Him can I love you please รักผมสักทีนะที่รัก

3.3

เขียนโดย Bamy

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.05 น.

  3 chapter
  2 วิจารณ์
  5,899 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) จุดเริ่มต้น....

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผู้ชาย กับ ผู้ชาย...

ผู้หญิง กับ ผู้หญิง....

หลายคนมองว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงสิ คบเพศเดียวกันมันไม่ยั่งยืนเพศนี้ถูกประนามว่า "เพศที่3" ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวผม มันทำให้ผมนั้นสับสน ว่าผมนั้น ชอบผู้หญิง หรือ ผู้ชาย....

 

. . . . .

 

เช้าวันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2554 
เวลา 08:45
ผมนั่งจิบกาแฟอยู่ที่คอนโด พร้อมกับอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์อย่างที่ทำทุกวัน 
ตู๊ดๆๆ~ เสียงโทรศัพท์ของ 'นที' ดังขึ้น เจ้าตัวหยิบมันขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาคือใคร
"ว่าไงว่าน มีอะไรถึงโทรมาหาผม"
"ว่านแค่อยากรู้ว่า นทีจะรับสายว่านหรือเปล่า เพราะช่วงนี้เราดูห่างเหินกันมากเลย ว่านไม่รู้ว่านทีมีว่านคนเดียวหรือเปล่า" 
"ว่านครับ เราเป็นอะไรกันเหรอครับ ผมคิดกับว่านเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นนะ ถ้าว่านโทรมาอีกครั้งผมจะถือว่าเราไม่รู้จักกัน!!" นทีกดวางสายอย่างเบื่อหน่าย เขาไม่รู้หรอกว่าว่านไฉโทรมาหาเขากี่ครั้งในหนึ่งวันเพราะเขาขี้เกียจนับ!  วันนี้ไม่มีงานให้ทำเขาไม่รู้จะทำอะไรดี จะไปร้านหนังสือก็ต้องเจอว่านไฉอีก เฮ้อ~ วันเกิดเราทั้งที ไอ้คินก็ไม่ว่าง ไอ้เบสก็ไปต่างจังหวัด เฮ้อ~ มีเพื่อนเหมือนไม่มี 
ณ โรงพยาบาลศิริราช
"ฮัด เช้ยยยย!!"เสียงจามของ 'ภาคิน' ดังขึ้น เขาดึงทิชชู่มาซับจมูกอย่างเบามือ 
"ใครนินทาแต่เช้าเนี่ย" ภาคินมองนาฬิกาในห้อง บอกเวลาเก้าโมง
"ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลยแฮะเรา ออกไปหาอะไรกินหน่อยดีกว่า"ภาคินออกไปข้างนอกห้องก่อนที่จะเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่มีพยาบาลพิมนั่งอยู่
"พยาบาลพิม"เขาเรียกชื่อพยาบาลที่กำลังนั่งจดงานยิกๆ ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วรีบยกมือสวัสดีภาคิน
"อุ้ย สวัสดีค่ะ หมอคิน มีอะไรให้ดิฉันช่วยคะ"
"คือ ผมอยากรู้ว่า ผมมีเคสนัดตรวจตาตอนเช้านี้เมื่อไร" เมื่อสิ้นเสียงภาคิน พยาบาลพิมรีบหาแฟ้มตารางงานของภาคินทันที
"มีนัดตรวงต้อกระจกให้คุณ อนุกรณ์ ตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ"
"โอเคครับ เดี๋ยวผมจะออกไปทานข้าวข้างล่างสักหน่อย ไปนะครับ" เขาบอกพยาบาลพิม ก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับแล้วจดงานต่อ ภาคินเดินลงไปข้างล่าง เขาต้องเดินเลาะไปบนฟุตบาทที่มีแผงลอยขายอาหาร ผลไม้ เสื้อผ้าเกะกะจนไม่มีทางเดิน แต่ก็ไปว่าอะไรเค้าไม่ได้ เพราะเขาทำมาหากินเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปไล่เค้าเพราะเราไม่ใช่เจ้าของที่ เฮ้อ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ภาคินคิดก่อนที่จะก้าวเท้าฉับๆ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เขามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองใกล้จะเก้าโมงครึ่งแล้วต้องรีบหน่อยแล้ว กว่าเขาจะเดินมาถึงร้านก็ใช้เวลาราวๆสิบนาที เขามองหาที่ว่างอย่่างรวดเร็วเมื่อมานั่งที่โต๊ะแล้วบริกรก็ยกนํ้ามาเสิร์ฟพร้อมกับยื่นเมนูให้ เขาเปิดดูหน้าอาหารตามสั่งแล้วหันไปหาบริกร
"เอากระเพราหมูสับราดข้าวครับ อ้อ ไม่ใส่กระเทียมนะ แล้วก็..." เขาหันกลับมามองที่เมนูอีกครั้ง
"แล้วก็ผัดเผ็ดปลาเก๋าราดข้าวใส่กล่องครับ"เขายื่นเมนูให้บริกร บริกรรับก่อนที่จะเดินออกไป
เวลาผ่านไปไม่นานผัดกระเพราหมูสับก็มาอยู่ตรงหน้า เขาหยิบช้อนซ้อมขึ้นมาแล้วตักผัดกระเพราตรงหน้าขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะเอาเข้าปากเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ภาคินวางช้อนซ้อมลงอย่างหน่่ายๆ ก่อนที่จะกดรับ แล้วพูดอย่างอารมณ์เสีย
"ไอ้ที มึงจะโทรหากูทำเตี่ยไร กูไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าให้กูกินข้าวสงบๆไม่ได้หรือไงวะ"
"เออ กูขอโทษ กูแค่จะโทรมาบอกมึงว่่า มึงคงไม่ลืมใช่ไหมว่าวันนี้วันอะไร"
"วันหวยออกไง ทำไมกูจะจำไม่ได้"
"เออ มึงกับกูขาดกัน"ปลายสายทำเสียงหงอย
"ฮ่าๆๆ กูล้อเล่น เบิร์ดเดย์ว่ะเพื่อน"
"ขอบใจว่ะ กูคิดว่ามึงจะลืมวันคล้ายวันเกิดกูซะแล้ว"
"เออ ไม่ลืมหรอกใครจะลืมวันเกิดเพื่อนที่คบกันมา11ปีวะ"
"กูรู้สึกว่ากูดูแก่ขึ้นว่ะ ฮ่่าๆ"ปลายสายพูด
"เดี๋ยวไม่มีสาวติดนะโว้ย ไม่รู้ด้วย ฮ่าๆ"
"กูไม่สนหรอก สาวบ้าแล้วบออะไร ผู้หญิงที่กูรักคือแม่คนเดียวโว้ย"
"มึงเป็นป่ะเนี่ย!"
"เออ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ เงินกูจะหมดแล้ว คืนนี้บ้่านกูสองทุ่ม"ปลายสายพูดแล้วกดวางไป
ภาคินมองโทรศัพท์ตัวเอง แล้วตะโกนขึ้นจนคนในร้านสะดุ้ง
"เฮ้ย!!! สิบโมงครึ่ง" เขารีบตักข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าข้าวผัดกระเพราจานนั้นหมดลงเพียง2นาทีครึ่งเท่านั้น ภาคินยกนํ้าขึ้นดื่มก่อนที่จะล้วงเงินในกระเป๋าสตางค์120บาทวางไว้บนโต๊ะก่อนที่จะวิ่งไปพร้อมกับถุงข้าวกล่องผัดเผ็ดปลาเก๋าที่บริกรวางไว้ตอนไหนก็ไม่รู้ไป...
การให้คนไข้รอหมอไม่ใช่เรื่องดีเขาเลยสวมวิญญาณนักวิ่งเหรียญเงินสามสมัยวิ่งไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อถึงหน้าลิฟต์แล้ว ภาคินถึงกับหอบแฮ่กๆเพราะการวิ่งกลับมายังโรงพยาบาลเหมือนกับการวิ่งหลบสิ่งกีดขว้างเหมือนคาบวิชาพละชะมัด เมื่อลิฟต์เปิดปรากฏร่างของยามอุ่นที่นั่งอยู่คอยกดชั้นลิฟต์ยามอุ่นเป็นยามที่เขาเจอหน้าทุกเช้าเวลาเขาเข้าเวรตอนเช้ามืด ภาคินไม่รอช้ารีบเข้าไปในลิฟต์ทันที แต่ยังไม่ทันที่ภาคินจะบอกชั้นยามอุ่นก็กดชั้น5ซึ้งเป็นชั้นที่ภาคินอยู่พอดี ภาคินยิ้มให้ยามอุ่น ยามอุ่นยิ้มกลับมาแต่แววตาเขาเศร้าหมอง แต่ภาคินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เมื่อถึงชั้น5แล้วภาคินเดินออกไปจากลิฟต์ทันที เขามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วเดินผ่านสายตาผู้คนที่มาตรวจตานับร้อย แล้วก้าวเท้าฉับๆอย่่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินเข้าห้องตัวเองแล้วเลื่อนประตูปิดดัง ปั๊ก!
"เฮ้อ"ภาคินถอนหายใจ ทันหวุดหวิดเว้ยเฮ้ย เขาวางถุงข้าวกล่องแล้วมองนาฬิกาของตัวเอง
" สิบ นา ฬิ กา ห้า สิบ เจ็ด นา ที สาม สิบ วิ นา ที ฮึ่ม!" เขาพูดก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับเอนกายเต็มที่ ...
ก็อก ก็อก ก็อก.. 
"หมอคินคะ ดิฉันเข้าไปนะคะ"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ภาคินรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที เขาไม่ลืมที่จะหยิบถุงกล่องข้าวซ่อนไว้ในลิ้นชักอย่างที่เคยทำ
"เชิญครับ".......
จบตอน1.....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา