ป่วนหัวใจกับนายจอมหยิ่ง

10.0

เขียนโดย Water_Fall

วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.21 น.

  18 chapter
  20 วิจารณ์
  24.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 00.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) วันเฮงซวยของยัยขี้วีน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        ตอนนี้ฉันอยู่ที่ชมรมบาส เพราะนี่เป็นคาบสี่ ซึ่งเป็นวิชาพละ และเมื่ออยู่ม.4 มันก็ต้องเรียนบาสเก็ตบอล และมันก็เป็นวิชาที่ฉันถนัดซะด้วย แต่มีอีกเรื่องที่ฉันยังไม่ได้บอกไปก็คือ ฉันต้องปิดตาข้างขวาไว้ เพราะเป็นโรคตาแดง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าฉันดันร้องไห้กับไอ้คุณพี่กล้าทั้งคืนน่ะสิ มันก็เลยทำให้จุดโฟกัสของฉันร่วนไปหมดก็เพราะไอ้ผ้าปิดตานี่แหละ และที่สำคัญไปกว่านั้น วันนี้ดันเป็นวันที่ฉันจะต้องสอบยิงจุดโทษซะด้วย คนอะไรมันจะซวยขนาดนี่เนี่ย

        "จริญญา ตาเธอแล้วนะ" 

        "คร้าาาา" ฉันก้าวไปยืนแถวๆจุดโทษทันที จากนั้นก็หยิบลูกบาสขึ้นมาและจ้องมองห่วงอย่างแน่วแน่ ก่อนจะชูมือขึ้นและชู้ตอย่างตั้งใจ

     แป๊ก< ลูกบาสสัมผัสห่วงแล้วก็จริง แต่มันกลับเด้งไปโดนหน้าของฉันเต็มแรง หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบลง

     

       ฉันมาตื่นอีกทีที่ห้องพยาบาล ตอนนี้ก็เที่ยงยี่สิบนาที ฉันหันหน้าไปมองทางขวาก็พบเจ้าคนจอมหยิ่งนั่งหลับอยู่ข้างๆ ฉันแปลกใจมาก เพราะจำอะไรไม่ได้เลย

       "โทโมะ ไอ้-โทโมะ" ฉันตีไปที่หลังของมันเต็มแรง จากนั้นมันก็สะดุ้งตื่น ก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยท่าทางแตกตื่น

       "ฟื้นแล้วหรอ"

       "นายเห็นฉันหลับอยู่หรือไง"

       "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นฉันไปนะ" ไอ้โทโมะนั่นกำลังจะลุกไป แต่ฉันก็รั้งมันไว้ซะก่อน มันมองมาที่ฉันอย่างแปลกใจ

       "นายจะไปไหน"

       "ฉันจะไปซื้อข้าว แล้วเธอล่ะจะเอาอะไร"

       "นี่นายจะเลี้ยงฉันหรอ ขอบใจนะ" ฉันยิ้มให้พร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มใส่มัน

       "ใครบอกว่าจะเลี้ยง เอาเงินมา"

       "เชอะ นึกว่าจะเป็นคนดีซะอีก เอ้า เอาไป" ฉันยื่นเงินให้หมอนั่น จากนั้นมันก็เดินออกไปด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ผ่านไปไม่นานโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น ใครกันนะโทรมาเวลานี้ ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก็พบว่า เป็นพ่อของฉันนั่นเอง เอ๊ะแล้วพ่อจะโทรหาฉันทำไมเนี่ย หรือว่าที่บ้านมีเรื่อง

       "ค่ะพ่อ" ฉันทำเสียงหวานสุดฤทธิ์ เพราะพ่อฉันดุเอามากๆ

       "(ยัยแก้วเป็นอะไรหรือป่าว บาดเจ็บตรงไหนไหม)" พ่อฉันโวยวายจนฉันแสบแก้วหูไปหมด แล้วป๊ะป๋าจะโวยเรื่ยงอะไรของเขากันล่ะเนี่ย

       "ใจเย็นก่อนสิพ่อ ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย" 

       "(ก็ทางโรงเรียนบอกว่า เธอโดนลูกบาสอัดเต็มแรงนี่)"

       "โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะ งั้นแค่นี่ก่อนนะค่ะ"

       "(เดี๋ยวก่อน พอดีทางโรงเรียนเข้าอนุญาติให้เธอกลับได้น่ะ แต่ฉันติดประชุมอยู่ ถ้ายังไงเดี๋ยวให้เจ้ากล้าไปรับเธอก็แล้วกันนะ)"

       "ว่าไงนะ ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะพ่อ นี่พ่ิอ" สุดท้ายฉันก็เรียกไม่ทัน พ่อฉันวางสายทันที ฉันวางโทรศัพท์ลงข้างๆตัว ก่อนจะเอามือกุมที่หัว ในที่สุด วันมหาซวยก็มาถึงแล้วสินะ นี่เราจะทำอะไรไม่ได้เลยงั้นเรอะเนี่ย

       "มีอะไรหรือป่าว ปวดหัวหรอ" และแล้วหมอนั่นก็กลับมา พร้อมถ้วยมาม่าราคาสิบกว่าบาท เรื่องทางบ้านก็แย่อยู่แล้ว ยังจะต้องมาปวดหัวกับเจ้านี่ด้วยอีกเรอะฟะ

       "ฉันบอกให้ไปซื้อข้าว ไม่ได้จะเอามาม่า" ฉันบ่นอย่างหัวเสีย

       "ฉันว่ามาม่าเนี่ย ดีกว่าข้าวของเธออีกนะ"

       "มันดีกว่าตรงไหนมิทราบ มีแต่โปรแตสเซียม กระดูกฉันได้พรุนพอดี"

       "ถ้าข้าวเธอดีจริง แล้วทำไมตาเธอถึงแดงแบบนั้นล่ะห่ะ"

       "นายรู้ด้วยหรอ ว่าตาฉันแดงอ่ะ" อุตส่าห์ปิดไว้แล้วนะเนี่ย ทำไมหมอนั่นถึงรู้ได้นะ

       "ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็เธอเล่นไม่ใส่ผ้าปิดตาเลยนี่นา"

       "ว่าไงนะ ไม่ได้ใส่ไว้ยังงั้นเรอะ" ฉันรีบเอากระจกมาส่องทันที และเมื่อมองไปที่กระจก ก็พบว่าผ้าที่ปิดตาฉันหายไป สงสัยคงจะหลุดตอนที่ถูกลูกบาสอัดใส่

       "เธอนี่บื้อชะมัด" หมอนั่นพูดเสร็จก็เอาถ้วยมาม่าของมันวางไว้และเอาพัดลมมาเป่า อะไรของมันกันนะ ทำแบบนั้นเดี๋ยวเส้นก็อืดกันพอดี

       "นี่ไอ้โทโมะ ทำไมไม่รีบกินซะล่ะ เดี๋ยวมาม่าของนายก็เย็นหมดหรอก" ฉันชี้ไปที่ถ้วยมาม่าของมัน

       "เย็นแบบนี้แหละดี" หมอนั่นตักมาม่าเข้าปาก ก่อนจะชูดปากเหมือนจะอร่อยมาก มาม่าที่เย็นเจี้ยบขนาดนั้น มันจะอร่อยขนาดนั้นเลยหรือไง

      หลังจากที่กินมาม่าพร้อมกับหมอนั่นไปพลางๆ จู่ๆโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้กับเป็นไอ้คุณพี่กล้า ที่ขอบอกไว้เลยนะว่า มันอาจจะมาถึงโรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่แล้วแน่ๆ

       "ไงไอ้กล้า" ฉันพูดเสียงเบา เพราะกลัวไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆจะได้ยิน

       "(เธออยู่ไหนน่ะ)"

       "อะเอ่อ ฉัน... ฉันอยู่บ้าน" ฉันต้องรีบหาทางแก้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นฉันกับมันพร้อมกัน ก็อย่างที่บอก ถ้าเกิดคนอื่นเห็นพวกฉันล่ะก็ มีหวังต้องถูกมองเป็นตัวประหลาดแน่ๆ

       "เลิกโกหกได้แล้วน่า" 

       "ป่าวโกหกซะหน่อย" ไอ้นี่มันไม่ยอมเชื่อง่ายๆจริงๆด้วย

       "ฉันอยู่หน้าโรงเรียนนะ ยังไงก็รีบมาล่ะ" ไอ้กล้าวางโทรศัพท์ทันที เท่านั้นแหละสติของฉันแทบกระเจิง ตาย ตายแน่ฉัน ทำไงดีเนี่ยจะให้ยัยฟางไปส่งก็ไม่ได้ เพราะวันนี้คุณเธอดันไม่สบายอีก ถ้าเป็นแบบนี้ คงเหลือคนเดียวล่ะมั้ง

       "ไอ้โทโมะ" ฉันถามคนที่กำลังกินมาม่าอย่างเอร็ดอร่อย

       "มีอะไร" หมอนั่นวางตะเกียบลงแล้วพูด

       "ช่วยไปส่งฉันที่บ้านทีดิ" ฉันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

       "อะไรนะ ทำไมเธอไม่กลับเองล่ะ" 

       "อะเอ่อ... ก็ฉันปวดหัวนี่นา จะกลับเองได้ยังไงเล่า" 

       "แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วย" ชิ คนอะไรใจดำชะมัด

       "งั้นฉันให้ไอ้ป๊อปปี้เพื่อนนายไปส่งก็ได้" 

       "ไม่ได้นะ" จู่ๆ หมอนี่ก็เอะอะเสียงดัง

       "ทำไม หึงหรอไง" 

       "เธอก็รู้ว่ามันเป็นเพลย์บอย ยังจะกล้าไปกับมันอีกหรอ" 

       "ยังไงหมอนั่นก็ดีกว่านายก็แล้วกัน" ฉันประชดใส่ แต่ดูท่าทางมันจะโกรธมาก หมอนั่นตรงมาที่ฉัน ก่อนจะลากตัวฉันออกจากห้องพยาบาล

       "นี่จะพาฉันไปไหนเนี่ย" 

       "ก็ไหนเธอบอกว่าจะกลับบ้านไม่ใช่หรอ" 

       "แต่นายไม่อยากไปส่งฉันนี่" 

       "เรื่องมากจริงเลยนะ เธอเนี่ย" หมอนั่นจูงมือฉันไปหน้าโรงเรียน ระหว่างทางก็มีคนมองพวกเราสองคนอยู่ตลอด จะโดนนินทาหรือป่าวนะ อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงโรงเรียนแล้ว สมองส่วนหน้าของฉันเริ่มรื้อความจำเมื่อตะกี้ออกมา จริงสิ ไอ้กล้ามันอยู่หน้าโรงเรียนแล้วนี่นา 

        "เดี๋ยวก่อนสินาย ฉันว่าเราออกทางหลังโรงเรียนเถอะ" 

        "ลี่ลาเยอะจังเลยนะ ไปได้แล้ว" ไม่ว่าจะทำท่ายังไงหมอนั่นก็ไม่สน คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นไม่เป็นหรือยังไงนะ 

        ตอนนี้ฉันอยู่หน้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว ฉันรีบมองซ้ายมองขวาเพื่อหาตัวไอ้คุณพี่กล้าทันที แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เห็นหัวมันเลยสักนิด ประกอบกับตัวมันเองที่ชอบอำพรางใบหน้า ก็เลยยิ่งหามันยากเข้าไปอีก

        "เป็นอะไรของเธอ ท่าทางลุกลี้ลุกลน" 

        "ปะป่าว ไม่มีอะไร" ฉันพยายามทำตัวไม่เป็นพิรุจ และเมื่อแน่ใจแล้วว่า ไอ้คุณพี่กล้าคงจะกลับไปแล้ว ฉันจึงเดินไปกับหมอนั่น เพื่อจะไปเอารถที่เขาฝากเอาไว้ แต่ทันใดนั้นเองก็มีมือๆหนึ่ง มาจับที่ไหล่ของฉัน พอหันไปดูก็ต้องตกใจทันที เพราะไอ้คนที่จับไหล่นั้น เป็นไอ้โม้งท่าทางคุ้นๆ

        "เธอจะไปไหน" ไอ้โม้งนั่นบอก แต่เสียงมันดูคุ้นๆยังไงชอบกล

        "ถอยห่างจากยัยนั่นเลยนะนาย" ไอ้โทโมะทำตัวเป็นพระเอกรีบเข้ามาขวางไอ้โม้งนั่นทันที

        "นะนาย" พอไอ้โม้งนั่นเห็นหน้าของไอ้โทโมะก็ตกใจ เหมือนว่ามันเคยรู้จักกับหมอนี่มาก่อน 

        "ไอ้โทโมะใจเย็น" ฉันรีบห้ามเพราะเหมือนไอ้โทโมะมันตั้งท่าจะต่อย จากนั้นไอ้โม้งนั่นก็ทำทีจะถอดผ้าที่คลุมหน้ามันออก แต่พอฉันเห็นคางของมันก็รู้ได้ทันทีเลยว่า เป็นไอ้กล้านี่เอง เดี๋ยวนี้มันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ กับสไตล์การพลางตัวของมันเนี่ย

        "เฮ้ยเพื่อนว่าไง" เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงรีบไปคว้าตัวมันและพยายามกันมันไว้ให้อยู๋แต่หลังของฉัน พอไอ้โทโมะเห็นก็มีอาการแปลกๆ ดูจะโกรธเอามากๆ

        "นี่เธอรู้จักมันด้วยหรอ"

        "ก็รู้จักอยู่แล้วล่ะ ก็เพื่อนสมัยเด็กนี่นา จริงไหม" ฉันบอกหมอนั่นและกดหัวให้กล้าเอาไว้ไม่ให้มันพูด

        "ดูท่าทางจะสนิทสนมกันจังนะ แล้วทำไมต้องคลุมหน้าด้วยล่ะ"

        "อ๋อ ไอ้นี่มันเป็นโรคผิวหนังน่ะ เวลาโดนแดดมันจะแสบเอามากๆเลยล่ะ" 

        "งั้นเรอะ งั้นเธอคงมีคนไปส่งแล้วสินะ" หมอนั่นเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยสีหน้าเศร้าๆ ฉันก็ได้แต่มองตามมันอย่างเป็นห่วง ง่อนอะไรของเขานะ

         หลังจากที่หมอนั่นเดินจากไป ฉันก็หันมาบ่นใส่ไอ้คุณพี่กล้าทันที

        "นี่ไอ้กล้า มาไม่สุ้มให้เสียง หัวใจจะวายรู้หรือป่าว" 

        "พอดีไปซื้อของกินมาน่ะ" 

        "มันใช่ประเด็นซะที่ไหน แล้วจะกลับกันได้ยังล่ะ" 

        "ก็ไปสิ ใครมัดเธอไว้ล่ะ" และแล้วฉันก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ของไอ้กล้ากลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

        

           จัดให้อีกตอนครับ หวังว่าคงจะสนุกกันนะ

                  

 

 

        

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา