Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

9.7

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12.31 น.

  45 ตอน
  590 วิจารณ์
  87.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 17.57 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

41)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Beside...สายลมเคียงใจนายตะวัน

ตอนที่๔๑

               

 

               แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาในงานวันเกิดของคุณพรพิมล งานถูกจัดบริเวณริมหาดของ

 

เกาะตะวันที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของทะเลและแสงอาทิตย์อัสดงที่สวยงามราวกับภาพใน

 

จินตนาการ    ธีมงานถูกจัดในอยู่ในโทนสีฟ้า-ขาว  ทำให้ภาพรวมของงานดูสวยงาม สบาย และ

 

หรูหราไม่เชื่อชื่อเจ้าแม่วงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ทุกคนภายในงานกำลังชื่นมื่นไปกับ

 

บรรยากาศและเสียงเพลงจากเครื่องไวโอลินและเปียโนที่ยังเคล้าคลอกับเสียงคลื่นสาดกระเซ็น

 

 

 

 

               ในบริเวณที่ห่างออกไปยังมีสองหนุ่มสาวที่ยังคงยืนเคียงข้างกันบนผาตะวัน ดื่มด่ำ

 

บรรยากาศแสนหวาน เมื่อแสงสีทองค่อยๆพาดผ่านท่องนภากระทั่งกลายเป็นสีส้มชมพูในที่สุด

 

สายลมพัดพากลิ่นไอของทะเลมาปะทะร่างกายแค่คงไม่มากไปกว่าความอบอุ่นในหัวใจทั้งสองดวง

 

ที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

 

 

               “ผมมีความสุขจังเลยฟาง”น้ำเสียงเข้มทว่าอบอุ่นในหัวใจคนฟังเอ่ยขึ้นข้างๆใบหู

บอบบางของคนรัก

 

 

               “ฟางก็มีความสุขค่ะ”น้ำเสียงหวานเอ่ยเพื่อเปิดเปลือยความรู้สึกของตนเองบ้าง ร่าง

บอบบางค่อยๆถูกหมุนให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแกร่งดั่งหินผาของภาณุ

 

 

               “ผมรู้แล้วว่ารักมันเป็นยังไง แค่มีคุณอยู่ตรงนี้กับผม แค่เรายังรักกันเหมือนเดิม ไม่ว่า

เราจะอยู่ห่างกันแค่ไหนก็ตาม”

 

 

               “ฟางไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะโง่เง่าร้องไห้ให้ผู้ชายคนไหนได้มากขนาดนี้ ฟาง

เสียใจแค่คิดว่าที่ผ่านมาคุณไม่เคยรักฟาง แล้วก็แทบบ้าเมื่อคิดว่าคุณกำลังจะทิ้งไป”

 

 

               “แล้วนิทานเรื่องนี้ก็สอนให้ได้รู้ว่าคุณควรจะฟังผมให้มากกว่านี้นะเด็กน้อย”

 

               ภาณุดีดหน้าผากคนรักด้วยความหมั่นไส้ เพราะเธอเป็นซะแบบนี้ ชอบคิดเองเออเอง

เขาถึงได้แทบจะเป็นบ้าเป็นหลังตามเจ้าหล่อนไปอีกคน

 

 

               “เอ้ะ รู้แล้วน่า เจ็บนะ”

 

 

               “หรอ ฮ่าๆ กลัวเมคอัพหลุดหรือไง”เขาแกล้งเย้าคนตัวเล็กที่วันนี้เธอดูพิถีพิถันในการ

แต่งตัวมากกว่าทุกวัน

 

 

               “อะไรยะ เนี่ยใสๆ ไม่แต่งก็สวย”เขาเลิกคิ้วมองเธออย่างเย้าแหย่ แต่กลับโดนฝ่ามือ

พิฆาตตบเข้าให้กลางอกเสียจนแทบกระอัก

 

 

               “แต่งงานกันไหม”เขาแกล้งถาม แต่ก็จริงจังในที เขานั้นอยากแต่งเสียวันนี้พรุ่งนี้ แต่

เขาคิดว่าคนตัวเล็กไม่ได้คิดแบบเขาแน่นอน เธออายุยังน้อย คงอยากหาประสบการณ์อะไรอีก

มากมายและคงไม่พร้อมที่จะมาเป็นแม่บ้านให้เขา

 

 

               “อีกสักปีสองปีไม่ได้หรอคะ ฟางยังอยากทำอย่างอื่นอยู่เลย”

 

 

               “ทำอะไรล่ะ แต่งงานแล้วก็ทำได้นี่”

 

 

               “แต่ยังไม่อยากมีลูกเลย เขาบอกว่าผู้หญิงท้องแล้วจะไม่สวย หุ่นต้องพัง สามีก็หนี

ไปมีเมียน้อย ยิ่งแบบคุณนี่น่ากลัว”

 

 

               “ฮ่าๆ น่ากลัวยังไงล่ะ”เขาเชยคางมนของจอมคิดมาก ประติดประต่อเรื่องเองนี่ดู

เหมือนเจ้าหล่อนจะถนัดนัก

 

 

               “ก็...ผู้หญิงชอบคนในเครื่องแบบนะ พอฟางไม่สวย ไม่สิ ไม่เหมือนเดิมแบบ    

 ตอนนี้แล้ว คุณก็ต้องคิดหาใหม่ มันเป็นธรรมชาติของผู้ชายยังไงล่ะ”เขาพยักหน้าหงึกๆ

ก่อนจะพูดต่อ

 

 

               “ใช่มันเป็นธรรมชาติขอองผู้ชาย แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติสำหรับผู้ชายที่มีรักเดียว ผม

รักคุณเพราะจิตใจ ผมรักผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างผมในวันที่ผมกำลังมีปัญหา รักผู้หญิงที่มีน้ำใจคนนั้น

รักที่เธอช่วยเหลือคนแปลกหน้าอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้เต็มใจก็ตาม ผมยอมรับว่าคุณน่ารัก แต่รู้

อะไรไหม...”หญิงสาวใช้ดวงตาใสแป๋วที่ดูอย่างไรก็ไร้เดียงสาจ้องมองเขาแทนคำตอบ

เขาจึงพูดต่อ

 

 

               “คุณมันไม่ใช่สเป็คผมเลยสักนิด...ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงแก่นแก้ว แสบสัน แถมพูดจา

ขวานผ่าซากแบบคุณเลยสักนิด ผมติดจะชอบผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อย อ่อนหวาน เข้าใจผม แต่

ผมไม่งงกับตัวเองหรอกนะว่าทำไมถึงต้องเป็นคุณ เพราะผมรักผู้หญิงคนนี้ แล้วคุณล่ะ...”

 

 

               “รักค่ะ...”

 

 

               “แต่ว่า...”เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหญิงสาวพูดแบบนั้น

 

 

               “ฟางยังไม่อยาก...”เขาไม่รอให้เธอพูดจบ

 

 

               “เรื่องแต่งงานผมยังไงก็ได้ ผมเข้าใจว่าคุณยังอยากหาประสบการณ์แต่ภายในปีถึง

สองปีนี้นะ เพราะผมคงรอไม่ไหวอีกแล้ว”

 

 

               “ค่ะ สัญญา”เขายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับคนตัวเล็ก สบดวงตาหวานที่ทอประกายแห่ง

ความสุขของหญิงสาวและก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ อ้อมแขนแกร่งโอบร่างเล็กเข้ามาใกล้ ริมฝีปาก

อุ่นร้อนจรดจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน

 

‘คงไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารักได้อีกแล้ว...นอกจากเธอ’

 

 

 

 

 

               ธนันต์ธรญ์รู้สึกอึดอัดไม่น้อยเมื่อรู้ตัวดีว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของนักข่าวและแขก

 

ผู้มีเกียรติในงาน จะไม่ให้สนใจยังไงไหว ก็เธอเองเป็นใครมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ ซ้ำภาณุยังทำตัว

 

ติดเธอราวกับแฝดสยามแบบนี้

 

 

 

               “ไม่ต้องไปสนใจหรอก”เธอเงยหน้าขึ้นมองภาณุที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ ใช่สิ เขา

ไม่ใช่เธอนี่ เขาจะรับรู้อะไรว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันแย่ขนาดไหน ทำไมนักข่าวที่ช่างสอดส่อง

เรื่องชาวบ้านพวกนี้ไม่พุ่งเข้ามาถามเธอให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆมันก็

คงจะดีกว่าสถานการณ์ย่ำแย่และแสนอึดอัดนี้

 

 

               “ตาป๊อป พาน้องขึ้นไปบนเวทีสิ ใกล้เวลาแล้ว”

 

 

               “ครับ”ภาณุรับคำง่ายๆ เขากึ่งลากกึ่งจูงเธอขึ้นไปบนเวทีที่พิธีกรกำลังกล่าวเชิญ

 

เจ้าของงานวันเกิดขึ้นไปกล่าวขอบคุณ และตัดเค้กวันเกิด

 

 

 

 

               ภาณุบีบมือเล็กของธนันต์ธรญ์ที่กำลังเย็นเฉียบเบาๆ ดูเหมือนว่าเธอกำลังตื่นเต้นหรือ

กังวลกับสถานการณ์นี้มากเกินไป เมื่อมารดา เขาและเธอขึ้นไปยืนอยู่บนเวที แสงแฟลชจากกล้อง

หลายตัวสาดส่องมายังพวกเขาก่อนที่มารดาจะกล่าวอะไรบางอย่าง

 

 

               “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนที่สนใจและให้ความสำคัญกับ

 

งานวันเกิดปีที่สี่สิบเก้าของดิฉัน ดิฉันมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ทุกคนให้เกียรติมาอวยพรวัน

 

เกิดของฉันในวันนี้ และนอกจากคำขอบคุณแล้ว ฉันยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเรียนให้

 

ทราบ...”คุณพรพิมลทอดเสียงยาวอย่างต้องการเรียกความสนใจ หล่อนเหลือบมองลูกชายและ

 

ว่าที่ลูกสะใภ้ตัวน้อยที่กำลังหน้าถอดสีอย่างเอ็นดู

 

 

               “เรื่องการแต่งงานของคุณภาณุหรือเปล่าคะ”

 

               คุณพรพิมลยิ้มเย็นให้กับนักข่าวสาวใจร้อน หล่อนผายมือไปยังลูกชายและธนันต์ธรญ์

ก่อนจะเอ่ย

 

 

               “ภาณุยังจะไม่แต่งงานหรอกค่ะ แต่งานหมั้นของเขาและว่าที่คู่หมั้นกำลังจะมีขึ้นใน

 

อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้ เรียนเชิญทุกท่านเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานให้ทั้งคู่...”

 

 

 

 

               ราวกับโลกทั้งใบถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเมื่อสิ้นคำพูดของคุณพรพิมล คุณทิพย์ธารา

 

ยังคงนิ่งเช่นเดิมราวกับไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ภาพที่หล่อนเห็นคือความสุขของ

 

ธนันต์ธรญ์ ลูกสาวของมารหัวใจหล่อน...ไม่ว่าจะผ่านไปแค่ไหน ไม่ว่าพิมพ์ดาวหรือธนันต์ธรญ์

 

ก็สามารถสร้างบาดแผลในใจให้หล่อนได้เสมอ...และครั้งนี้ไม่ใช่หล่อนเพียงคนเดียว

 

 

               “ฮึกๆ เขาดูเหมาะสมกันดีนะคะ”หล่อนโอบกอดลูกสาวตัวน้อยที่สะอื้นไห้จนตัวโยน

 

หล่อนรู้ซึ้งดีในรสชาติของความเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้งและผิดหวัง

 

 

 

ทำไมกัน...เพราะอะไรหล่อนและลูกจึงต้องมาพานพบชะตากรรมเช่นเดียวกัน...

 

 

 

                                                                    ...สายลมแห่งตะวัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


มาแล้วววววว แอบเบี้ยวด้วย พอดีไปหาแรงบันดาลใจมาาาา

 

นิยายเรื่องใหม่นี่มีใครอยากอ่านแนวพระเอกออกแนวมาเฟีย เข้มๆโหดๆ ปากแข็ง เย็นชา แต่แบบ

แอบรักแอบห่วงนางเอกงี้ป่ะะะ เราอยากแต่งแนวนี้ ฮ่าๆ เราเห็นว่ามันมีอยู่เกลื่อนกลาด แต่ถ้ามันมาในแบบฉบับPF ล่ะ อร้ายยย ฟิน ฮ่าๆ

 

          ปล.เรื่องนี้มีประมาณ43ตอนนะคะ ถ้าเราคาดไม่ผิด ตอนนี้ขอไปปั่นก่อนน้า

เม้น+โหวตให้เราด้วยน้าาาา

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา