ไอ้คุณเพื่อนครับ...รักกูบ้าง!

-

เขียนโดย ไดยะ

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.07 น.

  18 chapter
  1 วิจารณ์
  19.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 22.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) ไอ้คุณเพื่อนครับ...รักกูบ้าง! เพ้นท์*วรเวช 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

1        เพ้นท์*วรเวช

 

ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ เพ้นท์ครับ

ผมเป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งและครับ ผมมาจากต่างจังหวัดได้รับทุนเข้ามาเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพฯ ผมเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ แต่ผมก็พยายามให้ตนเองเข้มแข้งขึ้นนะครับ! ผมอยู่กับยายสองคนครับ...

พ่อแม่ของผมท่านเสียตั้งแต่ผมยังเล็กๆแล้ว...ยายเป็นคนที่เลี้ยงดูผมมาครับ และตอนนี้ท่านก็อายุมากแล้ว...ผมดูแลท่านแล้วครับ ผมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านคอยเลี้ยงผมตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้...แต่อายุคนเราก็ไม่ยั่งยืนนักยิ่งท่านไม่ค่อยแข็งแรงนัก และสุกท้ายท่านก็...เสีย ครับ แรกๆผมเสียใจมากครับ ผมไม่อยากให้ท่านไปจากผมเลย...

ผมไม่อยากอยู่คนเดียว...ผมกลัวมากเลยครับ...แต่ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 2เดือนแล้ว วันนี้เป็นวันที่ผมต้องเดินทางไปกรุงเทพฯครับ และเนี่ยแหละครับ! ผมต้องเป็นคนเข้มแข็งขึ้นให้ได้ต้องดูแลตนเองให้ได้เพื่อที่จะได้ไม่ให้คุณยายที่อยู่บนสวรรค์

เป็นห่วงผม...ผมจะไม่ทำให้ยายเป็นห่วงนะครับ!

.

.

.

“อ่า ถึงแล้วเอาหล่ะ เพ้นท์นานต้องเข้มแข็งขึ้น สู้ๆ”เพ้นท์เด็กหนุ่มหน้าสวยวัย 18 ที่ตอนนี้อยู่หน้าหอพักหอหนึงสภาพพออยู่ได้ เพ้นท์ได้หาหอพักอยู่นานสมควรเพราะหอพักที่อยู่ใกล้ๆมหาลัยฯส่วนใหญ่ห้องจะเต็มและที่สำคัญราคาค่าห้องแพงมากๆด้วย เค้าไม่ได้อยากอยู่ห้องที่หรูมากนักขอแค่อยู่แล้ว มีที่กิน นอน ก็พอแล้วและสุดท้ายเด็กหนุ่มก็ได้เข้ามาอยู่หอพักหนึ่งค่อนข้างเก่าและห่างจากมหาลัยพอสมควร เพ้นท์เมื่อจัดการเรื่องค่าห้องแล้วก็เข้ามาให้ห้องพัก ห้องไม่ได้ใหญ่อ่ะไรมาก เป็นห้องที่พอดีกับคนที่ต้องประหยัดและอยู่คนเดียว เพนท์จัดการนำเสื้อผ้าที่เตรียมไว้มาใส่ในตู้ และปัดกวาดทำความสะอาดห้อง

อีกห้องที่ดูสกปรกตอนแรกตอนนี้ก็เป็นห้องที่ค่อนข้างสะอาดมากๆเลย ค่าห้องหอพักนี้ต่อเดือนถูกมากแต่ก็แพงสำหรับ

เพ้นท์อยู่ดีเพราะเด็กหนุ่มถูกสอนให้เป็นคน ประหยัดและขยัน

ตั้งแต่เล็กๆเลยไม่มีปัญหาในการทำความสะอาดหรือทำงาน

เพ้นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการนำเอกสารอีกเล็กน้อยออกไปจากห้อง

เด็กหนุ่มตรงเข้าไม่ในร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท พนักงานกล่าวตอนรับเพ้นท์อย่างสุภาพ

 

“สวัสดีครับ เอ่อ...ผมอยากจะมาสมัคงานน่ะครับ”เพ้นท์พูดบอกกับพนักงานที่น่าจะอายุมากกว่าเพ้นท์อยู่ไม่กี่ปี

เด็กหนุ่มเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานก่อนที่จะเข้ามาหอพักแล้ว ร้านสะดวกซื้ออยู่ห่างจากหอพักที่เพ้นท์อยู่ประมาณ 2-3

ซอย เพ้นท์อยากหางานทำเพื่อที่จะหาเงินใช้ในชีวิตประจำวัน

เงินที่ติดตัวเพ้นท์ก็มีมาเยอะพอสมควรแล้วเพราะเด็กหนุ่มเก็บเงินมาแต่เล็กๆ แต่เพราะความที่ไม่อยากใช้เวลาว่างให้เปล่าประโยชน์และก็อยากเก็บเงินด้วยเด็กหนุ่มเลยหางานทำ

 

“เอ่อ...ครับรอเดี๋ยวผมไปเรียกผู้จัดการให้”พนักงานบอกแล้วเดินเข้าไป ไม่นานนัก พนักงานกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการก็ออกมา

 

“สวัสดีครับ ผมอยากมาขอสมัครงานพาสทามที่นี่นะครับ”เพ้นท์ยกมือไหว้ผู้จัดการแล้วบอกเป้าหมายที่ตนมาที่นี่ไป

เจ้าของร้านมองเพ้นท์อย่างอึ้งนิดๆ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเพ้นท์

เป็นผู้ชายร่างเล็กที่มีใบหน้าค่อนข้างสวยไปทางผู้หญิงอย่าว่าแต่ผู้จัดการเลย พนักงานก่อนหน้านี้ก็ยังตกใจกับใบหน้าที่สวยของเพ้นท์เลย

 

“ครับ เชิญด้านในหน่อยครับเดี๋ยวผมจะบอกข้อมูลต่างๆก่อนนะครับ”ผู้จัดการร้านบอกออกมา เพ้นท์เดินตามผู้จัดการร้านไป ผู้จัดการร้านชี้แจงเบื้องต้นบางอย่างอีกนิดหน่อยและนัดให้ไปที่สำนักงานแฟมิลี่เหมือนว่าต้องไปอบรมหรือฝึกอะไรเบื้องต้นก่อนถึงจะทำงานได้

เพ้นท์ไหว้ขอบคุณผู้จัดการร้านแล้วเดินออกไป ตรงกลับไปหอพักตนเอง เพนท์แวะทานอาหารเย็นก่อนเข้าหอพักก่อน ระหว่างที่ทานไป เพนท์รู้สึกถึงสายตาวัยรุ่นหลายๆคนที่มองมาทางตนเอง

เด็กหนุ่มรู้สึกกลัวนิดๆ จึงรับกินและรีบเดินกลับไปยังหอพัก มันแย่ตรงที่ทางเข้าหอพักเป็นทางที่ค่อนข้างเปลี่ยวมากมีแหล่งที่วัยรุ่นมั่วสุมอยู่เยอะพอสมควรที่รับเดินกลับไปยังหอพัก สายตาของวัยรุ่นที่อยู่ในซอยก็ต่างมองเพ้นด้วยสายตาโลมเลีย

.

.

เมื่อกลับมายังห้องของตนเองแล้วเด็กหนุ่มก็รีบล็อคประตูเพื่อความปลอดภัยทันที หอพักนี้ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย

ส่วนใหญ่จะเป็นนัดศึกษาผู้ชายที่รูปร่างดูแลตนเองได้ ไม่ใช่ดู

อ่อนแออย่างเพ้นท์เด็กหนุ่มตรงเข้าไปอาบน้ำ

การที่หน้าตาสวยไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างที่ใครคิดนัก ดูเหมือนหน้าสวยแล้วจะทำให้ดูดีน่าอิจฉาในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับเพ้นท์นั้นไม่ใช่เลย เด็กหนุ่มรู้สึกว่าการที่ตนเองเป็นผู้ชายที่หน้าสวยเนี่ย และในจะเป็นคนที่ตัวเล็กอีกมันเป็นอะไรที่น่ากลัวนะ

อันตรายมากๆเลยด้วย เพราะสายตาที่พวกผู้หญิงมองมาก็แสดงถึงความอิจฉาริษยา ส่วนสายตาที่ผู้ชายมองตนเองมาก็ยิ่งหน้ากลัวเลย เป็นสายตาที่เหมือนจะกินเพ้นท์ไปทั้งตัวมันจาบจ้วงเกินไปจนเด็กหนุ่มรับไม่ได้ ตอนอยู่โรงเรียนเก่า เด็กหนุ่มก็ถูกมองในลักษณะนี้บ่อยๆแต่เพราะเด็กหนุ่มมีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทแถมรูปร่างนี่ต่างกันอย่างมากเลยคอยปกป้องตนตลอด

 เพ้นท์ดูเป็นคนบอบบาง ส่วนเพื่อนเพ้นท์นักมีรูปร่างที่น่าอิจฉามากคือเป็นผู้ชายที่ร่างกายสมเป็นชายมากๆ พอนึกถึงเพื่อนสนิทของตนเองแล้ว เพ้นท์ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรไปหาเพื่อนตนเอง เด็กหนุ่มออกมาจากห้องน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จสรรพแล้วเด็กหนุ่มก็ล้มตนนอนลงบนเตียงที่ทางหอพักมีไว้ให้อยู่แล้วแต่สภาพนี่ก็เก่า

พอสมควร

 

เพ้นท์จัดการโทรออกไปหาเพื่อนตนเองทันที

 

(โห เพ้นท์ทำไมพึ่งจะโทรมาเนี่ย เราเป็นห่วงแถบตาย เมื่อกี้เรากำลังจะโทรไปเลยนะแต่ดีที่เพ้นท์โทรมาก่อน เป็นไงบ้าง อยู่ได้มั้ย โอ้ยย เราไม่อยากให้นายไปอยู่กรุงเทพคนเดียวเลยว่ะนายยิ่งตัวเล็กๆอยู่ เดี๋ยวดดนฉุดไปนี่แย่เลย แล้วเป็นไงบ้างเนี่ย

เพ้นท์รีบๆตอบเรามาสิ)เมื่อโทรไป รอสายแค่ตื้ดเดียวเพื่อของเพ้นท์ก็รับสายแล้วและถามเพ็นท์ซะยาวเหยียดไม่เปิดโอกาสให้เพ้นท์พูดเลย เด็กหนุ่มหัวเราะขำกับเพื่อนของตนเองที่ดูเป็นห่วงตนมากเกินไป

 

“คึคึ บอยถามเรารัวแบบนี้เราตอบไม่หมดเลยนะ”เพ้นท์พูดบอกกลับเพื่อนรักปลายสายไป

 

(โหๆก็เราเป็นห่วงนายนี่หว่า แล้วตกลงเป็นไงบ้าง อยู่ได้มั้ย) บอยเพื่อนของเด็กหนุ่มถามกลับมา

 

“เราอยู่ได้น่าบอยอย่าห่วงเลย”เพ้นท์พูกบอกไป

 

(ไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะ เรายิ่งกลัวๆว่าพวกคนกรุงเทพจะทำไม่ดีกับนายนะเว้ย นายยิ่งกน้าตาหน้ารักหน้าฉุดอยู่ด้วย)เด็กหนุ่มหัวเราะกับเหตุผมของเพื่อนตนเอง แต่มันก็คือความจริงเพ้นท์เองก็กลัวอยู่เหมือนกัน

 

 (และนี่พักอยู่ที่ไหนอยู่ยังไง)

บอยถามอีก ทั้งสองคุยกันไปเรื่องต่างๆ เพ้นท์ก็เล่า เรื่องที่อยู่ของตนเองมีลักษณะยังไง เล่าว่าพรุ่งนี้ต้องไปที่สนักงานที่ตนเองต้องไปอบรม เราเรื่องทางเข้าเปลี่ยวๆ และเล่าเรื่องนู่นนี่อีกมากมาย

เพ้นท์ไม่มีอะไรต้องปิดบังกับเพื่อนตนเองอยู่แล้วมีอะไรก็เล่าให้ฟังหมดทั้งสองก็คุยกันนานมากๆ แต่ไม่ต้องกลัวว่า เงินในโทรศัพท์จะลดลงเพราะทั้งสองคุยกันใน ไลน์

.

.

.

.

.

“อื้ม เอ้อ บอยเราต้องนอนแล้วนะพรุ่งนี้เราต้องไปอบรมเรื่องงานน่ะ”เด็กหนุ่มพูดบอกเมื่อเวลาผ่านไปจนได้เวลาเข้านอนของเด็กหนุ่มแล้ว

 

(โอเคๆ อย่าลืมทำตามที่เราบอกนะ และด็ต้องดูแลตนเองให้ดีๆระวังตัวมากๆด้วย ถ้าเราว่างเราจะไปหาเพ้นท์นะ)บอยพูดบอก

 

“มันจะลำบากบอยนะ ขับรถไปมาน่ะ”เด็กหนุ่มบอกกลับ ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเพื่อนเรื่องการขับรถ และไม่อยากให้เพื่อนต้องลำบากที่ต้องขับไปมาหาตนเอง

 

(ไม่ลำบากหรอกน่า เรายิ่งอยากไปอยู่กลับเพ้นท์ด้วยซ้ำแต่พ่อแม่เราไม่อยากให้ไปหนไกลนัก และทีสำคัญเราอยากเห็นหน้าเพ้นท์ทุกวันด้วยซ้ำไปบอยพูดบอก

 

“อื้มเราขอบคุณบอยมากนะ งั้นแค่นี้ก่อนนะบอย ฝันดีนะ”

เพ้นท์พูดบอกกลับปลายสายไป

 

(ฝันดีครับผม)บอยพูดตอบไป เพ้นท์ยิ้มให้กลับมือถือของตนเองก่อนจะวางสายไป เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนว่า บอยเพื่อนสนิทของตนเองคนนี้เป็นที่พักพิงที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเพ้นท์

เอาง่ายๆคือ...บอยคือเพื่อนคนสำคัญของเพนท์

เด็กหนุ่มเช็คห้องพักของตนเองอีกนิดหน่อยห่อนจะปิดไฝและเข้านอน

.

.

.

 

@สำนักงานแฟมิลี่

เพ้นท์เข้าไปในสำนักงานที่เป็นที่ฝึกอบรมมีคน มาอบรมอยู่สมควร

เพ้นท์ใช้เวลาอยู่เกือบ สามชั่วโมง เพ้นท์ได้ทำงานอยู่ แฟมิลี่มาร์ทสาขาใกล้ๆกับหอพักของตนเองแล้ว เด็กหนุ่มเข้าไปแจ้งผู้จัดการร้าน ผู้จัดการร้านก็ชี้แจงกฎเบื้องตนของการทำงานอีกนิดหน่อย เพ้นท์เป็นคนหัวไว สอนนิดหน่อยก็เข้าใจ

และตอนนี้ เพ้นท์ก็เป็นพนักงานแฟมมิลี่แล้ว

ร่างเล็กของเด็กหนุ่มกำลังฝึกคิดเงินอยู่ เพ้นท์รู้สึกว่ามันงานนี้เป็นงานที่สบายๆขอแค่มีความอดทนและขยันก็อยู่ได้นาน

ซึงไม่เป็นปัญหากับเพ้นท์เลยเพราะเด็กหนุ่มเป็นคนขยันและอกทนอยู่แล้ว

 

“เพ้นท์ พี่ว่าเราลองไปจัดของก่อนดีนะเดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง”

 

“ครับพี่บอม”เพ้นท์ตอบกลับผู้จักการร้านที่ชื่อบอมไป ผู้จัดการกลับเพ้นท์อายุห่างกันพอสมควร แต่เพ้นท์ก็เรียกพี่

 

ผู้จัดการชี้แจงเกี่ยวกับการจัดการของอีกนิดหน่อยเด็กหนุ่มก็สามารถทำได้ เพ้นท์นั่งจัดของไปเรื่อยๆ เพราะของลอตใหม่พึ่งเข้ามาเลยจัดเยอะอยู่ พอสมควร

 

“พี่บอม สวัสดีครับ”เสียงของอีกคนดังขึ้น

 

“อ้าว ถึงเวลาแล้วหรอ โอเคๆ โอม เดี๋ยวแกไปช่วยน้องเพ้นท์จัดของละกัน เดี๋ยวพี่ดูตรงนี้เอง”พี่บอมผู้จัดการร้านพูดกลับพนักงานร้านที่ถึงเวลาเข้ากะอีกคนหนึ่ง

 

“เพ้นท์ พนักงานใหม่หรอครับ”โอมถามขึ้นด้วยความสงสัย

 

“อืม น้องคนที่มาสมัครเมื่อวานแหละ”ผู้จัดการร้านตอบกลับ

 

“อ๋อ ครับงั้นผมเอาของไปข้างในก่อน”โอมพูดกลับไปพร้อมกับเดินไปข้างใน และเห็นเพ้นท์มองอยู่ โอมส่งยิ้มทักทายไปให้เพ้นท์ เพ้นท์เองก็ส่งยิ้มกับอย่างเป็นมิตร

 

ทำให้เพ้นท์รู้ว่าพนักงานที่ตนมาขอสมัครงานด้วยตอนแรกชื่อโอม ไม่นานนักโอมก็ออกมาและเดินไปช่วยเพ้นท์จัดของ

ส่วนพี่พนักงานอีกคนก็กลับบ้านไปเพราะหมดกะแล้ว

 

“สวัสดีครับ”เพ้นท์ยกมือไหว้แล้วกล่าวทักทาย เพราะว่าโอมดูจะอายุมากกว่าตนเอง

 

“สวัสดีครับ พี่ชื่อ พี่โอมนะเราชื่ออะไรล่ะ”โอมถามกลับไปถึงจะรู้แล้วว่าชื่ออะไรก็เถอะ แต่ก็ถามเพื่อชวนคุย

 

“ผมชื่อเพ้นท์ครับ”เด็กหนุ่มตอบกลับไปพร้อมส่งยิ้มไปให้โอมอย่างเป็นมิตร ซึ่งเพ้นท์ไม่รู้เลยว่า การกระทำของเพ้นท์น้ำมันน่ารักมากในสายตาโอม โอมรู้สึกเอ็นดูเพ้นท์พอสมควร

รู้สึกหลงรักด้วยซ้ำไป...ตั้งแต่แรกเห็น

 

“อื้ม ถ้าเราไม่รู้อะไรก็ถามพี่ได้นะ”โอมบอกกลับ

 

“ขอบคุณครับ”เพ้นท์ตอบกลับไป ทั้งสองก็คุยกันไปด้วยช่วยกันจัดของไปด้วย จนรู้ว่าทั้งสองคน พักอยู่หาพักเดียวกันแต่ไม่เคยเห็นกันเท่านั้นเอง คุยไปคุยมาๆทั้งสองก็เริ่มสนิทกันในระดับหนึ่ง

โอมเองก็ไม่ใช้คนหน้าตาไม่ดีแต่อย่างไร โอมเป็นผู้ชายที่ร่างกานสมเป็นชาย หน้าตาจัดว่าดีพอได้ และที่มาทำงานก็เพราะหาเลี้ยงตนเองเหมือนกัน

 

//ค่ะ อัพของ เพ้นท์กับวรเวช ก่อนนะค่ะ ตอนนี้ก็เรื่อยๆเปลื่อยๆ

 อยู่ในช่วงแนะนำตัวละครกันอยู่ ช่วยกันเม้นหน่อยนะค้าบบบ

ไดยะอยากรู้ว่าการแต่ง ตัวละครของเพ้นท์เป็นไงบ้าง ขอบคุณทุกเม้นนะค่ะ พิมพ์ตกพิมพ์หล่นไดยะต้องขอโทษด้วยจ้า

 

ช่วยๆกันเม้นหน่อยเน้อ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ!  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา