Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  26.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ตอนที่ 11 ผู้ต้องสงสัยรายใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

CHAPTER11: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 11 ผู้ต้องสงสัยรายใหม่

 

 

 

 

 

            “อ้าวลูก สบายดีแล้วเรอะถึงลุกมาแต่เช้า” ผู้เป็นแม่ถามเมื่อเห็นลูกสาว

 

 

 

 

            “คะแม่ค่อยยังชั่วแล้ว ฟางอยากทำบุญให้พี่โมะหน่ะคะ” ฟางพูด

 

 

 

 

            “เอาสิจ้ะ มะลิเตรียมของให้แล้วด้วย” พาณียิ้มอ่อนตอบพลางลูบผมหญิงสาว

 

 

 

 

            “คุณหญิงคะ พระมาแล้วคะ” มะลิแจ้งพาณีว่าพระรออยู่หน้าบ้าน สองแม่ลูกจึงพากันไปทำบุญตักบาตรทันที ฟางบรรจงหยิบของใส่บาตรอย่างตั้งใจพร้อมตั้งจิตอธิฐานขอส่วนบุญกุศลที่เธอทำครั้งนี้ส่งไปถึงชายหนุ่มที่จากไป แม่กับมะลิยืนมองลูกสาวก็ยิ้มโล่งใจเบาๆ

 

 

 

 

            “ฟาง...” โทโมะนั่งอยู่ริมระเบียงห้องรู้สึกถึงสายลมที่ผ่านพ้นร่างเขาเหมือนกับครั้งที่แก้วเคยทำก็นึกถึงแฟนสาวแล้วยิ้มปลื้มปริดีใจที่เธอทำบุญให้

 

 

 

 

            “ดูหม่นหมองไปเยอะนะโยม” หลวงพี่ทักหลังสวดจบ

 

 

 

 

            “พึ่งหายไข้นะคะ” ฟางเงยหน้าตอบ

 

 

 

 

            “ไม่ใช่จิตใจของโยมต่างหาก” หลวงพี่พูด ฟางสะอึกสีหน้าเศร้าลง ผ่านมาได้อาทิตย์กว่าๆแล้วที่โทโมะจากเธอไป ถึงเธอทำใจได้แต่ทุกวันนี้เธอก็ยังรู้สึกผิดกับเขาไม่หายทั้งเรื่องวันที่ทะเลาะกันแล้วก็เรื่องของชายหนุ่มอีกคน

 

 

 

 

            “เอ่อ พอดีลูกสาวดิฉันพึ่งเสียแฟนไปเมื่อไม่นานมานี้คะแกยังทำใจไม่ค่อยได้” พาณีเอยบอกแทน

 

 

 

 

            “อะไรก็แล้วแต่โยมอย่าได้เศร้าหมองอีกเลยคนเราเมื่อถึงเวลาไปก็ต้องไป หากโยมยังเศร้าอยู่อย่างนี้ วิญญาณของเขาจะเป็นทุกข์” หลวงพี่พูด

 

 

 

 

            “คะ หลวงพี่ฟางจะจำไว้” ฟางพยักหน้าเข้าใจที่หลวงพี่พูด

 

 

 

 

            “ฟาง..” พาณีรีบกอดปลอบลูกด้วยความสงสารเห็นใจลูกที่ต้องพานพบอะไรหลายอย่าง

 

 

 

 

            “ฟางไม่เป็นไรคะแม่ไม่ต้องห่วงนะ” ฟางยิ้มคลายกังวลให้มารดา

 

 

 

 

            “คุณหนูคะ! คุณท่านเรียกพบคะ!!” แจ๋ววิ่งเตลิดมาแต่ไกลด้วยท่าทีลุกลนตะโกนบอก

 

 

 

 

            “คุณพ่อ..” ฟางพูด พาณีกับมะลิมองหน้ากันด้วยความสงสัย

 

 

 

 

            “มาแล้วเรอะ” ธนัยพูดเสียงเรียบแล้วมองลูกสาว

 

 

 

 

            “คะ คุณพ่อมีอะไรรึป่าวค่ะถึงเรียกฟางมาพบ?” ฟางพูดก่อนเอยถาม การที่พ่อของเธอเรียกพบต้องมีอะไรสักอย่างแน่

 

 

 

 

            “วันนี้แกต้องเข้าบริษัทกับฉัน” ธนัยว่า

 

 

 

 

            “บริษัท! ร้อยวันพันปีคุณพ่อไม่เคยให้ฟางไปทำไมวันนี้ถึง..” ฟางนิ่วหน้ารีบถาม

 

 

 

 

            “ไม่ต้องสงสัยมาก ฉันจะให้แกไปพบแขกคนสำคัญ แล้วแกก็เลิกจมปลักกับไอ้หนุ่มนั้นเสียทีมันตายไปแล้ว!” ธนัยว่าเสียงแข็งชี้สั่งเด็ดขาด

 

 

 

 

            “อย่าเรียกพี่โมะว่ามันนะคะ!” ฟางเถียง

 

 

 

 

            “ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้ หึตายๆไปได้ซะก็ดี นายแบบกิ๊กก๊อกอะไรนั่นมันไม่พอยาไส้แกได้หรอก!!” ธนัยว่ากลับก่อนจะดูถูกโทโมะ ฟางเม้มปากแน่นโกรธที่พ่อของตนดูหมิ่นแฟนหนุ่ม

 

 

 

 

            “ทำไมคุณพ่อพูดอย่างนั้นล่ะคะหรือว่าฟางไม่ยอมคะฟางไม่ไปเด็ดขาด” ฟางพยายามเก็บอารมณ์พูดเสียงนิ่งก่อนทบทวนคำที่พ่อพูดนึกได้ก็รีบปฏิเสธ

 

 

 

 

            “แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน! ฉันให้โอกาสแกเลือกแล้วแต่คนที่แกคบแต่ล่ะคนมันไม่ได้ความ ฉันจะเลือกให้แกเอง แจ๋วพายัยหนูไปเตรียมตัวซะ!” ธนัยสั่งจบก็ออกจากห้องไปทันทีปล่อยให้ฟางยืนสั่น

 

 

 

 

            “คุณหนูไปเถอะคะ” แจ๋วรีบทำตามคำสั่งพาฟางไปเปลี่ยนชุด

 

 

 

 

            “สวัสดีครับคุณธนัย” เสียงเข้มกล่าวสวัสดีเจ้าของบริษัทอย่างเป็นมิตร

 

 

 

 

            “สวัสดีครับคุณพิทักษ์” ธนัยตอบรับพร้อมจับมือทักทายแขกคนสำคัญก่อนจะเชิญให้นั่ง

 

 

 

 

            “ลูกสาวคุณสวยใช่เล่น สมแล้วที่เป็นคุณหนูตระกูลนีระสิงห์” พิทักษ์มองฟางด้วยสายตากรุ้มกริ่มสร้างความรำคาญใจให้หญิงสาวไม่น้อย

 

 

 

 

            “ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย อยากให้ฉันเสียหน้าเรอะ” ธนัยกระซิบว่า ฟางมองผู้เป็นพ่อก็ถอนหายใจแล้วยิ้มไหว้พิทักษ์ตามมารยาท

 

 

 

 

            “ลูกชายคุณพิทักษ์มาหรือยัง ผมกลัวยัยหนูจะอดใจไม่ไหว” ธนัยเอยพลางมองหาคนที่พูดถึง ฟางได้ยินก็เบือนหน้าหนีไปชมวิวข้างนอก เธอรู้ตัวว่ากำลังถูกจับคลุมถุงชนกับคนที่เธอไม่รู้จักแต่ต่อให้เธอไม่ยอมพ่อของเธอก็ต้องบีบบังคับให้ยอมจนได้

 

 

 

 

            “เดียวก็มาแล้วล่ะครับ เขาค่อนข้างงานรัดตัวนะครับ” พิทักษ์พลางเหล่สาวหวานแอบยิ้มเสียดายที่เธอต้องตกไปเป็นของลูกชายตน

 

 

 

 

            “ขอโทษที่มาช้าครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารีบขอโทษชายแก่ทั้งสองคนเมื่อมาถึง

 

 

 

 

            “มาพอดี! นี่หนูธนันต์ธรญ์ลูกสาวคุณธนัย” พิทักษ์แนะนำฟางให้ลูกชายตนรู้จัก

 

 

 

 

            “พิชชี่” ฟางหันมาสบตากับชายหนุ่มก็ตกใจเมื่อคนคนนั้นคือเพื่อนสนิทเก่าแก่ของเธอเอง

 

 

 

 

            “ฟาง” พิชชี่พูด เขาเองก็ตกใจเหมือนกันที่เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียน

 

 

 

 

 

            “ตัวนี้ก็ดีแฮะ สวยเฉียบเท่สุดๆ” แก้วมาเที่ยวห้างในวันว่างของเธอ หญิงสาวเดินส่องกล้องตัวใหม่ด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุดๆต่างกับผีตนหนึ่งที่ตามเธอด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายสุดขีด

 

 

 

 

            “เฮ้ย! ออกใหม่ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย โครตเท่อ่ะ” แก้วกวาดตาไปทั่วจนสะดุดเข้ากับกล้องตัวใหม่ก็ตาวาววิ่งไปเกาะกระจกยิ้มเคลิ้มอยากได้มาครองครองไว้สักอัน

 

 

 

 

            “ติ่งต้องจริงยัยบ้า” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “ทำไมมีปัญหาอะไรมิทราบห่ะ!? นี่มันความสุขของฉันถ้าเบื่อมากจะไปลอยที่ไหนก็ไปเลยป่ะ” แก้วหันขวับรีบไล่ชายหนุ่ม อันที่จริงถึงเขาจะออกห่างไม่ได้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่กับเธอตลอดเวลา

 

 

 

 

            “เดียวนี้ปากกล้าขึ้นเยอะนะ เดียวเหอะกลับไปเจอดีแน่!” โทโมะพูดแล้วจ้องอย่างเอาเรื่อง

 

 

 

 

            “Sorry ไม่กลัวแล้วย่ะ!” แก้วว่าแล้วยิ้มกวน

 

 

 

 

            “หึ เดียวก็รู้” โทโมะยิ้มแข่งพลางคิดในใจไม่กลัวงั้นเรอะเดียวเหอะกลับไปเจอดีแน่ยัยแสบ

 

 

 

 

            “ฟาง..” ขณะจ้องตาแข่งกับโทโมะแก้วเหลือบไปเห็นฟางกับชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าร้านอาหารก็พูดขึ้นอัตโนมัติ โทโมะมองตามที่แก้วพูดก็ชะงักตาม

           

 

 

 

 

            “พิชกลับไทยนานหรือยัง?” ฟางถามเพื่อนหนุ่มที่ไม่ได้เจอกันนาน

 

 

 

 

            “อืม สักพักแล้วแต่ไม่ได้เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะทำเอาฉันจำแทบไม่ได้” พิชชี่พูดแล้วยิ้มหวานพลางสำรวจความเปลี่ยนแปลงสาวตรงหน้า

 

 

 

 

            “นี้ปากหวานกับผู้หญิงทุกคนเลยใช่มะ” ฟางส่ายหน้าพูดอย่างรู้ทัน เธอจำได้ดีว่าพิชชี่เป็นเพลย์บอยตัวยงชอบหลีสาวไปเรื่อยกระทั่งเธอก็ไม่เว้น

 

 

 

 

            “ป่าว เฉพาะกับคนที่พิชชอบ” พิชชี่เท้าคางพูด หญิงสาวทำหน้าเอือมระอายิ้มทำเอาพิชชี่หน้าเสียแกล้งงอนหญิงสาว ฟางจึงรีบง้อขอคืนดีก่อนที่เขาจะงอนเธอไปมากกว่านี้

 

 

 

 

            “ขอบคุณพิชมากนะที่ช่วยไม่งั้นฟางแย่แน่” ฟางพูด เธอดีใจที่ผู้ชายคนนั้นเป็นเขาถ้าเป็นคนอื่นเธอคงไม่รู้จะทำยังไงให้รอดพ้นจากสถานการณ์เมื่อเช้านี้ไปได้ ยังดีที่พิชชี่เล่นหลอกชายแก่ทั้งสองขอให้เขาพาฟางมากินข้าวจะได้ศึกษากันไปก่อน

 

 

 

 

            “เพื่อนกันไม่ต้องคิดมาก ว่าแต่เธอไม่ได้คบกับไอ้ป็อปอยู่เรอะ?” พิชชี่พูดก่อนจะถามถึงป็อปปี้

 

 

 

 

            “.....” ฟางซึมลงหลังฟังพิชชี่พูดจบ

 

 

 

 

            “ฉันตกข่าวใช่มั้ยเนี่ย” พิชชี่ถาม เขาไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งสองเลิกกันเพราะตอนนั้นเขาก็ไปต่อเมืองนอกเสียแล้ว

 

 

 

 

            “ฟางเลิกกับเขาแล้ว” ฟางพูด

 

 

 

 

            “ฉันกะแล้วเชียว! เห้อ เอาเหอะฟางไม่ต้องเศร้านะเธอยังมีฉันอยู่ข้างๆเสมอ” พิชชี่พูดพร้อมกุมมือหญิงสาว

 

 

 

 

            “ขอบคุณนะ พิชชี่” ฟางเงยหน้ายิ้มขอบคุณเพื่อนชาย

 

 

 

 

 

            “จับมือกันด้วย โทโมะหมอนั่นใครอ่ะนายรู้จักไหม!?” แก้วแอบดูอยู่ไกลๆพูดขึ้น

 

 

 

 

            “ไม่! แต่ที่รู้ฉันจะไปจัดการมัน” โทโมะฮึดฮัด หึงหวงฟาง กล้าดียังไงมาจับมือแฟนสาวของเขา

 

 

 

 

            “หยุด! ขืนนายทำอย่างนั้นร้านแตกตื่นกันพอดี” แก้วพูดจบก็ตรงเข้าร้านที่ฟางไปอย่างเร็ว โทโมะยืนข่มอารมณ์ก่อนจะรีบตามแก้ว

 

 

 

 

            “สวัสดีค่ะ ลูกค้ามากี่ท่านคะ?” พนักงานสาวกล่าว

 

 

 

 

            “คนเดียวคะ” แก้วยิ้มพูดพลางมองฟางกับพิชชี่

 

 

 

 

            “นั้นเชิญโต๊ะด้านนี้เลยคะ”พนักงานสาวพูดเชิญแก้วไปที่โต๊ะ

 

 

 

 

            “เอ่อ ฉันอยากทราบว่าคนที่นั่งอยู่โต๊ะนู่นนะคะผู้ชายที่นั่งกับผู้หญิงตัวเล็กๆ เขาเป็นใคร?” แก้วรีบถามพนักงานสาวพร้อมชี้ไปทางโต๊ะฟาง

 

 

 

 

            “คุณพิชชี่เจ้าของร้านที่นี้คะ” พนักงานสาวมองตามก็ตอบ

 

 

 

 

            “แล้วอีกคนหนึ่งเนี่ยใช่แฟนเขาหรือป่าวคะ?” แก้วพูด

 

 

 

 

            “น่าจะใช่คะ เห็นว่าเป็นแขกพิเศษของคุณพิชชี่” พนักงานสาวพูดตามที่เธอรู้มา

 

 

 

 

            “พิเศษ” โทโมะยืนมองพิชชี่อย่างไม่ชอบใจ

 

 

 

 

            “อืม..ฉันเป็นนักเขียนคอลัมน์คะถ้าต้องการติดต่อคุณพิชชี่โดยตรงฉันต้องทำยังไงบ้างคะ?” แก้วอ้างตนเป็นนักเขียนรีบสอบถามพนักงานสาว   

 

 

 

 

            “นี้นามบัตรของคุณพิชชี่คะ” พนักงานสาวยื่นนามบัตรให้

 

 

 

 

            “ขอบคุณค่ะ” แก้วรับมาดูก็เห็นสัญลักษณ์ร้านอาหารแห่งนี้เป็นรูปตัวP ตอนเข้ามาเธอไม่ได้สังเกตโลโก้ร้านมัวแต่ส่องฟางกับพิชชี่จนลืม

 

 

 

 

            “P” แก้วพูด

 

 

 

 

 

            “โทโมะนายคิดว่าไง?” แก้วนอนคิดอะไรไปเรื่อยถึงเรื่องแฟนเก่าฟางก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา

 

 

 

 

            “อะไร ถ้าหมายถึงมันล่ะก็บอกคำเดียวเกลียดเข้าไส้!” โทโมะพูดน้ำเสียงหงุดหงิด

 

 

 

 

            “ไม่ใช่! ฉันหมายถึงพอเป็นไปได้รึป่าวที่คุณพิชชี่จะเป็นแฟนเก่าฟาง” แก้วลุกนั่งขัดสมาธิว่า

 

 

 

 

            “ถ้าใช่ฉันจะไปกระทืบมันซะเดียวเนี่ย” โทโมะว่าแล้วนึกถึงภาพที่ร้านอาหารเขาเห็นฟางกับพิชชี่หัวเราะคิกคักสนุกสนานมันทำให้เขาหัวเสียเอามากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

 

 

 

            “ฟังที่ฉันพูดก่อน ตอนนี้เรามีคนที่สงสัยเพิ่มมาอีกคนคือคุณพิชชี่เพราะเขามีอักษรตัว P เหมือนกับจี้เส้นนั้น แถมดูทั้งคู่ดูสนิทเป็นพิเศษซะด้วย...” แก้วพูดแล้วคิดเหมือนชายหนุ่ม เธอนั่งเฝ้าสังเกตทั้งสองจนกระทั่งออกร้านไป ถ้าดูเผินๆเธอยังแอบคิดด้วยซ้ำว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน

 

 

 

 

            “.......” โทโมะนั่งเงียบ ทำให้แก้วถอนหายใจเป็นกังวลเพราะรู้ว่าชายหนุ่มคงทุกข์ใจไม่ใช่น้อยเมื่อเห็นฟางกับผู้ชายคนอื่น  

 

 

 

 

            “ฉันจะหาทางสืบดูว่านายพิชชี่เป็นใคร แต่ถ้าใช่ขึ้นมานายต้องยอมรับนะ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “ยอมรับ?” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “เพราะถ้าฟางเลือกแล้วนายก็ไม่มีสิทธิที่จะค้านแล้วยังไงล่ะ” แก้วบอก

 

 

 

 

            “เรื่องนั้น..ฉันรู้ดี”

 

 

 

 

 

________________________________________________________

 

 

 

            อัพอีกรอบเพราะเดียวจะหายไปอีกล่ะ พีสมีการบ้านเยอะต้องทำแต่ใจอยากอัพเลยมาอัพให้ตอนหนึ่งก่อน ฟางกับพิชชี่เป็นเพื่อนกันมาก่อน เอ๋ แก้วจะจัดการหาความจริงอย่างไร โทโมะอย่าพึ่งเศร้าไปนะ เม้น ตอบ ด้วย ไม่เม้นไม่อัพนะ (>[]<)/

 

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา