[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  68.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

33) รักได้คนเดียว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!

Chapter 33

รักได้คนเดียว

 

 

 

 

 

 

 “นายเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”จุนฮยองถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับสำรวจตัวของฮยอนซึงอย่างละเอียด

 

 

“ล้มแค่นั้นจะเป็นอะไรเล่า นิดหน่อยเอง”

 

 

“ได้ไงล่ะ ถ้าเกิดกระดูกหักขึ้นมาจะทำยังไง ถอดเสื้อผ้าดิ๊ จะได้ดูละเอียดหน่อย”ฮยอนซึงยืนท้าวส่ายเอวมองหน้าจุนฮยองอย่างเอือมๆ จุนฮยองได้แต่ยิ้มแห้งๆให้

 

 

“ล้อเล่นน่า”

 

 

“เดี๋ยวก็ถอดจริงๆเลยนี่”

 

 

“อ๊า ก็ดีสิ ฉันจะได้นั่งมอง”

 

 

“แน่ใจเหรอว่าแค่มอง”

 

 

“จะมากกว่านั้นก็ทำให้ได้”

 

 

“ทะลึ่งจริงๆเลยนาย”ฮยอนซึงส่ายหัวก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง

 

 

“เตียงนายนุ่มจังเลย”จุนฮยองยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเดินไปนอนข้างๆ ฮยอนซึง

 

 

“ชอบเหรอ”

 

 

“อื้ม”

 

 

“งั้นก็มาอยู่ที่นี่กับฉันสิ นายจะได้นอนเตียงนี้ทุกคืนเลย โดยมีฉันนอนอยู่ข้างๆนาย”ฮยอนซึงหันหน้าไปมองจุนฮยองอย่างยิ้มๆ ก่อนจะแหงนหน้ามองเพดานแทน

 

 

“นายน่าจะหาดาวมาติดเพดานห้องไว้นะ เวลานอนจะได้นอนดูดาว”

 

 

“ไม่เอาอ่า ฉันนอนมองนายดีกว่า เพราะนายเองก็สว่างไสวไม่แพ้ดวงดาวเลย”ฮยอนซึงยิ้มออกมาบางๆ ตอนนี้หัวใจของเขากำลังสูบฉีดเลือดอย่างรุนแรง

 

 

“ฮยอนซึง”

 

 

“หือ”

 

 

“ฉันรักนายนะ”

 

 

“ฉันรู้”

 

 

“แล้วนายล่ะ”ฮยอนซึงกระพริบตาปริบๆ ตอนนี้เขารู้หัวใจตัวเองดีแล้ว และเขาก็ไม่อยากคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ทุกอย่างสำหรับเขาขอให้มันเป็นเพียงฝันร้าย ถึงแม้จะยังคงเจ็บอยู่ลึกๆ แต่เขาเชื่อมั่นว่า ถ้าหากได้อยู่ข้างๆจุนฮยอง บาดแผลในใจของเขาจะค่อยๆสมานไปเอง ฮยอนซึงยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร เขาค่อยๆกุมมือจุนฮยองอย่างช้าๆ

 

 

“มือนายใหญ่จังเลยอ่า”จุนฮยองเหล่มองมือของตัวเองที่ฮยอนซึงกุมไว้เล็กน้อย

 

 

ฮยอนซึง ตอนนี้นายกำลังเสแสร้งแกล้งทำหรือเปล่านะ แต่ถึงจะเป็นยังไง ก็ขอบคุณ เพราะทุกสิ่งที่นายทำล้วนแล้วแต่ทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกิน

 

 

“มือใหญ่แบบนี้แหละดีแล้ว”

 

 

“ทำไมอ่า”

 

 

“มือของฉันมีไว้เพื่อปกป้องนาย”ฮยอนซึงหนัหน้าไปมองจุนฮยองอย่างอึ้งๆ จุนฮยองกำลังยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนโยนก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาลูบหน้าฮยอนซึง แล้วก็ค่อยๆจูบปากของฮยอนซึงเบาๆ

 

 

“ขอให้ฉันได้ปกป้องนายได้ไหม”ฮยอนซึงสบตากับจุนฮยองอย่างครุ่นคิด

 

 

ทำไมฉันถึงต้องคิดอะไรอีก จะต้องคิดอะไรอีก จุนฮยอง

 

 

ฮยอนซึงยิ้มเป็นคำตอบให้กับจุนฮยอง เพียงเท่านั้นจุนฮยองก็ยิ้มตามอย่างดีใจ

 

 

“นายพูดจริงนะฮยอนซึง”

 

 

“อื้อ”

 

 

“ชั่วชีวิตของนายเลยนะ ฉันจะปกป้องและดูแลนายตราบชั่วชีวิต”ฮยอนซึงยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ

 

 

“อื้ม ตามใจนาย อยากทำอะไรก็เชิญ อิอิ”จุนฮยองมองฮยอนซึงที่นอนอมยิ้มด้วยแววตาแห่งความรัก เขาไม่รอช้ารีบจูบปากของฮยอนซึงอย่างรวดเร็ว

 

 

“อื้อๆ นายทำบ้าอะไรเนี่ย”

 

 

“ก็ไหนนายบอกกับฉันว่าอยากทำอะไรก็เชิญไง ตอนนี้ฉันอยากจะจูบนาย”พูดจบจุนฮยองก็จูบฮยอนซึงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ฮยอนซึงกลับแลกจูบอย่างดูดดื่ม

 

 

“อื้อๆ”จุนฮยองจูบฮยอนซึงไม่ปล่อย มือของเขาก็เลื้อยไปตามร่างกายของฮยอนซึงอย่างชำนาญ มือใหญ่ๆค่อยๆปลดกระดุมกางเกงของฮยอนซึงออก

 

 

“อ่า นายจะถอดกางเกงฉันทำไม”จุนฮยองไม่ตอบ เขาจูบไล่ตามร่างกายของฮยอนซึงอย่างมีอารมณ์ ฮยอนซึงได้แต่เหลือกตาไปมาเพราะเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้องการ

 

 

“พี่จุนฮะ….”แต่ขณะที่อะไรมันกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม คีย์ก็เสียมารยาทเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน จุนฮยองถึงกลับชะงักหันไปมองคีย์ที่ยืนตาค้างอยู่อย่างไม่พอใจ

 

 

“พ่อโทรมา ไปคุยกับพ่อด้วย”คีย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนักที่ต้องเข้ามาเห็นภาพที่บาดตาบาดใจ เขามองฮยอนซึงด้วยสายตาเกลียดชัง ฮยอนซึงแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะดึงข้อเสื้อจุนฮยองให้โน้มหน้าลงมาแล้วกต็จูบจุนฮยองเบาๆทีนึง

 

 

“นายไปคุยกับพ่อเถอะ เดี๋ยวฉันจะนอนรอ โดยไม่ใส่อะไรสักชิ้น”ประโยคสุดท้ายฮยอนซึงกระซิบข้างๆหูจุนฮยอง เขาเหล่ตามองคีย์ที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสะใจ

 

 

“งั้นเดี๋ยวฉันมานะ”จุนฮยองลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องผ่านคีย์ไปโดยไม่เหลียวแลสักนิด

 

 

“ร่าน!!!!”เพียงแค่จุนฮยองออกไป คีย์ก็พูดขึ้นมา ฮยอนซึงยิ้มออกมานิดๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วก็ใส่กระดุมเสื้อพร้อมกับติดกระดุมกางเกงเข้า เขาตั้งใจยั่วโมโหคีย์ชัดๆ

 

 

“หน้าด้าน มาหาผู้ชายถึงที่ ง่ายจริงๆ”

 

 

“ชิส ทำไงได้ คนมันมีดี ถ้าอย่างฉันเรียกว่าร่าน แล้วอย่างแกล่ะ จะเรียกว่าอะไร”

 

 

“หน้าด้านไร้ยางอายที่สุด คนอะไร ต่ำ”

 

 

“จุ๊ๆ ใช้คำพวกนี้กับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันกับจุนฮยองเป็นแฟนกัน ทำอะไรแบบนี้มันไม่น่าเกลียดหรอก ไม่เหมือนกับใครบางคน ที่ได้แค่คิด แต่ไม่มีสิทธิ์”

 

 

“แกว่าใคร”

 

 

“หมาแถวๆนี้แหละ หมาไร้ญาติ ไม่มีใครต้องการ แม้กระทั่งคนที่ตัวเองรัก เขายังไม่สนใจเลย น่าสงสาร น่าเวทนาเสียจริงๆ”

 

 

“ฮยอนซึง!!!”คีย์พุ่งเข้ามาหาฮยอนซึงอย่างรวดเร็วหวังจะตบหน้าให้หายหมั่นไส้

 

 

เพี๊ยะ!!!!

 

 

ฮยอนซึงแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ

 

 

“แกตบหน้าฉันงั้นเหรอ”

 

 

“เฮอะ ใครบอกกัน ฉันแค่ป้องกันตัวต่างหากเล่า”

 

 

“จางฮยอนซึง!!”

 

 

“อ๊ะๆ อย่าโมโหสิ ไม่ดีเลยนะถ้าคิดจะมีเรื่องกับฉัน”ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

 

“แกกล้ามากนะที่มาตบหน้าฉัน”

 

 

“แล้วไง”

 

 

“แล้วไง แกถามว่าแล้วไงงั้นเหรอ หึ แล้วแกจะได้เจอดี”

 

 

“ก็ลองดูสิ ฉันก็อยากจะรู้ว่าคนอย่างแกจะมีปัญญาทำอะไรได้”

 

 

“เตรียมตัวรับความหายนะได้เลย จางฮยอนซึง”

 

 

พลั่ก!!!

 

 

คีย์ผลักฮยอนซึงอย่างแรงด้วยความโมโหก่อนจะเดินออกไป ฮยอนซึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา

 

 

“ให้ตายเถอะ ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย”

 

 

ตุบ!!!

 

 

ฮยอนซึงล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆของจุนฮยอง เขายิ้มออกมาบางๆเมื่อนึกถึงสีหน้าและคำพูดของจุนฮยองที่ทำให้เขามีความสุขเสียเหลือเกิน

 

 

“จุนฮยอง ฉันเชื่อใจนาย ฉันรู้สึกได้ว่านายไม่มีทางทำให้ฉันเสียใจ”ฮยอนซึงหลับตาพริ้ม

 

 

ฉันมีบางอย่างจะบอกกับนาย สิ่งที่นายต้องการได้ยินและถามฉันบ่อยๆ ฉันจะขอเป็นคนที่ทำให้นายมีความสุขบ้าง จะเริ่มต้นใหม่ เพื่อนาย ยงจุนฮยอง

 

 

“พี่จุนฮยอง”คีย์ยืนดักจุนฮยองอยู่ที่บันได เขามองจุนฮยองด้วยแววตาเศร้าสร้อย

 

 

“นายมีอะไร”

 

 

“พี่เลิกกับฮยอนซึงเถอะนะ”

 

 

“นายมีสิทธิ์มาสั่งฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ”

 

 

“ผมไม่ได้สั่ง แต่ผมกำลังขอพี่”

 

 

“ประสาท นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งหรือมาขอร้องอะไรจากฉันทั้งนั้น เหตุผลเพียงข้อเดียวคือ ฉันเกลียดนายและแม่ของนาย มันเพียงพอไหมที่จะทำให้ฉันไม่อยากเห็นหน้าของนาย”

 

 

“แต่ผมรักพี่นะครับ”

 

 

“หึ”จุนฮยองมองหน้าคีย์นิ่ง

 

 

“เหตุผลที่ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะว่าฉันทนเห็นแม่นายมาแทนที่แม่ของฉันไม่ได้ เหตุผลข้อสองคือฉันเกลียดนายกับแม่ของนาย และที่สำคัญที่สุด เพราะความรู้สึกบ้าๆของนายมันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”คีย์มองจุนฮยองตาค้าง

 

 

“พี่รู้งั้นเหรอฮะ”

 

 

“นายคิดว่าฉันโง่มากหรือไง ต่างคนต่างอยู่ อย่ามาข้องเกี่ยวกัน นายก็อยู่ส่วนนาย ฉันก็อยู่ส่วนฉัน พูดแค่นี้คงจะฉลาดพอที่จะเข้าใจนะ”

 

 

“แต่ฉันรักพี่จริงๆนะ รักพี่มานานแล้ว รักพี่มาก มากกว่าหมอนั่นด้วยซ้ำไป”

 

 

“หุบปากซะ!!!”จุนฮยองตะคอกเสียงดังแล้วก็มองคีย์ด้วยความโมโห

 

 

“คนรักของฉันชื่อ จางฮยอนซึง ไม่ใช่หมอนั่น จำใส่หัวเอาไว้ หลีกไป ไม่งั้นอย่ามาหาว่าฉันใจร้าย”คีย์มองจุนฮยองทั้งน้ำตา เขาหลีกทางให้จุนฮยองเดิน

 

 

“และที่สำคัญ อย่ามายุ่งกับฮยอนซึง ถ้าเขาเจ็บตัวหรือเสียใจ นายโดนดีแน่”แล้วจุนฮยองก็เดินขึ้นห้องของตัวเองไป คีย์ได้แต่กำหมัดแน่นปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างเจ็บปวด

 

 

“ฉันไม่ยอมแน่ พี่จุนฮยอง แกด้วยไอ้ตัวดี!!!”

 

 

“เฮ้อ ให้ตายเถอะ”จุนฮยองเดินเข้ามาในห้องก็ต้องถอนหายใจเมื่อเห็น ฮยอนซึงที่บอกจะแก้ผ้ารอนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง

 

 

“มาหลอกให้อยาก จริงๆเลยนะฮยอนซึง”จุนฮยองเดินไปนั่งบนเตียงแล้วก็ลูบหน้าฮยอนซึงพร้อมกับก้มลงจูบที่ปากของ ฮยอนซึงอย่างแผ่วเบา

 

 

“ต่อให้ฉันทำนาย นายคงจะไม่รู้สึกตัว”จุนฮยองยิ้มออกมาก่อนจะอุ้ม ฮยอนซึงให้นอนอย่างสบาย

 

 

“หลับฝันดีนะ คนดีของฉัน”จุนฮยองจูบที่หน้าผากเบาๆก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆแล้วก็กอดฮยอนซึงเอาไว้ด้วยความรักที่มีอยู่เต็มเปี่ยมล้นหัวใจ

 

 

ปัง!!!!

 

 

คีย์ปิดประตูห้องอย่างดัง ก่อนจะรีบวิ่งไปนอนลงบนที่นอนแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

 

 

“ทำไม ทำไม ทำไมไม่เป็นผม ทำไมต้องเป็นมันด้วย ทำไมพี่ไม่รักผม ฮืออออ”คีย์ได้แต่นอนร้องไห้อย่างทำอะไรไม่ได้ ในขณะที่ร้องไห้อยู่ สายตาก็เหลือบไปเห็นซีดีที่เขาคิดจะเปิดดูเมื่อวานวางอยู่บนโต๊ะ คีย์รีบเช็ดน้ำตาของตัวเองออกแล้วไปหยิบซีดีแผ่นนั้นมาดูอย่างรวดเร็ว

 

 

“มันซีดีอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่ฮีชอลนะ ถ้าลองเปิดดู มันจะเป็นยังไง จะเอาไปต่อรองกับมัน หึ”คีย์ไม่รอช้ารีบเดินไปเปิดซีดีดูทันที

 

 

กึก

 

 

ตาของคีย์เบิกกว้างขึ้นเมื่อได้เห็นภาพที่แสดงอยู่บนจอทีวี เขายกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ

 

 

“จางฮยอนซึง หึหึ”คีย์ยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเขาคิดหาวิธีที่จะทำให้จุนฮยองมาเป็นของเขาได้แล้ว

 

 

“พี่ต้องรักฉัน พี่จุนฮยอง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทำไมเมื่อคืนไม่กลับบ้าน”กีกวังถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะเมื่อคืนหลังจากที่เขาเสร็จภารกิจกับดงอุนก็รีบกลับบ้านของตัวเองทันที แต่กลับไปก็ไม่เจอกับฮยอนซึง กีกวังมองหน้าฮยอนซึงอย่างต้องการคำตอบ

 

 

“พี่ไปนอนบ้านเพื่อนมา”

 

 

“เพื่อนคนไหน”

 

 

“กีกวัง นายเป็นน้องหรือเป็นแม่กันแน่เนี่ย”โยซอบที่นั่งมองสองพี่น้องมานานก็เอ่ยขึ้น

 

 

“นั่นสิ พี่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเป็นตำแหน่งให้ไอ้น้องชายตัวแสบดีไหม”  ฮยอนซึงพูดพร้อมกับยกมือยีหัวกีกวังอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

“ฮึ่ย ผมเสียทรงหมด เดี๋ยวดงอุนมาเห็นจะหัวเราะเอาได้นะ”ฮยอนซึงส่ายหัวเบาๆ

 

 

“มีความสุขดีนะ”

 

 

“เอ๊อะ ถามแปลกๆนะ”กีกวังจ้องหน้าฮยอนซึงนิ่ง แต่เขาก็ทำเป็นกลบเกลื่อนไม่รู้ไม่ชี้

 

 

“อะไรกัน พอผมพูดถึงดงอุน พี่ก็มีท่าทีแปลกๆ พอผมพูดถึงพี่ ดงอุนก็มีท่าทีแปลกๆ พี่ฮยอนซึง แล้วตกลงเรื่องที่ไม่ถูกกันน่ะมันเรื่องอะไรเหรอ บอกน้องชายคนนี้หน่อยนะ”

 

 

“จะบอกทำไม พี่ลืมไปแล้ว”

 

 

“ง่า จะลืมได้ยังไงกัน พี่เคยบอกไม่ให้ผมคบกับหมอนั่นนะ แต่แล้วจู่ๆ ดงอุนก็บอกว่า ที่เรามีความสุขได้ก็เพราะพี่ มันหมายความว่าอะไรเหรอ”ฮยอนซึงยิ้มออกมาบางๆ หัวใจของเขาตอนนี้สั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่เท่าเมื่อก่อน

 

 

“ก็หมายความอย่างที่ดงอุนพูดนั่นแหละ ไม่เอาแล้ว อยู่กับนายพี่จะบ้าตาย ไปเรียนดีกว่า”ฮยอนซึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“เฮ้ แล้วตกลงเมื่อคืนไปนอนกับเพื่อนคนไหน อย่าเพิ่งหนีสิ”กีกวังจะลุกตามฮยอนซึงไปแต่ถูกโยซอบดึงแขนเอาไว้

 

 

“นายจะอยากรู้ทำไมนักหนาฮะ”

 

 

“ก็ฉันกลัวว่าพี่ฮยอนซึงจะไปนอนกับหมอนั่นน่ะสิ”

 

 

“หมอนั่น หมอไหน”

 

 

“ก็เพื่อนปากห้อยของดูจุนไง”โยซอบทำหน้างงเล็กน้อย กีกวังส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด

 

 

“ไอ้คนที่ปากห้อยๆ หัวเหม่งๆน่ะ นึกออกไหม”

 

 

“นึกออกสิ”

 

 

กึก

 

 

กีกวังถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจ ขนแขนขนขาของเขาต่างสามัคคีกันลุกตั้งอย่างพร้อมเพียง กีกวังมองหน้าโยซอบเล็กน้อย

 

 

“อ๋อ พี่จุนฮยองนี่เอง เห็นมาก็นานไม่ยักจะรู้ว่าพี่เขามีลักษณะอย่างที่นายพูด แต่พอนายพูด ฉันก็เห็นทันทีเลย”โยซอบเอียงคอยิ้มหวานให้กับจุนฮยองที่ยืนมองตาขวางอยู่ ดูจุนที่ยืนอยู่ข้างๆจับมือเพื่อนตัวเองไว้

 

 

“ของของกู อย่าแตะต้อง มองก็ไม่ได้ เดี๋ยวสึกหมด”ดูจุนเดินไปนั่งข้างๆ โยซอบแล้วก็ลูบหัวเบาๆ กีกวังค่อยๆหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับจุนฮยอง

 

 

“ฉันพูดความจริงนะ หลักฐานก็แสดงอย่างชัดเจน”กีกวังยิ้มแล้วก็กระพริบตาปริบๆ

 

 

“เด็กมึง ปากหมาไม่เปลี่ยน”ดงอุนแตะไหล่เพื่อนเบาๆ

 

 

“เออน่า อยู่ไปเดี๋ยวก็ชินเองแหละ อย่ามองกีกวังแบบนั้นนะ เขาน้อง ฮยอนซึงนะเว๊ย”จุนฮยองหันหน้าไปมองดงอุนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองกีกวังที่ยืนกอดอกอยู่อย่างหมั่นไส้

“ฉันยอมให้แค่ฮยอนซึงคนเดียว”

 

 

“ง่า”กีกวังท้าวส่ายเอวมองหน้าจุนฮยองอย่างไม่พอใจ

 

 

“เดี๋ยวฉันจะยุให้พี่ฮยอนซึงเลิกกับนาย คอยดูสิ ชิส”

 

 

“ทำได้ก็ลองดูสิ”

 

 

“นี่”กีกวังที่กำลังจะพุ่งเข้าหาจุนฮยองก็ถูกดงอุนดึงแขนเอาไว้

 

 

“อย่าไปอวดดีกับมัน ทำแบบนี้แค่กับฉันคนเดียวก็พอ”ดงอุนกระซิบข้างๆหูกีกวัง

 

 

“ดีนะ ที่ดงอุนห้ามเอาไว้ ไม่งั้นนายได้ไปนอนกินข้าวต้มที่โรงพยาบาลแน่”

 

 

“อิอิ”โยซอบที่หลุดหัวเราะออกมาก็ต้องรีบยกมือปิดปากเมื่อเพื่อนอวดดีหันมามอง

 

 

“ดงอุน ปล่อยหมอนี่มา”จุนฮยองหันไปบอกเพื่อนตัวเอง

 

 

“เฮ้ย มึงอย่ามาทำเป็นน่า แฟนกูนะเนี่ย แฟนกู แฟนเพื่อน น้องแฟนมึงด้วย”

 

 

“เอาน่าไอ้จุน มึงอย่าใส่ใจเลย คิดซะว่า เป็นคนบ้าสมองไม่เต็มก็แล้วกัน”

 

 

ชิ้ง!!!

 

 

กีกวังส่งสายตาพิฆาตไปยังดูจุนทันที ดูจุนได้แต่ยักไหล่อย่างไม่รู้ไม่ชี้

 

 

“เฮ้ย!!ให้ตายเถอะ ฉันล่ะไม่ชอบเลยจริงๆ ชิชะ”แล้วกีกวังก็เดินสะบัดก้นออกไปอย่างหงุดหงิด ดงอุนมองเพื่อนทั้งสองอย่างทำใจก่อนจะเดินตาม  กีกวังออกไป

 

 

“กีกวังครับ รอด้วย เดินช้าๆหน่อยคนสวย คนหล่อตามไม่ทัน”ดูจุนถึงกลับยกมือขึ้นกุมขมับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเพื่อนตัวเอง

 

 

“นี่มันอยู่กับกีกวังมากเกินไปใช่ไหมเนี่ย ให้ตายเถอะ เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”

 

 

แปะ

 

 

“โอ๊ย โยตีพี่อีกแล้วนะ ตีพี่ทำไมเนี่ย”

 

 

“ก็พี่กำลังว่าเพื่อนรักเค้าน่ะสิ ใช้ไม่ได้เลยนะ”

 

 

“โอ๋ๆ พี่ขอโทษน๊า คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว นะนะนะนะ”ดูจุนทำหน้าอ้อนโยซอบเต็มที่ จุนฮยองที่มองอยู่ถึงกลับถอนหายใจออกมา

 

 

“มึงเองก็ใช่ย่อยนะ ไอ้ดูจุน”แล้วจุนฮยองก็เดินจากไป ดูจุนได้แต่นั่งเกาหัวอย่างอายๆ

 

 

“เป็นไง ว่าแต่คนอื่นดีนัก เข้าตัวเลย อิอิ”โยซอบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากแล้วก็ขำเบาๆ

 

 

“โยกำลังหัวเราะพี่เหรอ”

 

 

“เปล่านะ เค้าไม่ได้ทำแบบนั้นเลย อิอิ”

 

 

“แนะ ยังจะมาหัวเราะอีก เดี๋ยวตีก้นลายเลยนี่”

 

 

“หือ จะทำเค้าได้ลงคอเหรอ เค้ารู้ว่าพี่ไม่ทำหรอก เพราะพี่รักเค้าจะตาย”  ดูจุใช้นิ้วชี้ผลักหัวโยซอบเบาๆ

 

 

“รออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำกับขนมมาให้”

 

 

“ครับผม เร็วๆล่ะ เค้าชักจะหิวแล้ว”

 

 

“ได้ครับๆ”ดูจุนบีบจมูกโยซอบเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

 

 

“เดี๋ยวเค้านี่แหละจะตีพี่ให้ก้นลาย”ดูจุนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปซื้อขนมให้กับโยซอบ

 

 

“เฮ้ออออ”

 

 

“น้องโย”

 

 

“เอ๋”โยซอบหันไปมองลีทึกที่ยืนยิ้มให้กับโยซอบอยู่เบื้องหน้า

 

 

“สวัสดีฮะรุ่นพี่”

 

 

“สวัสดีครับ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวเหรอ”

 

 

“อ่อ ไม่ได้นั่งคนเดียวหรอกฮะ เค้านั่งรอพี่ดูจุนอยู่ ว่าแต่รุ่นพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”ลีทึกถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงข้างๆโยซอบ

 

 

“โย คือพี่ พี่อยากจะให้โยให้โอกาสพี่ ได้ไหมครับ”

 

 

“รุ่นพี่”

 

 

“ให้โอกาสพี่ได้พิสูจน์ว่าพี่รักโยมากแค่ไหน ได้หรือเปล่า”ลีทึกจับมือของ  โยซอบแล้วก็มองด้วยสายตาอ้อนวอน โยซอบยิ้มออกมาบางๆ

 

 

“ไม่มีโอกาสสำหรับใครทั้งนั้นแหละฮะ เพราะหัวใจของเค้ามีไว้สำหรับพี่   ดูจุนคนเดียว ขอโทษนะฮะ”โยซอบดึงมือออกจากมือของลีทึก แต่ทว่า…..

 

 

พรึ่บ!!!

 

 

ลีทึกกลับคว้าตัวของโยซอบเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว

 

 

“รุ่นพี่ ปล่อยเค้านะ เค้าหายใจไม่ออก”

 

 

“ไม่ พี่รักโย พี่รักโย โยรักพี่ได้ไหม คบกับพี่นะ นะโยนะ”

 

 

“ปล่อยเค้านะ อึดอัด หายใจไม่ออกแล้ว ปล่อย”

 

 

ผลั่ก!!!

 

 

โยซอบผลักลีทึกออกอย่างรวดเร็ว เขามองหน้าลีทึกอย่างไม่พอใจนัก ร่างกายของเขามีไว้เพื่อดูจุนเพียงคนเดียว

 

 

“คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เค้าขอตัวนะฮะ”โยซอบรีบเดินหนีจากลีทึกทันที

 

 

พรึ่บ!!!

 

 

แต่ทว่าลีทึกกลับกอดโยซอบจากด้านหลัง แล้วก็พยายามที่จะหอมแก้มของโยซอบ แต่ก็ถูกโยซอบหลบหลีก

 

 

“ปล่อยเค้านะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไง”

 

 

ตุบ!!!

 

 

โยซอบกระทุ้งศอกเข้าที่หน้าท้องของลีทึกอย่างแรง สายตาที่มองไปยังลีทึกเปลี่ยนไปในทันที

 

 

“เค้ารักพี่ดูจุนเพียงคนเดียว คนเดียวเท่านั้น อย่าทำแบบนี้เลยนะฮะ”

 

 

“ไม่ พี่รักโย พี่ไม่ยอม”ลีทึกวิ่งเข้ามากอดโยซอบ แล้งพยายามที่จะจูบปาก แต่ก็ถูกโยซอบขัดขืนทุกทาง เขาจะไม่ยอมให้ริมฝีปากของเขามีใครมาแตะต้องนอกจากดูจุนเพียงคนเดียว

 

 

“อย่าทำแบบนี้นะ ปล่อยเค้านะ ปล่อยสิ”

 

 

“ไอ้ลีทึก มึง!!!”

 

 

พลั่ก!!!

 

 

ตุบๆๆๆ

 

 

ดูจุนต่อยหมัดรัวใส่ลีทึกไม่ยั้งด้วยความโหโมที่ลีทึกมาแตะเนื้อต้องตัวของโยซอบ

 

 

“พี่ดูจุน พอๆพอได้แล้ว พอแล้ว”โยซอบรีบไปลากดูจุนออกจากลีทึก

 

 

“ปล่อยพี่โย พี่จะฆ่ามัน มันทำร้ายโย”

 

 

“ไม่นะ ถ้าพี่ทำแล้วเขาตายขึ้นมา โยจะอยู่กับใคร”ดูจุนหันไปสบตาของ  โยซอบเล็กน้อย เขาถอนหายใจออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

 

 

“ก็ได้ แต่ถ้ามึงยังมายุ่งกับโยซอบอีก กูไม่ยอมแน่ ไอ้ลีทึก”ดูจุนจับมือของโยซอบก่อนจะลากออกไป แต่โยซอบกลับดึงเอาไว้

 

 

“ทำไมโย”โยซอบแกะมือออกจากดูจุนก่อนจะเดินเข้าไปหาลีทึกที่นอนอยู่ที่พื้น

 

 

“ขอโทษนะฮะ แต่เค้ารักพี่ดูจุน”

 

 

กึก

 

 

ดูจุนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินโยซอบพูดแบบนั้นต่อหน้าลีทึก

 

 

“เค้ารับความรักจากใครไม่ได้นอกจากพี่ดูจุน เค้ายอมให้ใครมาสัมผัสร่างกายของเขาไม่ได้ นอกจากพี่ดูจุน พี่ดูจุนคือคนแรก คนเดียวและคนสุดท้ายที่จะได้ครอบครองเค้าทั้งร่างกายและหัวใจ ขอโทษนะที่เค้ารักพี่ดูจุนมาก มันมากจนไม่สามารถรักใครได้อีก ขอโทษที่รักพี่ไม่ได้ เพราะเค้ารักพี่ดูจุน”โยซอบยิ้มให้กับลีทึกบางๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปกุมมือของดูจุน ทั้งสองคนมองตากันเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้กัน ลีทึกนอนมองภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา

 

 

“เพราะนายเป็นแบบนี้ พี่ถึงอยากให้นายรักพี่บ้าง อยากมีคนที่รักมั่นคงอย่างนาย เฮ้อ ชาตินี้คงจะไม่มีวันได้เจอสินะ”ลีทึกยิ้มออกมาบางๆก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ

 

 

นับถือนายจริงๆ ยังโยซอบ

 

 

“นี่ที่พูดจริงเหรอ”ดูจุนกุมมือโยซอบแน่น

 

 

“พูดอะไรเหรอ”

 

 

“ที่บอกว่า พี่เพียงคนเดียวที่จะได้ครอบครองร่างกายโยน่ะ”โยซอบยิ้มอายจนหน้าแดง

 

 

“จริงสิ”

 

 

“แล้วเมื่อไหร่เหรอ”

 

 

“อีกห้าสิบปี อิอิ”ดูจุนหัวเราะเบาๆตามโยซอบก่อนจะโอบเอวโยซอบ

 

 

“ขอบคุณที่มั่นคงและซื่อสัตย์ต่อพี่นะโย พี่ซาบซึ้งใจจริงๆเลย”

 

 

“อิอิ ไม่ต้องขอบคุณหรอกฮะ แค่รักเค้าทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที ทุกลมหายใจเข้าออก ก็เพียงพอแล้ว”โยซอบหันไปยิ้มหวานให้กับดูจุน ก่อนจะโอบเอวของดูจุนบ้าง

 

 

“โยน่ารัก พี่รักโยจังเลย อิอิ”

 

 

“เค้าก็รักพี่เหมือนกันแหละน่า”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทางมหาวิทยาลัยของเราจะมีการจัดงานฉลองครบรอบวันก่อตั้งมหาวิทยาลัย ขอให้นักศึกษาทุกคนมาร่วมงานด้วยนะครับ”ฮยอนซึงอ่านข้อความในกระดาษอย่างเซ็งๆ

 

 

“เฮ้อ ไม่อยากมาเลยอ่า ทำไงดี”

 

 

“ทำไมอ่า น่าสนุกดีออกนะฮยอนซึง”

 

 

“แหม นายก็พูดได้นี่ซองมิน ชอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรองานแบบนี้น่ะ”

 

 

“อิอิ ชอบสิ ฉันจะใช้โอกาสนี้แหละคว้าหนุ่มมาแนบกาย อิอิ”ฮยอนซึงมองหน้าเพื่อนรักอย่างขำๆ

 

 

“ยังไม่เข็ดอีกหรือไงกัน”

 

 

“เข็ดอะไร ความรักน่ะ มันไม่ได้โหดร้ายขนาดจะต้องเข็ดหรอกนะ คนที่อกหักก็ยังดีกว่าคนที่ไม่เคยรักใคร”ซองมินหันมายิ้มให้กับฮยอนซึงเล็กน้อย

 

 

“นายโอเคแน่นะซองมิน”

 

 

“นี่ จะคิดอะไรมาก ฉันน่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว จะมานั่งเสียใจให้มันได้อะไรขึ้นมา อีกอย่างคราวนี้ดงอุนก็ดูจะจริงจังมากกับน้องของนาย นี่คงจะเป็นคนสุดท้ายสำหรับเขาแล้วล่ะ”

 

 

“นายรู้ได้ยังไงกัน”

 

 

“หึหึ ง่ายนิดเดียว เพราะแววตาของเขาที่มองกีกวังมันไม่เหมือนกับแววตาที่ใช้มองคนอื่นเลยสักนิดเดียว นายเชื่อหมอนั่นได้ เขาไม่ทำให้กีกวังเสียใจแน่นอน ฉันรับประกันอีกคนเลยอ่า”ซองมินตบไหล่เพื่อนเบาๆ ฮยอนซึงได้แต่ยิ้มออกมาบางๆ

 

 

นั่นสินะ เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว จะมานั่งเสียใจทำไม ไม่มีประโยชน์เสียเลย ฉันควรจะจบมันได้แล้วสินะ

 

 

“งานเลี้ยงฉลองครบรอบวันก่อตั้งงั้นเหรอ”ฮยอนซึงกวาดสายตามองใบปลิวอีกครั้ง

 

 

ทำให้จบ แล้วไปงานอย่างมีความสุขกับนายดีกว่า จุนฮยอง อิอิ

 

 

 

----------------------

10-11-2014

 

#ฟิคแบดเลิฟ

 

มาอัพต่อแล้ว ขอโทษที่หายไปนานนะคะ >_<

ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้อังเสมอมา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา