกวดเทพีสงกรานต์ให้แทนเพื่อนอยู่

 

“น้องถ้วยฟู ฝากรางวัลให้เพื่อนของน้องด้วยนะคะ พี่คงช่วยได้แค่นี้แหละ หวังว่าเพื่อนของน้องจะอาการดีขึ้นนะคะ”

 

ฟางยื่นรางวัลให้กับน้องคนนั้น แต่เธอได้ต่ส่ายหัว

 

“ไม่ค่ะ พี่เก็บไว้เถอะ ฟูโทรหาเพื่อนแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่เอารางวัลหรอกค่ะ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนประกวดเอง”

 

น้องถ้วยฟูตอบก่อนจะยิ้ม

 

“งั้นเดียวรอพี่เปลี่ยนชุดแปปนึงนะ จะได้เอาชุดคืนไปด้วยเลย”

 

ฟางพูดจบก็เริ่มลงมือถอดเครื่องประดับออก แต่น้องเขาก็พูดขัดขึ้นมาว่า

 

“เดียวหนูต้องรีบกลับบ้านแล้วอะค่ะ ยังไงพี่ฝากชุดไว้กับใครก่อนได้มั้ยค่ะ หนูค่อยมาเอาทีหลัง”

 

น้องคนนั้นพูดอย่างรีบร้อน สงสัยจะต้องรีบกลับบ้านจริงๆนั้นแหละ

 

“งั้นฝากไว้กับพี่ก่อนนะครับ เดียวโรงเรียนเปิดอย่าลืมไปรับที่ห้องซักรีดด้วยละ”

 

ผมบอกน้อง น้องเขายิ้มรับก่อนจะรีบวิ่งออกไป

 

“เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่มันจะดึกไปมากกว่านี้ดีกว่านะ”

 

ผมบอกฟาง เธอพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มลงมือถอดเครื่องประดับออก พอถอดทุกชิ้นออกครบแล้ว ฟางก็เดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

ผมนั่งรออยู่ด้านหน้าพร้อมกับโทรหาคุณแม่ด้วย พอบอกว่าต้องคอยส่งฟางกลับบ้านอีก ท่านก็เข้าใจแล้วก็วางสายไป รอได้สักพักก็มีเสียงเรียกดังมาจากในห้อง

 

“ป๊อปปี้! มานี่หน่อยสิ”

 

เสียงฟางนั้นเอง เรียกผมทำไมนะ

 

“มีอะไรหรอฟาง”

 

ผมเดินเข้าไปใกล้กับประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามากขึ้น อยู่ๆมือเล็กๆของฟางก็ดึงผมเข้าไปข้างใน

 

“นายช่วยฉันรูดซิบเสื้อหน่อยสิ ฉันรูดไม่ถึงอะ ดูเหมือนมันจะติดอะไรอยู่ด้วย”

 

ฟางพูดพร้อมกับหันหลังมาให้ผม แผ่นหลังขาวเนียนนั้น

 

อึก~ ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือไปจับซิบนั้นรูดลง

 

ซิบที่ค่อยๆรูดลงมานั้นเผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูมากขึ้น เสื้อชั้นในแบบไร้สาย(แต่สามารถเอาสายมาต่อได้)แบบเรียบๆสีขาวนั้นทำให้ผมสติแทบกระเจิง

 

ไม่ได้นะ ต้องควบคุมสติตัวเองไว้! ผมค่อยๆรูดซิบลงมาอีกแต่ก็ต้องหยุด เพราะดูเหมือนกับว่ามันจะไปติดกับอะไรสักอย่าง

 

“ฟาง ซิบมันติดอะไรก็ไม่รู้ ฉันรูดลงไม่ได้เลย”

 

ผมที่พยายามรูดซิบเอ่ยขึ้น ผมเหลือบมองหน้าเธอในกระจก

 

ตอนนี้เธอหน้าแดงไม่แพ้ผมเพราะจุดที่ซิบติดนั้นมันคือช่วงประมาณครึ่งของตัวเสื้อ

ซึ่งนั้นก็หมายความว่ามันเลยชุดชั้นในของเธอมาแล้ว......

 

พระเจ้า! เลือดผมจะกระฉูดออกมาหมดตัวอยู่แล้วครับรีดเดอร์ทุกคนนนนนนน

 

“นะ นายช่วยรีบๆรูดซิบลงได้มั้ย อยู่แบบนี้นานๆฉันก็อายเป็นนะ”

 

ฟางพูดกับผมเสียงเบาพร้อมกับหน้าแดง ผมพยายามรูดซิบลงจนในที่สุดก็ทำได้

 

“งั้นฉันออกไปรอข้างนอกนะ เธอมีอะไรให้ช่วยก็เรียกแล้วกัน ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าห้องนี่แหละ”

 

พอผมรูดซิบจนสุด ก็รีบพูดแล้วรีบเดินออกมา อ๊ากกกกกกกก เขินครับเขินนน

 

ระหว่างที่รอฟางผมก็นั่งเล่นiPhoneอย่างเรื่อยๆ ผ่านไป15นาทีฟางก็ออกมาจากห้องนั้นพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า

 

“กลับกันเถอะ”

 

ผมรับกระเป๋าฟางมาถือก่อนจะเดินนำออกไป เถอะพยักหน้ารับและเดินตามผมออกไปข้างนอก

 

 


[ ทางเดินข้างนอก ]

 

ตอนนี้ก็2ทุ่มครึ่งแล้ว เรา2คนเดินตามทางเรื่อยๆไม่รีบร้อน ท้องฟ้าคืนนี้มีดาวเต็มท้องฟ้า สวยมากๆเลยละครับ คนก็ไม่ค่อยจะมีแล้วด้วย

 

“สนุกมั้ยวันนี้”

 

ผมถามฟาง ตอนนี้เรานั่งอยู่ในรถแล้วละครับ คุณลุงคนขับรถก็สต๊าทรถก่อนจะขับออกไป

 

“สนุกมากกกกก แล้วก็เหนื่อยสุดๆเลยละ ไม่คิดเลยด้วยว่าฉันจะได้ประกวดเทพีสงกรานต์ ไม่คิดเลยจริงๆ”

 

ฟางเล่าความรู้สึกของตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข

 

“วันนี้เธอสวยมากๆเลยนะ สวยกว่าใครๆทั้งนั้น”

 

ผมพูดก่อนจะเอามือผมกุมมือของฟาง เราจ้องตากันสักพัก ผมก็รู้สึกตัวก็รีบวางมือฟางลงก่อนจะกล่าวขอโทษ

 

“ขอโทษที พอดีฉันเผลอไปนะ”

 

ฟางได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ประมาณว่าไม่เป็นไร

 

“ป๊อปปี้ ฉันง่วงแล้วละ ถึงบ้านแล้วปลุกฉันด้วยนะ”

 

ฟางบอกก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่เพราะรถวันนี้เป็นรถเบ๊นซ์ เรา2คนนั้งด้านหลังทำให้เบาะมันปรับไม่ได้ ทำให้หัวของฟางเอนมาพิงไหล่ของผม

 

“เธอหลับเหมือนเด็กเลยนะฟาง...”

 

ผมยกมือขึ้นปัดปอยผมที่หล่นลงมาข้างแก้มของฟาง

 

น่าเธอนี่ใสจริงๆเลย แก้มก็น่าจะนุ่มสุดๆ อยากลองหอมแก้มดูจัง....

 

“อืออ ป๊อปปี้ ฉันนอนไม่ถนัดเลย”

 

เสียงฟางบ่นทำให้สติผมกลับเข้าร่าง เธอเวลาง่วงแล้วแงงอเหมือนเด็กๆเลยนะ

 

“เธอจะนอนตักฉันมั้ยล่ะ”

 

ผมเผลอถามในสิ่งที่ใจคิดออกไป บ้าเอ่ย! แบบนั้นมันน่าเกลียดจะตาย ควบคุมสติตัวเองหน่อยสิป๊อปปี้!

 

“อือ เอาสิ”

 

พอพูดจบฟางก็ย้ายตัวมานั่งบนตักผม ก่อนจะเอาหัวซบไหล่ของผมไว้ แล้วก็หลับไป

 

สงสัยจะง่วงมากสินะ อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆจัง.....

 

 


[ หน้าคฤหาสน์ตระกูลนีระสิงห์ ]

 

ตอนนี้คุณลุงคนขับรถก็พาพวกเรามาอยู่หน้าคฤหาสน์ครอบครัวฟางแล้วครับ

 

นี่ก็เป็นเวลา3ทุ่มจะ4ทุ่มแล้ว ระหว่างมาก็รถติด+โดนสาดน้ำตลอดทางเลยครับ

 

ตอนนั่งในรถผมต้องคอยเอาแขนประคองหัวฟางไว้ไม่ให้หล่น กลายเป็นว่าผมกอดยัยเป็ดไว้กลายๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆนั้นทำเอาสติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลอยหนีไปไกลเลยละครับ

 

“ฟาง ตื่นได้แล้วนะ ถึงบ้านเธอแล้ว”

 

ผมปลุกเธอด้วยการเขย่าเบาๆ แต่เธอก็ยังหลับสนิทไม่รู้สึกอะไรเลย แบบนี้คงไม่ยอมตื่นง่ายๆแน่

 

“เห้ออออ ช่วยไม่ได้นะ”

 

ผมถอนหายใจก่อนจะโทรหาเฟย์ สักพักเฟย์ก็ให้คนเปิดประตูรั้วให้ ผมอุ้มฟางลงจากรถ ส่วนเมดอีกคนก็ถือกระเป๋าของฟางเดินนำหน้าผมไป

 

“นายทำอะไรพี่สาวฉันมาฮะป๊อปปี้ พี่ฟางถึงได้หลับยาวขนาดนี้”

 

พอผมเดินเข้ามาในตัวบ้าน เฟย์ก็แซวขึ้นมาทันที

 

“พอเลยๆ ไม่ต้องแซวเลย เดียวฉันอุ้มฟางไปส่งที่ห้องก็จะกลับบ้านแล้ว”

 

ผมบ่นออกไป เฟย์ได้แต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเอ่ยว่า

 

“หุๆ~ ไม่แซวแล้วก็ได้ ขอบคุณนะที่มาส่งพี่ฉันถึงบ้านเลย”

 

ผมไม่สนใจที่เฟย์พูดเดินตามเมด คนนึงขึ้นชั้น2ของบ้านทันที

 

เมดคนนั้นเปิดประตูห้องนอนของฟางให้ผมก่อนจะออกไป

ผมวางฟางไว้บนเตียงก่อนจะถอดรองเท้าให้เธอ

 

หน้าสวยหวานที่ตอนนี้กำลังหลับตาพริ้มนั้น ดึงดูดให้ผมก้มหน้าลงไปหามากกว่าเก่า

 

ปากหนาของผมจรดกับแก้มนิ่มของฟางเป็นเวลาเนิ่นนาน ก่อนที่ผมจะเงยหน้าขึ้นจากแก้มของเธอ

 

“ฝันดีนะครับ กระต่ายน้อยของผม”

 

ผมบอกราตรีสวัสดิ์ฟางเสร็จก็เดินออกจากห้อง ปิดประตูแล้วเดินลงมาชั้น1 บอกลาเฟย์เล็กน้อยแล้วก็เดินออกมาขึ้นรถกลับบ้าน

 

คืนนี้ผมต้องฝันถึงยัยตัวเล็กให้ได้เลย.....


:: End Poppy Talk ::

 

 

 


__________________________________________________________

 

 

 

 

 

Talk with Writer ::


ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนนะคะ ที่วันนี้มาอัพช้ามาก พอดีมีเรื่องกวนใจนิดหน่อยเลยไม่มีสมาธิแต่ง

แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เคลียเรียบร้อยแล้วละคะ สบายใจได้ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

 

ตอนนี้แต่งให้ยาวพิเศษอีกแเช่นเคย ฝากเล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้ายเผื่อนาระด้วยนะคะ

อ่านแล้วคอมเม้น+โหวตกันด้วยนะ เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^/

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา