[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  68.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

43) เรารักกันไม่ใช่เหรอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!

Chapter 43

เรารักกันไม่ใช่เหรอ

 

 

 

 

จุ๊บจุ๊บจุ๊บจุ๊บ

 

 

ดูจุนยิ้มออกมาเมื่อมือของเขาเลื่อนไปจับที่ริมฝีปากของโยซอบที่เผยออยู่นิดๆ

 

 

“พี่จะถือว่าโยเปิดโอกาสให้แล้วกันนะ จูบขนาดนี้แล้วยังไม่ตื่นอีก”ว่าแล้ว ดูจุนก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของโยซอบเบาๆ ขนาดนี้แล้วโยซอบก็ยังไม่ยอมตื่น ดูจุนที่ยิ้มที่มุมปากนิดๆก่อนจะค่อยๆสอดลิ้มเข้าไปในปากของโยซอบแล้วก็จูบโยซอบอย่างดูดดื่ม

 

 

“อื้อ อื้อ”

 

 

พรึ่บ!!!

 

 

ดูจุนเบิกตากว้างเมื่อตอนนี้ตัวเองกลับเป็นฝ่ายถูกรุกด้วยฝีมือของโยซอบเอง โยซอบจูบปากของดูจุนอย่างหนักหน่วง ตอนนี้เขาเองก็กำลังนั่งอยู่บนตัวของดูจุน

 

 

“อ่าส์”โยซอบถอนริมฝีปากออกพร้อมกับเลียปากของตัวเองแล้วก็ยิ้มให้กับดูจุน

 

 

“เป็นยังไงบ้างฮะ เค้าทำอย่างที่พี่ทำกับเค้า”ดูจุนได้แต่นอนอึ้งอ้าปากค้างเพราะว่าจูบนั่นทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก

 

 

“ถ้าไม่พูดจะทำต่อแล้วนะ”โยซอบส่ายหน้านิดๆก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนอนของดูจุนออกช้าๆทีละเม็ด ดูจุนมองการกระทำนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว โยซอบแหวกเสื้อของดูจุนออกพร้อมกับใช้มือลูบไล้เบาๆก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าท้องของดูจุนแล้วก็เลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ

 

 

“อ่า โย”เสียงครางของดูจุนทำให้โยซอบชะงักไปนิด แล้วเขาก็จูบที่จุดอ่อนไหวของดูจุน

 

 

“อื้อ โย”โยซอบยิ้มนิดๆก่อนจะค่อยๆดึงกางเกงนอนของดูจุนลงจนสุดขา

 

 

“อยากให้ทำต่อไปไหมฮะ”โยซอบเงยหน้าขึ้นไปถามดูจุน เขาพยักหน้าเบาๆ แล้วโยซอบก็ถอดกางเกงในของดูจุนออกพร้อมกับจับมังกรของดูจุนแล้วบีบอย่างเบามือ

 

 

“อ่าส์”โยซอบพอใจกับสีหน้าของดูจุนในตอนนี้เป็นอย่างมาก แล้วเขาก็ค่อยๆอมมังกรของดูจุนก่อนจะเลียและดูดตามใจอยาก เสียงครางของดูจุนดังออกมาเป็นระยะๆมังกรของเขาก็เริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“โย แรงอีก เอาอีก อ่าส์”ยิ่งดูจุนยุโยซอบก็ยิ่งได้ใจตอบสนองความต้องการของดูจุนทันที

 

 

กึก

 

 

แต่แล้วโยซอบก็หยุดการกระทำนั้นพร้อมกับลุกออกจากตัวของดูจุนอย่างรวดเร็ว ดูจุนลืมตาขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“โยหยุดทำไม”

 

 

“มันเช้าแล้ว อาบน้ำแต่งตัวไปเยี่ยมพี่จุนฮยองเถอะฮะ อิอิ”โยซอบหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่ได้แกล้งดูจุนเล่น เขากำลังจะลุกออกจากเตียงแต่กลับถูกดูจุนจับกดลงบนเตียงแทน

 

 

“อื้อ พี่ดูจุน ปล่อยนะฮะ เค้าจะไปอาบน้ำ”

 

 

“ก่อนจะอาบก็ต้องทำความสะอาดร่างกายก่อนสิ”พูดจบดูจุนก็ก้มลงจูบปากของโยซอบ ส่วนมือก็ทำหน้าที่ถอดเสื้อผ้าของโยซอบแค่ชั่วพริบตาเดียวเสื้อผ้าของโยซอบก็ลงไปกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว

 

 

“อื้อๆ พอเถอะฮะ”โยซอบดันดูจุนออก แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าโดยมีร่างเปลือยของดูจุนนั่งทับอยู่

 

 

“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปก็ได้”พูดจบดูจุนก็ยกขาทั้งสองข้างของโยซอบพาดไหล่ของเขา

 

 

“พี่จะทำอะไรน่ะ”

 

 

“ท่าใหม่ไง”แล้วดูจุนก็จับมังกรของเขาสอดใส่ช่องของโยซอบ

 

 

“อ๊า อื้อ”โยซอบเกร็งเท้าไปหมด

 

 

“อ่าส์”ดูจุนครางออกมาเบาๆอย่างรู้สึกเสียว โยซอบตอนนี้หน้าแดงด้วยความอาย ดูจุนเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา

 

 

อึก!!!

 

 

ดูจุนกระแทกมังกรเข้าไปหนึ่งทีอย่างแรง

 

 

“ซี๊ดดดดดดด อ่าส์”โยซอบกัดปากตัวเองอย่างอายที่ครางเสียงแบบนี้ออกมา

 

 

“มันเจ็บนะฮะ”

 

 

“รู้สึกดีไหมล่ะ”

 

 

“อื้อ ซี๊ดดดดดดดดด อ่าส์”โยซอบครางออกมาอีกเมื่อดูจุนกระแทกเข้ามาอีกหนึ่งทีอย่างแรง

 

 

“ชอบแบบไหน แบบนี้หรือเร็ว รัวและแรง”โยซอบเม้มปากหลบสายตาของดูจุน

 

 

“ทั้งสองเหรอ”โยซอบพยักหน้าเบาๆดูจุนยิ้มออกมาก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบปากของโยซอบ

 

 

“ซี๊ดดด อ๊า อ่าส์”โยซอบครางออกมาอีกเมื่อดูจุนกระแทกมังกรเข้ามาในตัวของเขา ขาของเขาหุบเข้าหากัน แต่ก็ถูกมือของดูจุนจับแยกออก ดูจุนจูบมังกรของโยซอบแล้วก็เลียขึ้นเลียลงอย่างได้อารมณ์

 

 

“อื้ม อื้อ อ่าส์”โยซอบเสียวจนโยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ดูจุนทำได้ถนัดปากมากขึ้น

 

 

“ไม่ไหวแล้วเหรอ แอ่นซะ”โยซอบพยักหน้าเพราะตอนนี้เขารู้สึกทรมานเหลือเกิน ดูจุนยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆขยับสะโพกไปมาอย่างเนิบๆ

 

 

“อ่าส์ อื้อ อื้ม”เสียงครางของโยซอบทำให้ดูจุนมีอารมณ์มากขึ้น เขาค่อยๆเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น

 

 

“อ๊า!!!!!”แล้วน้ำขุ่นๆก็พุ่งออกมาจากมังกรของโยซอบพร้อมๆกับของดูจุนที่พุ่งเข้าไปในตัวของโยซอบ

 

 

“เฮ่อๆ”โยซอบหายใจหอบๆมองดูจุนนิ่ง ดูจุนค่อยๆเอามังกรน้อยออกแล้วก็จูบปากของโยซอบครั้ง

 

 

“คราวนี้ก็ไปอาบน้ำได้แล้ว”หน้าของโยซอบแดงมากขึ้นกว่าเดิม

 

 

“ไม่มีแรงเดิน”

 

 

“จะให้อุ้มเหรอ”

 

 

“อื้อ”

 

 

“ถ้าให้อุ้มต้องเสียค่าแรงต่อนะ”โยซอบหันไปมองหน้าดูจุนเล็กน้อย

 

 

“ก็ตามใจสิ”ดูจุนยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มปลุกเร้าอารมณ์ของโยซอบอีกครั้ง แล้วพวกเขาก็บรรเลงเพลงรักไปเนิ่นนานครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จุ๊บ

 

 

ฮยอนซึงจูบลงที่หน้าผากของจุนฮยองเบาๆ เขาลูบใบหน้าของจุนฮยองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

 

 

“ฉันรักนายนะ”

 

 

“จริงเหรอ”ฮยอนซึงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆจุนฮยองก็พูดออกมา

 

 

“อื้ม จริงสิ”

 

 

 

“ดีจังเลย ว๊า คืนนี้ช่างยาวนานจริงๆเลยนะเนี่ย ฉันนอนจนหายง่วงแล้วก็ยังไม่เช้าอีก”จุนฮยองพูดพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง

 

 

“ฮยอนซึง เปิดไฟหน่อยไม่ได้เหรอ ฉันอยากเห็นหน้านาย”ฮยอนซึงเช็ดน้ำตาออกพร้อมกับลุกขึ้นนั่งจับมือของจุนฮยองอย่างเห็นใจ

 

 

ก๊อกๆ

 

 

แอ๊ดดดดดดดดดดด

 

 

“อาหารเช้ามาแล้วค่ะ”เสียงหวานของพยาบาลเล่นเอาหัวใจของฮยอนซึงแทบหยุดเต้น เขาหันไปมองหน้าจุนฮยองที่ตอนนี้เบิกตากว้างอย่างตกใจ

 

 

“ทานอาหารเช้าแล้วก็ทานยาด้วยนะคะ”

 

 

“เหอะๆ ตอนนี้เขาส่งอาหารเช้า เช้าขนาดนี้เลยเหรอ”จุนฮยองพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฮยอนซึงบีบมือเขาแน่น

 

 

“ไม่นะคะ ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้ว เราส่งช้าไปด้วยซ้ำ ขอโทษนะคะ รับประทานอาหารให้อร่อยนะคะ”แล้วพยาบาลก็ยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไป

 

 

“ฮยอนซึง”

 

 

“หือ”

 

 

“นายยังไม่ได้เปิดไฟใช่ไหม ตอนนี้มันกลางคืนอยู่ใช่ไหม”

 

 

“ใช่ ฉันยังไม่ได้เปิดไฟ อีกอย่างตอนนี้ก็ยังมืดอยู่เลย”น้ำตาของฮยอนซึงไหลออกมาอย่างเสียใจ จุนฮยองจับมือของฮยอนซึงออกจากมือของตัวเอง

 

 

“คนรักกัน เขาโกหกกันด้วยเหรอ”จุนฮยองพูดเสียงเข้มแล้วเขาก็ค่อยๆลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล

 

 

“จุนฮยอง”ฮยอนซึงรีบลงจากเตียงแล้วไปพยุงจุนฮยองเอาไว้

 

 

“นอนเถอะนะ นายกำลังอ่อนเพลียอยู่”

 

 

“ปล่อยฉันนะ ฉันจะเปิดไฟ”จุนฮยองสะบัดฮยอนซึงออก เขาเดินอย่างไร้ทิศทางจนไปหยุดอยู่ที่ผ้าม่าน จุนฮยองจับแล้วเปิดผ้าม่านออก แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้อง เขารู้สึกแสบตาเล็กน้อย

 

 

“ร้อน มันร้อน นี่แสงแดดใช่ไหม ใช่ไหมฮยอนซึง”จุนฮยองหันไปถามฮยอนซึง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา

 

 

“ฉันมองไม่เห็นนาย นายอยู่ไหน ทำไมฉันถึงมองไม่เห็นนาย”

 

 

“จุนฮยอง”

 

 

พรึ่บ!!!

 

 

ฮยอนซึงวิ่งเข้าไปกอดจุนฮยองอย่างรวดเร็ว

 

 

“นายร้องไห้เหรอ งั้นแสดงว่า ตาของฉัน ตาของฉัน อ๊ากกกกกกกกกกกกก”จุนฮยองตะโกนเสียงดังลั่น เขาจับฮยอนซึงแล้วผลักออกจนฮยอนซึงล้มลงกับพื้น

 

 

“ไม่จริง นี่มันไม่จริง มันไม่ใช่เรื่องจริง อ๊ากกกกกกกกกกก”จุนฮยองเดินไปมาจนชนข้าวของไปทั่ว ฮยอนซึงนั่งร้องไห้มองอย่างปวดใจ

 

 

“จุนฮยองๆ”เขารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปกอดจุนฮยองจากด้านหลังเอาไว้

 

 

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับนาย ฉันรักนายนะจุนฮยอง ฉันรักนาย ฮือออออ”

 

 

“ฮือออออออออ ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไม อ๊ากกกกกกกกกกกก ทำไมๆๆๆ อ๊ากกกกกกกกกกก”จุนฮยองดิ้นไปดิ้นมาอย่างแรง แต่ฮยอนซึงก็ไม่ยอมปล่อยเขา

 

 

“ปล่อยฉันนะฮยอนซึง ปล่อยฉัน ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ตาของฉัน ตาของฉัน มันมองไม่เห็น มองไม่เห็นอะไรเลย ฮึกๆ มืดไปหมดแล้ว มืดไปหมดเลย มองไม่เห็นอะไรเลย อ๊ากกกกกกก ปล่อยฉัน ฉันไม่อยากอยู่แล้ว ปล่อยๆๆ”

 

 

ตุบ!!!

 

 

“โอ๊ย!!!”

 

 

จุนฮยองผลักฮยอนซึงออกอย่างแรงจนเขาล้มลงไปชนกับโต๊ะ

 

 

เพล้ง!!!

 

 

“ฮยอนซึง!!!”

 

 

จึก!!!

 

 

จุนฮยองเป็นห่วงฮยอนซึงมากจนเดินไปเหยียบกับเศษแก้วที่หล่นแตกเมื่อสักครู่

 

 

“จุนฮยอง!!!”ฮยอนซึงรีบเดินไปหาจุนฮยองที่ทันที

 

 

“นายเป็นยังไง อย่าขยับนะ ได้โปรดเถอะ”ฮยอนซึงร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขารู้สึกสงสารจุนฮยองเป็นอย่างมาก

 

 

“จุนฮยอง”ฮยอนซึงมองหน้าจุนฮยองที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเท่านั้น

 

 

“จุนฮยอง ฮึกๆ”

 

 

“มองไม่เห็น แม้แต่เศษแก้วยังเดินเหยียบเลย แล้วต่อไปฉันจะปกป้องนายได้ยังไงกันฮยอนซึง”ฮยอนซึงส่ายหน้าเขายกมือทั้งสองข้างเช็ดน้ำตาให้กับจุนฮยอง

 

 

“นายปกป้องฉันมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะปกป้องนายเอง ฉันจะดูแลนายเอง”ฮยอนซึงกอดจุนฮยองแน่น

 

 

“นายเจ็บไหม”ฮยอนซึงถามอขณะที่พยาบาลกำลังทำแผลให้กับจุนฮยองอยู่

 

 

“ไม่เจ็บหรอก”

 

 

“ถ้าเป็นไปได้อย่าเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวแผลจะอักเสบ ถ้าจะไปก็ให้นั่งรถเข็นเอาจะดีที่สุด”

 

 

“ครับ”ฮยอนซึงยิ้มให้กับพยาบาลก่อนจะหันไปมองจุนฮยองที่นั่งเศร้าๆอยู่

 

 

“ตาก็บอด เดินก็ไม่ได้อีก”ฮยอนซึงคุกเข่านั่งลงตรงหน้าจุนฮยองแล้วก็ซบหน้าลงบนตักของเขา

 

 

“เดี๋ยวนายต้องหาย นายจะต้องหายแน่ๆจุนฮยอง”น้ำตาของจุนฮยองไหลออกมา เขาจับหัวของฮยอนซึงเบาๆ

 

 

“อย่ามาเสียเวลาอยู่กับฉันเลยนะ”

 

 

กึก

 

 

ฮยอนซึงเงยหน้าขึ้นไปมองจุนฮยองอย่างตกใจ

 

 

“นายรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา”

 

 

“ฉันรู้ตัวดีฮยอนซึง ไปซะ อย่ามาเสียเวลาอยู่กับคนไร้ค่าอย่างฉันเลย ไปจากฉันซะเถอะ”

 

 

“จุนฮยอง ถ้านายพูแบบนี้อีก ฉันจะไปจริงๆแล้วไม่กลับมาหานายอีก ไม่มาให้นายเห็นอีก”จุนฮยองยิ้มออกมาบางๆทั้งน้ำตา เขากำหมัดแน่น

 

 

“อย่างนั้นก็ดี นายจะต้องเจอคนที่ดีกว่าฉัน ขอให้…”

 

 

เพี๊ยะ!!!

 

 

ฮยอนซึงตบหน้าของจุนฮยองทั้งน้ำตาพร้อมกับโผเข้ากอดแล้วก็ร้องไห้ออกมา

 

 

“ฮืออออ ฉันจะอยู่กับนาย จนตายฉันก็จะอยู่กับนาย อย่าไล่ฉันไปไหน อย่าบอกให้ฉันไปรักใคร คนที่ฉันรักคือนาย ต่อให้มีคนดีๆอีกเป็นล้านฉันก็จะรักนายจุนฮยอง ได้โปรด ขอให้ฉันอยู่กับนายนะ ฮืออออ”

 

 

“ฮยอนซึง”

 

 

“ฉันรักนายนะจุนฮยอง เราอยู่ด้วยกันเถอะนะ เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เข้าใจที่ฉันพูดไหม”

 

 

“ขอบคุณนะ”ฮยอนซึงยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขาผละออกจากจุนฮยองแล้วก็จูบที่ริมฝีปากเบาๆ

 

 

“อย่าไล่ฉันไปไหนอีกนะ”

 

 

“อื้ม ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ”

 

 

“ไม่เป็นไรๆ”ฮยอนซึงเม้มปากเข้าหากัน

 

 

“นายอย่าร้องไห้อีกได้ไหมฮยอนซึง อย่าเสียน้ำตาเพราะฉันได้ไหม ฉันไม่อยากให้นายต้องร้องไห้เลย”

 

 

“ได้สิ ถ้านายต้องการ ฉันจะทำให้ ฉันจะไม่ร้องไห้อีก”

 

 

“สัญญาสิ ไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามร้องไห้ ห้ามให้น้ำตาไหลออกมา”

 

 

“จุนฮยอง”

 

 

“สัญญากับฉันได้ไหม ไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามร้องไห้”จุนฮยองควานหามือของฮยอนซึง พอจับได้ก็บีบมือของเขาแน่น

 

 

“สัญญาสิ”

 

 

 

“ฉันสัญญาว่าต่อแต่นี้ไปฉันจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว เพื่อนายคนที่ฉันรัก”  จุนฮยองยิ้มออกมาอย่างดีใจ

 

 

“ขอบคุณนะที่รักและทำเพื่อฉัน ขอบคุณจริงๆ”

 

 

“เอ่อ ขอโทษนะครับ”ฮยอนซึงหันไปหาคุณหมอที่ยืนอยู่ด้านหลัง

 

 

“มีอะไรเหรอครับ”ฮยอนซึงมองหน้าหมออย่างไม่เข้าใจ หมอมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย

 

 

“จุนฮยอง เดี๋ยวฉันมานะ”

 

 

“อื้ม”ฮยอนซึงตบมือจุนฮยองเบาๆก่อนจะเดินตามหมอออกไปนอกห้อง

 

 

“มีอะไรเหรอครับ”

 

 

“หมอมีเรื่องไม่ค่อยดีนัก”

 

 

“เรื่องอะไรเหรอครับ”

 

 

“ดวงตาของคุณจุนฮยอง”

 

 

“ตา ตาทำไม”

 

 

“เอ่อ คือ ตาของเขาอาจจะต้องบอดไปตลอดชีวิต”

 

 

กึก

 

 

ฮยอนซึงแทบจะทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น หัวใจของเขาแทบจะสลาย แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา

 

 

“เขาจะมองไม่เห็นงั้นเหรอครับ”

 

 

“ใช่ครับ”

 

 

“มีทางรักษาหรือเปล่า”

 

 

“มีครับ ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแก้วตา แต่มันอันตรายมาก ถ้าสำเร็จเขาก็จะกลับมามองเห็นอีกครั้ง”

 

 

“งั้นผ่าเลยได้ไหมครับ”

 

 

“คงไม่ได้หรอกครับ”

 

 

“ทำไมเหรอ”

 

 

“แก้วตาใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ คงต้องใช้เวลาในการรอครับ”

 

 

“แล้วมันนานแค่ไหน”

 

 

“อันนี้หมอไม่สามารถระบุได้”

 

 

“งั้นก็ต้องรอไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่งั้นเหรอครับ”

 

 

“หมอเสียใจด้วยนะครับ”ฮยอนซึงกำหมัดแน่นอย่างเสียใจ เขาพยักหน้าก่อนจะสูดลมหายใจแล้วพยายามทำตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุดก่อนจะเปิดประตูเข้าห้อง

 

 

“ฉันมาแล้ว”

 

 

“นานจังเลยนะ”ฮยอนซึงรู้สึกแปลกๆกับท่าทางของจุนฮยองเล็กน้อย

 

 

“นายเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงมือสั่นล่ะ”ฮยอนซึงจับมือของจุนฮยองเอาไว้

 

 

“อ่อ ฉันง่วงน่ะ นายช่วยพาฉันขึ้นเตียงหน่อยได้ไหม”

 

 

“อื้ม ระวังๆนะ”แล้วฮยอนซึงก็พยุงจุนฮยองขึ้นเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้

 

 

“ฉันจะนั่งอยู่ข้างๆนายไม่ไปไหน หลับให้สบายนะ พรุ่งนี้นายจะได้กลับบ้านแล้ว”

 

 

“อื้ม”แล้วจุนฮยองก็ข่มตาหลับเข้าสู่นิทรา ฮยอนซึงลูบหัวของจุนฮยองเบาๆ

 

 

จุนฮยอง ฉันจะช่วยนายยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“กีกวังครับ ดอกไม้สำหรับคนน่ารักครับ”กีกวังยืนพิงประตูมองดงอุนที่นั่งคุกเค่าอยู่หน้าบ้านพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ตัวเองเล็กน้อย

 

 

“นายทำอะไร”

 

 

“ก็เอาดอกไม้มาให้ไง สวยนะ”

 

 

“แล้วไง เป็นแค่เพื่อนกันทำไมต้องให้ดอกไม้ด้วย”ดงอุนมองกีกวังด้วยสายตาเจ็บปวดนิดหน่อยแต่มันก็หายไปเพราะรอยยิ้มขึ้นมาแทนที

 

 

“เพื่อนกันก็ให้ดอกไม้ได้ครับ”กีกวังถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะรับดอกไม้ด้วยหน้าตาเซ็งๆ แล้วก็เดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มดีใจเป็นที่สุด ดงอุนรีบเดินตามกีกวังเข้าไป

 

 

“นายทำอะไรอยู่เหรอ”

 

 

“เก็บของอยู่น่ะ”กีกวังเก๊กเสียงเรียบอย่างเดิม

 

 

“เก็บของ นายจะไปแล้วเหรอ”

 

 

“อีกสองวัน”ดงอุนใจหายแวบที่ได้ยินอย่างนั้น

 

 

“ทำไมมันเร็วจังเลย”

 

 

“สำหรับนายมันเร็ว แต่สำหรับฉันมันช้าไปด้วยซ้ำ”กีกวังพูดอย่างกลั้วหัวเราะก่อนจะเดินขึ้นข้างบนเพื่อเตรียมของต่อ

 

 

“ฉันช่วยนะ”ดงอุนเดินตามกีกวังจนมาถึงห้องนอน

 

 

“ไม่ต้องหรอก ของๆฉัน เก็บเองได้”

 

 

“ทำไมนายเอาของไปน้อยจังเลย ตั้งสองปีนะ ไม่ใช่สองอาทิตย์”

 

 

กึก

 

 

กีกวังสะดุ้งเฮือก เขาหันไปมองหน้าดงอุนอย่างตกใจ

 

 

“ฉันยังเก็บไม่หมดต่างหากเล่า”แล้วกีกวังก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้เพิ่มมาอีกหลายตัว

 

 

“ฉันโทรหานายได้ไหม”

 

 

“อย่าเลย ฉันคงไม่ว่างรับหรอก”

 

 

“ทำไม”

 

 

“ฉันก็คงจะยุ่งกับการเรียนจนไม่มีเวลาทำอะไรน่ะสิ ถามได้”

 

 

“แต่ฉันจะโทรไป”

 

 

“ก็เรื่องของนาย ไม่รับก็อย่ามาโวยวายแล้วกัน”กีกวังยักไหล่แล้วก็เก็บของต่อ

 

 

“ไม่โวยวายหรอก ฉันจะโทรไปทุกครั้งที่คิดถึงนายเลย”กีกวังต้องรีบหันหน้าหลบเพื่อยิ้มอย่างดีใจ

 

 

“นี่ แต่นายห้ามมองหนุ่มที่ไหนนะ”

 

 

“นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน ฉันจะมองใครมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนายนี่”

 

 

“เกี่ยวเพราะนายเป็นของฉัน”

 

 

“พูดแบบนี้อีกและ ก็บอกแล้วไงว่า….”กีกวังกำลังจะพูดแต่พอมองแววตาของดงอุนแล้วเขาก็เลือกที่จะไม่พูดดีกว่า ขืนพูดไปมีหวังโดนจูบอีกแน่

 

 

“เฮ้อ ทำไมของมันเยอะอย่างนี้เนี่ย”กีกวังถอนหายใจก่อนจะลุกไปหยิบอัลบั้มรูปที่หัวเตียง แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นกล่องสี่เหลี่ยมที่จำได้ว่าเป็นของฝากของโยซอบ กีกวังเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูอย่างงงๆ

 

 

“อะไรเนี่ย”กีกวังหันไปหาดงอุน แต่ดงอุนกลับมายืนติดอยู่กับหลังของเขาทำให้กีกวังตกใจจนล้มลงไปนอนบนเตียงพร้อมๆกับร่างของดงอุนที่ล้มลงไปตามอย่างจงใจ

 

 

จุ๊บ!!!

 

 

ดงอุนจงใจให้ริมฝีปากของเขาแตะกับริมฝีปากของกีกวัง  กีกวังได้แต่กระพริบตาปริบๆก่อนจะรู้สึกตัวแล้วพยายามดันดงอุนออกจากตัวของเขา

 

 

“นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ยดงอุน”

 

 

“เปล่านะ มันเป็นอุบัติเหตุ”

 

 

“จะบ้าเร๊อะ เห็นๆกันอยู่ว่านายจงใจมายืนอยู่ด้านหลังฉัน”

 

 

“ยอมรับก็ได้ แต่นายเองนะที่ล้มลงบนเตียง ฉันไม่ได้ผลักซักหน่อย”

 

 

“แล้วนายจะล้มตามฉันมาทำไม”

 

 

“ไม่ได้ล้มตามซักหน่อย ฉันเป็นห่วงนายต่างหากเล่า”

 

 

“นาย!!”กีกวังได้แต่กัดปากแน่นอย่างเจ็บใจ

 

 

“ฮึ่ย! เอาเถอะๆ นายนี่มันจริงๆเลย”กีกวังชักสักหน้าหงุดหงิดเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายที่กำลังเกิดขึ้น

 

 

“นั่นกล่องอะไรเหรอ”

 

 

“ไม่รู้สิ โยซอบให้ไว้น่ะ บอกมันเหมาะกับฉันและนายดี”

 

 

“จริงเหรอ ลองเปิดดูสิ”กีกวังมองหน้าดงอุนเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเปิดกล่องออก

 

 

“นี่มันอะไรเนี่ย”กีกวังหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาดูอย่างมึนงง

 

 

“ก้อนหินเหรอ”ดงอุนหยิบหินอีกก้อนที่อยู่ในกล่องขึ้นมาดู

 

 

“ก้อนหินนี่นะเหมาะกับฉันกับนาย”ดงอุนถามกีกวังอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“เฮ้อ ปัญญาอ่อนอีกแล้วสินะโยซอบ”กีกวังถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

 

“นายก็เอาอันนั้นไปก็แล้วกัน”

 

 

“อื้ม ฉันว่ามันก็สวยดีนะ ดูดิ”ดงอุนชูหินขึ้นมอง กีกวังมองตามแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นอะไรอยู่ข้างในหิน เขารีบชูหินที่อยู่ในมือของตัวเองขึ้นบ้างเพื่อให้เจอแสงแดด

 

 

“รัก….กัน”กีกวังพูดออกมาเมื่อเห็นอักษรคำว่า ‘รัก’ที่อยู่ในหินของเขาและคำว่า ‘กัน’ที่อยู่ในหินของดงอุน

 

 

“เออ จริงด้วยอ่ากีกวัง รักกัน จริงๆด้วย ว้าว ต้องใช้แสงของพระอาทิตย์สินะถึงจะมองเห็น”ดงอุนดูจุนตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นเล็กน้อย กีกวังได้แต่นั่งอมยิ้ม

 

 

โยซอบ เหอะๆ ทำไมถึงไม่ซื้อให้ตัวเอง มาซื้อให้ฉันทำไมเนี่ย

 

 

“กีกวังขอดูหินหน่อยสิ”ดงอุนรีบดึงหินที่อยู่ในมือกีกวังไป

 

 

“โหว จริงด้วยแฮะ”

 

 

“อะไรเหรอ”

 

 

“นายดูนี่สิ”แล้วดงอุนก็ชูหินสองก้อนที่ตอนนี้กลายเป็นก้อนเดียวกันไปเรียบร้อยแล้ว

 

 

“มันติดกันได้ด้วย แล้วก็สวยงามมากๆเลยกีกวัง นายดูสิ”กีกวังยิ้มออกมาเมื่อมองหินที่ตอนนี้กลายเป็นรูปหัวใจไปแล้ว

 

 

“นายต้องรีบกลับมานะกีกวัง หัวใจจะได้กลายเป็นหัวใจ อ่า”แล้วดงอุนก็ดึงหินออกจากกันส่งให้กีกวัง

 

 

“หัวใจของเราอยู่ที่กันและกันคนละครึ่ง นายกลับมาเมื่อไหร่หัวใจของเราก็จะได้เต็มดวง ฉันจะรอวันนั้นนะ”ดงอุนยิ้มให้กับกีกวังอย่างซึ้งใจ

 

 

“นายพูดอะไรเนี่ย ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย เก็บของต่อดีกว่า”กีกวังทำเป็นเสไม่รู้เรื่องรู้รางแล้วก็ลุกขึ้นเก็บข้างของต่อ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อกลบเกลื่อนความอายทั้งนั้นแหละ อิอิ

 

 

วันที่ใจเต็มดวงงั้นเหรอ อิอิ นายมันบ้าดงอุน บ้าและน่ารักซะด้วยสิ อ่า วันที่ใจเต็มดวง อีกสองอาทิตย์หัวใจของเราก็จะเต็มดวงแล้วแหละ ซนดงอุน

 

 

---------------

20-11-2014

#ฟิคแบดเลิฟ

ตอนหน้าจบแล้วน๊าาาาาาาาา

ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้อังนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา