KP Warriors : โรงเรียนนักรบ แหวนเทวะ

9.7

เขียนโดย nesugiso

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12.35 น.

  20 ตอน
  12 วิจารณ์
  23.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557 11.53 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

17) เดือนดวงใหม่แห่งโรงเรียน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
         ... ในสมัยเด็กๆผมชอบการ์ตูนมากๆ โดยเฉพาะแนวแปลงร่างหรือแนวต่อสู้ และเคยใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นฮีโร่แบบพวกเขาที่คอยปราบเหล่าร้ายเพื่อผดุงความยุติธรรม แต่ทุกๆครั้งที่ผมได้อ่านการ์ตูนแนวฮีโร่ที่ผมชื่นชอบในสมัยเด็กๆพวกนั้น ผมก็มีความคิดที่ว่าหลังจากที่พวกเขาถอดชุดหรือถอดหน้ากากออกกันแล้วพวกเขาจะเป็นอะไรกัน แต่ในวันนี้ผมได้คำตอบพวกนั้นแล้วล่ะครับ เมื่อพวกเขาไม่ได้แปลงเป็นฮีโร่แล้ว พวกเขาก็คือ ...

 
 
         "ผู้รับใช้แห่งเทชิงาวาระ!!! ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!! ฮ่า!!"

 
 
           เสียงควบกล้ำที่ชัดเจนกับเสียงหัวเราะล่าลั่นดังไปทั่วบนทางเดินภายในอาหารเรียนแห่งหนึ่ง ในยามเช้าของวันเปิดเรียนอีกสัปดาห์ ชายหนุ่มของคนกำลังเดินอยู่บนทางเดินในตึกที่ในตอนนี้ยังไม่ค่อยมีนักเรียนมาพุกพล่านมากนัก เรย์เด็กนักเรียนหนุ่มร่างสูงในชุดนักเรียนสีแดงเพลิงกำลังสะพายถุงผ้าดิบกองโตที่ในนั้นกำลังห่อข้าวของเครื่องใช้มากมาย ถึงแม้ร่างกายที่ดูแข็งแรงและกำยำของเขาจะไม่รู้สึกรู้สาต่อความหนักของมันที่อยู่บนแผ่นหลังนั้นแม้แต่นิดเดียว

 
         แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องทำสีหน้าเบื่อหน่ายโลกใบนี้ดูจะเป็นความหนักใจต่อคนที่อยู่ข้างๆของเขาซะมากกว่า ซึ่งในมือของอาจารย์เทชิงาวาระนั้นมีแต่เพียงหมอนคู่กายของเขาเวลานอนกับพัดใบหนึ่งขนาดเหมาะมือ ซึ่งรูปภาพที่อยู่ในพัดใบนั้นคือสาวนางแบบชุดว่ายน้ำคนหนึ่ง

 
         "ฮ่าๆ แม๋ๆ การมีคนรับใช้เนี่ยมันดีอย่างนี้นี่เองนะ!"


 
 
         ... ให้ตายสิ!! ถึงจะบอกว่าคนที่สอบตกไม่ต้องมาสอบแก้ก็ตามเถอะ แต่แบบนี้มันเรียกว่าทำงานแก้ยังไงนี่อาจารย์!! แต่ก็นะ ยังไงซะคนที่น่าโมโหที่สุดในตอนนี้มันก็ไม่ใช่อาจารย์อยู่ดีนั่นแหละ ...


 
 
         สายตาของเรย์ชายมองไปรอบๆห้องเรียนที่อยู่ข้างๆนั้น พวกเด็กนักเรียนที่อยู่ภายในห้องเรียนนั้นต่างพากันมุงดูพวกเขาที่กำลังเดินทางไปยังที่ๆหนึ่งตามการนำทางของอาจารย์เทชิงาวาระ ถึงจะเป็นเพียงเสียงกระซิบแต่เรย์ก็ยังคงได้ยินอย่างชัดเจนว่า หล่อบ้างล่ะ เป็นนักเรียนใหม่บ้างล่ะ เป็นคนรู้จักของอาจารย์บ้างล่ะ เป็นเด็กยกของบ้างล่ะ ทำให้เรย์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขบฟันแน่นและเดินหน้าต่อไป


 
         ... ยัยเอรินะยัยเอริ! บังอาจมาหลอกฉันได้นะเรื่องให้ลอกข้อสอบน่ะ คอยดูเถอะ!! เจอกันที่ห้องเมื่อไรจะเอาคืนซะให้เข็ดเลย คอยดู!! หึ้ยยยย ...

 
 
 
         ภายในห้องเรียนประจำชั้นมอสามห้องสอง ฮารุนะเด็กสาวร่างเพียวลมหน้าตาน่ารักเจ้าของผมยาวสลวย กำลังนั่งเขียนโน็ตลงในสมุดเลคเชอร์ของตัวเองด้วยความตั้งใจ แม้จะเพื่อนๆของเธอหลายๆคนจะไปมุงอยู่ทางหน้าต่างบานใสที่ติดกับทางเดิน ดูสองหนุ่มที่กำลังเดินผ่านห้องของเธอไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าเมื่อเงาร่างของชายหนุ่มชุดสีแดงเพลิงที่ดูคุ้นเคยค่อยๆผ่านไป ทำให้เธอต้องรีบวางปากกาและวิ่งแจ่นไปที่หน้าประตูห้อง โดยที่มี คุโด้ ฮารุกะ สาวมาดทอมบอยเพื่อนของเธออยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว

 
         "นั่นใครเหรอคุดู้ว" ฮารุนะถามขึ้นมาในทันทีหลังจากที่เธอมาถึง พร้อมกับยื่นใบหน้าเรียวสวยของเธอออกผ่านประตูไปดูด้วยความสนใจ

 
         "ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยจะเป็นนักเรียนใหม่ละมั้ง" คุโด้ตอบ

 
         "เหรอๆ หล่อดีเหมือนกันนะ แต่จะว่าไปแล้วโครงหน้าแบบนั้น กับดวงตาแบบนั้นมันก็คุ้นๆอยู่เหมือนกันน๊า" ฮารุนะเอานิ้วจิ้มที่ริมฝีปากของเธอแล้วทำท่าชวนคิดไปด้วย

 
         "นั่นน่ะสิ คุ้นๆนะ แต่นึกไม่ออกว่าเหมือนใครกัน..." ถึงจะพูดอย่างงั้นแต่คุโด้เองก็ยังคงเกาหัวกับใครบางคนที่อยู่ที่ในหัวของเธอแต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร


 
 
 
         "กรี๊ดดดดดด พี่เรย์!!!" จู่ๆมาซากิที่พวกเธอสองคนไม่รู้ว่าลงไปอยู่ข้างล่างขอบประตูตั้งแต่เมื่อไรก็ส่งเสียงออกมา พร้อมกับชะโงกใบหน้าอันชวนฝันของเธอออกไปพ้นบานประตู เมื่อสองสาวได้ยินชื่อนั้นต่างก็มองหน้ากัน ก่อนที่จะทำหน้าเหลอหลาเมื่อนึกใบหน้าของคนๆนั้นออก

 
         "เห้ยยยยยยยย ไม่จริงอ่า!!! ต้องไม่ใช่แน่ๆ ไอ้รองหัวหน้าวงบ้าบอติงต๊องคนนั้นน่ะนะ!!!" คุโด้พูดขึ้นมาด้วยเสียงหลงพร้อมกับทำตาถล่น

 
         "รุ่นพี่เรย์ไปทำอะไรมาเนี่ย เท่ห์สุดๆไปเลย!!!" ดูเหมือนจะมีแต่มาซากิเท่านั้นที่ยังคงจำเรย์ได้ และทำท่าปราบปลื้มอยู่คนเดียว




 
 
 
 
 
         ไม่นานนักเรย์และอาจารย์ของเข้าก็ได้มาถึงที่หมาย แต่ทว่าเมื่อเรย์มองไปรอบๆเขากลับเห็นแต่ด่านฟ้าของตึกเรียนกับแค่ห้องๆหนึ่งที่คล้ายคลึงกับห้องเก็บของเท่านั้น เขายังหันซ้ายหันขวามองดูห้องที่เขาคิดว่าน่าจะเหมาะกับการจัดวางข้าวของมากมายที่อยู่ข้างหลังเขาในถุงผ้ากองนี้ แต่ก็ยังไม่เจอห้องที่ว่านั้นซักห้องหนึ่งบนด่านฟ้าของอาคารเรียนหลังนี่

 
         "นี่อาจารย์ ไหนล่ะครับห้องที่อาจารย์จะย้ายเข้ามาพักน่ะ?" เรย์เกิดความสงสัยอย่างมากมายจนต้องเอ่ยปากถามผู้ที่นำทางเขามาที่นี่ แต่ทว่าสิ่งที่กำลังจะทำให้เขาตกใจที่สุดมันอยู่ถัดจากนี้

 
         "ก็ที่นี่แหละ" อาจารย์เทชิงาวาระที่ในตอนนี้กำลังอยู่ภายในห้องที่ดูเหมือนห้องเก็บของใหญ่ๆทำนิ้วชี้ลงไปที่พื้นห้องที่เขากำลังยืนอยู่

 
         "นี่เหรอ!" เรย์ชี้ลงตามอาจารย์ของตัวเองไปที่พื้นห้องนั้นด้วยความตกใจสุดขีด ดวงตาของเขาแทบถลนออกมาด้วยความตกใจ

 
 
 
         "ก็นี่! มันห้องเก็บของชัดๆเลยไม่ใช่เหรอน้า!!!!" เรย์ตวาดลั่นออกมาด้วยความตกใจกับห้องพักใหม่ของอาจารย์เทชิงาวาระอยู่
 

         "รู้แล้วน่าอย่าตอกย้ำมากเลย เออนี่! วางของเอาไว้ตรงนั้นแล้วช่วยจัดห้องให้ฉันทีนะ!" อาจารย์เทชิงาวาระสั่งในขณะที่ตัวเองก็กำลังจัดข้าวของที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วให้เข้าที่ ซึ่งเรย์เองเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ทำตามคำสั่งของอาจารย์ด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายนิดๆ พร้อมกับวางข้าวของ แกะถุงผ้าออกมาก็พบกับข้าวของกระจุกกระจิกของอาจารย์ของเขาอยู่เต็มไปหมด และเรย์ก็เริ่มลงมือจัดห้องให้กับอาจารย์ของตัวเอง

 
         "จะว่าไป แล้วอาจารย์ไปได้ห้องเก็บของมาเป็นห้องพักแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะครับ" เรย์ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

 
         "เรื่องมันยาวพอตัวเลยล่ะ ก็นะ พอดีที่ห้องพักเก่าของฉันค่าเช่ามันแพง แถมบรรยากาศที่นั่นก็ไม่ค่อยจะดีด้วย ฉันเลยอยากหาที่พักใหม่เลยมาปรึกษากับผู้อำนวยการน่ะ ก็เลยได้ที่นี่ยังไงล่ะ"

 
         "....ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแหะ" เรย์พูดด้วยน้ำเสียงเจื่อยๆ

 
         "เฮ้อออออ นายนี่น๊าเข้าใจยากซะจริงๆ งั้นฉันจะเล่าให้ฟังแบบละเอียดยิบเลยก็แล้วกัน"
 
 
 
 
 


****
 
         ในเช้าวันเดียวกัน


 
         ที่โรงเรียนในตอนเช้าตรู่ซึ่งยังไม่มีเด็กนักเรียนมาโรงเรียนกันมากนัก มีแต่อาจารย์ผู้สอนเท่านั้นที่มาโรงเรียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอนในชั่วโมงสอนของตัวเองที่กำลังจะถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เว้นแต่อาจารย์ท่านหนึ่ง ที่ดูจะไม่ได้สนใจต่อการเตรียมสอนเท่าไรนักและกำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำความสะอาดรถเก๋งสีเทาเงางามของตัวเอง ไม้ปัดขนไก่ที่อยู่กับมือของเขาไม่ห่างจากไปไหนยังคงคอยปัดไล่ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามตัวรถอยู่เสมอ อาจารย์ท่านนี้มีสไตล์การแต่งตัวที่ดูทันสมัยกว่าท่านอื่นๆนับตั้งแต่สูทสีทองของเขาที่มีประกายเพชรส่องแสงระยิบระยับอยู่เสมอ กางเกงสูทสีน้ำตาลแก่ที่เข้ารัดรูปกับต้นขา รวมไปถึงรองเท้าที่ปลายแหลมบ่งบอกได้ถึงความทันสมัยของเขา


 
         อาจารย์ท่านหนึ่งที่พึ่งมาถึงโรงเรียนเมื่อได้เห็นพฤติกรรมที่น่าสนใจของอาจารย์ท่านนั้นก็รีบตรงดึ่งเข้าไปหาในทันที

 
         "อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์ใหญ่ซึงคุ วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ" อาจารย์เจ้าของแว่นตาเลนหนาเตอะและเสื้อเชิ้ดลายขวางสีเทากล่าวทักทายกับอาจารย์ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของตัวเอง

 

         ซึงคุหรือที่เด็กนักเรียนโรงเรียนไนท์เบลดรู้จักกันดีในนามของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน อายุสี่สิบปี ส่วนใหญ่ภาพที่ติดตาของนักเรียนในโรงเรียนนี้ เขามักกะอยู่กับรองอาจารย์ใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่เสมอ มักชอบวางตัวอยู่ในกฏระเบียบอย่างเคร่งครัดและไม่ค่อยชอบเด็กนักเรียนห้องท้ายๆซักเท่าไรนัก จึงมักทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูจะเป็นคนที่แอนตี้เด็กห้องท้ายๆอยู่เสมอ และพฤติกรรมที่อาจารย์ใหญ่ซึงคุชอบอยู่เคียงข้างกับผุ้อำนวยการโรงเรียน ก็มักจะถูกเด็กนักเรียนคิดว่าชอบประจบผู้อำนวยการอยู่ร่ำไป


 
         แต่ถึงกระนั้นอาจารย์ใหญ่ซึงคุก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทของค่ายเพลงชื่อดังแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่ในตอนนี้ผลิตนักร้องและไอดอลออกไปมากมาย และเขายังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับค่ายเพลงที่นั่นอีกด้วย

 
 
         "โอ้โห้ นี่รถของอาจารย์เหรอครับเนี่ย" อาจารย์คนดังถึงกับตาเป็นมันวาวเมื่อได้เห็นรถคันใหม่เงางามตรงหน้า

 
         "หุหุหุ ใช่แล้วล่ะ ฉันพึ่งจะไปถอยมาสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เองล่ะ" อาจารย์ใหญ่ซึงคุทำน้ำเสียงหวานๆแสดงความรู้สึกยินดีของตัวเองและประนึกเห่อของใหม่ ยังไม่ทันขาดคำเจ้าตัวก็ก้มตัวลงไปกอดหน้ากระโปรงรถด้วยความมีความสุข

 
         "รถหรูมีระดับขนาดนี้ แถมยังใหม่เอี่ยมอ่องสะดุดตาใครต่อใคร ชีวิตนี้ฉันจะไม่ยอมห่างจากแกเลยคอยดูเส เราจะอยู่ด้วยกันจนชั่วนิดนิรันดรเลยทีเดียวเชียว..." 
 
 

         อาจารย์ที่กำลังยืนฟังอยู่นั้นถึงกับยืนเหงื่อตกในความเห่อของใหม่ของเจ้านายตัวเอง แต่ไม่นานนัก เสียงแตรรถปริศนาก็ได้ดังขึ้นมาจากทางด้างหลังของอาจารย์ใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนทำให้อาจารย์ชายเจ้าของแว่นเลนใหญ่นั้นต้องรีบวิ่งหนีออกไปเพราะเกรงว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น 


 
         จนกระทั่งอาจารย์ใหญ่ที่กำลังฟินกับรถคันใหม่ของตัวเองรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเข้ามา เมื่อสัมผัสได้ว่ามีเงาประหลาดๆมาพร้อมกับความเร็วสูง เมื่อหันหลังไปพบกับภาพตรงหน้าก็ต้องทำให้เขาหัวใจหล่นวูปและเกิดความตกใจสุดขีดในชีวิตของเขา


         รถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงอย่างที่ไม่มีทีท่าว่าจะเบรกเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีดำที่บ่องบอกได้ถึงความหวาดกลัวสะท้อนยี่ห้อรถคันดังกล่าวนั้นออกมา เมื่อเห็นเช่นนั้นเพื่อปกป้องรถคันใหญ่ซึ่งได้ถอยออกมาหมาดๆเมื่อวาน อาจารย์ผู้เป็นเข้าของรถจึงใช้ความกล้า ยกมือสองข้างขึ้นห้ามปรามแล้วตะโกนออกมาสุดเสียง

 
 
         "หยุดน๊าาาาาาาาาาาาาาา าาาาาาาาาา าา าา า า าาาาาาาาาา"
 
 


- เอี๊ยดดดดดดด ดดดด  ดดด ดดดด !!!!!!! -
 
 
 


         เสียงเบรกรถดังลั่นไปทั่วมาพร้อมกับฝุ่นตลบอบอวน เมื่อฝุ่นจางหายไปก็ปรากฏร่างของอาจารย์ใหญ่ซึงคุที่อยู่ระหว่างหน้ารถบรรทุกคันสีขาวกับรถของตัวเองแค่คืบเดียว ดวงตาถลนกับเหงื่อที่ไหลพราก ใบหน้าซีดเผือกเพราะความกลัว ร่างกายสั่นระริกไปหมดราวกับโดนน้ำเย็นราดมาหมาดๆ

 
         "ไง ไม่เจอกันนานเลยนะอาจารย์ใหญ่ นี่ขนาดอยู่โรงเรียนเดียวกันนะเนี่ย" อาจารย์หนุ่มเจ้าของรถบรรทุกคันดังกล่าวนามว่า เทชิงาวาระ ชะโงกหัวออกมาผ่านหน้าต่างรถกล่าวทักทายกับอาจารย์ใหญ่อย่างหน้าตาเฉย แบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 
         "ผมกำลังจะย้ายของเข้าไปนะ ช่วยหลีกหน่อยเด้"

 
         "ย้าย? ย้ายของเรอะ?" แม้จะหันมาโต้ตอบ แต่ใบหน้าตาถลนของอาจารย์ใหญ่ยังคงมีให้เห็นอยู่
 
 


- กรึก! คลืน!! -
 



         ทันใดนั้นบานหน้าต่างที่ติดอยู่ตัวตึกใกล้ๆกับรถยนต์ทั้งสองคนจอดอยู่ก็เปิดออกมา ทั้งสองคนหันไปตามเสียงนั้น และเมื่อบานหน้าต่างเปิดออกจนสุดก็ปรากฏร่างของอาจารย์หญิงวัยกลางคนสวมชุดเสื้อเชิดแขนยาวสีดำทั้งตัว ผมทำตรงเปิดกระบังลม จมูกโด่ง ใบหน้าแหลมคมมาพร้อมกับสีหน้าที่เรียบเฉยราวกับคนที่ดูเข้มงวดและเคร่งครัดอยู่เสมอ เมื่อทั้งคู่ได้เห็นสีหน้าของผู้สาวคนนั้นก็แอบเหงื่อตกและรู้สึกเกร็งๆไปตามๆกัน

 
         "....มาเร็วจังเลยนะเทชิงาวาระคุง" อาจารย์หญิงกล่าวทักทายอาจารย์ที่พึ่งเข้ามาใหม่ด้วยสีหน้าที่ดูเรียบเฉยเช่นเดิม "ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาไปดูห้องของเธอก็แล้วกันเลยนะ"

 
         "เอ๋ เอ่อ มันเรื่องอะไรกันล่ะครับท่านผอ. ห้องของเจ้าหมอเนี่ยเหรอ?" อาจารย์ใหญ่ซึงคุถามเจ้านายของตัวเองขึ้นมาด้วยความสงสัย

 
         "ใช่ ตั้งแต่วันนี้ไปเทชิงาวาระ..." ผู้อำนวยการของโรงเรียนยังไม่ทันได้พูดจบ ก็มีเสียงของอาจารย์เทชิงาวาระพูดสวนขึ้นมา

 
         "ผมก็จะมาอาศัยอยู่โรงเรียนนี้เลยไงล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ" อาจารย์เทชิงาวาระหัวเราะร่า โดยที่ไม่ได้สังเกตใบหน้าดำคร่ำเครียดเหงื่อตก เต็มไปด้วยความอึ้งกับคำพูดของอาจารย์เทชิงาวาระจนทำปากจู๋อย่างไม่ได้ตั้งใจของอาจารย์ใหญ่ซึงคุ
 
 
 
 


         เมื่อมาถึงพิกัดที่หมายของการนำทางของผู้อำนวยการ อาจารย์เทชิงาวาระก็พยายามมองหาห้องที่สุดเลิศหรูอลังการดังที่ตัวเองวาดเอาไว้ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ ในตอนนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นมีเพียงด่านฟ้าชั้นเรียนของอาคารเรียนหลังดังกล่าว และห้องๆหนึ่งที่เขาเมินไม่ได้สนใจตั้งแต่ขึ้นบันไดมาแล้ว

 
         บรรยากาศเงียบเชียบจนได้ยินเสียงลมพัดหวิวๆ อาจารย์เจ้าของพรีออเดอร์ห้องดังกล่าวหันมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย

 
         "เอ่อ มันอยู่ไหนล่ะครับห้องของผมเนี่ย?"
 

         "ก็นี่ไงจ๊ะ นี่แหละ" ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้นิ้วลงไปยังพื้นห้องที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย มืออีกข้างหนึ่งของเขาเอาไพล่หลังเอาไว้
 

         "เนี่ยนะ!!!!" อาจารย์เทชิงาวาระชี้นิ้วตามเจ้านายของตัวเองพร้อมกับเหงื่อตกเต็มหน้าด้วยความอึ้งและไม่คิดว่าห้องที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้จะเป็นแบบนี้
 
 

         บรรยากาศอันเงียบเชียบหวนกลับมาอีกครั้ง เสียงลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาภายในห้องนั้น
 
 

         "ก็เนี่ย!! มันห้องเก็บของชัดๆเลยนี่ค๊าบบบบบบบ!!!!!!" กายละเอียดของเทชิงาวาระพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างแรง พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้ม เมื่อนึกถึงข้อตกลงระหว่างเขาและเธอที่ทำกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว
 

         "รู้น่าว่าอย่างกับห้องๆหนึ่งในโรงแรมห้าดาวเลยใช่มั๊ยล่ะ... เอาล่ะ ยังไงวันนี้ก็อย่าไปเข้าสอนสายก็แล้วกันนะ"

 
         "อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
 
 

         ผู้อำนวยการโรงเรียนกลับหลังหันและเดินลงบันไดไป ทิ้งเอาไว้แต่เสียงร้องอันโหยหวนของอาจารย์เทชิงาวาระเท่านั้น สีหน้าอันหอเหี่ยวพร้อมกับร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน อาจารย์หนุ่มผู้ซึ่งรู้ตัวว่าต้องอยู่กินกับโรงเรียนไปภายในห้องนอนที่เหมือนกับห้องเก็บของนั่งแนบนิ่งอยู่ตรงประตูทางออกด่านฟ้าของอาคารเรียนนั้นด้วยความห่อเหี่ยวและหมดสภาพ
 
 
 
 
 
*****
 
         (ฉันอุตส่าห์เล่าเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะแก...)

         "เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ...."

 
         "น่าสงสารมากๆเลยอาจารย์" น้ำเสียงที่ดูน่าสงสารแต่แฝงไปด้วยความสมเพชดังออกมาจากเรย์

 
         "หนวกหูนะ!! รีบๆจัดข้าวของให้เสร็จเร็วๆเถอะ เอาแค่ไหนแค่นั้น ได้เท่านี้ก็คงจะพอล๊...ะ...!!"
 



         เมื่ออาจารย์เทชิงาวาระหันมาก็ต้องพบกับสิ่งที่ทำให้เขาตกใจอย่างสุดขีด เพราะจากห้องที่ยังไม่เคยเป็นรูปเป็นร่างอะไรเลย ในตอนนี้ห้องที่เขาพึ่งย้ายเข้ามาใหม่นั้นกลับกลายเป็นห้องใหม่ที่เหมือนห้องจัดใหม่มาแล้ว ทั้งข้าวของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ทั้งตู้เย็น ทีวี ร่วมไปถึงห้องรับแขกเล็กๆก็ถูกจัดให้มันเข้าที่ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งๆที่คนที่ทำให้ห้องนี้มีเพียงแค่เรย์คนเดียวเท่านั้น

 
         "อ่ะจ๊ากกกกกกกกกกก เสร็จตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย!!!" อาจารย์เทชิงาวาระร้องเสียงหลงเมื่อได้เห็นภาพผลงานตรงหน้าของเรย์

 
         "เสร็จมาพักนึงได้แล้วล่ะน้า"

 
         "โอ๋โห๋!!! มันสุดยอดอะไรจะปานนี้!!! แทบไม่อยากเชื่อเลยนะเนี่ยว่าจะเป็นฝีมือของนายคนเดียวเนี่ย!!!"

 
         "งั้นผม... ไปล่ะ หมดหน้าที่ของผู้รับใช้แล้วนี่น่า" เรย์หยิบกระเป๋าขึ้นมาพาดบ่าแล้วหันหลังเดินจากไป

 
         "เฮ้ยเดี๋ยววววววว !! หยุดเลยๆๆๆๆ" ประดุจความเร็วเสียง อาจารย์เทชิงาวาระรีบพุ่งเข้ามาแล้วยื่นมือจับหัวไหล่ของเรย์เอาไว้อย่างแน่นหนา เป็นการห้ามปรามว่าไม่ให้เขาจากไปไหน

 
        "อะไรเล่าน้า!! ก็หมดหน้าที่แล้วไม่ใช่เหรอ!!"

 
         "หึหึหึ ที่เราตกลงกันไว้คือวันนี้นายต้องเป็นผู้รับใช้ของฉันหนึ่งวันไม่ใช่หราาา" สายตาอันชั่วรายของเทชิงาวาระ ถูกส่งมายังนักเรียนของตัวเองซึ่งในตอนนี้เขาต้องตกอยู่ในฐานะผู้รับใช้ของเทชิงาวาระ

 
         "ถ้าไม่อย่างงั้น จะถือว่าการสอบแก้เป็นโมฆะไปนะจะบอกให้ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!"

 
         เสียงหัวเราะร่าของอาจารย์เทชิงาวาระดังก้องไปทั่วห้องนั้น ผิดกับเรย์ในตอนนี้ที่สีหน้าเจื่อนๆเหงื่อตกกลีบเพราะความเครียด ประหนึ่งกำลังทำใจรับชะตากรรมที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้ต่อไป

 
         "การสอบตกในครั้งนี้ ข้าขอจำไปจนวันตาย"
 
 
 
 
 
 


         ในระเบียงทางเดินอันโล่งโจงนั้นตอนนี้ไม่มีวี่แววของนักเรียนอยู่แถวนั้นเลยแม้แต่คนเดียว เพราะในเวลานี้เป็นเวลาของชั่วโมงแรกของวันนี้แล้ว และเสียงออดที่เป็นสัญญาณเข้าเรียนก็พึ่งดังไปอยู่หมาดๆ ทำให้สองหนุ่มที่พึ่งกลับมาจากการจัดห้องพักใหม่ต้องรีบเดินเพื่อไปเข้าเรียนให้ทัน ส่วนอีกคนหนึ่งก็ต้องรีบยิ่งกว่าเพราะตัวเองต้องไปสอนให้ทันเวลา


 
         เยื้องไปยังทางข้างหน้าในห้องเรียนของชั้นมัธยมปีที่สามห้องหนึ่ง เรย์ที่เดินถือกระเป๋าของตัวเองรวมไปถึงกระเป๋าของอาจารย์ของเขากำลังมองดูภาพของเด็กสาวคนหนึ่งชื่อว่า มิซึกิ เด็กสาวที่เขาแอบหลงรัก ที่อยู่หน้าประตูห้อง เด็กสาวน่ารักร่างอวบนิดๆกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่คุ้นเคย ผมยาวสลวยสีดำขลับ ดวงตาที่เด่นเป็นประกายกำลังจ้องมองไปยังอะไรบางอย่างที่ผนังกำแพงนั้นกำลังปิดกั้นสายตาของเขาเอาไว้ และเมื่อเขาค่อยๆเดินเพื่อให้กำแพงที่กำลังกวนใจเรย์อยู่นั้นเลื่อนห่างออกไป ภาพตรงหน้าของเขาก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บแป๊บขึ้นมาที่หัวใจของเขาจนทำให้เขาต้องหยุดนิ่ง 
 

         ภาพตรงหน้าของเรย์คือภาพของมิซึกิ กำลังคุยอยู่กับรุ่นพี่ที่เขาก็รู้จักเป็นอย่างดี นั่นก็คือรุ่นพี่ คริสเตียน ซึ่งเป็นนักบาสฯตัวโรงเรียนที่เรย์ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมเดียวกันกับเขาด้วย เรย์รู้มาได้ซักพักหนึ่งแล้วว่ารุ่นพี่คริสเตียนกำลังคบกับมิซึกิอยู่ ก่อนหน้าที่เขาจะได้รู้จักเธอไม่นาน ภาพตรงหน้าที่มีรอยยิ้มดูหวานแววของทั้งคู่ชวนให้เรย์ยิ่งปวดใจเข้าไปยิ่งนัก ทำให้เรย์อยากจะรีบออกไปจากตรงนั้นอย่างเร็วที่สุด
 

         เมื่อเขากำลังจะก้าวเดินต่อ สายตาของมิซึกิที่เคยจับจ้องอยู่แต่รุ่นพี่ที่กำลังคุยอยู่กับเธอก็หันมามองที่เรย์ที่ยืนอยู่มุมทางเดินเยื้องตรงข้ามกับเธอไปไม่ไกลนัก เมื่อมิซึกิได้เห็นสายตาของเรย์ที่กำลังมองมาทางเธอ ใบหน้าของเธอก็แอบเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อยโดยที่รุ่นพี่ที่กำลังคุยกับเธอไม่ได้เอ๊ะใจเลยแม้แต่นิดเดียว ริมฝีปากที่เคยยิ้มในตอนนี้หุบลงไปแทบจะเปลี่ยนใบหน้าไปเลยก็ว่าได้ สายตาที่เคยหยี่เพราะรอยยิ้มในตอนนี้กลับเผยให้เห็นดวงตาดำเป็นประกายอย่างชัดเจน ดวงตาที่ราวกับว่ากำลังจะบอกความรู้สึกอะไรบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นเรย์ก็ได้แต่ฉีกยิ้มนิดๆให้กับมิซึกิแล้วก็ค่อยๆเบนหน้าหนี
 
 

         "เฮ้ย!!!! อย่ามัวซึ้งโว้ย!! มันถึงชั่วโมงสอนของฉันแล้วน๊า!!!" 
 

         เหมือนมีอะไรดลใจให้กับเรย์เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือไปจากตรงนี้ให้รวดเร็ว อาจารย์เทชิงาวาระที่ดูกำลังเร่งรีบหันมาตะโกนสั่งเรย์ ทำให้เรย์ต้องรีบเดินจากตรงนั้นไป ทิ้งให้ดวงตาคู่สวยของมิซึกิมองตามรุ่นพี่ของเธอไป พร้อมกับเม้มริมฝีปากอมชมพูสวยนั้นเล็กน้อยเมื่อมองแผ่นหลังที่ค่อยๆไกลห่างจากตรงนั้นไป
 

         "แล้วค่อยเจอกันนะ" รุ่นพี่คริสเตียนกล่าวลาคนรักของเธอ มิซึกิหันมาพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องเรียนของตัวเองไป ส่วนมิซึกิยังคงมองตามทางที่เรย์เคยเดินจากไปจนเธอก้มหน้าลงแล้วเดินเข้าห้องไป
 
 
 
 
 
 
- คลื้นนนนน !!!!!! -

 
         "อรุณสวัสดิ์ทุกคน!!!"

 
         "อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ อาจารย์!!"

 
 
         เมื่อสิ้นเสียง บรรดาเด็กนักเรียนภายในห้องมอสี่ห้องแปดพวกเขาก็กลับเข้ามาประจำที่นั่งของตัวเอง เพราะนี่เป็นเวลาเรียนของวิชาแรกกันแล้ว อาจารย์เทชิงาวาระเดินเข้ามาแล้วตรงไปที่โต๊ะประจำตัวของอาจารย์ผู้สอนกลางห้องนั้น โดยที่มีเรย์ค่อยๆตมาอยู่ห่างๆ
 

         ก้าวแรกที่เรย์ได้เข้ามาได้ห้องนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าเหมือนกับตัวเองกำลังถูกเพ่งเล็งโดยสายตาของใครหลายๆคน และเมื่อเขามองด้วยหางตาของเขา ก็พบกับเหล่าบรรดาสมาชิกเพื่อนสาวในห้องของเขาที่ตอนนี้กำลงนั่งหน้าแดงกันเป็นแถวเป็นแนว ไม่เว้นแม้แต่ไมมิ เอริ เรนะ รวมไปถึงซายูมิทีเป็นคู่กัดขาประจำอยู่ด้วย
 

         ภายในห้วงความคิดของเหล่าบรรดานักเรียนสาวในห้องนั้น ในตอนนี้ประหนึ่งเหมือนกับว่า กำลังมีดอกกุหลาบสีชมพูหรือสีแดงร่วงโรยไปตามทุกย่างก้าวของชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ข้างหน้าห้องนั้น ออร่าที่เปล่งประกายเพชรอันเจิดจรัส ใบหน้าอันหล่อเหลาบวกกับสายตาอันชวนฝันที่สะกดใจของสาวๆค่อยๆเหลือบมามองพวกเธอก่อนที่จะหันกลับไปที่เดิม
 
 

         เรย์เดินเข้ามาวางกระเป๋าของอาจารย์แล้วก็หันกลับไปเพื่อเดินไปนั่งประจำโต๊ะของตัวเอง ก็ไม่วายต้องเดินผ่านเหล่าบรรดาเพื่อนสาวภายในห้องของเขา และก็ไม่วายที่เพื่อนสาวของเขานั้นจะต้องมองเหลียวหลังเมื่อเขาเดินผ่านโต๊ะของพวกเธอไป อย่างเต็มไปด้วยใบหน้าอันชวนฝัน
 

         "โอ๊ยยยยย หล่อจังเลย"
 

         "หล่อจังเลยนะเธอ"
 

         "มีแฟนรึยังก็ไม่รู้"



          ... บรรนากาศแบบนี้ไม่ชินเลยแหะ ...
 
 
 
         แต่ในขณะที่เรย์กำลังกล้ำกลืนกับคำพูดที่กำลังแดกดันเขาอยู่ตลอดทางอยู่นั้น จู่ๆไมมิก็นั่งอยู่ทางริมหน้าต่างก็ยกมือพรวดขึ้นมา

 
         "อาจารย์คะ!! จะไม่แนะนำเพื่อนใหม่ให้พวกเรารู้จักเลยเหรอค่ะ?" ไมมิถามขึ้นมาไม่ทันไร เพื่อนสาวในห้องก็ส่งเสียงออกมาซึ่งอาจารย์เทชิงาวาระก็จับใจความประมาณว่าเห็นด้วยกับคำพูดนั้น

 
         "ห๊า! เพื่อนใหม่ของพวกเธอ ใครกันเหรอ?!" อาจารย์เทชิงาวาระหันมาตอบพร้อมใบหน้าเหรอหราของตัวเอง

 
         "ก็! คนนั้นไงคะ!" ไมมิชี้ไปยังเรย์ที่เดินไปนั่งที่อย่างไม่สนใจใคร ในขณะที่เพื่อนสาวหลายๆคนต่างมองมาที่เรย์เป็นตาเดียว เมื่ออาจารย์เทชิงาวาระเห็นดังนั้นก็หลับตาแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

 
         "โธ่เอ้ย! นี่พวกเธอจำมันไม่ได้เหรอ ก็มันเองนั่นแหละ เรย์น่ะ! เรย์! แค่ไปกินเวย์โปรตีน 4 กระป๋องใหญ่ภายในวันเดียว แล้วก็กินยาเพิ่มความขาวขึ้นมาเฉยๆ มันถึงได้กล้ามโต ผิวขาว หล่อเหลาจนพวกเธอหลงใหลหัวปักหัวปำอยู่อย่างตอนนี้ยังไงเล่า!!!"


         เมื่อได้ยินชื่อนั้นทุกคนต่างก็นั่งอึ้งไปสิบวินาทีจนได้ยินแม้แต่เสียงลมพัด และเวลาไม่นานเหมือนกับว่าทุกคนจะรู้สึกตัวเมื่อได้ยินชื่อนั้น นัยน์ตาของทุกคนก็เบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจสุดขีด

 
 
       "ห๊าาาาาาา เรย์หราาา าาา าา าาาาาาา"
 
 

         "ไม่จริงน่ะ!!!"
 

         "โกหกใช่มั๊ย!!!"
 

         "นี่ฉันฝันไปรึเปล่า!! เรย์เองเหรอ!!"
 
 


         ในขณะที่บรรดาเพื่อนผู้หญิงภายในห้องของเรย์กำลังตกใจกันยกใหญ่ เรย์เองก็ได้แต่นั่งเท้าคางพร้อมกับหันมองไปนอกหน้าต่างด้วยความเบื่อโลก แต่ถึงกระนั้นสามสาวทรีโอ้ตัวแสบ เอริ เรนะ และซายูมิ ที่กำลังนั่งรอบล้อมอยู่รอบๆตัวเรย์ก็อยากจะคุยกับเรย์ให้ได้ เอริ หัวหน้าห้องที่มีคดีกับเรย์อยู่ก่อนหน้านั้นก็หันหลังขวับมาหาเรย์เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์เทชิงาวาระที่กำลังเขียนกระดานอยู่หน้าห้อง

 
         "เรย์จริงๆเหรอเนี่ย ไปทำอะไรมาเนี่ย หล่อจังเลย!" แววตาชวนฝันของซายูมิที่กำลังนั่งอยู่เยื้องไปทางขวามือถูกส่งมาให้กับเรย์

 
         "กล้ามเป็นมัดๆเลยนะเจ้าทึ่ม" แม้แต่เรนะที่เคยก้าวร้าวกับเรย์เองก็ยังสยบให้กับเรย์คนใหม่คนนี้พร้อมกับส่งสายตาหวานๆมาให้

 
         "หล่อขึ้นเป็นกองเลยนะเบ๊ ไปทำไรอะไรมาเหรอ เข้ายันฮีมารึเปล่า หรือว่าไปศัลยกรรมที่เกาหลีมา" คำพูดกวนอารมณ์ของเอริถูกส่งมาให้กับเรย์ จนเรย์ที่แอบทนด้วยความสงบสยบความเคลื่อนไหวมาตลอดก็กำลังปรี๊ดแตก โดยอาการที่แสดงออกมาคือฝ่ามือที่กำลงเท้าคางของเรย์นั้นนิ้วทั้งห้าเริ่มบีบรัดใบหน้าด้วยความโมโห ก่อนที่จะระเบิดออกมาลั่นห้อง
 
 
 

          "หึ้ยยยยยย ฉันไม่ได้เป็นเบ๊ของเธอน๊า!!! แล้วฉันก็ไม่ได้ไปทำยันฮีมาหรืออะไรทั้งนั้น!!! ที่ฉันเปลี่ยนไปเพราะกินเวย์โปรตีนมาต่างหาก รู้เอาไว้ด้วย!!!!!!"

 
          เสียงตะหวาดลั่นห้องดังขึ้นมาจากชายหนุ่มที่กำลังเป็นที่หมายปองของเพื่อนสาวภายในห้องนั้น

 
         "อ่าวๆเงียบกันหน่อยๆ ไอ้หนุ่มเวย์โปรตีนเกิดสติแตกขึ้นมารึไง ไปวิ่งรอบโรงเรียนให้หายบ้าก่อนแล้วค่อยมาเรียนดีมั๊ย?!!!" แม้คำพูดกวนๆของอาจารย์เทชิงาวาระที่อยู่ข้างหน้าห้องจะถูกส่งมาหาเขา แต่ตอนนี้ก็ไม่มีผลกับเรย์อีกต่อไปแล้ว เรย์ยอมนั่งลงแต่โดยดีและเรียนวิชานั้นต่อไป

 
         แต่ว่าเมื่อเปิดหนังสือไปได้ซักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งที่กำลังส่งอะไรหวานๆมาหาเขา จนเขาต้องค่อยๆหันไปดู และเจ้าของสายตาคู่นั้นก็คือเพื่อนสาวคนสนิทที่ชื่อ หลินหลิน ที่กำลังนั่งอยู่โต๊ะข้างๆทางขวามือของเขาเอง

 
         "เธอเองก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ" เรย์ทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วหันขวับกลับมา

 
         "ก็เตงหล่อดีนิ"

 
         "ไม่ต้องมาแซวฉันเลยไอ้อ้วน"
 
 
 


         และเวลาเรียนที่แสนน่าเบื่อก็ค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้า แม้อาจารย์ที่สอนจะพูดปาวๆอยู่ที่หน้าห้องแต่เรย์ก็ไม่ได้ใส่ใจฟังเลยแม้แต่น้อย เขาทำแค่เพียงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอยเหมือนทุกๆที่ มองข้ามศีรษะของเรนะที่นั่งอยู่ข้างๆและเพื่อนอีกสองสามคนไปยังวิวทิวทัศน์ที่ไกลแสนไกล ภูเขาลูกโตที่อยู่ภายนอกหน้าตาถัดจากเมืองของเขาออกไป กับภาพของลานน้ำพุใจกลางเมือง และสะพานทั้งสองฝั่งเพื่อนข้ามไปยังเขตเมืองชินตะคานะ
 

         ในที่สุดเวลาพักระหว่างเรียนก็มาถึง แต่เรย์เองยังคงสนใจทิวทัศน์นอกหน้าต่างอยู่อย่างนั้น มากกว่าที่ตัวเองจะสนใจบรรยากาศของเพื่อนในห้องที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆเพื่อเป็นการผ่อนคลายหลังจากที่พึ่งผ่านการเรียนที่ต้องนั่งมาตลอดชั่วโมงหมาดๆ แต่ในขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆดังขึ้นมาหลายๆครั้งและเข้ามาใกล้เรย์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรย์ทิ้งความเหม่อลอยที่ตัวเป็นอยู่แล้วค่อยๆหันไปตามเสียงนั้น
 

         เพื่อนสาวของเรย์ที่หน้าตาหน้ารักมากๆเดินเข้ามาหา เธอมีใบหน้าที่เรียวและอ่อนหวาน ดวงตากลมโต แก้มยุ้ยอวบอิ่ม ผมสาวสลวยที่โกรกสีผมมีสีน้ำตาลแก่นิดๆกำลังปลิวไสวไปตามแรงเคลื่อนไหวของร่างกาย ริมฝีบากอมชมพูของเธอกำลังอมพะนำเหมือนคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเล็กน้อย

 
         "เอ่อ คือ มิเลียร์ค่ะ" เมื่อได้ยินคนเรียกแต่นามสกุลของตัวเอง เรย์ก็หันขวับไปในทันที

 
         "หืม รองหัวหน้า ซูซุกิ ไอริ เองเหรอ แล้วอีกอย่างฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกเรย์เฉยๆก็ได้น่ะ" เรย์พูดเป็นแนวตำหนิเล็กน้อย

 
         "ขอโทษค่ะ แต่ว่าวัฒนะธรรมที่ประเทศบ้านเกิดของฉัน ถ้าไม่สนิทกันมากเท่าไรจะนิยมเรียกนามสกุลกันแทนชื่อน่ะค่ะ" เมื่อเรย์ได้ยินสิ่งที่ไอริกำลังอธิบายให้ฟังเขาก็แอบหัวเราะในลำคอเล็กน้อย

 
         "นี่มันประเทศ ไอคาลอส นะไอริ เป็นปีกแห่งอิสรภาพ อิสระทั้งประเทศ เชื้อชาติ และก็วัฒนะธรรมนะ"

 
         "แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ" ไอริทำแก้มป่องเล็กน้อยจนเรย์เองก็แอบยิ้มในบุคลิกภาพของเพื่อนสาวที่อยู่ตรงหน้าของเขาเอง

 
         "เอาเถอะๆ" เรย์รีบเปลี่ยนเรื่องคุยไปก่อน เพราะเกรงว่าถ้าเถียงเรื่องนี้กันแล้วมันคงจะไม่จบวันนี้แน่นอน ".....ว่าแต่ มีอะไรเหรอไอริ"

 
         "คือว่า วันนี้เธอมาสายอีกแล้วน๊า" ไอริพูดด้วยรอยยิ้ม
 

         "แล้วไง?" เพราะคำตอบห้วนๆของเรย์ทำให้คนที่พึ่งมาถามด้วยความเป็นห่วงนั้นแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมา
 

         "ฉันว่าควรมาเข้าเรียนให้ตรงเวลานะคะ"
 

         "โอ้ว นี่ฉันได้คนจู้จี่เพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วเหรอเนี่ย"
 

         "ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อยนะคะ!!"
 
 

         เพราะคำพูดเมื่อกี้ของเรย์ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตส่งตรงมายังเขาโดยเฉพาะ เมื่อเขาแอบมองด้วยหางตาก็พบกับสายตาปีศาจของหลินหลินที่กำลังส่องแสงสีแดงและกำลังจ้องเขม่งมาที่เขาอยู่ แต่เรย์ก็ทำสีหน้านิ่งเฉยเอาไว้ แต่ที่แท้จริงแล้วเขาพึ่งกลืนน้ำลายตัวเองไปเฮือกใหญ่
 

         "เข้าใจแล้วน่า งั้นขอดูอารมณ์พรุ่งนี้ก่อนนะ" เรย์หันมาตอบแบบขอไปทีแล้วก็เบือนหน้าหนี เพราะความเรื่อยเฉื่อยของเรย์ทำให้ไอริรู้สึกอยากทำอะไรซักอย่าง ให้กับชายที่แสนจะเอื่อยเฉื่อยคนนี้
 

         "...ถ้าอย่างนั้นฉันจะดูดวงของวันพรุ่งนี้ให้นะคะ ฉันดูดวงเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว"
 
 

         ยังไม่ทันขาดคำสาวเจ้าก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงแล้วก็หยิบไพ่สำรับหนึ่งออกมา เรย์หันขวับกลับมาพร้อมกับทำสีหน้าเหยเกเพราะนึกว่าสาวเจ้าจะยอมลามือและกลับไปที่โต๊ะของตัวเองแล้ว
 

         ไอริเริ่มสับไพ่ที่อยู่บนอุ้งมือเรียวเล็กของเธออย่างทะมัดทะแมง แบบเหมือนคนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ซักเท่าไรนัก และเมื่อสับไพ่ในสำรับไปได้เพียงแค่สี่ห้าครั้ง ผลงานของเธอก็ได้แตกกระจายออกมาแล้วปลิวกระเด็นกระดอนอยู่รอบๆข้างโต๊ะนักเรียนของเรย์ ไอริทำหน้าเหวอเล็กน้อยเมื่อเธอรู้ว่าพึ่งปล่อยไก่ตัวเบอเริ่มออกมาแต่หน้าเพื่อนหนุ่มของเธอ แต่เรย์เองก็ไม่ได้รู้สึกขึ้นหรือหัวเราะอะไรไอริเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังพยายามจะช่วยไอริเก็บไพ่ด้วยซ้ำ
 

         ในขณะที่เรย์กำลังเบี่ยงตัวให้พ้นขอบโต๊ะเพื่อที่จะก้มลงเก็บไพ่ที่อยู่ข้างๆโต๊ะได้ถนัด สายตาของไอริก็เอาแต่จ้องมองไพ่จำนวนหนึ่งที่กำลังหันหน้าไพ่ออกมาเพื่อให้ไอริได้ดู
 

         "เรย์คะ! พรุ่งนี้สายแน่ค่ะ!" จู่ๆไอริก็พูดขึ้นมา ทำให้เรย์ที่ได้ยินถึงกับหงายหลังตกเก้าอี้ล้มโครมลงไปด้วยความตกใจ
 

         "หึยยยย หาเรื่องกันรึไงเนี่ยปัดโธ่!!!" เรย์เงยหน้าขึ้นมาพ้นขอบโต๊ะมาพูดด้วยความหัวเสีย แต่ไอริก็สายหน้ารัวๆ
 

         "ก็ไพ่ออกมาแบบนี้ค่ะ ฉันคิดว่าต้องมาสายแน่ๆเลย" ไอริพูดอธิบายด้วยรอยยิ้ม แต่มันอาจจะตรงกันข้ามกับคนที่กำลังอยู่ข้างล่างของเธอเล็กน้อย
 

         "คิดว่าอะไรของเธอเนี่ย!"
 

         "ในขณะที่มาโรงเรียนก็จะได้พบหญิงสาวที่น่ารักแล้วก็อ่อนโยนระหว่างทางแบบโรแมนติก จนทำให้ลืมเวลาแล้วก็มาโรงเรียนสายน่ะค่ะ"
 

         ไอริอธิบายตามที่เธอเห็นในไพ่ที่กำลังหงายอยู่ด้วยความรู้เรื่องดูดวงของเธอที่มี เรย์เองก็ก้มดูไพ่ที่กำลังหงายอยู่ที่พ้นห้องนั้น แต่ก็เขาเองก็ดูเหมือนจะดูยังไงก็ดูไม่ออกกับไพ่พวกนี้
 

         "เป็นโค้งเป็นแควเลยนะเธอ"
 
 
 
 
 
 
 



         ลึกลงไปไปยังชั้นใต้ดินของโรงเรียนภายในห้องบัญชาการลับของกองกำลังแห่งไนท์เบลด ภายในห้องที่แสนจะมืดมิดนั้นยังคงมีบรรดานักเรียนที่เกี่ยวข้องกำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์จอขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มีเครื่องหมายและสัญลักษณ์ต่างๆมากมายที่ผู้คนทั่วไปน้อยคนนักจะเข้าใจถึงความหมายของมันได้
 

         ถัดจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มา สิ่งที่กำลังลอยอยู่ในอากาศที่สร้างด้วยเครื่องมือวิเคราะห์อะตอมกลางห้องบัญชาการใหญ่ห้องนั้นนั่นก็คือ ดาบ ที่เก็บมาได้หลังจากการต่อสู้ที่เขตชินตะคานะ ดาบของแม่ทัพแอลแกนดาล

         ลำแสงสีเหลืองค่อยๆไล่ไปตามปลายดาบจนไปถึงด้ามจับของดาบอย่างละเมียดละไม และไม่นานนักข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ออกมาได้ขึ้นไปปรากฏที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์นั้น
 

         เมื่อเห็นรายละเอียดต่างๆที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมนั้นแล้ว ทำให้ชายหนุ่มผู้กล้าทั้งสี่คนรู้สึกตกใจเล็กน้อย กับค่าต่างๆที่ออกมาจากดาบเล่มนั้น
 

         "ลักษณะธาตุแบบนี้มันไม่ได้มาจากโลกนี้นิ มันคืออะไร?" ซิกฟรีดเมื่อได้เห็นรายละเอียดต่างๆที่เกินความคาดหมายของตัวเอง เขาก็เกิดคำถามขึ้นมา
 

         "หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นแร่อควอเรี่ยมครับ แร่ที่อยู่ใต้พื้นโลกในชั้นที่เกือบลึกที่สุด เป็นแร่ที่จะขุดขึ้นมาได้ยากมากๆ" แองเจโล่พูดขึ้นมาซึ่งในขณะที่เขาหันมาตอบกับเหล่าบรรดานักเรียนที่กำลังวิเคราะห์ดาบเล่มนั้นอยู่นั้น ดวงตาของเขาก็เปร่งประกายเป็นออร่าสีเหลืองอยู่
 

         เพราะแหวนแห่งสายฟ้าของแองเจโล่มีความสามารถในการนำคลื่นสมองตัวเองเข้าไปสู่โลกของคอมพิวเตอร์ได้
 

         "ที่เมนเฟรมคอมพิวเตอร์บอกมาอย่างนั้นเหรอ" ซิกฟรีดถามขึ้นมา
 

         "ครับ"
 

         "ยังไงก็ตามมันก็เป็นอาวุธที่สามารถทำร้ายพวกเราให้ถึงตายได้ล่ะนะ..." อคิลลิสที่กำลังยืนดูอยู่พูดขึ้นมา "บาดแผลของฉันไม่เคยไม่สมานตัวเองแบบนี้ ไม่เคยเป็น" 
 

         "ไม่นึกเลยว่าบนโลกนี้จะมีอาวุธที่สามารถเจาะผ่านพลังภายในที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวเราได้" รามูเนสพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังไล่ดูธาตุต่างๆอย่างตั้งใจ
 




         "นั่นคือดาบแห่งอิทิลออน!..."
 

         ทันใดนั้นเองเสียงทุ้มนุ่มหูที่ทุกคนในห้องนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดีก็ดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน พวกเขาหันไปตามที่มาของเสียงนั้น ก็ปรากฏอาจารย์ผู้มาพร้อมกับผมยาวหยักศกสีดำและชุดคลุมยาวสีขาวดำนั้น
 

         "อาจารย์เอวิน!!"
 

         "เป็นดาบแห่งความมืดที่ถูกตีขึ้นมาด้วยความเคียดแค้นจากไฟแห่งกอว์ลิ่ม เปลวไฟมรณะจากหุบเหวแห่งความมืด... เป็นดาบที่มาจากตำนานของแท้"
 

         "จริงเหรอเนี่ย!..." รามูเนสอุทานออกมาเล็กน้อยกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินมา "นอกจากแหวนของพวกเราแล้วยังมีสิ่งของอื่นๆที่เก่าแก่พอๆกันอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ?" 


         แต่ทว่าสายตาของอาจารย์เอวินกลับชายตามองไปรอบๆห้องนั้น โดยที่เขาไม่ได้ใส่ใจฟังในสิ่งที่รามูเนสพูดเมื่อกี้นี้เท่าไรนัก
 

         "แล้ว... เรย์ล่ะ? ยังไม่ได้เข้ามาเหรอ?" อาจารย์เอวินถามขึ้นมาทันทีเมื่อเขาไม่พบคนที่เขากำลังมองหาอยู่เมื่อกี้นี้
 

         "เรย์เขาขอไปทำงานวิชาต่างๆที่ยังค้างอยู่ของอาทิตย์ที่ผ่านน่ะครับ พอดีอาทิตย์ที่แล้วเรย์หยุดไปเกือบทั้งอาทิตย์เลย" แองเจโล่หันมาตอบ
 

         "นั่นสินะ" เมื่อสิ้นเสียง อาจารย์เอวินหันหน้าไปมองอคิลลิสที่กำลังยืนกอดอกมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่นั้น
 
 
 

         "บาดแผลของเธอเป็นยังไงบ้าง อคิลลิส?" เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองอคิลลิสก็รีบหันขวับตามเสียงนั่นเลยในทันที
 

         "ดีขึ้นเรื่อยๆครับ แต่ว่า...?" จู่ๆคำพูดของอคิลลิสก็ถูกหยุดโดยเจ้าตัวไปเฉยๆ ทำให้คนในห้องเกิดความมึนงงขึ้นมา ผู้กล้าทั้งสามต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่เอ๋อเรอ อาจารย์เอวินหลับตาลงเมื่อนึกถึงสิ่งที่อคิลลิสจะพูดต่อจากนั้นได้
 

         "เรื่องการรบในวันนั้นใช่มั๊ย? อย่าคิดมากน่า..." อาจารย์เอวินพูดเป็นเฉยปลอบใจ ผู้กล้าที่เหลือทั้งสามคนที่ดูจะไม่เข้าใจอยู่แล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
 

         "เรื่องการรบเหรอ ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดมากเลยนี่หน่า พวกเราแค่ห้าคนก็กำจัดกองทัพยักษ์พวกนั้นไปได้และเราเองก็ปกป้องเมืองๆนั้นได้ โดยที่ไม่มีใครเสียชีวิตซักคนเดียวเลยด้วยนะ มิหนำซ้ำเรายังจัดการแม่ทัพแอลแกนดาลของพวกมันได้ด้วยไม่ใช่เหรอ?"
 

         เมื่อสิ้นเสียงของรามูเนส อคิลลิสก็ส่ายหน้าช้าๆ
 

         "ป่าวเลย... พวกมันใช้กำลังพลไม่กี่พันเพื่อที่จะสืบกำลังของฝ่ายเรา แต่พวกไม่รู้อะไรเลย ได้แต่รอคอยการโจมตีครั้งต่อไป...."
 
 
       อาจารย์เอวินถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อไป       

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา