Love You My Bad Guy ll❤

9.8

เขียนโดย ยัยหมูปิ้ง

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.27 น.

  19 Bad Guy
  262 วิจารณ์
  41.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2564 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) หึงหวงเหรอ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

             ตอนนี้ฉันเอามือเท้าครางอยู่ที่บาร์เคื่องดื่มในร้านอาหารแห่งหนึ่ง สายตาของ

ฉันจับจ้องไปที่ผู้ชายที่ชื่อว่า ‘กวิน’ เขากำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขาโดด

เข้ามาร่วมวงกับความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงของฉัน ป็อบปี้ และจินนี่ได้ยังไงกัน

             ฉันไม่พูดอะไรหลังจากที่มองหน้าเขาอย่างพอใจแล้ว สายตาของฉันเลยเลื่อนไปมองที่

บาร์เทนเดอร์ที่กำลังเขย่ามิกซ์อยู่ตรงหน้าแทน

“ไม่มองหน้าฉันแล้วเหรอ” กวินบอกแล้วดันหมวกแก๊ปที่ฉันใส่อยู่ให้ลดต่ำลงอีกหน่อย

              ฉันปลายตามองเขาอย่างฉุนๆพร้อมกับดันหมวกขึ้นให้มองหน้าเขาได้ถนัดกว่าเดิม

แล้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาด้วยความไม่เข้าใจ

              เขาต้องการอะไรกันแน่

“ทำไมนายถึงบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงของนาย” ฉันเอียงคอถามเขา แต่เขายักไหล่

“พอดีเห็นเธอต้องการความช่วยเหลือ ฉันเลยเสนอหน้าเข้าไปเอง หรือว่าจะให้ฉันไปบอกว่า

เราล้อเล่นกับป็อบปี้ดีล่ะ” กวินถามแล้วยกแก้วค็อกเทลขึ้นมาแกว่งเล่น

               จากนั้นเขาก็ส่งยิ้มมาให้ฉัน แต่ฉันชักสีหน้าให้เขา อย่าทำเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆนะ

ถ้าเขาเดินไปบอกว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องเล่นๆ จินนี่คงได้แต่นึกสมเพชฉันเท่านั้นแหละ เพราะอย่าง

นั้นปล่อยให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว อีกอย่างกวินจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่เลเวลสูงคนหนึ่ง

               ถ้าได้ควงกับเขาคงจะไม่ต้องได้อายใคร… ฉันคิดแบบนั้นนะ

               กวินเขามาส่งฉันที่ตอนโด ตอนแรกฉันก็จะบอกให้เขาไปส่งฉันที่มหาลัยแต่เขาไม่ไป

และฉันก็ลืมไปด้วยว่าตอนนี้มีการชิงผู้หญิงทุกๆหกโมงจนถึงเที่ยงคืนนั้นอยู่ ถ้าเขาไปส่งที่นั้นจริงๆ

เขากลัวว่าตัวเองจะโดนพวกผู้ชายที่มหาลัยฉันไล่ยิง แต่ถึงเขาไปส่งฉันได้ฉันก็ไม่ให้เขาทำหรอก

                 ฉันเดินเข้าห้องตัวเองมาอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหันไปมองตัวเองในกระจกอีกที

ฉันแทบไม่เชื่อสายตาว่าตัวเองจะแต่งตัวได้ยั่วขนาดนี้ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเคื่องสำอางสุด

หรูทำให้ฉันแทบจำตัวเองไม่ได้เพราะว่ามันต่างจากแต่ก่อนเยอะมากยังไงละ

                 ฉันเดินเข้าไปอาบน้ำก่อนจะนึกเรื่องราววันนี้ขึ้นมาได้ การที่กวินไปพูดแบบนั้นป็อบ

จะหึงฉันบ้างรึเปล่า? แต่สักพักฉันก็หัวเราะออกมาเลิกคิดถึงเรื่องนั้นเถอะป็อบนะเหรอจะมาหึง

เขากำลังผลักไสไล่สงฉันอยู่นะลืมไปแล้วรึไงฟาง เธอก็ควรจะทำใจตัวเองให้แข็งแรงมากกว่าเพื่อ

บางทีวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมาอีก เธอจะไม่ได้ร้องไห้อย่างน่าสมเพชอีก…

 

                  ตอนเที่ยงหลังจากที่ฉันเลิกคลาสเรียน จินนี่ก็มาดักฉันที่หน้ามหาลัยทันที

เพราะเห็นยัยนั้นยืนรอมาแต่ไกล เธอบอกว่ามาชวนฉันไปทานข้าวเที่ยงแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมา

โทรหาป็อบปี้ให้มาทานข้าวด้วยกัน ฉันสักคิดแผนการไม่ออกว่าจะทำยังไงดี เลยกดโทร

หาตัวช่วยมือดีอย่างกวินทันทีเหมือนกัน

(ไง) ปลายสายทักฉันอย่างอารมณ์ดีเลยทำให้ฉันยิ้มออกมานิดหน่อย

“นายว่างมั้ย เที่ยงนี้” ฉันคุยไปโดยที่มีจินนี่จับตามองอย่างสงสัย ว่าฉันคุยกับใครถึงได้

ยิ้มมากขนาดนี้

(อือ ว่าจะกลับไปนอนนะวันนี้มีเรียนเช้า) เขาบอกแล้วก็หาวออกมา ท่าทางคงง่วงหน้าดู

“เฮ้! มาทานข้าวกับฉันหน่อยสิ ตอนนี้ฉันไม่มีเพื่อนทานข้าว เอ… ไม่สิเพื่อนฉันพาแฟนมาด้วย

ฉันไม่อยากเป็นส่วนเกินนะ” ฉันบอกเขาไปแต่กวินกลับหัวเราะออกมาตามสบายซะงั้น

(ก็รู้นี่ว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน กลับบ้านไปนอนไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปทานข้าวเอง)

ชิ… ตาบ้าเอ้ยถ้าจะเป็นแบบนี้จะเข้ามาช่วยฉันแต่แรกทำไมฟ่ะ

“แต่ป็อบปี้ก็มาด้วยนะ นายอยากเจอเขาไม่ใช่เหรอ” ฉันบอกแล้วก็ทำท่าทางบิดตัวไปมาเพื่อให้

จินนี่เห็นว่าฉันกำลังหวั่นไหวกับผู้ชายคนหนึ่ง

     ที่ไม่ใช่ป็อบปี้!

(ป็อบปี้?) และแน่นอนว่าผู้ชายคนนี้มีเรื่องกลับชาวบ้านเขาไปทั่ว

“อือ มาเจอกันที่sหน้ามหาลัยนะ…” เสียงของฉันขาดหายไปเมื่อเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดิน

เข้ามาใกล้ๆ

              ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าที่ไหน หัวใจฉันก็เต้นแรงทุกครั้งที่เจอหน้าเขา

               จินนี่มองฉันท่าทางเหมือนจับผิด ฉันเลยเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทักทาย

ป็อบปี้ทันที

“ไง ป็อบปี้” พอทักเสร็จฉันก็ไปสนใจคุยกับกวินต่อ

“น่า… มานะฉันเลี้ยงข้าวก็ได้อะ” ฉันแกล้งทำเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วก็ยิ้มหันหน้าไปทางอื่น

                ฉันทำราวกกับว่าป็อบปี้ไม่อยู่ตรงนี้ ไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็น แต่เปล่าเลย หัวใจฉัน

ยังคงเต้นถี่ตลอดทุกครั้งที่เจอเขา ฉันยอมรับว่าฉันงี่เง่า มันน่าสมเพชทั้งที่ก็บอกตัวเองอยู่ตลอดว่า

จะเอาคืนแต่มันก็ยังไม่รู้หนทางเลยว่าจะทำได้ยังไง ฉันจะไม่มีทางกลับไปเป็นฟางคนเดิมที่หนี

ปัญหาแล้วกลับไปร้องไห้กับหมอนตัวเองอีกแล้ว

                 ตอนนี้ฉันคืน ฟาง คนใหม่ที่จะไม่แคร์ใคร นอกจากตัวเอง…

(ก็พูดซะขนาดนี้ฉันจะไม่ไปเจอได้ยังไง) ปลายสายหัวเราะร่าก่อนจะตัดสายไป และมันทำให้ฉัน

อารมณ์ดีขึ้นมาได้ หลังจากที่ใจเสียเพราะป็อบปี้ไปแวบหนึ่ง

“รีบมานะ ฉันจะรอ” ตอนนี้ฉันรู้สึกได้เลยว่าป็อบปี้และจินนี่จ้องฉันเขม็ง ฉันเลยหัวไปเลิกคิ้วขึ้น

นิดหน่อยก่อนจะยิ้มหวานให้จินนี่ เพื่อนบอกว่าฉันไม่ได้ใส่ใจป็อบปี้อีกแล้ว

“รอแปบนะ จินนี่ ฉันขอรอกวินหน่อย”

                ป็อบเดินเข้ามาหาฉันก้าวหนึ่งก่อนจะใช้สายตาคมกรีบนั้นมองฉัน ฉันก็หันหน้าไป

จ้องเขาเช่นกันก่อนจะยิ้มให้เขาไป

“มีอะไรเหรอป็อบ?”

“เธอเป็นแฟน กวิน อย่างนั้นเหรอ?” เขาถามฉันช้าๆและดูเหมือนไม่เชื่อ

ตาด้วยช้ำที่ฉันทำกับเขาแบบนี้

“ใช่…”

              หรือเปล่าไม่รู้ละ แต่ตอนนี้ฉันบอกกับป็อบปี้เต็มปากเต็มคำว่าเขาคือแฟนของฉัน

เดี๋ยวพอกวินมาฉันก็จะส่งชิกบอกเขาเองละ หวังว่าเขาคงจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันสื่อกับเขานะ

“แล้วเรื่องของเราละ” คราวนี้ฉันหันหน้าไปมองป็อบปี้อย่างไม่อยากเชื่อสายตา

               เขาพูดคำคำนี้ ทั้งๆที่จินนี่ยังยืนอยู่ตรงนี้ด้วยอย่างงั้นเหรอ ฉันอยากจะหัวเราะ

แต่ก็ทำได้เพียงแค่เค่นยิ้มให้เขาไปเท่านั้น

“ลืมมันไปซะเถอะป็อบปี้ เพราะฉันไม่อยากจำ!”

 

“Hey! Guy” เสียงทักทายภาษาอังกฤษดังขึ้นมา ทำให้ฉันละสายของออกจากป็อบปี้ทำกำ

ลังอึ้งกับคำพูดของฉัน จนเหมือนจะกลายเป็นหินไปซะแล้ว

             ฉันเดินชนไหล่ของป็อบปี้ไป ก่อนจะเห็นว่าเป็นกวินจริงๆ เขาเดินออกมาจากรถ

สปอร์ตคันสีขาว กวินยิ้มและยกมือขึ้นมาโอบรอบคอฉันไว้ และเราก็หันไปเผชิญหน้ากับป็อบปี้

และจินนี่

“นี่นะเหรอ เพื่อนเธอนะ” กวินถอดแว่นตาของเขาออกไปเกี่ยวกับสาบเสื้อ พร้อมกับพยัก

พเยิดหน้าไปมองจินนี่ที่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆป็อบปี้

“อื้อ นั้นจินนี่เพื่อนฉัน และนั้นแฟนเธอป็อบปี้นายคงรู้จักแล้ว” ฉันนำนำให้กวินรู้จักรู้สึกสะใจ

ที่ได้ตอกหน้าคนอื่นกลับบ้าง หลังจากที่โดนคนอื่นทำไว้เจ็บแสบมานาน

“อือ สวัสดีฮะ จินนี่ ผมกวิน ยินดีที่รู้จัก”

“เอ่อ ยินดีที่รู้จักเช่นกันค่ะ” ฉันแอบลอบยิ้มขำในใจเมื่อเห็นว่าเธอจะประหม่าอยู่ใช่น้อย

“แล้วเราจะไปกินที่ร้านไหนกันดีละที่รัก” แล้วคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆฉันก็เลื่อนมือลงมากอดเอวของ

ฉันไว้แทน ฉันจ้องเขาทันหมอนี่ชักจะทำเกินหน้าที่ไปแล้วนะ

“ว่าไง” เขาถามมาอีกเมื่อฉันเอาแต่จ้องมองเขา

“ก็ต้องถามคู่นั้นแหละ เพราะพวกเขาชวนมา” ฉันปลายตามองไปที่ป็อบปี้และจินนี่ที่เอาแต่

มองฉากสวีทเล็กๆน้อยๆของฉันกับกวิน มันน่าหัวเราะดีนะเพราะก่อนหน้านี้พวกนั้นยังหัวเราะใส่

ฉันอยู่ แต่ตอนนี้กลับเป็นฉันที่หัวเราะเยาะพวกนั้นแทน

“อ้อ ร้านสตาร์กันมั้ยที่นั้นอาหารอร่อยอยู่นะ” จินนี่ที่อึ้งอยู่นานเรี่มพูดขึ้นมาบ้างแล้วเหลือ

แต่ป็อบนั้นแหละที่จ้องฉันเขม็ง เอาเลยสิป็อบ นายคิดว่าฉันไม่เจ็บเหรอที่ทำแบบนี้นะ

            แล้วกวินก็สวมเป็นแฟนที่แสนดีสุดยอดด้วยการยิ้มหวานมาถามฉันว่าเห็นดีรึเปล่า

กับร้านนั้น

“อือก็ดีเหมือนกัน” ฉันจ้องมองไปที่จินนี่คนเดียวเพราะถ้าฉันเกิดมองไปที่ป้อบ ฉันอาจจะ

เสียน้ำตาก็เป็นได้

“งั้นไปเถอะ จะถึงคาบบ่ายแล้ว” สุดท้ายป็อบก็ปริปากพุดหลังจากที่อึงไปนาน

 

               ฉันเดินเข้าห้องน้ำ หลังจากที่รออาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ… หัวใจของฉันยังคงเต้นแรง

เมื่ออยู่ใกล้ๆกับป็อบปี้ เขาทำท่าไม่สนใจไยดีฉันเลย และแน่นอนว่าฉันก็ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

เช่นกัน

              ถ้าเขาไม่ได้สนใจแต่แรกเขาจะมาทนเสียเวลาจีบและคบกับฉันทำไมตั้งสองปี

ไม่เอาเวลาไปยุ่งกับคนอื่นละ ในเมื่อคนแบบฉันมันไม่ได้มีอะไรอยู่แล้วในสายตาเขา เขาแกล้ง

ทำเป็นรักเป็นหลงฉันและฉันก้โง่หลงเขาหัวปักหัวปำจริงๆ ทั้งที่เขาไม่ได้หลงฉันแบบที่เขา

ทำเลย

              และระหว่างที่ฉันกำลังล้างมืออยู่ ป็อบปี้ก็เดินเข้ามา เราสองคนสบตากันผ่าน

กระจกใสๆบานใหญ่อยู่ เงียบๆ

“เธอคบกันกวิน ตั้งแต่เมื่อไหร่!?” ป็อบปี้เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และเอียงคอถามฉันไปด้วย

             ฉันอยากหัวเราะจริงๆ อะไรที่ทำให้เขามาถามฉันแบบนี้เนี่ย

“ถ้าจะให้พุดตรงๆ ก็คงเป็นไลยะเวลาเดียวกับที่นายคบกับจินนี่ นั้นแหละ”

“ฟาง!” ป็อบปี้เน่นเสียงตรงชื่อฉันเข้นขึ้น แล้วไงฉันต้องกลัวเขาด้วยเหรอ

“จริงๆ ฉันไม่ได้โกหกนาย” ฉันเสแสร้งพูดไป ก่อนจะ จับเอาลิปสติกในกระเป๋ามาทาปากตัวเอง

แต่ป็อบปี้ปราดเข้ามาถึงตัวฉัน พร้อมกับบีบแขนฉันไว้แรงๆ

               ฉันหันไปมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ อะไรของเขาอีกละ เขาต้องการอะไรกัน…

“เรื่องของเราที่ผ่านมาล่ะ” เขาพูดในขณะที่ฉันอยากจะหัวเราะใส่หน้าเขา

“เรื่องของเรา? เปล่ามันเป็นเรื่องของฉัน และเรื่องของนาย เราไม่ได้เกี่ยวอะไรกันแล้ว” ฉัน

บอกไป

และต้องเชถอยหลังเมื่อป็อบปี้เขา ดันตัวฉันกระแทกฉันเข้ากับอ่างล้างหน้าแรงๆ

“อยากทำให้มันเป็นเรื่องของเราอีกครั้งมั้ย?”

“ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว เธอเองก็มีเหมือนกัน อย่างน้อยเราก็คุ้นเคยกันมาบ้าง เพราะงั้นเรามาเล่นชู้

กันพลางๆ ก่อนมั้ย?”

               ตาฉันเบีกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินที่เขาพูด นี่เขากำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่เนี่ย!

“รื้อฟื้นกันสักหน่อยมั้ยฟาง ว่าเธอนะ รักฉันมากแค่ไหน…”

 

PF PF PF PF PF PF PF PF

หุหุ มาอัพแล้วจ้าตอนใหม่

ไรท์ต้องบอกก่อนเลยนะค่ะ

ว่าเรื่องที่ฟางทำ กับเรื่องของ

กวินและป็อบปี้นะมันคนละเรื่อง

กันเลยค่ะ(หัวเราะ)

เอาเป็นว่าเม้นโหวตให้ไรท์เตอร์

ด้วยนะค่ะไรท์จะได้มาแต่งต่อไวๆ

รู้สึกว่าคอมเม้นหายอะT^T

เจอกันตอนหน้าจ้าา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา