นักสืบหน้าใหม่หัวใจสีชมพู

-

เขียนโดย ANJell

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.18 น.

  7 ตอน
  7 วิจารณ์
  12.54K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 04.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) รูปถ่ายของฉันกับ???

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                    ศูนย์บัญชาการ Stop-Kos 

     "ก็อย่างที่บอก สภาพที่เกิดเหตุเป็นลักษณะห้องพักขนาดกว้างประมาณสี่ตารางเซนติเมตร ด้านในมีเตียงขนาดกว้างสองเมตรและตู้เสื้อผ้าไม้ขนาดกลางตั้งอยู่ข้างเตียงถัดไปเป็นโต๊ะหนังสือสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก ด้านขวาเป็นหน้าต่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีผ้าม่านสีชมพูเปื้อนเลือดนิดหน่อย สันนิฐานว่าผู้ตายอาจจะพยายามขอความช่วยเหลือ เอาล่ะ คนร้ายน่าจะเป็นเด็กนักเรียนของที่นี่นะ เพราะดูจากร่องรอยแล้วเหมือนเขาจะชำนาญพื้นที่เอามากๆ ซึ่งนั่นก็เป็นแค่ข้อสันนิฐานล่ะนะ แต่จุดสังเกตุอีกอันก็คือ อาวุธที่ใช้ฆ่าผู้ตายกับเป็นมีดราคาแพง สันนิฐานว่าคนร้ายค่อนข้างเป็นคนมีฐานะ แต่ยังไม่ทราบจุดประสงค์แน่ชัดว่าเขาฆ่าด้วยเหตุผลอะไร สิ่งที่พวกนายจะต้องทำอย่างแรกเลยก็คือ ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งตามรอยการหลบหนีของคนร้ายและจับเจ้านั่นมาให้ได้ ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะฯ" นับเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงที่ไอ้แว่นหนอนหนังสือบรรยายเกี่ยวกับแผนการในการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ แรกๆก็เริ่มเข้าใจแผนการอันแยบยลของมันล่ะนะ แต่พอฟังๆไปชักจะเบื่อขึ้นมาเหมือนกัน จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ไอ้แว่นบ้านี่มันดันพูดมากเกิดความจำเป็นน่ะสิ นี่พี่แกจะละเอียดไปไหมเนี่ย

 

     "นี่เด็กใหม่ เธอมีความเห็นว่าไง" ไม่ทันไรฉันก็ถูกยิงคำถามสำคัญจากไอ้แว่นเคป๊อปหน้าเกาเหลาสุดเก๋า และมันก็ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก เพราะคำถามของหมอนั่นมันดันเกี่ยวข้องกับมีดฝรั่งเศษที่ใช้แทงผู้ตายน่ะสิ ซึ่งถ้าเกิดฉันบอกไปว่ามีดเล่มนั้นเหมือนกับของที่ไอ้กัสใช้ล่ะก็ มีหวัง ได้ถูกสอบปากคำยาวแน่

 

     "เอ่อ คือว่าฉัน ฉันว่าเจ้าของมีดคงเป็นคนรวยล่ะมั้งนะ" นั่นล่ะคือคำตอบของฉัน มีดชั้นสูงจากฝรั่งเศษ ใครๆก็คิดว่าเจ้าของเป็นคนรวยทั้งนั้นจริงไหมล่ะ

 

     "ไม่สบายหรือป่าวเด็กใหม่ คำพูดของเธอดูต่างจากท่าทางนะ" คำพูดของไอ้แว่นทำเอาฉันแทบจะกระโดดเข้าไปถีบหน้ามันสักที ฉันดันไปลืมไปซะได้ว่าแว่นตาของไอ้บ้านี่มันเป็นระบบสแกนสแตมเมอร์เวอร์อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ และมันก็ทำให้สมองของฉันคิดไม่ตกเลยว่า สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไป ไม่รู้ว่าไอ้หมอนี่จะจับพิรุจฉันได้ไหม

 

     "ก็ นะๆๆๆนิดหน่อยน่ะ" แย่ล่ะสิ ดันพูดติดอ่างไปซะได้ เขาต้องรู้แน่ว่าฉันกำลังโกหกพวกเขาอยู่

 

     "งั้นเหรอ จะพักสักหน่อยก็ได้นะ" เชื่อง่ายแหะ โง่เหมือนกันนี่หว่า

 

     "นายน่ะใจอ่อนกับผู้หญิงอีกแล้วนะไอ้จองเบ ฉันไม่คิดว่ายัยนี่จะป่วยหรอก เอาล่ะแผนการที่นายบอกน่ะ มันหมดแล้วใช่ไหมห่ะ ฉันกับไอ้เขื่อนและยัยทอมไม้กระดานนี่ จะได้ออกปฏิบัติงานซะที" ดูเหมือนคำพูดของไอ้โทโมะจะช่วยฉันไว้ล่ะนะ เพราะขืนฉันอยู่ที่นี่ต่อไป ประสาทได้กินตายกันพอดี 

 

     "งั้นก็ ขอให้โชคดีนะ" 

 

     

                    พอหักนักเรียนหญิง ห้อง 104

     ในที่สุดฉันก็มาถึงที่เกิดเหตุ ดูจากภายนอกมันก็ไม่ต่างอะไร นอกจากหอพักนักเรียนหญิงธรรมดาที่อาจมีต้นไม้ดอกไม้ประดับล่ะนะ แต่พอฉันขึ้นไปดูจุดเกิดเหตุจริงๆแล้ว มันทำเอาฉันแทบเสียสติ ฉันพบรอยเลือดมากมายติดอยู่ทั่วทั้งห้อง เลือดสีแดงสดนั่นทำเอาฉันทำอะไรไม่ถูก เหตุการณ์มันเหมือนกับตอนนั้นเสียจริง ตอนที่พ่อกับแม่ของฉันถูกกระห่ำแทงจากคนที่พวกท่านรักมากที่สุดและที่สำคัญ คนร้ายในตอนนั้นก็เป็นคนที่ฉันรักด้วยเหมือนกัน ฉันต้องเสียพ่อแม่ในคราวเดียวกันภายในเวลาไม่กี่นาที ภาพการจากไปของท่านทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่ภายในหัวของฉันอยู่ตลอด ฉันสัญญากับร่างอันไร้วิญญาณไว้ว่า จะต้องจับกุมและลากตัวคนร้ายมาขอขมาพวกท่านให้ได้ แต่อีกใจหนึ่งฉันกลับคิดว่า แบบนั้นมันดีสำหรับตัวของฉันและของคนร้ายแล้วยังงั้นเรอะ 

 

     "ยืนเม่ออะไรอยู่ห่ะ นี่เรามาทำงานนะไม่ได้มาเดินแบบ" เสียงของไอ้คนที่ชื่อโทโมะช่วยเรียกสติฉันให้ฟื้นคืนกลับมา แต่ก็ดีแล้วล่ะ ฉันจะได้ไม่ต้องมาคิดมากเกี่ยวกับเรื่องในอดีต 

 

     "ก็ได้ งั้นฉันไปตรวจที่ห้องน้ำก็แล้วกันนะ" 

 

     "ดูเหมือนผมจะเจอของดีเข้าแล้วล่ะครับรุ่นพี่โทโมะ" เสียงของไอ้กบดังลั่นก่อนที่ฉันจะรีบเดินไปที่ห้องที่ไอ้หน้ากบนั่นเจอเบาะแสสำคัญ สิ่งที่ทำให้ต้องตกตะลึงเลยก็คือ ไอ้หน้ากบมันชูรูปถ่ายเปื้อนเลือดขึ้นมาให้ฉันกับไอ้โทโมะดู และฉันก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อคนในรูปก็คือตัวของฉันเอง ฉันถ่ายรูปคู่กับผู้ชายสวมชุดแจ๊กเก็ตสีน้ำเงินซึ่งฉันคุ้นกับเขาเอามากๆ แต่เสียดายที่รูปถ่ายใบนี้มันไม่สมบูรณ์ ใบหน้าของผู้ชายในรูปถูกตัดออก หากดูจากรอยแล้วมันน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุมากกว่าแรงจูงใจ ทันทีที่ไอ้โทโมะมันเห็น มันก็มองมาที่ใบหน้าของฉัน คาดคั้นฉันและสอบเค้นฉันถึงรูปถ่ายเปื้อนเลือดนั่น สาเหตุน่ะฉันไม่รู้หรอก แต่ที่รู้ๆอยู่ก็คือคนที่เอามาน่ะฉันรู้จักเขาดี ฉันรู้ว่าหน้าที่แท้จริงของผู้ชายในรูปเป็นใคร และที่สำคัญฉันค่อนข้างจะสนิทกับเขาด้วย 

 

     "คือว่า มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะ" ฉันพยายามไม่บอกรายละเอียดอะไรออกไป เพราะมันอาจทำให้เรื่องราวมันดูใหญ่โตขึ้น สิ่งที่ฉันจะทำในตอนนี้ก็คือ พยายามหาร่องรอยการหลบหนีคนร้ายโดยไม่ให้เจ้าพวกนั้นรู้ว่า คนร้ายที่ว่าเป็นใคร 

 

     "ถ้าเธอโกหกล่ะก็ คงรู้นะว่าจะเจอกับอะไร" หมอนี่ท่าทางเอาจริงแหะ ฉันอธิบายพร้อมยกข้ออ้างมานาน จู่ๆพวกโอปาเรต้างี่เง่านั่นก็ติดต่อเข้ามา ไอ้หน้ากบรีบรายงานเรื่องต่างๆไปทันทีก่อนที่ไอ้คนที่ชื่อป๊อปปี้จะบอกถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

     "ฉันพบชายคนนึงวิ่งไปที่หลังโรงเรียนน่ะ ลักษณะของหมอนั่นดูคล้ายกับคนร้ายในอุดมคติของไอ้จองเบมาก คือเขาเป็นผู้ชายรูปร่างบางสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หน้าหวานเหมือนผู้หญิงไว้ผมซอยสั้น สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำเงินและกางเกงยีนสีกรม รองเท้าผ้าใบสีขาว ก็นะ มันก็แค่คนร้ายในอุดมคติน่ะ อาจมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ถ้าเกิดพวกนายเจอคนร้ายตัวจริงล่ะนะ" น่าแปลกที่สิ่งที่ไอ้ป๊อปปี้นั่นบอก มันกลับตรงกับผู้ชายที่อยู่ในรูปนี้เป๊ะ ตกลงไอ้แว่นนั่นมันเป็นหมอดูหรือไง บรรยายซะละเอียดถี่ยิบ แต่ถึงยังไงพวกเราสามคนก็ยังต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป เพราะมันอาจจะเจอเบาะแสอื่นๆอีก และดูเหมือนว่า ฉันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งไปกับพวกสต๊อปอ็อดๆนี่ไปซะแล้ว

 

แหะๆอาจยาวไปหน่อยน่ะค่ะ ติดตามรับชมกันต่อตอนหน้าค่ะ 

 

     

 

 

 

 

 

        

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา