ป่วนหัวใจกับนายจอมหยิ่ง

10.0

เขียนโดย Water_Fall

วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.21 น.

  18 chapter
  20 วิจารณ์
  24.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 00.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) แขกที่คาดไม่ถึง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         ร่างบางตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย เธอหลับไปกว่าสองชั่วโมงแล้วสีหน้าที่เหมือนจะเคลิ้มหลับอีกครั้งบ่งบอกได้เลยว่า เธอเหนื่อยมากขนาดไหน ข้อมือข้างซ้ายที่ถูกผ้าสีแดงผันไว้แน่นกับข้อมือข้างขวาของชายหนุ่มยังคงแน่นเอียดเหมือนจะเป็นเคราะห์กรรมที่เขาทั้งคู่สั่งสมมา "ทำยังไงก็ไม่ออกซะที ไำอ้ผ้าบ้า" หญิงสาวสบถใส่ผ้าที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ามันมีความผิดอย่างไร และถึงแม้เธอจะด่าท่อมันไปเพียงใด มันก็ไม่ยอมหลุดออกจากข้อมือของเธอและเขาไปง่ายๆ กลับแต่จะรัดแน่นขึ้นทุกขณะที่เธอขยับข้อมือ

       

        ปัง ปัง ปัง < เสียงทุบประตูดังลั่น จนหญิงสาวต้องสะดุ้งตัวโยง หัวใจเธอเต้นระบำอย่างหนักเมื่อรู้อยู่แล้วว่า แขกผู้มาเยือนนั่นเป็นใคร

       

        "บ้าจริง ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยนะ" หญิงสาวลุกขึ้นและกำลังจะคลี่คลายสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นไม่กี่นาทีต่อจากนี้ แต่ก็ได้แค่นั่งอยู่บนเตียงสีฟ้าสดใสของพี่ชายบังเกิดเกล้า  

 

        ไม่นานต่อจากนั้น ชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆก็พลันตื่นขึ้น เขามองหน้าหญิงสาวด้วยความมึนงงปนสงสัย ใบหน้าที่ดูมีพิรุจและเสียงหอบหายใจร่วนเร ทำเอาชายหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้เลยว่า เธอคนนี้กระวนกระวายใจเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ประกอบกับเสียงเคาะประตูที่เริ่มจะดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มที่เป็นคนขี้สงสัยอยู่แล้ว เขาจึงพยายามจะออกไปต้อนรับต่อแขกผู้มาเยือน แต่ด้วยผ้าสีแดงที่เป็นเครื่องมือพันธนาการชั้นเยี่ยม ทำเอาเขาต้องออกแรงที่จะลากหญิงสาวที่ติดพร่วนมากับเขาด้วย

 

        "นายจะไปไหน" หญิงสาวถามพลางใช้มือข้างที่เป็นอิสระเกาะเตียงไว้แน่น เพื่อไม่ให้เขาคนนั้นเดินไปที่ประตูได้ ชายหนุ่มเมื่อเห็นอาการแปลกๆของหญิงสาว ถึงกับแปลกใจอยู่ไม่น้อย ยัยนี้ซ่อนอะไรไว้กันแน่นะ

 

        "เธอไม่ได้ยินเสียงคนเคาะประตูหรือไง" โทโมะถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเสียงเคาะประตูชักจะทำให้ตัวของเขารำคาญ ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด ชายหนุ่มใช้กำลังทั้งหมดฉุดหญิงสาวไปกับเขาด้วย หญิงสาวได้แต่ส่งเสียงค้านอย่างหนักแน่น ทำเอาเขายิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

 

         ชายหนุ่มมาถึงประตูเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้เขาจะต้องออกแรงอย่างมากก็ตาม กว่าที่จะทำให้เธอคนนั้นหมดฤทธิ์ เขายื่นมือไปเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน หญิงสาวเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบห้ามปรามเขาไว้ทันที ก่อนจะเอ่ยบอกกับชายหนุ่ม "ฉันว่าอย่าดีกว่า" หญิงสาวอ้างนู่นอ้างนี่เพื่อให้ชายหนุ่มยอมเชื่อ แต่เหมือนจิตใจของเขาจะหนักแน่นพอที่จะไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถึงตัวเขาเองจะเป็นคนขี้สงสารยังไง แต่ก็ไม่ได้จะหลงคารมของเธอเลยแม้แต่น้อย

 

       "ท่าทางร้อนรนจังนะ เธอน่ะ" ชายหนุ่มทำทีไม่สนใจ เขายื่นมือไปสัมผัสกับลูกบิดประตูอีกครั้ง เสียงแกร่กของกลอนที่ล็อคไว้ ทำเอาหญิงสาวหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ ความลับที่เธออุตส่าห์ปกปิดไว้กำลังจะพังทลายแล้วยังงั้นเหรอ  

 

         "ตายแน่ฉัน"  

 

       ชายหนุ่มเปิดประตูต้อนรับแขกคนนั้นทันที และเมื่อหญิงสาวได้เห็นหน้าของแขกผู้ต้องสงสัย ความตื่นเต้นและอาการระส่ำระส่ายก็หายออกไปจากตัวเธอจนปริดทิ้ง ภาพเด็กหนุ่มฝาแฝดที่พลันเข้ามาในหัวของเธอก็จางหายไปเรื่อยๆ ณ ตอนนี้ หญิงสาวโล่งใจอยู่ไม่น้อยเมื่อพบกับแขกคนดังกล่าว 

 

          "ยัยฟาง" เสียงหญิงสาวเอ่ยทักเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถม บ่งบอกได้เลยว่าคนที่มาหาเธอก็คือหญิงสาวร่างเล็กตาแป๋วท่าทางแอ็บแบ๊วที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชวนให้ชายหนุ่มมองเธออย่างไม่ละสายตา 

     

         "เธอคือคนที่อยู่ห้องเดียวกับไอ้ป๊อปปี้นี่" 

 

         "เลิกพูดถึงหมอนั่นซะทีเถอะ ฉันไม่อยากได้ยิน" หญิงสาวร่างเล็กที่พลันได้ยินชื่อที่เธอจงเกลียดจงชังหนักหนา ก็โปรยอารมณ์กึ่งหงุดหงิดกึ่งรำราญใส่ชายหนุ่มมาดขรึมทันที 

 

         "ว่าแต่ เธอมาที่นี่ได้ไง" หญิงสาวร่างบางเอ่ยถามเพื่อนอย่างสงสัย เพราะว่าตัวเธอและเพื่อนๆมาทำกิจกรรมนอกสถานที่ ที่ดูจะไกลมากๆเมื่อเทียบกับระยะทางทั้งหมด และที่สำคัญไปกว่านั้้น ทำไมเพื่อนของเธอจึงรู้ว่า เธออาศัยอยู่ที่หอของพี่ชายฝาแฝดที่เช่าเอาไว้

 

           พลันได้ยินดังนั้นหญิงสาวร่างเล็กตาแป่วคนนี้ก็เข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อนสนิทของเธอทันที

 

           "พอดีฉันไปเจอพี่กล้าที่ร้านเครื่องเขียนน่ะ เขาบอกว่าเธออยู่ที่นี่ และยังบอกอีกว่า ถ้าเกิดอีตาโทโมะนั่นมา ช่วยเอารูปภาพที่อยู่ใต้เตียงฝากให้หมอนั่นด้วย"

 

           "แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ" หญิงสาวร่างบางเอ่ยถามอีกครั้ง และไม่ลืมที่จะถามถึงพี่ชายตัวดี ที่ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่า เขาอยู่ที่ไหนกันแน่

 

          "พี่กล้ากลับกรุงเทพไปแล้วล่ะ เห็นบอกว่าจะเอารูปที่พี่เค้าวาดไปส่งอาจารย์ที่อเมริกาน่ะ"

 

          "งั้นเหรอ" หญิงสาวถอนใจลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปที่เตียงสีฟ้าเพื่อไปเอาภาพวาดที่พี่ชายฝาแฝดไหว้วานให้เธอเอาไปให้ชายหนุ่มที่ติดสอยห้อยตามเธอมาด้วย 

 

          "นี่อะไรเหรอ" ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นกรอบสี่เหลี่ยมขนาดหนึ่งเมตรที่อยู่ในมือของหญิงสาว 

 

          "อะ พี่ฉันให้นายน่ะ" หญิงสาวยื่นกรอบสี่เหลี่ยมนั่นให้โทโมะด้วยความไม่เต็มใจมากนัก ถึงจะรู้สึกแปลกใจกับการกระทำอันไร้เหตุผลของผู้เป็นพี่ แต่ก็ยอมให้เขาแต่โดยดี ถึงแม้ว่าตนเองจะรู้สึกเสียดายภาพวาดที่พี่ชายอุตส่าห์นั่งวาดทั้งคืน 

 

          "นี่มันรูปฉันนี่" ชายหนุ่มตกใจทันทีที่เห็นหน้าของเขาไปอยู่ในภาพวาด หน้าผากอันโดดเด่น และคางอันแหลมคมของชายหนุ่มในรูปภาพ ชั่งตรงกับตัวจริงที่ยืนทำหน้าตกตะลึงยิ่งนัก

 

          "นี่มันภาพเมื่อวันก่อนนี่" พลันได้เห็นรูปวาดที่ผู้เป็นพี่ตั้งใจจะวาดขึ้น หญิงสาวร่างบางก็ตกใจเช่นกัน พร้อมกับตรวจดูอย่างละเอียดว่า มันใช่ภาพเดียวกันกับเมื่อวันก่อนหรือไม่

 

          "นี่ยัยปากจัด พี่ชายของเธอเคยเจอหน้าฉันด้วยหรอ" ชายหนุ่มถามหญิงสาวที่ยังคงทำหน้าทะมึ๋งตึงอยู่ข้างๆ เขาสงสัยและแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะตนก็ไม่เคยเจอหน้าพี่ชายของสาวร่างบางคนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ทำไมพี่ชายของแม่สาวคนนี้จึงได้วาดรูปของเขาได้เหมือนตัวจริงเป๊ะซะขนาดนั้น

 

         "ใครจะไปรู้ล่ะ ก็มันเข้าๆออกๆแทบทุกวัน ฉันไม่ได้มีหน้าที่ติดตามมันซะหน่อย" หญิงสาวตัดความสงสัยของชายหนุ่มไปอย่างไม่ใยดี เธอไม่มีความสงสัยอะไรเลยแม้น้อย เพราะตัวเองไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด

 

          "ว่าแต่ พวกเธอสองคนเล่นอะไรกันเนี่ย" สาวร่างเล็กที่เงียบมานานก็ถามทั้งสองที่มีอารมณ์ต่างกัน พลางชี้ไปที่ข้อมือของทั้งคู่ที่เหมือนจะมีบางอย่างพันธนาการเอาไว้

 

          "ก็โดนอาจารย์ลงโทษน่ะสิ จริงด้วย ยังต้องซื้อวัตถุดิบที่เหลือนี่นา" พลันได้ฟังถึงคำพูดของสาวร่างเล็ก หญิงสาวร่างบางก็นึกขึ้นได้ทันทีว่า ตัวเองยังมีภารกิจที่สำคัญอยู่ และถ้าเกิดเธอทำไม่สำเร็จ พวกเขาทั้งคู่ก็จะเด้งออกจากโรงเรียนรัฐแห่งนั้นทันที

 

           "ก็เธอมัวแต่เพ้อเจ้ออยู่น่ะสิ" ชายหนุ่มโวยใส่หญิงสาวที่ยังยืนเกาหัวอยู่ข้างๆ

 

          "นี่นายกล้าว่าฉันเรอะ"

 

          "ยังจะมาทำเป็นหาเรื่องอีก รีบไปกันได้แล้ว เร็วเข้า" ชายหนุ่มชี้นาฬิกาให้กับเธอคนนั้นได้ดู เหลืออีกแค่หนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเลยกำหนดของภารกิจครั้งนี้ พลันได้เห็นดังนั้น เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร รีบฉุดกระชากลากถูชายหนุ่มเคราะห์ร้ายให้ลงไปกับเธอทันที 

 

           "ยังสดใสเหมือนเดิมเลยนะยัยแก้ว" สาวร่างเล็กที่เห็นท่าทางร่าเริงของเพื่อนสาว ก็อดขำไม่ได้ถึงเอกลักษณ์ที่เหมือนจะเ็ป็นตัวตนที่หาได้ยากของเธอ จากนั้นตัวเธอเองก็พาร่างอันบอบบางติดตามพวกเขาทั้งคู่ไปทำภารกิจสำคัญนั่นต่อ 

 

                             จะเป็นยังไงต่อน้า ติดตามตอนต่อไปครับ

           

         

         

  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา