Innocent Love

-

เขียนโดย Neko_CJ

วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.55 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,371 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 09.38 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 4

 


จิตใจของหญิงสาวนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน แม้กระทั้งพระเจ้าก็ยังมิอาจสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้...แล้วนับภาษาอะไรกับยุนโฮเล่า เขาก็เป็นแค่เพียงผู้ชายธรรมดาบนโลกคนหนึ่งเท่านั้น

 

 

เขาไม่รู้หรอกว่าพี่สาวอย่างคิมฮเยซองกำลังคิดอะไรอยู่

เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมเธอถึงเรียกให้ผู้เป็นมาเข้ามาในร้าน ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจ แม่ไม่ชอบฮเยซอง ไม่สิ แม่ไม่ชอบให้อะไรมาเป็นตัวอ้างเหตุผลถึงการไม่เชื่อฟังต่างหาก

แต่สิ่งที่ทำให้ยุนโฮแปลกใจกว่านั่นก็คือ แม่ที่ปกติในสถานการณ์ที่เป็นโอกาสเช่นนี้..แม่กลับแค่นั่งอยู่เฉยๆ ในขณะที่พวกเราทำงานในร้านเช่นปกติ


“ไม่รู้พี่สาวไปตกลงอะไรกับแม่หรือเปล่า” ยุนโฮได้แต่พึมพำนึกสงสัย อยากรู้ก็อยากรู้ แต่ไม่รู้จะเริ่มถามอย่างไรดี...ใช่ว่ากลัวแต่เพราะไม่มีโอกาสมากกว่า พอจะอ้าปากถามพี่สาว เธอก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น หรือไม่ก็ใช้ให้ไปทำงาน

จะให้ไปถามแม่งั้นหรอ...ไม่เอาหรอก กลัวน่ะ

ดังนั้นยุนโฮจึงได้แต่รอโอกาสที่คำถามในหัวจะถูกเฉลย


วันคืนผ่านไป...เจ็ดวันพอดี

แม่ก็ยังเข้ามาในร้านตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเลิกร้านถึงค่อยกลับเป็นเช่นนั้นอยู่ตลอด

จากเคอะเขินและเกรงกลัวในตอนแรก บัดนี้ยุนโฮและเพื่อนทั้งสอง มิกกี้และจุนซู พวกเขาต่างเคยชินกับมันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วในที่สุดมันจึงกลายเป็นเรื่องปกติไป

ไม่มีใครคาดคิด...ว่าวันนี้จะเป็นวันตัดสินชี้ชะตาของยุนโฮ

ใช่แล้ว...ในคืนที่ฮเยซองบอกความในใจให้ยุนโฮรู้คืนนั้นนั่นล่ะ ที่เธอเล่นค้นหาเบอร์บ้านในใบสมัครงานของยุนโฮที่กรอกไว้
ฮเยซองโทรไปหาแม่ของเขา แน่นอนมันดูเป็นการไม่สมควร ทว่าคนอย่างฮเยซองไม่ชอบให้อะไรก็ตามที่เธอตั้งใจทำล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะบางอย่างถ้าไม่ทำทันทีมันจะชวนอึดอัดใจ ใครจะว่าใจร้อนก็ช่าง

แต่ผลสุดท้ายแม่ของยุนโฮก็ยอมร่วมพนันด้วย...

ถ้าหากแม่ของยุนโฮเป็นฝ่ายชนะฮเยซองก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยุนโฮอีกเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ในถ้ากลับกันถ้าหากฝ่ายชนะคือฮเยซอง แม่ของยุนโฮจะต้องปล่อยให้เขาตัดสินทางเดินด้วยตัวเอง จะต้องยอมให้ยุนโฮทำในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ไม่มีการบังคับอีกต่อไป...


“ว่าแต่เราจะพนันกันด้วยอะไรดีล่ะ”

เสียงสนทนาในตอนนั้นของแม่ยุนโฮถาม

“ความสุขของยุนโฮไงคะ” ฮเยซองตอบ

“ความสุขของยุนโฮงั้นหรอ?...นี่...ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของเธอหรอกนะ”

“แล้วใครว่าอย่างนั้นล่ะคะ ฉันคิดแล้วคิดอีก มันสามารถออกมาเป็นรูปธรรมได้”

“ขอโทษนะ ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ช่วยอธิบายให้กระจ่างกว่านี้ได้ไหม”

“คะ...ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามนะคะ ที่ผ่านมายุนโฮเขามีความสุขจริงๆหรือเปล่า”

“แน่นอนสิ ฉันมีเงินให้เขาใช้ ฉันส่งเขาไปเรื่องโรงเรียนดีๆ ฉันมอบความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายให้ ไม่เรียกว่ามีความสุขก็ไม่รู้ว่ายังไงแล้ว”

“แบบนั้นเรียกว่าความสุขแล้วงั้นหรอ”

“อะไรของเธอ”

“เอาเป็นว่า คุณลองมาที่ร้านฉัน นั่งอยู่ดูยุนโฮ นั่นดูเขาในทุกการกระทำทุกอย่าง ถ้าหากสิ่งที่เขาแสดงออกมาในขณะที่คุณจับตาดูอยู่ ถ้าหากเขาแสดงออกมาว่าเขามีความสุขในสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำทุกอย่าง ลองวัดดูด้วยตาที่ใจของคุณดูไหมคะ”

“ตาที่ใจ?”

“ลองไปพิสูจน์ดูว่าความสุขที่คุณมอบให้กับความสุขที่เขาพยายามไขว่คว้าด้วยตัวเขาเอง อย่างไหนกันแน่ที่จะทำให้เขารู้สึกว่าการดำรงอยู่ของเขานั้นมันคุ้มค่าที่สุด”

“ก็ได้ แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันเป็นฝ่ายถูก ก็อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ”

“ได้คะ แค่ให้คุณมาดูด้วยตา ถึงฉันจะแพ้ แล้วคุณจะเอาเรื่องฉัน จับฉันเข้าคุก ฉันก็ไม่ว่าอะไร...แต่มีกฎนะคะ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรคุณแค่เป็นฝ่ายนั่งดูอยู่เฉยๆ ตกลงนะคะ...เจ็ดวัน เวลาแค่เจ็ดวันเท่านั้นก็ได้”

“ได้ ฉันตกลง”

 

นั่นคือที่มาของเรื่องทั้งหมด...ไม่มีใครรู้นอกจากพวกเธอทั้งสอง

ฮเยซองไม่ยอมบอก เพราะฮเยซองใจจริงก็อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าที่เธอคิดมาตลอดมันถูกต้องจริงๆหรือเปล่า...

 

เพี้ยะ!!


ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่อง สวรรค์เบื้องบนมักช่วยเหลือ จะเพราะว่าอยากสนุกหรือเพราะแค่อยากช่วยจริงๆก็ตาม...


“ทำไมนายไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นล่ะ”

หญิงสาวผู้หนึ่งโวยวายขึ้น...เธอโวยวายเสียงดังต่อผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันคนนั้นหลังจากตบเขาทีหนึ่ง...

“อะไรกันเล่า” แน่นอนใครจะยอมล่ะ ผู้ชายคนนั้นถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่เช่นกัน

จะมีเรื่องตบตีกันในร้านหรือเปล่านะ...อย่าเลย ขออย่าได้มีอะไรแบบนั้นหรอกนะ ยิ่งวันนี้เปนวันชี้ชะตาของยุนโฮเขาด้วย...ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ทั้งๆที่ทุกอย่างที่ผ่านมามันไปได้สวยมาตลอด

จะเกิดเรื่องขึ้น ทำไมถึงต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ

“อย่ามีเรื่องกันเลยครับ คุยกันดีๆ ดีกว่าไหมครับ” ยุนโฮที่อยู่ใกล้ที่สุดพยายามห้ามปรามแต่แล้ว


ซ่า~~~!!!


ไม่ทันไรฝ่ายหญิงพลันเอาน้ำสาดใส่ ทว่าคนที่โดนกลับไม่ใช่คู่กรณีเสียนี่...คนที่โดนกลับกลายเป็นยุนโฮที่ไม่รู้เรื่องระหว่างสองคนนี้ด้วยซ้ำ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้กี่ยวข้องกัน แต่กลับดวงไม่มีรับเคราะห์แทน


“คิมแจจุง...ฉันคือแฟนของเธอนะ...” หญิงสาวกล่าว หน้าตาแดงระเรื่อด้วยแรงโทสะสลับพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย

“...แล้วในท้องของฉันก็มีลูกของเธออยู่ด้วย ถามมาได้ว่า ‘ใช่ลูกฉันจริงหรอ’...บ้ารึเปล่า นอกจากเธอ คิมแจจุง ฉันก็ไม่เคยยุ่งกับผู้ชายคนไหนเลยนะ”

“ก็มันตกใจนี่นา อยู่ดีๆก็นัดมาที่นี่ แล้วมาบอกว่า ‘ระหว่างงานกับลูกในท้องจะเลือกอะไร’ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...แต่เธอก็ไม่ควรพูดทำร้ายจิตใจขนาดนี้นี่นา”

อีกครั้ง...หญิงสาวร้องไห้ออกมา ก่อนจะหยิบถ้วยไอศกรีมที่ยังมีก้อนไอศกรีมอยู่ที่นั่น มุ่งตรงหรี่ละเลงใส่หัวแฟนหนุ่ม แล้ววิ่งออกจากร้านไปในทันที


ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า คิมแจจุง ยื่นหัวเสียเล็กน้อย

“คุณน่าจะตามเธอไป” ยุนโฮกล่าว

ผู้หญิงแบบนั้น ช่างเถอะ”

แม้สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงจะบอกเช่นนั้น ยุนโฮรู้ดีจริงๆแล้วคือไม่...สายตาที่มองตามของแจจุงมันฟ้อง อาจเพราะศักดิ์สีมันค้ำคออยู่ล่ะมั้งถึงได้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามเช่นนี้

ไม่ดีเลยจริงๆ...


“ไม่อยากปรับความเข้าใจกับเธอจริงๆงั้นหรอ” ยุนโฮย้ำ

“ไม่จำเป็น”

“ไม่จำเป็นอย่างนั้นจริงหรอครับ...สิ่งสำคัญถ้าปล่อยให้มันหลุดมือไป อาจไม่ได้กลับคืนมาชั่วชีวิตก็ได้”

“นายจะไปรู้อะไรล่ะ ทำงานของนายไปเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย”

คิมแจจุงทำท่าว่าจะเดินจากไป...


จะให้เป็นแบบนี้จริงๆน่ะหรอ ไม่ยอมหรอก...

จะให้มันค้างคาโดยไม่ทำอะไรเลยจริงๆน่ะหรอ...ไม่ได้ ไม่ยอมหรอก

ความเศร้าน่ะ ไม่ว่ากับใครหรือเพราะอะไรก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นในร้านนี้ล่ะก็ ร้านที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ร้านไอศกรีมที่สร้างความสุขแม้ว่าคุณจะผ่านเรื่องทุกข์อะไรก็ตาม

ไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น...ถ้าจะจากไป ก็ให้จากไปด้วยรอยยิ้มสิ ใช่ไหม


คุณครับ” ยุนโฮตะโกนเรียก...

ทั้งๆที่คิมแจจุงออกพ้นประตูร้านไปแล้วระยะหนึ่ง ถึงจะไม่ไกลมากก็ตาม


“คุณแจจุง”

ก็ยังตะโกนอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะสนใจหันมา

ทว่าดูเหมือนแจจุงจะไม่ตอบรับเขาเลย กลับเดินห่างออกไปเรื่อยๆ...คงมีวิธีเดียว นั่นคือการวิ่งตาม วิ่งสิ วิ่งไป วิ่งไปให้ทัน


“เดี๋ยว!! รอเดี๋ยวครับ!!”

ยุนโฮตะโกนเรียกตลอดทางที่วิ่งเข้าหาแจจุง...แน่นอนทุ่มเทขนาดนี้ ใจแข็งไม่ยอมหยุดเดินก็ให้มันรู้ไป...และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลจริงๆตามคาด


แจจุงหยุดเดินจริงๆ...

“อะไรของนายอีกล่ะ” เขาถาม

ยุนโฮหอบแฮกๆเล็กน้อย...มันเหนื่อยนี่นา เล่นเดินไม่ยั้งแบบนั้น เขาเองก็ต้องวิ่งให้เร็วตามเช่นกัน กว่าจะรู้ตัว ก็พบว่าวิ่งออกจากร้านมาไกลแล้ว

“แฮก แฮก...ผมไม่...ผมไม่ยอมให้ลูกค้าในร้านกลับได้พร้อมความเศร้า ความทุกข์ หรอกครับ...จะยังไงก็ได้ คุณจะไม่ยอมไปง้อแฟนคุณหรืออะไรก็ได้ แต่ได้โปรดช่วยกลับไปที่ร้านก่อนเถอะครับ”

ทำไม เขาลืมจ่ายเงินอย่างนั้นหรอ...ก็ไม่นิ เงินก็ถูกวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว หรือว่าหมอนี่จะมองไม่เห็นนะ ก็เปล่าสักหน่อย ในมือเจ้าหนูนั่นยังคำธนบัตรของเขาไว้ในมืออยู่เลย บางทีอาจจะให้รอเอาเงินทอนหรือเปล่านะ

“เฮ่ย~~~ ถ้าจะให้ฉันกลับไปเรื่องเงินทอน ไม่ต้องหรอก ถือว่าเป็นทิปก็แล้วกัน”


(- - )( - -)(- - )( - -)(- - )( - -)(- - )( - -)


“ไม่ใช่ครับ”

“แล้วมันเรื่องอะไร”

“ผมอยากให้คุณกลับไปกินไอศกรีมครับ”

เฮ่ย!!! บ้าน่า~~~ จู่ๆวิ่งมาหาเขาเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะให้เขากลับไปกินไอศกรีมที่ร้านนี่นะ หมอนี่ ท่าทางจะเพี้ยนเอาเรื่องเหมือนกัน

“ไม่ล่ะ” แจจุงปฏิเสธ


เห็นทีว่า พูดชวนดีๆคงไม่ได้แล้ว...

ชองยุนโฮ...ทั้งๆที่ไม่อยากจะทำ ทั้งๆที่ไม่เคยทำ ไม่รู้ด้วยซ้ำมันจะได้ผลหรือเปล่า ก็เคยแค่ในทีวี เอาเถอะ จะอย่างไรก็แล้วแต่ วันนี้ของบ้าสักวันจะเป็นไรไป

ยุนโฮอาศัยความไว กระชากกระเป๋าเป้ของแจจุง แล้ววิ่งหนีสุดชีวิต

ของสำคัญอยู่ในนั้นฉันไหมล่ะ...เงิน มือถือ บัตรต่างๆ ฯลฯ อยู่ในกระเป๋าหมด จะไม่รีบตามมาหรอ เอาสิ ให้มันรู้ไป...


แผนของยุนโฮได้ผล...

ครั้งแรกในชีวิตเลยนะนี่ที่ทำบ้าๆห่ามๆอย่างนี้...คงไม่ลืมไปใช่ไหมว่าแม่ก็อยู่ในร้านด้วย จริงๆแล้วลืมไปสนิทเลย


คิมแจจุง...ทั้งตกใจ ทั้งโมโห อะไรกันหมอนี่ เดี๋ยวก็ขอให้ง้อแฟนทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เดี๋ยวก็วิ่งมาชวนไปกินไอศกรีมในร้าน ขอโทษเถอะคนอยู่ในโหมดนี่จะมานั่งกินกินไอศกรีมลงงั้นหรอ ยังไม่พอตอนนี้ก็ฉกกระเป๋าเขาไปอีก...วันนี้เป็นวันอะไรของเขากันแน่นะ คิมแจจุงสงสัย


กระทั่งสุดท้ายแล้วก็ต้องย้อนกลับเข้าไปในร้านไอศกรีมจนได้

“เอากระเป๋าคืนมาเดี๋ยวนี้” แจจุงตะโกนลั่น ทั้งๆที่ยางอายเต็มใบหน้า...

เออ...ขอโทษที่มารบกวนความสำราญของลูกค้าทุกท่าน ถ้าหากมันไม่จำเป็นให้ตายก็มิบังอาจ ในกระเป๋าใบนั้นถ้าไม่เอาคืนมาคงได้ไส้แห้งตายแน่

กว่าจะได้มาเลือดตกยางออกไปหลายหยดเหมือนกัน...สำหรับคนที่ไม่เก่งอะไรเลยเลยนอกจากชกมวยหาเลี้ยงชีพอย่างแจจุง


“เอากระเป๋าคืนมา” ขออภัยอีกครั้งครับผม

ไม่รู้เจ้าหนูเด็กเสริฟจอมเพี้ยนคนนั้นหายไปไหนแล้ว หรือมันจะเป็นญาติกับพ่อมด


“เชิญคะ”

หญิงสาวที่คาดว่าคงจะใหญ่ที่สุดในร้านเดินเข้ามาหาแจจุง...

“ฉันชื่อคิมฮเยซองคะ ถ้าไม่รังเกียจร้านเราจะขอเลี้ยงไอศกรีมคุณสักถ้วยนะคะ...ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไม เอาเป็นว่าเนื่องในโอกาสอยากให้คุณได้ทานก็แล้วกัน ถ้าหากคุณปฎิเสธล่ะก็ ฉันจะร้องไห้ในร้าน เสียงดังๆให้คุณขายหน้าไปเลยคะ...”

อย่างว่าสิ ขนาดเจ้าของร้านยังเพี้ยนขนาดนี้ ลูกน้องดีๆก็คงหายาก

“เข้าใจแล้ว กินเสร็จคืนกระเป๋าให้ด้วยนะ”

“คะ ^^”


ไม่นานนักไอศกรีมก็ถูกเสริฟมา...

มันคือไอศกรีมมะม่วงกับราสเบอร์รี่ที่ฮเยซองเคยให้ยุนโฮชิมครั้งก่อนนั่นเอง

“มันชื่อว่า ‘Sweet Vacation’ ครับ”

“เออ”

“ขอให้มีความสุขกับไอศกรีมนะครับ ^^ ”

บ้าดิ...ใครจะสุขได้ล่ะ กระเป๋าหง่ะกระเป๋าของฉ้านนน

เอาเถอะ...แค่กินๆมันไปให้หมดใช่ไหม...

 

ว่าแล้วคิมแจจุงจึงกินเข้าไป...ในตอนแรกเขาแทบไม่รู้สึกใดๆนอกจากความเย็น เพราะจิตใจที่ขุ่นมัวและเป็นกังวลนั่นเอง ทว่า พอได้กินไปเรื่อยๆ บางสิ่งสามารถเรียกอดีนาลีนออกมา เขารู้สึกค่อยๆดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก

บางทีเขาอาจจะเผลอเข้าร้านไอศกรีมของแม่มดพ่อมดพวกนั้นแล้วล่ะมั้ง...

เพราะอย่างนั้นในมโนภาพชั่วแวบ แจจุงเห็นรอยยิ้มของแฟนสาว...คนที่เขาเพิ่งปล่อยให้หลุดมือไปคนนั้น...โถ้เอ้ย รอยยิ้มนั่นช่างงดงามเหลือเกิน...

“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้กลับมาอีกครั้ง รอยยิ้มนั่น รอยยิ้มที่ทำให้ผมหลงรัก”

เหลือเชื่อเลยแหะ...จู่ๆทำไมถึงได้พูดออกไปอย่างนั้น

“ตอนนี้ก็ยังทันนะ” ยุนโฮพูด

“ไม่ทันหรอก ลูกโป่งมันลอยออกไปจากมือผมแล้ว”

“ใครว่าล่ะครับ ดูนั่น”

คงเป็นฝีมือหรือไม่ก็ฝีปากมิกกี้ แฟนสาวของแจจุง กลับมาที่ร้าน...กลับมาทันฟัประโยคนั้นของแจจุงพอดี...

คิมแจจุงทั้งตลึงทั้งดีใจ...

เอาล่ะในเมื่อพระเจ้าให้โอกาสได้แก้ตัวอีกครั้ง เขาก็จะทำให้ดีที่สุด...ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะเป็นสามีที่ดีได้หรือไม่ จะเป็นพี่ที่ดีได้หรือเปล่า แต่แจจุงก็จะพยายาม...

“ที่รัก ผมจะเลิกชกมวย ผมจะหางานทำ...แต่งงานกับผมเถอะนะ”

แฟนสาวของแจจุงยิ้ม...เธอกำลังมีความสุข

“คะ ตกลง”


..................................................

 


มันกลายเป็นเรื่องของคิมแจจุงไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้...แต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ผลสรุปออกมามันก็ดีมากจนคาดไม่ถึง

ผู้เฝ้ามอง...เริ่มเข้าใจอะไรได้นิดหน่อย


“ใช่ว่าฉันจะเห็นสิ่งด้วยกับเรื่องบ้าบิ่นพันธ์นั้น...” แม่ของยุนโฮพูด หลังจากปิดร้านแล้ว หลังจากผ่านเหตุการณ์ของแจจุงแล้ว


“...แต่ฉันก็ยอมรับ ลูกชายของฉัน ชองยุนโฮ เขากล้ามาก ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอสอนอะไรให้เขา ฉันไม่รู้ว่าเขาจดจำอะไรไปจากเธอ แต่ลูกชายของฉันเขามีความสุขจริงๆ มีความสุขกว่าสิ่งที่ฉันยื่นหยิบให้...เอาล่ะ ฉันแพ้แล้ว คิมฮเยซอง ฉันแพ้เธอแล้ว...ชองยุนโฮ พอหมดปิดเทอม กลับบ้านด้วยนะ เพราะถึงยังไงนั่นก็บ้านของเรา”


“หมายความว่า....”

“หมายความว่าลูกอยากจะทำอะไรก็ตามใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทุกสิ่งทุกอย่างหรอกนะ...แม่จะตามใจเฉพาะในสิ่งที่สมควรเท่านั้น...ฉันไปล่ะ”


คุณนายชองจะสะบัดหน้าจากไปง่ายหรอคะ...ไม่มีทางหรอกค่า

ไอ้เรื่องที่คุณนายตบหน้า ไอ้เรื่องที่คุณนายด่าว่า ‘แพศยา’ อิฉันไม่มีทางลืมได้หรอก...บอกแล้วสำหรับคนอื่นอาจปล่อยเลยแล้วจากไป แต่กับคิมเยซองนั้นไม่ใช่เจ้าค่า


“เออ...คุณนายชองคะ”

“อะไรอีกล่ะ คุณคิม”

“พอดีฉันมีไอศกรีมสูตรใหม่อยากให้คุณนายลองหน่อยน่ะคะ”

“ไอศกรีมอะไรของเธอ”

“ไอศกรีมสูตรพิเศษสำหรับคุณนาย”


ฮเยชองยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเล็กน้อย ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก นอกจากจุนซู...เพราะเพียงชั่ววินาทีมันก็แปลงสภาพเป็นยิ้มหวานบาดใจ


ไม่นานนักไอศกรีมสีสด จะว่าเป็นสีแดงระเรื่อหรือสีชมพูจ๋าก็ไม่รู้ซึ่งมันอยู่บนไอศกรีมสีเขียวอีกทีหนึ่ง...พลันเสริฟบนโต๊ะที่คุณนายชองนั่งทันที


“กรุณาท่านให้หมดนะคะ ฉันอุตส่าห์ทำได้หัวใจ...”

คุณนายชองระล้าระลังสักครู่...ตัดใจทานไม่ได้ มันน่ากลัวยิ่งกว่าน่ากิน

“...เพราะคุณนายไม่ชอบของหวานแต่สูตรนี้ขึ้นมา...”

ถ้ากินเข้าไปคงไม่ตายหรอกนะ

“...ยุนโฮ มิกกี้ และก็จุนซู เดี๋ยวไปล้างถ้วยล้างจานหลังร้านก่อนนะ...ไปสิจ๊ะ”


สามหนุ่ม ถึงไม่อยากไปก็จำเป็นต้องไป เพราะฮเยซองในตอนนี้น่ากลัวมาก...เป็นใบหน้าที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน ใบหน้าของแม่มด ใบหน้าของนางมารร้าย...

มายก็อต คุณแม่จะรอดไหมน่า...ถึงจะดูหยิ่งดูใจร้าย แต่ว่าพอคิดว่าอาจโดนอะไรจากฮเยซอง พวกเขาทั้งสามก็พากันสงสารแล้ว แต่จะทำไงได้...


มันก็คงเป็นเช่นนั้น...

การแก้แค้นของคิมฮเยซอง...ดังนั้นคุณนายชองจึงทานไอศกรีมรสพริกกับรสบอระเพชรไปเต็มๆ...


“...ยุนโฮ นายไม่จำเป็นต้องขอโทษพี่เลย...คนที่ต้องขอโทษน่ะแม่นายต่างหากล่ะ”


พอยุนโฮนึกถึงคำพูดในตอนนั้น...

พี่สาวต้องการจะแก้แค้นคุณแม่แน่ๆ...แม่ครับผมขอโทษ ไม่ว่าพี่สาวจะทำอะไรกับคุณแม่ ผมคงช่วยไม่ได้ คิดซะว่าเป็นการไถ่โทษที่แม่ตบหน้าและว่าพี่สาวแรงคราวนั้นแล้วกันนะครับ...


..................................................

 

กรุ้งกริ้ง~~กรุ้งกริ้ง~~


เสียงกระดิ่งดังขึ้น...

ไม่มีใครคาดคิดว่าคนๆนั้นจะเข้ามา....


“คุณป๋า~~!!!!”

ใช่...คิมแทซอง พ่อของคิมฮเยซองกลับมาแล้ว

ทว่า...แทนที่ลูกสาวจะดีอกดีใจ เข้ามากอดให้ชื่นใจ...ลูกสาวกลับเท้าสะเอว มองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างจะกินเลือดกินเนื้อ...หมั่นเขี้ยวอยากจะด่า

จู่ๆก็หายไป...แหม่...สำราญขนาดไม่ยอมกลับเป็นแรมเดือนเชียวนะ

“ทำไมไม่ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสเลยล่ะคุณป๋า”

"ลูกรักคุณป๋าขอโต้ด...นี่จ้าของฝาก ไวน์แดงจากบอร์โด กับนี่...น้ำหอม Dior ของแท้จากฝรั่งเศส”

คุณป๋า คุณป๋าน่ารักที่สุดในโลกเลย อุ้ย ของฝากๆๆๆๆๆ

อ้า~~~เอาอีกแล้วคุณฮเยซอง ทั้งที่จะใจแข็งไม่ยอมคุณป๋าง่ายๆ แต่แล้วก็กลับจำนนต่อของเซ่นเข้าให้อีกครั้ง ฮือ~~~เกลียดตัวเองจริงๆ


“ว่าแต่สามคนนี้ใครหรอลูก...คนไหนแฟน คนไหนชู้ คนไหนกิ๊ก”

คุณป๋าคะ...คุณป๋าจะทำให้คุณลูกสาวกลับมามีน้ำโหอีกครั้งใช่ไหมคะ

“พวกเขาทั้งสามคือพนักงานชั่วคราว เขามาทำงานตอนที่คุณป๋าหนีเที่ยวไงคะ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”


แหม่...ยังกล้าพูด ‘อย่างนี้นี่เองอีก’ ลูกสาวหลอกด่ายังไม่รู้ตัวหรอคะ...แต่คนอย่างคุณป๋า ถึงรู้ว่ากำลังถูกหลอกด่าก็คงทำแกล้งไม่รู้


“สวัสดีครับผมมิกกี้”

“สวัสดีครับผมคิมจุนซู”

“สวัสดีครับผมชองยุนโฮ”

“ฉัน คิมแทซอง ยินดีที่ได้รู้จักพวกนายนะ...เดี๋ยวเรามาเปิดไวน์ฉลองกันดีกว่า”

เอาอีกแล้ว


“คุณป๋า~~ พวกเขายังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยนะคะ”

“เอาหรอ...น่าเสียดายจัง”

วอนหาเรื่องเข้าตังเตแล้วไหมล่ะคุณป๋า


“เอ้านี่...ลูกรัก มัวแต่ดีใจเลยลืมเลย”

จู่ๆคุณป๋าก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้

“พอดีติดมือไปด้วยตอนเที่ยวฝรั่งเศสน่ะ โทษทีนะลูกรัก”


เพราะตราประทับตรงหัวจดหมาย...ทำให้ฮเยซองไม่รอช้าที่จะเปิดมาดูทันที

 

‘...ขอแสดงความยินดีกับคุณคิมฮเยซองด้วย เนื่องจากทางมหาลัยได้ตอบรับที่จะให้ทุนคุณคิมฮเยซองไปเรียนต่อ ณ. ประเทศสเปนแล้ว...’

 

กำหนดการก็คือวันเดียวกับที่พวกยุนโฮหมดปิดเทอมฤดูร้อนนี้พอดี

 

 

###########TO BE CONTINUAL############

 

 

หวัดดีค่าาาาา ตอนหน้าก็จบแล้ว  ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา