The opera concerto เำพลงรักในยามวิกาล

-

เขียนโดย LoverPF

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.38 น.

  9 บท
  1 วิจารณ์
  14.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 19.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) หนึ่งในล้าน (One in a million)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

บทที่หนึ่ง หนึ่งในล้าน One in a million

 

                          วันนี้เป็นวันที่คึกคักพิเศษ เพราะเป็นวันที่นักศึกษาปีที่ 4 ต้องช่วยกันจัดฉากละครที่จะแสดงด้วยกัน ในปีที่จะจบปีสุดท้าย โรงละครของมหาวิทยาลัยถือว่าใหญ่มากๆ นักศึกษาต้องช่วยกันสร้างฉากในก่อน 3 วันที่จะแสดงนักศึกษาบางคนขอตัวกลับบ้าน บางคนขอทำของตัวเองให้เสร็จ ก่อนที่จะมาลุยงานต่อในวันพรุ่งนี้ ในโรงละครนี้ถือว่ามีที่นั่งชมไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ฉากหน้ามีเวทีและเปียโนตั้งอยู่ ส่วนที่นั่งก็คล้ายๆกับที่นั่งของโรงภาพยนตร์ ทางหลังเวทีครึกครื้นอย่างมาก เพราะนักศึกษาปีที่4 แต่ละคนต้องช่วยกันวาดฉาก ตัดชุด และทาสีฉาก วุ่นวายพอๆกัน

 

“พี่เมฆครับ เอาไอ้ต้นนี้ไว้ตรงไหนครับ”นักศึกษาชายถามขึ้น พร้อมกับเหงื่อซกกำลังถือต้นไม้ตกแต่งไว้อยู่กับในมือ

 

“เอาไว้ตรงหลังฉากนั่นแหละ”ผู้ถูกเรียกชื่อเอ่ยขึ้นก่อนจะชี้ไปตรงฉากหลังเวทีใกล้ๆกับฉากที่ทาเสร็จแล้วและกลับมาทาสีฉากต่อ

 

“ครับๆพี่เมฆ”นักศึกษาชายเอ่ยกลับและรีบเดินไปและวางต้นไม้ใกล้ๆฉากนั้นทันทีและเสียงใสๆของใครบางคนก็ดังขึ้น

 

“พี่เมฆนี่ค่ะน้ำ”เสียงหวานๆดังขึ้นและยื่นขวดน้ำจากด้านหลังเขา

 

“ขอบใจครับ...ที่รัก”เมฆหันมาหาคนที่เขาเรียกว่า ที่รัก เธอชื่อ พลอยฝนแต่พวกเพื่อนๆเขาจะเรียกว่าพลอย คนที่ถูกทักว่า ที่รักหน้าแดงเลยทีเดียว

 

“พี่เมฆ! พูดอะไรค่ะ ที่รักอะไรของพี่เมฆ ขี้ตู่”พลอยหันมาย่นจมูกใส่เขา และช่วยเขาทาสีฉากต่อ

 

                                                   น่ารัก

 

“อ่าว...และจะให้พี่เรียกว่าอะไรครับ ดาร์ลิ้ง ฮันนี่ เบบี๋ หรือ ภรรยาในอนาคตดีครับ”เมฆหันมาและบีบจมูกเธอก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

 

 “พี่เมฆ!!! อายคนอื่นบ้างสิค่ะ” พลอยหน้าแดงก่อนที่จะทุบกำปั้นไปที่อกเขาอย่างแรง

 

“อายทำไม คนเป็นแฟนกัน”เมฆหันมาค้อนให้เธอบ้าง

 

“ฮิ้ว...”เสียงของเพื่อนๆในคณะต่างพากันแซว

 

“อย่าหวานให้มากนะครับ...พี่ครับ ผมเพิ่งอกหักจากแฟนมาครับ พี่เมฆกับน้องพลอยอย่าทำร้ายหัวใจพี่สิครับ”นักศึกษาคนหนึ่งเอ่ยก่อนที่จะเอามือทาบอกตัวเองว่าอกหักจริงๆ

 

“อกหักก็มารักกระเทยสิจ้ะ จินนี่หน่ะพร้อมรับทุกคนเลยนะฮ้า...”กระเทยที่ชื่อ จินนี่เอ่ยและเอามือจับหน้าอกของชายคนนั้นอย่างจัง

 

“เฮ้ย! ไม่เอา ถึงพี่จินนี่จะอายุเยอะกว่าผมปีนึงนะ ผมก็ชกพี่นะขอบอกให้”ชายคนนั้นเอ่ยก่อนที่จะชูกำปั้นขึ้นมา ถึงแม้จะอยู่ ปี 4 ด้วยกัน แต่บางคนก็อายุมากกว่าไม่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเลยเรียกว่า พี่ไปโดยปริยาย

 

“เฮ้ยๆ พวกแกสองคนนะ หยุดได้แล้ว เดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จพอดี”เสียงของผู้หญิงอีกคนดังขึ้น เธอน่าตาน่ารัก ดูเหมือนวัย 20 แต่เธออายุ 22 แล้วเธอชื่อต้นหอมแต่ในสายชั้นต่างเรียกเธอว่า พี่หอม ไปจนหมด เสื้อของมหาวิทยาลัย กับกระโปรงยาวถึงเข่า ผมยาวสละสลวยถูกมัดผมรวบตึง กำลังทาสีฉากอยู่หันมาโวยให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันเสียที

 

“ครับพี่หอม นี่เห็นแก่พี่หอมนะไม่งั้นผมจะ...”

 

“จะ...อะไรฮ้า คิดว่ากระเทยกลัวเหรอ”

 

“จะอะไรช่างมันเถอะครับ ผมไปทำงานก่อนดีกว่า ขนลุก”เขาพูดและรีบวิ่งไปช่วยหอมทาสีฉากทันที

 

“ย่ะ อย่าให้ถึงที่ฉันแล้วกันว่า คบกับกระเทยดีกว่าคบนังชะนีอีกย่ะ เชอะ!”จินนี่พูดพร้อมสะบัดตูดใส่และรีบวิ่งไปจัดฉากทันทีก่อนที่ ‘ชะนี’ ผู้หญิงทุกคนที่หล่อนพูดถึงจะมาเชือดกะบาลหล่อน

 

            การจัดฉาก เย็บชุด และทาสีฉากเสร็จราวๆ เก้าสิบเปอร์เซ็นแล้ว ที่เหลือพวกเขาจะมาจัดการพรุ่งนี้ให้เสร็จก่อนถึงวันงานอีกประมาณสามวัน นี้ก็ราวๆประมาณสองทุ่มแล้ว เมฆจึงชวนพลอยกับหอมไปทานข้าวข้างๆมหาวิทยาลัย ร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดาๆร้านอยู่ติดกับถนน ภายในร้านแต่งสไตล์ตะวันตก แต่ขอบอกว่าอร่อยมากๆ จนคนในมหาวิทยาลัยนี้มากินเป็นประจำ

 

“คุณเมฆขา...คุณเมฆจะพาพวกเราไปเลี้ยงข้าวจริงๆเหรอค่ะ”หอมเอ่ย หอมกับเมฆสนิทกันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยแรกๆ ทั้งสองไม่เคยคิดอะไรไปกว่าเพื่อนเลย เพราะทั้งสองอยู่ด้วยกันจนชินไปแล้ว และหนำซ้ำทั้งสองยังชอบพูดหยาบๆใส่กันอีกด้วย

 

“ก็ใช่สิไอ้หอม หรือแกจะไม่ให้ฉันเลี้ยงก็ได้นะ ฉันจะเลี้ยงที่รักฉันคนเดียวก็ได้”เมฆพูดจบก็รีบไปจับมือพลอยทันที

 

“ฉันจะอ้วก ไม่ ๆเลี้ยงเลยๆแกต้องเลี้ยงฉัน เพราะตอบแทนที่ฉันเจอกับยัยพลอยและพาแกมารู้จัก แกถึงได้เป็นแฟนกับยัยพลอยไง นี่ถ้าแกไม่ใช่เพื่อนสนิทฉันนะ ฉันไม่ยอมยกยัยพลอยให้เด็ดขาด”หอมพูดเสร็จรีบไปฉกตัวพลอยมากอดอย่างหวนแหนทันที

 

“นี่ทั้งสองคน เห็นพลอยเป็นตุ๊กตาหรือไงค่ะ แย่งกันไปแย่งกันมา พลอยหิวข้าวจนไส้กิ่วแล้ว ถ้าทั้งสองไม่กิน พลอยไปกินคนเดียวก็ได้”พลอยพูดพร้อมย่นจมูกใส่ทั้งสองคนและรีบเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยวทันที

 

“พลอย รอด้วย”ทั้งสองพูดพร้อมกันก่อนจะวิ่งตามพลอยไป

 

        ทั้งสามรีบสั่งก๋วยเตี๋ยวและกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน หอมนั่งข้างๆพลอยส่วนเมฆต้องนั่งคนเดียว ถ้ายัยหอมมีแฟนขึ้นมาเข้าคงได้นั่งกับข้างพลอยแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้เอาแต่ใจขนาดนั้นนะ เพราะ เมฆก็อยากให้หอมมีคนดูแลเหมือนกันเพราะเธอเพิ่งอกหักมาจาก ผู้ชายเฮงซวย หอมกินไม่ได้นอนไม่หลับมาอาทิตย์หนึ่ง เขากับพลอยต้องเข้าไปปลอบเธอ จนเธอร่าเริงเหมือนปกติ

 

“นี่พวกแกจำได้ไหม...? ตอนที่พวกแกเจอกันใหม่ๆ ตอนปลายๆปี2”หอมพูดขึ้นพร้อมกับกินน้ำไปด้วย

 

“อื้มจำได้ทำไมเหรอ?”พลอย

 

“ฉันอยากจะรู้ ว่าพวกแกไปรักกันตอนไหน ทำไมตอนเจอหน้ากันแรกๆ พวกแกดูเหมือนเคยเจอกันมาก่อน อย่าบอกนะว่าเหมือนในละครหน่ะ ที่พระเอกเดินชนกับนางเอกและนางเอกก็ลืมผ้าเช็ดหน้าไว้ และพระเอกก็ต้องตามหาเจ้าของ”

 

“ดูละครมากไปป่าว ยัยหอม”เมฆแซวเพื่อนสาว

 

“อ้าว ฉันเห็นในมหาวิทยาลัยเรามีเยอะอยู่หรอก?”

 

“ไม่ใช่ๆ แกอยากฟังไหมหล่ะ”เมฆเอ่ยขึ้นมา

 

“เล่ามาเลย ฉันอยากฟัง”

 

     ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน

 

“ขอโทษนะค่ะ พี่ค่ะ ห้องสมุดไปทางไหนเหรอค่ะ”เสียงสาวน้อยคนหนึ่งกำลังดังขึ้นกำลังถามทางของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาในปีนี้

 

“อ๋อทางนี้จ้ะ เดี๋ยวพี่พาไป”เสียงของพลอยเอ่ยก่อนจะพาน้องคนนั้นไปห้องสมุด

 

“ขอบคุณค่ะ พี่...”

 

“พี่ชื่อ พลอยจ้ะ เรียกพี่พลอยก็ได้นะจ้ะ”

 

“ค่ะ หนูชื่อ แบมนะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่พลอย”สาวน้อยไร้เดียงสาคนนั้นเอ่ยขึ้น

 

“จ้า เช่นกันจ้ะ”พลอยเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงมือ แบมไปห้องสมุด

 

      ทั้งสองเดินมาถึงห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเธอจึงบอกลาแบมและไปที่ห้องดนตรีเพราะอีกไม่กี่วันเธอจะต้องเข้าแข่งเปียโนระดับสากลแล้ว แต่เมื่อเธอเดินมาถึงเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเธอได้ยินเสียงเพลงที่เธอจะใช้แข่ง เพลง One in a millionความหมายแปลว่า หนึ่งในล้าน เสียงเปียโนดังขึ้นเรื่อยๆ แต่น่าแปลกใจที่ว่า ผู้นั้นเล่นได้เพราะกว่าเธอเสียอีก เธอค่อยๆย่องไปที่ประตู เอาศีรษะแนบกับประตูหมายจะฟังให้ได้ยินชัดๆแต่แล้วเมื่อเสียงเปียโนดับลง เธอก็เห็นเขากำลังเปิดประตูเข้ามา...

 

   โครม !

“เฮ้ย! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”เขาผู้นั้นอุทานขึ้นก่อนจะช่วยพยุงเธอลุกขึ้นมา

 

“ถามได้ เจ็บสิ โอ๊ย!”เธอลุกขึ้นยืนและเอามือจีบศีรษะดู

 

“เดี๋ยวผมขอดูหน่อย”เขาเอามือจับศีรษะเธอดูนั่นแหละ เธอถึงเห็นเขาอย่างชัดมาก เขาใส่เสื้อนักศึกษา เขาปลดกระดุมตรงเสื้อจุดเดียว เพราะเหงื่อออกเยอะมาก ผมปัดๆขึ้นตามสไตล์ดูเท่ไม่เบา มือของเขากำลังกดศีรษะของเธออยู่ เท่านั้นเขาก็ลดใบหน้าลงมาชนกับจมูกเธอเข้าอย่างจัง นั่นแหละ เธอหน้าแดงทันที

 

“เอ่อ...ขอบคุณนะค่ะ”เธอเอ่ยก่อนจะผลักเขาไปอย่างเบามือ

 

“ไม่เป็นไร ขอโทษด้วยที่มาใช้เปียโนของ เอ่อ...คุณชื่ออะไรเหรอ”

 

“พลอยฝนค่ะ เรียก พลอยเฉยๆก็ได้นะ ไม่เป็นไรค่ะเปียโนนี้ไม่ใช่ของพลอยหรอกของอาจารย์ที่ให้พลอยมาใช้ชั่วคราวค่ะ คุณเอ่อ...”

 

“สายเมฆครับ เรียกเมฆก็ได้”

 

“เรียกพี่เมฆดีกว่าค่ะ ดูพี่เมฆตัวโตกว่า เรียกพี่ชินดีค่ะ พี่เมฆลองเล่นเพลงเมื้อกี้ให้ดูได้ไหมค่ะ”

 

“หืม...เพลง หนึ่งในล้านเหรอ?”

 

“ค่ะ พี่เมฆเล่นเพราะกว่าพลอยอีกนะค่ะ เล่นดูสิค่ะ พลอยขอฟังอีกรอบ”เธอเอ่ยก่อนจะยิ้มหวานให้เขา เท่านั้นแหละ เขาจึงใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก

 

“เอ่อ ก็ได้ครับ พลอยมานั่งนี่สิ”เขาพูดพร้อมให้เธอนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆเปียโน ห้องซ้อมนี้เป็นหน้าต่างข้างๆ มีเครื่องปรับอากาศ เปียโนหนึ่งตัว และเก้าอี้แค่นั้นเท่านั้นเอง

 

“ค่ะ”เธอเอ่ยขึ้นและไปนั่งลงบนโซฟาอย่างง่ายดาย

 

           เสียงเปียโนขึ้นท่อนขึ้นมาอย่างไพเราะก่อนจะเล่นต่อไปเรื่อยๆไม่มีการหยุด เขาร้องไม่ค่อยจะได้ แต่ถ้าฝึกนานกว่านี้ก็อาจจะได้ เขาเล่นทำนองไปเรื่อยๆ จนมาถึงคีย์สุดท้าย หญิงสาวจ้องไม่กระพริบรู้สึกเขาเล่นได้ดีกว่าหล่อนเสียอีก หล่อ เล่นเปียโนเก่ง ผู้ชายในฝันของเธอเลยแหละ จนเสียงเพลงหยุด ความเพ้อของเธอก็หยุดลง

 

“ว้าว พี่เมฆเล่นเก่งจังเลยค่ะ”

 

“ถ้าไม่รู้อะไร มาถามพี่ก็ได้นะ แม่พี่เคยเป็นนักเปียโน พี่เลยฝึกตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้ชินแล้ว ชินแต่ทำนองนะส่วนเนื้อร้องพี่ร้องไม่ค่อยแข็ง”

 

“ค่ะ งั้นพรุ่งนี้พี่เมฆมาสอนพลอยหน่อยนะค่ะ”

 

“ได้สิครับ งั้นพรุ่งนี้ตอนเที่ยงเป็นไง”

 

“ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ” เธอยิ้มหวานให้เขาก่อนจะโบกมือลาเพราะคิดว่าวันนี้เธอคงซ้อมมาไหว เลยคิดว่าพรุ่งนี้ละกัน

น่ารัก

 

      นาทีนั้นแหละที่เมฆพยายามที่ว่าจะจีบหล่อนให้ได้ แม้จะเพียงเวลาสั้นๆที่ได้รู้จักกัน แต่เขารู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้มากๆเลยหล่ะ จะเรียกตกหลุมรักเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่วันนั้นเขาและเธอก็เริ่มสนิทกันและยิ่งรู้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับหอมแล้วหล่ะก็...เขาก็ยิ่งมีโอกาสใหญ่แต่สุดท้ายก็เป็นจริง..วันนี้แหละเขาสารภาพรักกับเธอ เขาจึงนัดเธอมาที่ห้องเปียโนที่ได้เจอกันครั้งแรก

 

“พี่เมฆ นัดพลอยมาทำไมเหรอค่ะ?”

 

“ยังจำเพลง หนึ่งในล้าน ได้หรือเปล่า?”

 

“อื้ม...ได้สิค่ะ ทำไมเหรอ”

 

“อยากฟังพี่ร้องไหมหล่ะ และมีเซอร์ไพส์ด้วย”

 

“จริงเหรอค่ะ งั้นพลอยขอเซอร์ไพส์ก่อนหล่ะกัน เดี๋ยวค่อยฟัง”เธอพูดติดตลก

 

“ไม่อยากฟังเสียงพี่ก่อนเหรอ?”เมฆเอ่ยอย่างงอนๆ

 

“อยากฟังสิค่า...งั้นพลอยฟังเพลงพี่เมฆก่อนก็ได้ค่ะ ฮิฮิ พลอยล้อเล่นค่ะ พี่เมฆอย่าโกรธนะค่ะ”พลอยเอ่ยและหันไปหยิกแก้มเขาอย่างจัง เท่านั่นแหละ เธอลืมตัวไปเลยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และรีบเอามือออกทันที

 

“หายก็ได้ครับ”เขาเอ่ยก่อนที่จะนั่งลงและหักห้ามใจที่จะจูบเธอ เพราะเธอทำปฏิกิริยาเหมือนเมื่อกี้

 

“how did I get here     I turned around and there you were I didn't think twice or rationalize' cause somehow I knew that there was more than just chemistry
I mean I knew you were kinda into me but I figured it's too good to be true “ เสียงของเขาร้องขึ้นเละร้องต่อๆไป เหมือนจะบอกความในใจสักอย่างและเขาก็ร้องมาถึงท่อนสุดท้ายก่อนจะหยิบดอกกุหลาบที่เขาเตรียมไว้ในห้องนี้แล้วยื่นให้หญิงสาว

 

“เนื่องในโอกาสอะไรค่ะ?”

 

“เป็นแฟนกับพี่นะครับ พลอย”

 

“พี่เมฆ...”เธอรับดอกกุหลาบอย่างอึ้ง ๆ และเขาก็พูดต่อ

 

“พี่ชอบน้องพลอยตั้งแต่ แรกทีเราเจอกันแล้วครับแต่พี่ขออยู่ใกล้พลอยไว้ก่อน และพี่ก็รู้ใจตัวเองแล้วว่า ‘พี่รักพลอย’ เป็นแฟนกับพี่นะครับ”

 

“ค่ะ พลอยจะเป็นแฟนกับพี่เมฆค่ะ”หญิงสาวตอบก่อนที่จะยิ้มหวานใส่เขาและเขาเข้ามากอดเธอ นี่คืออ้อมกอดครั้งแรกของเขาสองคน และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

 

ปัจจุบัน

“ฉันว่าแล้ว ว่าพลอยต้องรู้จักกับไอ้เมฆก่อน”

 

“ทายถูกแล้วหล่ะ ยัยหอม”เมฆพูดสมทบ

 

“ว่าแต่เพลงที่พลอยกับแกร้องเพลงไรนะ ไอ้เมฆ”

 

“หนึ่งในล้าน one in a million เพลงนี้ร้องไม่ค่อยยากแต่ทำนองถ้าคนที่คิดอยากจะเล่นจริงๆก็คงว่าง่ายนั่นแหละ”

 

“อื้ม เช็คบิลด้วยค่ะ”หอมเอ่ยขึ้นและเมฆเหมือนจะเอ่ยว่า ใครจ่าย? หอมไม่สนใจและยักคิ้วใส่ ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

 

“ทั้งหมด 260 บาทจ้า”ป้าเจ้าของร้านมาเอ่ยเองเพราะนี่ก็ดึกมาแล้ว พนักงานบางคนก็ขอกลับบ้านก่อน เมฆยื่นเงินให้และต้องรอหอมก่อนและหันมาคุยกับพลอยต่อ

 

“พลอยจ๋า...ถ้างานแสดงจบเราไปเล่นเปียโนที่ห้องนั้นด้วยกันอีกนะ”

 

“อื้ม...เอาสิค่ะ พลอยก็ไม่ได้ไปนานแล้ว พลอยร้องเพลงได้แล้วนะค่ะ พี่พีท รับรองพี่พีทได้ฟังเสียงเพราะๆจากพลอยแน่นอนเลยค่ะ”เธอพูดก่อนที่จะยักคิ้วใส่

 

“ครับ ที่รัก...”เขาพูดก่อนจะไปนั่งข้างๆเธอและหอมเธอฟอดหนึ่ง อย่างไม่อายคนในร้าน แต่ก็คงไม่ต้องอายหรอกนะ เพราะคนที่มากินก็ออกไปหมดแล้ว ดังนั้นในร้านมีแค่เขาสามคนถ้านับหอมด้วยนะ คนที่ถูกหอมหน้าแดงแทบจะมุดลงพื้นโต๊ะ ถึงแม้ไม่มีใครเธอก็อายเป็นเหมือนกันนะ

 

“พี่เมฆ!”เธอหันมาย่นจมูกและทำหน้างอนๆใส่ ก่อนจะผลักเขาให้ออกไปเดี๋ยวนี้

 

“โอเคครับๆ พี่ไม่แกล้งพลอยแล้วก็ได้ เราไปรอยัยหอมหน้าร้านกัน”เขาพูดพร้อมจูงมือเธอไปพร้อมกัน

 

“ค่ะ”เธอพูดพร้อมยิ้มให้เขาและจับมือเขาไปหน้าร้านพร้อมกัน

 

“เฮ้ย นี่ไม่คิดจะรอกันเลยเหรอ?”หอมเพิ่งออกจากห้องน้ำมาและเห็นสองคนนั้นจะเดินออกจากร้านพอดี

 

“ก็ฉันจะไปรอหน้าร้านไง ยัยหอมเข้าห้องน้ำนานไปละๆ”เมฆเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงแขนหอมให้ไปที่รถ

 

“ฉันไปเข้าห้องน้ำแปปเดียว เอ๊ะๆ ที่ฉันไปเข้าห้องน้ำพวกแกสวีตไรกันอยู่ปะ”

 

“บ้าเหรอยัยหอม”พลอยพูดพร้อมตีแขนเพื่อนสาวอย่างเบาๆ

 

“แสดงว่าจริง เฮ้ยๆ หน้ายัยพลอยแดงขึ้นมาเลยอ่ะ ไอ้เมฆแกทำอะไรเพื่อนฉันบอกมาเดี๋ยวนี้นะ”

 

“ไม่ได้ทำไรเลยครับ พี่หอมครับ แค่จับมือกัน เพื่อนผิดเหรอครับ?”

 

“ฉันไม่เถียงกับแกแล้วไอ้เมฆ แปะพลอยกลับบ้าน ไอ้เมฆแกต้องไปส่งพวกฉันด้วยเข้าใจไหม?”

 

“ครับๆ เชิญขึ้นรถเลยครับทั้งสองคน อ้าว! ยัยหอมแกนั่งข้างหลัง ส่วนพลอยนั่งกับพี่ข้างหน้านะครับๆ”เขาทำหน้าอ้อนสุดฤทธิ์แต่ว่า

 

“พลอยนั่งกับหอมดีกว่าค่ะ เดี๋ยวยัยหอมวีนๆใส่อีก พี่เมฆอยากโดนยัยหอมวีนใส่เหรอค่ะ?”เธอพูดติดตลกและเห็นหอมกำลังยักคิ้วใส่อย่างผู้มีชัย

 

“ก็ได้ พี่ปล่อยพลอยไปวันนึงก็ได้”เขาพูดพร้อมทำหน้าบึ้งใส่ เหมือนเด็กเอาแต่ใจที่ไม่ได้ ขนม

 

“อย่าหวานกันได้ไหมค่ะ หอมเอียนแล้วค่ะ”เพื่อนสาวพูดพร้อมปล่อยหัวเราะออกมา นี้แหละนะ สาวทอมข้างนอกเธออ่อนหวานแต่ถ้าเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆก็ อาจจะเห็น อย่างที่คุณไม่คาดคิดก็ได้ ว่าสาวสวยจะกลายมาเป็นสาวทอม แต่ถ้าเธอมีความรักเธอคงเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกันหล่ะมั้ง ให้เป็นสาวน่ารักขึ้น

 

“ค่า เพื่อนสาว”พลอยเอ่ยขึ้นและหันไปกอดหอมก่อนจะนั่งลงไปในรถ

 

      วันรุ่งขึ้นก็ต้องทำฉากละครให้เสร็จและสุดท้ายก็เสร็จอย่างสมบูรณ์แบบ การแสดงเริ่มขึ้นเมื่อถึงวันแสดง ละครเรื่องนี้คือ ความทรงจำสีจาง เรื่องราวคือ ชายคนหนึ่งสัญญากับคนรักเอาไว้ว่า เขาจะกลับมาแต่งงานกับเธอเมื่อเขาไปทำงานให้เสร็จที่ต่างประเทศภายใน 1 ปี และจะกลับมาหาเธอ หญิงสาวก็รอชายหนุ่มจนมาถึงวันที่ ชายหนุ่มจะกลับมา ชายหนุ่มกลับมาหาหล่อนแล้วก็จริง แต่บอกหล่อนว่า ยังไม่พร้อมแต่งงานกับหล่อนตอนนี้เพราะธุรกิจยังไม่เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็ไม่ว่าอะไรก็บอกว่า ‘ถ้าพร้อมเมื่อไร ค่อยมาตกลงกันก็ได้’ หลังจากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาเธอที่บ้าน บอกว่าเป็นคู่หมั้นของชายหนุ่มตั้งแต่เด็กๆแล้ว และจะมีแผนว่าจะแต่งงานกัน หญิงสาวร้องไห้คร่ำครวญและคิดสั้น หญิงสาวกรีดแขนตัวเองหลังจากนั้นเธอก็หมดลมหายใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปทันที ชายหนุ่มมาเห็นเขาร้องไห้คร่ำครวญและขอโทษหญิงสาวที่ไม่สามารถรักษา ความรักของเขาและเธอตลอด 5 ปีได้ งานศพของเธอ ชายหนุ่มนั่งร้องไห้และกล่าวขอโทษจนนับครั้งไม่ได้ หน้าสุสานของเธอ ความทรงจำของเขาและเธอไม่ได้เป็นสีขาวสะอาดสดใสและมีความรักซ่อนอยู่อีกต่อไปแล้ว กลับกลายเป็นความทรงจำนั้นสีจางมืดมนแทบจะไม่มีเหลืออยู่เลย...

 

      การแสดงจบลง เมฆและพลอยผู้เขียนบทและเขียนเพลงต่างลุ้นกันอยู่ด้านหลังเวทีด้วยความตื่นเต้นว่าการแสดงจะผ่านพ้นไปได้ไหม แต่ผลสุดท้าย เสียงปรบมือดังสนั่นจากนักศึกษาและอาจารย์ที่เข้ามาชมต่างร้องไห้ไม่ก็รู้สึกอินต่างลุกขึ้นปรบมืออย่าง ภาคภูมิใจ การแสดงจบลงทุกคนต่างพากันกลับบ้านไม่ก็ไปเตรียมตัวซ้อมรับปริญญาที่จะถึงอีกอาทิตย์นี่แล้ว ถัดไปจากโรงละครห้องซ้อมเปียโนยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แสงอาทิตย์สอดส่องลงมาทางหน้าต่าง เปียโนอยู่ตรงกลางพร้อมที่จะให้ใครสักคนมาเล่นบทเพลงนี้...

 

“พี่เมฆค่ะ พี่เมฆยังจำเพลงได้อยู่เหรอค่ะ พลอยก็นึกว่าพี่เมฆลืมไปแล้ว เพราะเห็นพี่เมฆชอบบ่นกับยัยหอมบ่อยๆนึกว่าจะเป็นคนแก่ขี้ลืมไปเสียแล้ว”เธอพูดติดตลกเขาจูงมือเธอให้มานั่งลงตรงเก้าอี้ที่เล่นเปียโน

 

“ว่าพี่อีกแล้วนะเรา อยากโดนทำโทษเหรอ หืม?”เขาพูดจบก็มานั่งลงข้างเธอและกอดเธอให้มาอยู่ในอ้อมแขนของเขา

 

“ทำโทษ? ทำโทษอะไรค่ะ พลอยทำอะไรผิด แค่ล้อเล่นแค่นั้นเอง”เธอย่นจมูกใส่เขาแต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเขาก้มลงมาหอมแก้มเธอดัง ฟอด

 

“พี่เมฆ แกล้งพลอยอีกแล้วนะค่ะ”เธอพูดพร้อมลูบแก้มปอยๆ และหันมาตีแขนเขาอย่างแรง

 

“โอ๊ย ตีพี่ทำไมครับคนดี เดี๋ยวโดนอีกนะ”เขาพูดพร้อมจะหันลงมาหอมเธออีกรอบแต่เธอยอมที่ไหนเสียหล่ะ ทำไมเธอต้องเป็นลูกแกะในมือหมาป่าอย่างเขาด้วยนะ

 

“พี่เมฆค่ะ พอแล้วค่ะ จะเล่นไหมค่ะเพลงเนี่ยะ”เธอเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับหันมาสนใจเปียโนต่อ

 

“ครับๆ โอเคครับ เดี๋ยววันหน้าก่อนเถอะ ถ้าพี่ขอเราแต่งงานและเราเป็นภรรยาพี่เมื่อไหร่นะ พี่จะอยู่กับเราตลอดทั้งวันทั้งคืนไม่ให้เราไปไหนเลยทีเดียว”เขาพูดเหมือนเขาวางแผนอนาคตไว้แล้วอย่างนั้นหล่ะ?

 

“งั้นพี่เมฆคงต้องยากหน่อยแล้วหล่ะค่ะ เพราะพลอยเป็นคนเอาแต่ใจ พลอยอาจจะให้พี่เมฆไปขอพลอยที่ต่างประเทศเลยก็ได้นะค่ะ”เธอหยอกล้อใส่เขา

 

“งั้นพี่ก็จะตามเราไปทุกที่เลย จนกว่าเราจะมาเป็นเจ้าสาวให้พี่”

 

“พี่เมฆ จะรักพลอยจนถึงวันนั้นจริงๆเหรอค่ะ”เธอเสียงอ่อนลงเพราะดูจากคู่ที่ผ่านๆมา เธอก็เห็นความรักไม่สมหวังกันทั้งนั้น ดูอย่างหอม เพื่อนเธอสิต้องมาเสียน้ำตาเป็นกี่ครั้งแล้วเธอก็ไม่รู้ และถ้าถึงตาเธอขึ้นมาหล่ะเธอจะทำใจได้ไหม?

 

“ทำไมพูดอย่างนั้นหล่ะ? พี่ไม่มีวันรักใครได้อีกนอกจากพลอย เพราะพลอยเป็นดวงใจของพี่ และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป พลอยเชื่อพี่นะครับ ว่าผู้ชายที่ชื่อ สายเมฆ คนนี้จะไม่ทำให้พลอยต้องเสียน้ำตา”เขาพูดพร้อมดึงเธอเข้ามากอด

 

“ค่ะ พลอยก็สัญญานะค่ะ ว่าพลอยฝนคนนี้จะไม่ทำให้พี่เมฆต้องทุกข์ใจค่ะ ถึงแม้ว่าพลอยจะดื้อ เอาแต่ใจ เป็นเด็กไม่รู้จักโต แค่นิดหนึ่งเท่านั้นนะค่ะ”เธอพูดพร้อมคลายอ้อมกอดจากเขาและหันมาย่นจมูกใส่

 

“พี่ว่าไม่นิดนะ มากเลยแหละ”เขาพูดพร้อมมายีหัวเธอ

 

“พี่เมฆ !”เธอพูดเสร็จก็หันไปหยิกแขนเขาอย่างจัง

 

“โอ๊ย ! พี่ยอมแล้วครับที่รักครับ นิดหนึ่งก็ได้ครับๆ เรามาเล่นเพลงกันดีกว่านะ”เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันทีและทำท่าที่เล่นเพลงแล้วเสียที

 

“ค่ะ”

 

   เสียงมือกดลงคีย์เปียโนเริ่มต้นขึ้นและมีสัญญารบอกว่าถึงท่อนแรกที่จะเริ่มร้องแล้ว พลอยเริ่มขึ้นเนื้อร้องและร้องต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับเขาที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ตอนนี้...

 

How did I get here
I turned around and there you where
Didn´t think twice or rationalize
Cause somehow I knew
That there was more that just chemistry
I mean I knew you were kind of into me
But I figured it´s too good to be true

I said pinch me, where´s the catch this time
Can´t find a single cloud in the sky
Help me before I get use to this guy

They say that good things take time
But really great things happen in a blink
Of an eye
Thought the chances to meet somebody
Like you were a million to one
Can´t believe it
You´re one in a million

 

All this time I was looking for love
Tryna make things work that weren´t good
enough
till I thought I’m through, said I’m done
then stumbled into the arms of the one

They say that good things take time
But really great things happen in a blink
Of an eye
Thought the chances to meet somebody
Like you were a million to one
Can´t believe it
You´re one in a million

 

 

 http://www.keedkean.com

 

http://www.keedkean.com

 

__________________________________________________________

 

สวัสดีค่า >/\< คนที่เคยติดตามนิยายของไรเตอร์ เรื่อง 'นิยามความรัก , Alice&Romeo,HSM โรงเีรียนผีสิง ขอบอกว่าตอนนี้ หยุด  อัพเเล้วค่ะ (โดนทุกคนถีบ กระเชือด มีดผ่าคอ อ๊อก! ทำไมเจ้าไม่อัพ) เเต่ๆมีนิยายเรื่องใหม่มาค่า ขอบอกเลยว่า ไม่ดอง  เเล้วเเต่ เกือบ  จบเเล้วค่า เรื่องนี้มีอยู่ 9 ตอนค่า ได้กระอักเลือดความหวานของพระเอกเเละนางเอกได้เเน่นอนค่า ขอบคุณที่ติดตามนะค่ะ 

 

 

 

เม้น 10+ อัพพๆ T T เม้นหน่อยเถอะ สาธุๆ 

ใครเม้นขอให้มีความรักยืนๆยาวๆเหมือนในนิยายค่ะ 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา