Sweet ก็น่ารักขนาดเนี๊ย...ขอรักเลยได้มั้ย

9.8

เขียนโดย nongpear_ruk_tk

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.35 น.

  12 chapter
  161 วิจารณ์
  22.48K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) ไม่คิด...แต่รู้สึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ ลัลล๊าๆๆๆ ” วันนี้แก้วใจมีความสุขได้เป็นกามเทพให้ลิงตัวน้อยๆได้สมหวัง โฮะๆๆ ฉันยืนดี๊ด้าอยู่ตรงป๊ายรถเมล์เมื่อเห็นรถมอไซด์ของไอ้เคนตะที่มีจินนี่นั่งซ้อนอยู่แล่นผ่านไป ฉันโบกมือให้มันยิ้มๆเป็นเชิงว่า “โชคดีนะโว้ยย” แล้วมันก็ขยิบตาให้ทีนึง ไอ้ตรงเนี้ยแหละ ฉันล่ะหมั่นไส้มันเหลือเกิน แต่อยู่ๆความสุขที่มีก็แปลเปลี่ยนเป็นความทุกข์ครั้งยิ่งใหญ่ (บรรยายให้อลังการ) เมื่อสายตาเจ้ากรรมดั๊นนนนหันไปเห็น....

 

                “ ไง ยัยทอมหัวเหม่ง ” ให้ตายเถอะ!!!!! ไอ้บ้านี่อีกแล้ว เรื่องเมื่อเช้ากับกลางวันยังไม่ทันได้เคลียร์จะมาหาเรื่องตอนเย็นให้อีกแล้ว แล้วอยากจะถามเหลือเกิน ว่าแกจะมาอะไรนักหนากับหัวฉันนนนน!!!!!! ฉันเปลี่ยนจนไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงแล้วนะ T_TTTT

 

                “ หัวพ่อแกสิเหม่ง ไอ้ซาบะปากหมา ” รมณ์เสียโว้ยยยย ไม่น่ามาเจอมันเลยกรู

                “ อ้าว เฮ้ยคนอุตส่าห์มาทักดีๆพูดดีๆหน่อยจะได้มั้ยห๊ะ ที่มาหาก็เพราะฉันหวังดีนะเนี๊ยยยยยย ”

หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า

 

                “ เฮอะ  อย่างแกเนี่ยนะจะมาหวังดีกับฉัน มีไรว่ามาเลยดีกว่า ” ฉันรีบถามเพราะอย่างนายเนี้ยถ้าไม่มีธุระอะไรคงไม่มาคุยกับฉันหรอก

 

                “ พี่ป๊อบให้เธอกลับกับฉัน ” อ๋อออออ ก็นึกว่าอะไร หะ ห๊า!!!!!!!!!

                “ ไอ้พี่ป๊อบเนี่ยนะ ดูปากฉันดีๆนะ ฉัน – ไม่ – กลับ- กับ – นาย ” ฉันบอกเสียงแข็งแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง งงกันใช่มั้ยว่านายนี่รู้จักกับพี่ป๊อบได้ยังไง ก็ไอ้โทโมะมันอยู่บ้านติดกับฉันเลยนะเซ่!!!!! กำแพงเดียวกันเลยด้วย มันเลยสนิทกับพี่ป๊อบต่างกับฉันลิบลับฉันเกลียดขี้หน้ามันจะตาย จริงๆเรารู้จักกันตั้งแต่ ม.ต้นแล้วล่ะแค่ตอนนั้นเราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันเลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ถึงเจอก็เป็นต้องแขวะกันให้ตายกันไปข้างนึง

แต่พอขึ้น ม.ปลาย คุณแม่ของไอ้โทโมะดันย้ายนายนี่มาอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันเพราะว่าท่านต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่นทั้งคู่เลยจะให้อยู่เป็นเพื่อนกัน คราวนี้ฉันเลยเจอหน้ามันแทบจะ 24 ชม. เลยก็ว่าได้

 

                “ เธอต้องกลับเพราะวันนี้พ่อแม่ฉันกับพ่อแม่เธอกลับมาจากต่างประเทศ ถ้าเราไม่กลับด้วยกันมันจะไม่แปลกรึไงห้ะ รึเธออยากจะให้พ่อแม่เรารู้ว่าเรา เกลียดกัน!!! ” นายโทโมะย้ำเสียงแข็ง แล้วอีกเรื่องก็คือพ่อแม่ฉันกับพ่อแม่นายนี่เป็นเพื่อนบ้านที่รักกกกกันมากกกกก อยู่ต่อหน้าพวกท่านฉันกับนายโทโมะเลยต้องทำเป็นเพื่อนรักสนิทกันมากกกกแทบจะตายแทนกันเลยก็ว่าได้ แต่พออยู่ลับหลังจะฆ่ากันให้ตายไปข้างนึง

 

                “ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรกมัวแต่พล่ามๆๆอยู่นั้นแหละ ชิส์ ” ฉันพูดแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนรถมอไซด์ของอีตานี่ ไอ้แก๊งบ้าบอของมันมีมอไซด์กันทุกคนแหละ อย่าให้ฉันมีบ้างก็แล้วกัน

 

                “ นี่!!! อยากจะนั่งไปดีๆหรือเธออยากจะให้ฉันเอาแขนเธอผูกกับรถแล้วลากเธอไปด้วยกันห๊ะ!!! ”

ไอ้นี่มาแนวโหดอีกล่ะ

 

                “ โอ้ยยยย จะไปก็รีบซะสิ ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว น่าเบื่อ ” ฉันบอกแล้วนั่งกอดอกทำหน้าเซ็ง

                “ อ่ะ เอาไปใส่ซะ ” นายโทโมะยื่นหมวกกันน๊อคมาให้ฉัน

                “ ชิส์ ขอบใจ ” กลั้นใจตอบหรอกนะ

                “ ห๊ะ เมื่อกี้เธอพูดว่าไรนะ ” หูตึงรึไงย่ะ

                “ ฉันบอกว่าขอบใจโว้ยยยย ”

                “ หึ ” นายนี่หัวเราะในลำคอเบาๆแต่ขอโทษเถอะฉันได้ยิน

                “ หัวเราะอะไร ”

            “ ก็แค่สงสัยว่าทำไมวันนี้เธอ....น่ารักจังล่ะ ” นายนี่หันหน้ามาน้อยๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก (สำหรับฉันอ่ะนะ)

 

                “ อะ ไอ้บ้า รีบๆออกรถไปเซ่!!! ป่านนี้พ่อแม่รอนานแล้ว ” ฉันบอกเสียงดัง กลบอาการเขินนิดหน่อย

                “ หึ เกาะแน่นๆล่ะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ”

            “ ให้ตายฉันก็ไม่กอดนายหรอกย่ะ ”

            “ แล้วฉันจะคอยดู ”

 

บรื้นนนน แว๊นนนนนน (ออกตัวไปอย่างรวดเร็ว)

 

            “ กรี๊ดดดด ” ใครช่วยบอกทีเมื่อกี้ฉันกรี๊ดหรอ

 

หมับ

 

จะรีบไปตายที่ไหนว่ะเนี่ย ตอนออกตัวทำเอาฉันเกือบหงายท้องตกรถ มันแกล้งฉันแน่ๆ

 

เอี๊ยดดดดดดดดด

 

                “ ไปไงบ้างล่ะ ” ยังมีหน้ามาถามอีกนะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าข้าวกลางวันฉันมันเตรียมจะออกมาแล้ว อย่านะ อย่าออกมาเชียว เสียดายตาย

 

                “ ไอ้บ้าเอ๊ยยยย แกจะรีบไปลงนรกหรือไง ” ฉันแว๊ดออกมาอย่างคนหมดแรง เวียนหัวจัง พะอืดพะอมแปลกๆ

 

                “ แล้วใครน้าเป็นคนบอกฉันว่าจะไม่มีวันกอดฉันเด็ดขาด ” ฉันงงกับคำพูดมันนิดหน่อยก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่เอวของมัน

 

                “ ฮะ เฮ้ยยยยย ” มะ มือฉันกอดเอวมันแน่นเลย ดึงเอาออกแทบไม่ทัน

                “ ทำเอาฉันหายใจแทบไม่ออกเลยรู้มั้ย ” มันหันมาทำหน้ากวนๆใส่ฉัน เจ็บใจโว้ยยย  ฉันรีบกระโดดลงจากรถมันแล้วเดินเข้าบ้านไปทันที ฉันเกลียดน๊ายยยยยยย

 

                “ หึหึ ” ชายหนุ่มข้างนอกยกยิ้มขึ้นน้อยๆแล้วหัวเราะเบาๆ

 

โทโมะ// แกล้งยัยนี่สนุกชะมัด 

 

 

 

            “ แก้วลูก กลับมาแล้วเหรอ ” พอฉันเดินเข้ามาในบ้านก็มาเจอพ่อกับแม่ทันที

                “ แม่มมมม ” ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่ทันที คิดถึงจังเลย

                “ เอ๊า ทำเป็นเด็กๆไปได้ ” แม่คลายกอดฉันแล้วลูบหัวฉันเบาๆ

                “ ก็คนมันคิดถึง ” ฉันบอกแล้วฉีกยิ้มกว้าง

            “ แล้วนี่กลับมากับโทโมะเหรอ ” แม่จะไปพูดถึงมันทำม๊ายยยยย

                “ ใช่จ้ะ ”

            “ นับวันยิ่งจะสนิทสนมมากขึ้น ” พ่อฉันพูดแทรกขึ้นมาด้วยเสียงล้อๆ

                “ พ่อหมายความว่าไงอ่ะ ” ฉันหันไปถามพ่อหน้ามุ่ย

                “ เปล๊าาาา พ่อพูดเฉยๆ ” ท่าทางพ่อมีพิรุธนะเนี่ย แต่ช่างเหอะ

                “ เพิ่งกลับมาไปอาบน้ำเถอะลูก ”

            “ คร๊า ” ฉันตอบ แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปทันที

 

               

            “ เฮ้ออออออ ” พอขึ้นห้องมาปุ๊บฉันก็นอนแผ่หลาบนเตียงทันที

                “ น่าเจ็บใจชะมัด ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ยยย ” ฉันหยิบตุ๊กตาหนูฟันเหยินๆ ตัวเน่าๆ ตัวไม่ใหญ่มากมาแล้วต่อยไปแรงๆทีนึง (ตุ๊กตาตัวนี้หมอนั่นให้ฉันตอนเด็กๆมันหาว่าหัวฉันเหมือนถูกหนูแทะ)

 

                “ ไอ้ปลาแซลม่อน ” ต่อยไปอีกที

                “ ไอ้ยากิโซบะ ” ตามด้วยเข่า

                “ ไอ้ญี่ปุ่น ” ตามด้วยลูกถีบกระเด็นไปติดข้างฝา แต่มันยังไม่หนำใจ

                “ นี่แหนะๆ ไอ้ตุ๊ด ” ฉันตบซ้ายตบขวาหน้ามือหลังมือไม่ยั้งแล้วปาไปติดข้างฝาอีกรอบ เฮ้ออออ ค่อยยังชั่ว ได้ระบายสักที

 

                “ ไปอาบน้ำดีกว่า ฮ่าๆ ” ฉันพูดกับตัวเองอย่างร่าเริง แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที

 

10 นาทีผ่านไป

 

ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ด้วยเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นสีขาว ฉันเดินออกจากห้องแล้วตรงไปห้องพี่ป๊อบทันที

 

ก๊อกๆๆๆๆๆ (เคาะรัวๆ)

 

                “ พี่ป๊อบบบบบบแก้วเข้าไปนะ” ฉันตะโกนบอกพี่ชาย

                “ เออๆ ” พี่ป๊อบตะโกนตอบมา แล้วฉันก็เข้าไปในห้องทันที

 

แกร๊ก (เสียงบิดลูกบิดประตู)

 

                “ โห นี่ห้องคนเหรอว่ะ ” ฉันแทบจะเป็นลมเมื่อเข้ามาเห็นห้องไอ้พี่ชายรกยังกะรังหนู (ไม่ต่างอะไรกับห้องตัวเอง)

 

ตุ๊บ          

 

“ เฮ้ออออ ” ฉันไม่ได้สนใจไอ้ขยะพวกนั้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงพี่ชายทันที นุ่มจัง

“ แกมีไรเนี่ย ” ฉันมองไปตามเสียงเห็นพี่ป๊อบเดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

“ ก็ไม่มีไรน้องอยากมาหาพี่มันแปลกหรือไงเล่า ” ฉันดีดตัวขึ้นนั่ง พี่ป๊อบยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วเอามือมาขยี้หัวฉันเบาๆ

 

“ ผมยุ่งหมดแล้วพี่ป๊อบ ” ฉันทำหน้ายู่แล้วเอามือจัดทรงผมไปด้วย

“ ที่โรงเรียนเป็นไงมั่งอ่ะ ” พี่ป๊อบนั่งลงข้างๆฉันแล้วถาม

“ ก็ดีอ่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วพี่กับพี่ฟางอ่ะแหมๆอย่าคิดว่าแก้วไม่รู้นะ แก้วไปอยู่กับเฟย์ พี่ฟางไม่ค่อยกลับบ้านเลย ” ฉันยิ้มล้อๆพี่ป๊อบ จะว่าไปความรักพวกพี่เขาก็อยู่ทนดีเหมือนกันแฮะ คบกันมาตั้งแต่ ม.4 ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสองกันแล้วก็ยังรักกันดีเหมือนเดิมไม่เห็นมีทะเลาะอะไรกันเลย

 

“ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว ” พี่ป๊อบผลักหัวฉันแรงๆทีนึง

“ โถ่ถถถ ไรว่ะ ”

“ ไอ้แก้วลงไปกินข้าวได้แล้วแม่เรียกแล้ว ” พี่ป๊อบบอกฉันแล้วเดินนำลงไปก่อน ฉันจึงเดินตามลงไป

 

“ มาแล้วค๊า ” ฉันตะโกนลงไปแล้วรีบเดินลงมาแต่มีบางสิ่งทำให้ฉันเกือบจะตกบันได

“ สวัสดีคร๊าบบบคุณน้า ” อยู่ๆนายโทโมะก็โผล่มาจากหน้าประตูแล้วยืนยิ้มแฉ่ง

“ อ้าว ตาโทโมะมาๆมากินข้าวกันก่อนเร็ว ยัยแก้วรีบๆลงมาสิ ”  แม่หันมาฉันที่ยืนเอ๋อรับประทานอยู่ตรงบันได พอได้สติฉันรีบเดินไปหานายโทโมะแล้วกระซิบกระซาบบางอย่าง

 

“ ใครใช้ให้นายมาบ้านฉัน ”

“ ไม่มีใครใช้ฉันอยากมาเองมีไรป่ะล่ะ” ตอบได้กวนมาก

“ บ้านตัวเองไม่มีอยู่รึไง ” ฉันถามกลับไป

“ มีแต่ไม่อยู่อยากมาเป็นลูกเขยบ้านนี้มีไรป่ะ ” คำพูดกวนที่แอบทำฉันหวั่นไหวพร้อมกับรอยยิ้มกระชากใจที่ใครใฝ่ฝันจะได้เห็น ฉันควรภูมิใจมั้ยเนี่ย

 

เพี๊ยะ

 

มือบางๆ(แต่หนัก)ของฉันฟาดลงไปที่แขนนายนั่นเต็มๆ

 

                “ ลามปาม ” ฉันจิกตาใส่อย่างไม่ค่อยพอใจ แต่นายนั่นกลับส่งสายตาล้อเลียนมาให้

                “ อ้าว มัวแต่เล่นกันอยู่ได้มากินข้าวมายัยแก้ว ตาโทโมะ ”  เสียงแม่ฉัน

            “ ค๊า / คร๊าบบบ ”

 

            “ คุณโทยะค่ะ กิจการที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้างค่ะ ”

            “ ก็ดีครับ แต่บลาๆๆๆๆ ฉอดๆๆๆ” ผู้ใหญ่ก็คุยเรื่องการเรื่องงานกันไป แต่คงไม่มีใครทันสังเกตว่ามีประกายไฟฟ้าเปรี๊ยะๆแล่นออกมาจากสายตาฉันและนายโทโมะ ที่จ้องกันเหมือนจะฆ่ากันให้ได้

 

                “ แม่จ้ะ แก้วอิ่มแล้ว ” ฉันเป็นฝ่ายที่ทนไม่ได้ก่อนรีบเก็บจานแล้วลุกออกไปทันที

                “ เอ่อ ผมก็อิ่มครับ ” โทโมะมื่อเห็นแก้วลุกไปก็รีบตามไปที่ครัวทันที

 

                “ ฮึ่ยยย น่าโมโห อ้ะ ” เมื่อมาถึงครัวฉันก็วางจานแล้วบ่นอยู่คนเดียว แต่ก็รู้สึกถึงลมอุ่นๆที่มารดต้นคอจนฉันต้องหันหน้ากลับไป

 

                “ โมโหอะไรเหรอ ” นายโทโมะ จะตามจองล้างจองผลาญฉันถึงไหนเนี่ย แล้วดันยื่นๆหน้าหล่อๆมาใกล้กันอีก

 

                “ อะเอ่อ โมโหอะไร ใครโมโห ไม่มี๊ ” ฉันปฏิเสธเสียงสูง

                “ จริงเหรออออ ” นายนี่ลากเสียงยาวแบบไม่ค่อยเชื่อ แต่กลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกจนจมูกเกือบจะชนกันอยู่แล้ว

 

                “ แล้วนายยุ่งไรด้วยเล่า!!!!” ฉันผลักเขาออกแก้เขินชอบทำตัวแปลกๆอยู่เรื่อย

                “ หึ หน้าแดงใหญ่แล้วยัยบ๊อง ” อะไรนะ!!!!

                “ บ้าแล้ว ใครหน้าแดง ” ฉันเอามือปิดแก้มตัวเองแล้วก้มหน้า

                “ ก็เธอไง ” นายนี่ก้มหน้าลงมากระซิบข้างหูฉัน ทำเอาฉันถอยห่างแทบไม่ทัน นายต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆนายไม่ใช่ไอ้โทโมะคนเดิมหรือว่านายจะถูกผีหื่นเข้าสิง ไม่นะ!!!!

 

            “ อย่ามายุ่ง!!!!!” ฉันบอกแค่นั้นแล้วรีบวิ่งออกไปทางหลังบ้านทันที ขอพักสงบจิตใจก่อน

 

                “ ฮ่าๆๆๆๆ” เมื่อหญิงสาววิ่งออกไปแล้วร่างสูงในครัวก็หัวเราะออกมาทันที ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นตอนเปิดเทอมทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นกับตัวเอง พอเห็นหน้าหวานๆ(ปนหล่อ) แล้วก็เกิดอาการอยากแกล้งขึ้นมาทันที ใครจะมองว่าเขาโรคจิตก็เชิญเถอะ เห็นทอมหน้าแดงแล้วมันก็อดภูมิใจไม่ได้

 

                “ แล้วทอมอะไรมันจะมาเขินกับผู้ชายว่ะ ” เขาพูดกับตัวเองเบาๆนี่แหละคือข้อสงสัยทำหน้าครุ่นคิดสักพักแล้วก็ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเจ้าเลห์

 

                “ แบบนี้มันคงต้องพิสูตกันหน่อย แล้วล่ะยัยแก้วแตก หึหึ ”

 

 

มาทางด้าน Kaew

 

                “ หายใจเข้าช้าๆหายใจออกกกกก ” ตอนนี้ฉันกำลังพักสงบสติที่กำลังเตลิคเปิดเปิงไปไกล นายนั่นมันต้องโดนผีเข้าชัวป๊าบบบบ ต้องเป็นผีหื่นด้วยแน่ๆอึ๋ยยยย น่ากลัว ถึงหน้ามันจะหล่อชวนหวั่นไหวแค่ไหนก็เหอะ แต่เกลียดมันก็คือเกลียดแหละน่า เกลียดมันจะเปลี่ยนเป็นรักได้ไง(เนอะ) ชีวิตจริงมันคงไม่ไปเหมือนนิยายหรอก (มั้ง) ฉันนั่งอยู่แป๊ปนึงแล้วก็ตัดสินใจกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางปกติ

 

                “ แม่แล้วคุณลุง คุณน้าล่ะ ” ฉันถามแม่

                “ อ้อ เพิ่งกลังไปเมื่อกี้เอง ” แม่บอกแค่นั้นแล้วเดินเข้าครัวไปทันที ฉันจึงเดินขึ้นห้องไป

 

               

 

                “ เฮ้ออออ ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงด้วยล่ะ ” ฉันเอามือทาบที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่อรู้สึกว่าก้อนเนื้อตรงนั้นมันเต้นแรง

 

ก๊อก แก๊กๆ

 

                “ หืม ” มีเสียงเหมือนมีอะไรมากระทบที่หน้าต่างตรงระเบียงห้องฉัน ฉันจึงเดินไปดู

               

 

โป๊กกกกก

 

                “ โอ้ยยยยย ” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อมีวัตถุบางอย่างลอยมาโดนหน้าผากอย่างจัง

            “ อ้าว เฮ้ยยย ยัยทอมหัวเห็ดฉันขอโทษ ” เสียงนี้มัน...

                “ โทโมะ!!!! ” ฉันเรียกชื่อเขา นายนี่แอบลอบทำร้ายฉันแน่ๆ แกเลวจริงๆ ฮึ่มมม

                “ เรียกชื่อฉันได้แล้วเหรอ ” นายนี่ยืนทำหน้ากวนอยู่ที่ระเบียงตัวเอง

                “ ไอ้บ้า แกแอบลอบทำร้ายฉันเหรอห๊ะ!!!! ” ฉันตวาดมันกลับไป

                “ ใคร ใครลอบทำร้ายเธอห๊ะ แค่มีอะไรจะบอก แต่เธอดันเซ่อซ่าเดินมาเปิดตอนฉันกำลังโยนหินก้อนสุดท้ายพอดี ” หินเลยเหรอ ไอ้นี้เป็นแก๊งปาหินหรือไงดีนะมันเป็นก้อนเล็ก ถ้าก้อนใหญ่ฉันคงหัวแตกเลยล่ะมั้ง

 

                “ มีอะไรก็รีบพูดมารบกวนเวลาส่วนตัว ” ฉันรีบชวนเข้าเรื่องก่อนที่จะทะเลาะกันไปมากกว่านี้

                “ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่อยากจะบอกว่า ”

            “ บอกว่า? ”

            “ ฝันดีนะ ” นายนั่นบอกแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ก่อนจะปิดประตูระเบียงหนีหายไป ส่วนฉันน่ะเหรอ กำลังยืนอึ้งไม่ขยับไหวติงใดๆทั้งสิ้น ฝันดีเหรอ

 

                “ นายนั่นบอกว่าฝันดีเหรอ ” ฉันยืนพูดคนเดียว เหมือนคนบ้า

                “ ใช่ ” เสียงจากบ้านข้างๆทำให้ฉันหันควับไปทันที

                “ นะ นาย ” ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรไม่ถูก

                “ ลืมบอกอย่างนึง.....อย่าลืมฝันถึงฉันด้วยล่ะกัน ” ถ้าตอนนี้ไม่มืดนะนายนั่นต้องเห็นว่าหน้าฉันมันแดงมากแน่ๆเลย

 

                “ ถ้าฝันถึงนายฉันก็คงฝันร้ายกันพอดี แบร่ ” ฉันแลบลิ้นปริ้นตาใส่คนตรงหน้าแล้วรีบวิ่งเข้าห้องมาทันที

 

                “ ไอ้โคโดโมะเอ๊ยยย นายคิดอะไรของนายกันแน่ ” ฉันเอามือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วพึมพำอยู่คนเดียว เหมือนความรู้สึกของเธอกับเขามันกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงนะว่ามั้ย

__________________________________________________________ 

 

มาอัพพพพแล้วนะ เม้นกันเยอะๆหน่อยสิ จะได้รู้ว่าตัวเองแต่งเป็นยังไง แต่เม้นน้อยก็ยังดีกว่าไม่เม้นเลยนี่เนอะ

ฮ่าๆๆๆๆ    

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา