Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  60.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

35) - Penalty Of ‘PIM’ - ( บทลงโทษของ 'พิมพ์ ' )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- Penalty Of ‘PIM’ -

( บทลงโทษของ 'พิมพ์ ' )

 

“แก้ว...แก้ว...เฮ้...” เมื่อแก้วสลบไปโทโมะแล้วก็อีกหลายๆคนที่ยืนดูอยู่ก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่าแก้วเป็นแบบนี้

 

 

             หัวใจของโทโมะแทบสลายหายไปในตอนนั้นเพราะในความคิดของเขาคือพรุ่งนี้เป็นวัน เกิดของเขาและ...มันคือวันแห่งความรัก แต่ทำไมมันจะต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับแก้วด้วย ทำไมกัน...พระเจ้าท่านใจร้ายเกินไปมั้ยที่เล่นแรงกับจิตใจของเขาถึงเพียงนี้  

 

 

             และถ้าแก้วเป็นอะไรไป...โทโมะจะเป็นยังไง...

 

 

            เพราะตอนนี้หัวใจของเขามันอยู่ที่แก้วเรียบร้อยแล้ว...

 

 

“อึก...ฉันรู้...ว่าใครมันเป็นคนทำเรื่องแบบนี้...”ฟางพูดบอกกับโทโมะให้ได้ยินเพียงแค่สองคนจนโทโมะที่กำลังมองร่างของแก้วอยู่นั้นต้องชำเลืองตาขึ้นมามองฟางอย่างสงสัย

 

 

            ดวงตาแสนเฉียบคมของโทโมะนั้นตอนนี้มันเต็มไปด้วยความโกรธเป็นอย่างมากเมื่อเขา ได้ยินฟางพูดแบบนั้นที่ว่า...มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง...นาทีนั้นโทโมะเขาอยาก จะรู้เสียเหลือเกินว่าใครกันที่มันทำแบบนี้กับแก้ว!

 

 

“ไอ้สารเลวคนไหนมันทำ”โทโมะพูดเสียงต่ำจากนั้นฟางก็ละสายตาจากโทโมะหันไปมองกลุ่มโบว์ลิ่งที่กำลังยืนมองมาทางนี้ด้วยความตกใจหน่อยๆ

 

 

           เหมือนกับว่า‘คนที่บงการ’ นั้นคงคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ล่ะมั้ง

 

 

“พวกนั้นใช่มั้ย...”โทโมะ ถามย้ำฟางอีกครั้งแต่ดวงตาของเขานั้นมันเย็นชาจนเหมือนแข็งเป็นหินไปเลย มือของเขาที่กำลังจับกอดร่างของแก้วเอาไว้ก็บีบร่างของแก้วแน่นก่อนที่โทโมะ จะก้มลงไปมองแก้วอีกครั้ง

 

 

“นักเรียนทุกคนไปรวมตัวกันที่สนามบอลเดี๋ยวนี้เลย! หน่วยดับเพลิงกำลังจะมาถึงแล้ว ส่วนคนเจ็บรีบเอาไปขึ้นรถพยาบาลด่วน  เร็วๆก่อนที่เพื่อนของเราจะเป็นอะไรมากกว่านี้”

 

 

        และ ทันใดนั้นเองเสียงของอาจารย์ที่วิ่งมาบอกเหล่ากับนักเรียนที่ยืนอยู่หน้า อาคารหน้าอย่างร่ำร้อนเพราะว่าเป็นห่วงกลัวว่าไฟจะลุกลามมาทำให้เหล่านัก เรียนที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ได้รับบาดเจ็บ และนั่นก็ทำให้โทโมะรีบลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มร่างของแก้วไว้ในอ้อมแขนแล้วหันไป มองจองเบที่ตอนนี้ข้างๆของจองเบนั้นมีคลอรีนยืนอยู่ด้วยเพราะว่าเธอคงจะมาดู เหตุการณ์นี้เหมือนกันและสายตาของคลอรีนก็ดูมีความเป็นกังวลไม่น้อยที่เธอ นั้นเห็นแก้วเป็นแบบนี้ 

 

 

       แต่หากทว่าจองเบกับคลอรีนน่ะ...สองคนนั้นไม่ได้ยืนใกล้กันเหมือนอย่างที่คิด หรอกเพราะว่าคลอรีนนั้นยืนเว้นช่วงห่างจากจองเบพอสมควรเลย

 

 

“ไอ้จองเบ...”โทโมะเดินอุ้มแก้วไปหาจองเบที่กำลังยืนอยู่และนั่นก็ทำให้เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ตรงนี้หันมองกันเป็นตาเดียว “ฉันฝากพาแก้วไป...”

 

 

“ได้”โทโมะยังพูดไม่ทันจบจองเบก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อนเพราะว่ารู้ดีว่าโทโมะจะพูดว่าอะไร

 

 

           เมื่อโทโมะได้ยินเช่นนั้นเขาก็ส่งร่างของแก้วไปให้จองเบอุ้มไว้ในอ้อมแขนก่อนที่จองเบกับอาจารย์ผู้หญิงจะเดินออกไปจาก ตรงนี้ และคลอรีนก็ดูเหมือนว่าจะถูกให้อาจารย์คนนั้นเรียกให้ไปด้วยเช่นกัน แต่คลอรีนยังไม่ทันได้เดินหันหลังไปโทโมะก็เอื้อมมือของเขาไปจับที่บ่าของเธอ เอาไว้เสียก่อน

 

 

       แต่ โทโมะทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะความรู้แบบเมื่อก่อนที่ว่าเขาเคยแอบรักคลอรีนมานาน เพราะตอนนี้ไม่ใช่ตอนนั้น และในเวลานี้และตลอดไปคลอรีนเธอก็จะยังคงเป็น‘เพื่อนที่ดี’ คนหนึ่งของโทโมะ...

 

 

“คลอรีน...ฉัน...ฝากแก้วด้วยนะ”เมื่อคลอรีนหันมาโทโมะจึงเอ่ยบอก

 

 

“ได้สิ แก้วป็นเพื่อนฉัน นายก็เพื่อนฉัน มันก็ต้องได้อยู่แล้วสิ”คลอรีนบอกวีแล้วยิ้มบางๆส่งมาให้แล้วเอามือของเธอตบบ่าของเขาเบาๆ “นายเองก็...เคลียร์เรื่องบางอย่างให้มันจบซะนะ  ถ้าไม่อยากให้แก้วเจอเรื่องแบบนี้อีก...”

 

 

“...”

 

 

        คลอรีน ได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้โทโมะก่อนจะรีบวิ่งเยาะๆตามอาจารย์กับจองเบไปขึ้นรถ พยาบาลที่จอดรออยู่และส่งเสียงร้องเตือน  คำพูดของคลอรีนนั้นเป็นเหมือนคำเตือนว่าให้โทโมะจัดการให้มัน‘เด็ดขาด’ ไปเลย เพราะเธอรู้ว่าเรื่องที่แก้วไปติดอยู่ในนั้นแล้วออกมาไม่ได้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

 

       เพราะตอนที่โทโมะวิ่งเข้าไปช่วยแก้วคลอรีนก็วิ่งมาดูเหตุการณ์นี้อย่าง ตกใจ แล้วเห็นฟางร้องไห้อยู่กับป๊อปปี้และเพื่อนๆกลุ่มเคโอติคเธอจึงเข้าไปถามฟางว่า มันเกิดอะไรขึ้นจนฟางบอกเธอว่าแก้วติดอยู่ในโรงขยะนั่น

 

 

       และฟางก็เห็นจินนี่เดินออกมาจากที่นั่นในตอนช่วงที่แก้วนั้นหายไป...

 

 

       ส่วน ที่โทโมะได้ฝากให้จองเบพาแก้วไปโรงพยาบาลแทนที่จะเป็นเขาก็เป็นเพราะว่าเรื่อง นี้เนี่ยแหละที่ทำให้เขาจะต้องอยู่ที่นี่ก่อนเพราะว่า...เขาจะต้องจัดการกับ ใครบางคน ที่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เรื่องที่แก้วเกือบจะโดนไฟครอกอยู่ในโรงขยะนั่น ได้เกิดขึ้น!    

 

      

“ฮึ๋ยยยย นังพิมพ์! แก๊!”

 

 

ผัวะ!!

 

 

“กรี๊ดดดดดด”

 

 

        ยัง ไม่ทันที่ทุกคนจะทยอยพากันไปรวมกันที่สนามบอลจนหมดฟางที่ทนเห็นหน้ายัยคนที่ เป็นตัวต้นตอที่ทำให้แก้วไปติดอยู่ในนั้นอย่างพิมพ์ไม่ได้ เธอจึงวิ่งกราดเข้าไปต่อยหน้าพิมพ์เข้าอย่างแรงจนพิมพ์ร้องออกมาเพราะคาดไม่ ถึงว่าฟางจะมาต่อยเธอในตอนที่เธอนั้นไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้แล้วก็ไม่คิดว่าจะ มีใครกล้าต่อยเธอต่อหน้าคนอื่นๆด้วยสิ

 

 

      รวมถึงนักเรียนบางคนที่ยังคงเกาะกลุ่มยืนออกันอยู่ตรงนี้ก็ไม่คิดไม่ ฝันเหมือนกันว่าฟางจะทำแบบนี้กับพิมพ์ ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่ามีอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน แต่จะเป็นใครก็ช่าง! เพราะสำหรับฟางแล้วถ้าคนๆนั้นถือเป็นคนในครอบครัวแล้วมีใครมาทำร้าย

 

 

      ฟางคนนี้เธอไม่มีทางยอมเด็ดขาด!

 

 

      ทีแรกก็ไม่อะไรมากที่พิมพ์ตบเพื่อนของเธอแต่เธอก็โกรธแต่ว่าที่ไม่อยาก จะอะไรนักเพราะไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่เพราะว่าเธอรู้ว่าแก้วนั้นไม่ได้ต้องการที่จะให้เรื่องมันถึงผู้ปกครอง แต่คราวนี้มันไม่ไหวจริงๆจนฟางนั้นเหลือออดที่จะทนแทนแก้วแล้ว!

 

 

      และตอนนี้ตรงนี้ก็ไม่มีอาจารย์อยู่แล้วด้วยเพราะพวกเขานั้นไปจัดการ ดูแลนักเรียนที่กำลังขวัญเสียกันอยู่ที่สนามฟุตบอลนั่นเองฟางจึงไม่คิดที่จะยั้งมือเลย

 

 

“นังเลว!”ฟาง ชี้หน้าด่าพิมพ์ทันทีเพราะความโกรธพร้อมกับน้ำตาของเธอที่เอ่อล้นขึ้นมาเพราะ กลัวว่าถ้าเพื่อนเธอเป็นอะไรไปล่ะก็นังผู้หญิงใจร้ายคนนี้จะไม่มีวันได้ตาย ดีแน่!

 

 

       ถึงฟางกับแก้วจะรู้จักกันไม่ถึงปีแต่ว่าความผูกพันธ์ของมิตรภาพนั้นมันไม่จำ เป็นต้องใช้เวลาวัดเอาหรอกพียงแค่เขาคนนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เพื่อน’ ของเราแล้วล่ะก็...ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็สำคัญสำหรับเราเสมอ

 

 

        และในขณะนั้นที่ฟางกำลังชี้หน้าพิมพ์และจ้องมองพิมพ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเป็น อย่างมากถึงมากที่สุดจินนี่กับเฟื้องฟ้าก็รีบมาช่วยกันจับแขนพยุงพิมพ์เอาไว้ เพราะพิมพ์นั้นโดนต่อยเข้าที่หน้าจนเซไปเซมา

 

 

“อะไรของแกฮะนังบ้า!”พิมพ์ ที่เพิ่งตั้งหลักได้จึงเอามือชี้หน้าด่าฟางเช่นกันแต่อีกมือของเธอนั้นก็เอา จับที่จมูกของเธออยู่เพราะเธอคงจะรู้สึกเจ็บเป็นอย่างมากที่โดนต่อยเข้าหน้าจังๆแบบนั้น

 

 

          และตอนนี้พิมพ์เธอก็คงจะขายหน้ามากๆที่มาโดน ต่อยต่อหน้านักเรียนคนอื่นๆแล้วก็คนที่เธอหมายปอง ( แต่ไม่มีวันได้ครอง ) อย่างโทโมะ...

 

 

“ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรออีนังหน้าสะพานแขวน! ทั้งๆที่แกก็รู้ตัวดีว่าทำอะไรลงไป!”

 

 

“นี่แกด่าฉันเหรอนังฟาง!”พิมพ์ ถลึงตาใส่ฟางจนฟางนั้นต้องกำหมัดในมือแน่นเพราะความโกรธจัด ส่วนโทโมะก็คอยดูทีท่าของพิมพ์อยู่ว่าถ้าพิมพ์เผยความจริงว่าตัวเองเป็นตัวต้นตอ ของเรื่องนี้เข้าจังๆ

 

 

           ถึงคราวนั้นแหละ หึ โทโมะเล่นเธอเละแน่!

 

 

          แต่เขาก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะยังไม่ด่าคนที่ยังไม่รู้ว่าผิดจริงรึปล่าว แต่ขนาดนี้แล้วโทโมะคิดว่าต้องเป็นพิมพ์นั่นแหละที่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพียงแต่ขอแค่เขาได้เห็นความ ‘สตอเบอรี่’ ของพิมพ์อีกสักนิดก็แล้วกัน!

 

 

“ไม่ด่าแกแล้วจะด่าใครอีหัวแดง!”

 

 

“หะ...หัวแดง!? หน๋อย! อีฟาง!”

 

 

ผัวะ!!

 

 

“กรี๊ดดดดดดด” เมื่อ พิมพ์สลัดตัวเองออกมาจากเพื่อนของเธอทั้งสองคนแล้วทำท่าว่าจะตรงเข้ามาตบฟาง ที่เพิ่งด่าเธอไปเมื่อกี้ ฟางที่เห็นแบบนั้นก็จัดการชิงต่อยเข้าที่ใบหน้าของพิมพ์อีกครั้งจนพิมพ์นั้นมี เลือดกำเดาไหลออกจมูก

 

 

      แต่แค่นี้มันไม่พอหรอกกับเรื่องที่เธอทำกับแก้วเอาไว้...มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!

 

 

“ละ...เลือด!”พิมพ์ถึงกับตกใจเมื่อเอามือแตะที่จมูกก็เห็นว่ามีเลือดไหลออกมา

 

 

“...”

 

 

“นี่แกต่อยฉันอีกแล้วเหรอ! กล้าดียังไงมาต่อยฉันจนเลือดออก! ”พิมพ์พูดอย่างโมโหจนทำให้ใบหน้าของเธอนั้นกลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “รู้ม๊ะ! ว่าหน้าฉันที่แกต่อยไปเนี่ยมันมีราคาเท่าไหร่!?”พิมพ์เค้นเสียงถามแล้วชี้นิ้วมาที่ใบหน้าที่แลดูมีราคาของเธอ

 

 

 

      ...แต่ไม่ว่าส่วนไหนของร่างกายคนเราจะดูดีมากแค่ไหน แต่ถ้าคนๆนั้นมีความคิดและ ‘จิตใจต่ำ’ สิ่งเหล่านั้นมันก็จะดูไม่มีค่าเลยแม้สักนิดเดียว

 

 

 

“แล้วไงวะ!?”ฟางพูดตอกกลับทันทีอย่างไม่ต้องคิดจนทำให้ทุกคนพากันลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

 

 

 

“...!!! กะ...แก”

 

 

 

       พิมพ์ถึงกับเงิบเมื่อเห็นว่าฟางแลดูไม่มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวเธอเลยแม้แต่น้อย หึ! แหง ล่ะ คนอย่างฟางลองโกรธโมโหใครดูสิหน้าไหนก็ไม่เว้นทั้งนั้นแหละถ้าหากคนๆนั้นทำ ผิดจริงๆ พิมพ์ก็นะ...เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับฟางคนนี้

 

 

 

           และคำต่อจากนี้ของฟางนั้นเชื่อได้เลยว่าคนที่แอบหมั่นไส้พิมพ์อยู่ภายในใจ หลายๆคนนั้นต่างพากันสะใจไม่น้อยเลยทีเดียวเชียวแหละ

 

 

 

 “ราคาเท่าไหร่? เห๊อะ! นี่! จะบอกอะไรให้อย่างนะ...ว่าหนังหน้าพลาสติกสกปรกๆของเธอน่ะ! มันไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของเพื่อนฉันหรอก!”

 

 

 

“...!!! น่ะ..นังฟาง!”

 

 

 

“คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่าที่แก้วไปติดอยู่ในโรงขยะนั่นมันเป็นเพราะใครถ้าไม่ใช่เธอ!”

 

 

 

        เมื่อฟางเอ่ยออกมาเสียงดังจนทำให้นักเรียนหลายๆคนต่างๆพากันซุบซิบกันใหญ่ บางรายก็พากันออกจากตรงนี้ไปที่รวมตัวกับนักเรียนคนอื่นๆที่สนามบอลเพราะว่า กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นอีกนอกจากไฟไหม้แล้ว ก็คงอาจจะได้เห็นคนตบตีกันอีกในไม่ช้านี้ล่ะมั้ง

 

 

 

“อย่ามาพูดจาใส่ร้ายกันมั่วซั่วแบบนี้นะ! ฉันไปทำอะไร!”พิมพ์บอกแบบนั้นแต่สายตาของเธอนั้นลอกแลกไปมาพร้อมทั้งอับอายที่ได้เห็นว่ามีคนซุบซิบเธอ

 

 

 

“โกหก! แล้วที่ฉันเห็นยัยจินนี่เพื่อนของเธอเดินออกมาจากโรงขยะในช่วงที่แก้วเพื่อนฉันหายไปนั่นมันคืออะไร!?” ฟางพูดแล้วเหมือนจะตรงเข้าไปต่อยพิมพ์อีกครั้งแต่ป๊อปปี้และเขื่อนก็มาที่จับไหล่ของเธอเอาไว้เหมือนจะบอกว่า ‘ให้ใจเย็นๆก่อน’จนฟางนั้นยอมอยู่เฉยๆแต่โดยดี

 

 

 “ฉันก็แค่สั่งให้ยัยจินนี่เอาขยะไปทิ้งก็แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรนี่”

 

 

“งั้นเหรอ...”

 

 

จึก!

 

 

O_O!!!

 

 

      น้ำเสียงอันนิ่งเรียบของคนที่ยืนมองดูความสตอเบอรี่ของพิมพ์มาสักพัก อย่างโทโมะเอ่ยขึ้น จึงกับให้พิมพ์ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว และเมื่อเธอหันไปมองก็เห็นว่าโทโมะกำลังจ้องมองเธออยู่ในขณะที่เขาก็ค่อยๆอย่าง ก้าวเข้ามาหาเธอช้าๆเหมือนจะค่อยๆฆ่ากันให้ตาย

 

 

      แต่หากทว่าปลายเท้าของโทโมะนั้นกลับเลือกที่จะเดินไปหาใครอีกคนที่กำลัง ยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆพิมพ์ตอนนี้เสียมากกว่านั่นก็คือ...จินนี่

 

 

“ไหนบอกมาหน่อยซิ๊ว่า...มันจริงอย่างที่เพื่อนของเธอพูดรึปล่าว”โทโมะถามจินนี่ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่สายตาของเขานี่แฝงไปด้วยความโกรธเคืองเป็นอย่างมาก

 

 

       และที่เขาเลือกถามจินนี่ยก็เพราะได้ฟังคำพูดของฟางเมื่อกี๊ที่ว่า...‘เห็นจินนี่ยเดินออกมาจากโรงขยะนั่นในจังหวะที่แก้วหายไป’ และท่าทางของจินนี่ไม่ใช่คนที่หาเรื่องใครก่อนเหมือนอย่างพิมพ์หรอก แต่เธอจะไม่ลงมือทำอะไรกับคนอื่นถ้าพิมพ์ไม่ได้สั่ง

 

 

      โทโมะจึงมั่นใจอย่างแน่แท้เลยว่า...จินนี่ต้องทำตามคำสั่งของพิมพ์แน่ๆ!

 

 

“อะ...เอ่อ...คือว่า...”จินนี่พูดเสียงกะตุกะตักเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นว่าตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องมองมาที่เธออย่างกดดัน “เอ่อ...”เมื่อเห็นแบบนั้นจินนี่จึงก้มหน้าลงเพราะว่าไม่กล้าสู้หน้ามือทั้งสองก็จับประสานกันแถมยังสั่นเหมือนว่ากลัว

 

 

      แน่นอนเธอต้องกลัวอยู่แล้วเพราะว่าเธอนั้นรู้ดีว่าอะไรคือ... ‘ความจริง’ ...

 

 

“บอกไปสิจินนี่ว่ามันจริงอย่างที่ฉันพูด! ฉันพูดถูกส่วนยัยฟางมันพูดผิด แกบอกไปสิ!”

 

 

“ไม่ได้ขอความเห็นอย่ามาเอ่ยแทรก!”

 

 

“อุ้บ! OXO”พิมพ์รีบหุบปากของตัวเองลงในทันทีทันใดที่โทโมะหันไปตะคอกใส่เธอแบบนั้นเป็นทำนองว่า  

 

 

       อย่า-ยุ่ง!  

 

 

          และตอนนี้สายตาของเธอก็คงทำได้เพียงจับจ้องมองจินนี่ เพื่อไม่ให้บอกพวกนั้น ว่าเธอเป็นคนสั่งให้ทำพิมพ์น่ะ...จะให้จินนี่พูดอะไรก็ได้ที่มันไม่โยงเกี่ยวกับเธอทำให้เธอไม่ผิด แต่การกระทำแบบนั้นมันเห็นแก่ตัวมากที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดทั้งๆที่ผิด จริงๆ

 

 

      และสิ่งที่พิมพ์แสดงกิริยากับเพื่อนของเธอแบบนี้ มันคงไม่มีความหมายสำหรับคำว่า‘เพื่อน’ แล้วล่ะ

 

 

      เพราะเพื่อนเป็นเพื่อน‘ไม่ใช่ทาส’ เพื่อนคือความสัมพันธ์ที่เรียกกันว่า ‘มิตรภาพ’ แต่สิ่งที่พิมพ์มีให้กับจินนี่นั้นมันไม่ได้มีความหมายของคำว่าเพื่อนเลยสักนิด เพราะว่าเธอนั้นคิดถึงแต่ตัวเองยังล่ะ!

 

 

      ส่วนตอนนี้จินนี่เนี่ยสิที่กลัวพิมพ์อยู่จึงรู้สึกกดดันไม่น้อยเลย เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้พิมพ์ผิด เพราะว่าโทโมะกำลังจ้องมองเธออยู่ด้วย และเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะดูไม่ออกว่าใครพูดโกหก

 

 

      ยิ่งตอนนี้แล้วจะหาทางโกหกได้ยังไงถ้าไม่พูดความจริงออกมาให้มันจบๆ

 

 

“เอ่อ...คือฉัน...”

 

 

“ฉันจะไม่เอาเรื่องเธอหรอกนะถ้าหากเธอ...พูดความจริง”โทโมะย้ำอีกครั้งเพื่อจะให้จินนี่ลองคิดดูว่าถ้าเธอโกหกเขาแล้วเธอจะได้อะไรเป็นผลตามมา

 

 

       ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหากคิดที่จะมาพูดจาโกหกในเมื่อหลักฐานมันมีก็ คาตาอยู่แล้วไงว่าฟางนั้นได้เห็นเธอเดินออกมาจากโรงขยะ

 

 

“คือ...คือว่า...”

 

 

“...”

 

 

“เอ่อ...”

 

 

“...”

 

 

“ชะ...ใช่! พิมพ์เป็นคนสั่งให้ฉันขังแก้วเอาไว้ในนั้นเองแหละ ><!” เป็น เพราะแรงกดดันจากทุกสายตานั้นทำให้จินนี่เลือกที่จะไม่โกหกเพราะว่าถ้า เรื่องนี้ถึงหูอาจารย์หรือตำรวจจริงๆเธอก็ต้องพูดความจริงอยู่ดี

 

 

“ยัยจินนี่!”

 

 

“เธอน่ะเงียบไปเลย!!”

 

 

หมับ!

 

 

“ว๊าย! โทโมะจะทำอะไรเนี่ย >O<!” พิมพ์ ร้องออกมาอย่างตกใจเพราะว่าหลังจากที่จินนี่สารภาพความจริงออกมาโทโมะก็ตรงเข้า ไปจัดการกระชากคอเสื้อนักเรียนของพิมพ์อย่างแรงด้วยความโมโห

 

 

“เธอ...เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวมั้ย!”โทโมะตะคอกใส่พิมพ์จนคนที่ยืนยังดูอยู่นั้นรู้สึกกลัวแทนพิมพ์

 

 

           ใช่! คน ที่เงียบๆไม่ค่อยจะสนใจโลกอย่างโทโมะแต่พอถึงเรื่องที่มันน่าโมโหจนต้องพูดออก มาก็จะรู้เลยว่าคนแบบนี้เวลาโกรธแล้วน่ากลัวมากแค่ไหน และถ้าฆ่าได้ก็คงฆ่าไปแล้วล่ะ

 

 

“ฉันทำอะไรล่ะ!”

 

 

“เพื่อนเธอสารภาพขนาดนี้แล้วเธอยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอฮะ!?”โทโมะพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวแล้วกระชากคอเสื้อพิมพ์ให้เข้ามาหาเขาก่อนจะจ้อง มองเธอเป็นเชิงให้เธอพูดใหม่อีกครั้งหนึ่งในขณะที่มือของเขาก็กำคอเสื้อของพิมพ์แน่นขึ้นๆ

 

 

“ก็...ก็ได้! ฉันเป็นคนบอกจินนี่เองแหละว่าให้ขังยัยแก้วไว้ในนั้น! แต่จะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าไฟมันจะไหม้! >O<!”

 

 

“หน๋อย อี!!”

 

 

“ฟางครับอย่า!”เขื่อนกับป๊อปปี้รีบฉุดฟางเอาไว้ได้ทันเมื่อฟางสลัดมือออกแล้วทำท่าว่าจะตรงเข้า มาจัดการพิมพ์อีกรอบเมื่อเห็นว่าพิมพ์ได้พูดความจริงออกมาแบบนั้นแล้ว

 

 

“ห้ามฉันทำไม! ยัยนั่นมันสมควรโดน!”ฟาง พูดแต่ป๊อปปี้กับเขื่อนก็ไม่มีทางที่จะปล่อยแขนฟางหรอกเพราะรู้ว่าคราวนี้ถ้า ปล่อยไปพิมพ์อาจจะเละคามือฟางจนสภาพดูไม่ได้แน่ๆ และเดี๋ยวมันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงตำรวจได้

 

 

“ไม่คาดคิดว่าไฟมันจะไหม้?”โทโมะเค้นเสียงถามแล้วหรี่ตามองพิมพ์จนพิมพ์ต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกลัวหน่อยๆ แต่เธอจะยิ่งรู้สึกกลัวกว่าเดิมเมื่อโทโมะพูดคำหลังต่อท้าย “แต่ถึงไฟมันไม่ไหม้! เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งให้เพื่อนเธอหรือว่าใครก็ตามไปขังคนอื่นเขาแบบนั้น!!”

 

 

“...!!!”

 

 

“เธอรู้มั้ยว่าทำแบบนั้นแล้วอะไรมันจะตามมาบ้าง นี่ไง! แก้วจะเกือบโดนไฟคลอกตายอยู่ในนั้นแล้วเธอรู้มั้ย?!”

 

 

“ไม่รู้หรอก! ฉันไม่ใช่ยัยนั่นนิจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า! ><!”พิมพ์ตอบโทโมะมาแบบที่ไม่ได้คิดเลยว่าคำตอบของเธอนั้นมันทำให้โทโมะอยากจะควักหัวใจเธอออกมามากแค่ไหน

 

 

“ไม่รู้อย่างงั้นเหรอ...ได้!”

 

 

“ว๊าย! โทโมะจะทำอะไรอ่ะ!”

 

 

       พิมพ์ร้องออกมาเมื่อโทโมะฉุดคอเสื้อของเธอให้เดินตามไปทางโรงขยะที่ตอนนี้ไฟกำลัง ลุกลามใหญ่แล้ว แต่ที่น่าสะใจกว่านั้นก็คือไม่มีใครคิดจะเข้ามาห้ามโทโมะเลยแม้แต่น้อยเพราะคิด ว่าถ้าโทโมะจะทำอะไรพิมพ์มันก็สมควรแล้วกระมังพิมพ์ตอนนี้เองก็ไม่ได้มีความน่าสงสารอะไรใดๆเลยเพราะว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมัน มากเกินพอ

 

 

       และคงถึงเวลาที่คนอย่างเธอจะต้องโดนลงโทษเสียบ้าง!

 

 

“...”

 

 

“โทโมะ! จะทำอะไรตอบฉันมานะ!”

 

 

“ก็ทำให้เธอรู้ไงว่ามันเป็นยังไงถ้าต้องไปอยู่ในนั้น!”โ?โมะหันมาบอกแล้วลากพิมพ์เข้าไปใกล้ๆกับโรงขยะจนพิมพ์เบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะรู้ไงว่าโทโมะจะทำอะไร

 

 

      แต่ว่าเขาไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นหรอกก็แค่อยากให้พิมพ์ได้บทเรียนอะไร บ้างแค่นั้นเอง แล้วมันก็ได้ผลขึ้นมาในทันทีทันใดจริงๆ

 

 

“ไม่! ไม่เอา! ฮือออออ โทโมะอย่านะ!!”พิมพ์ขัดขืนสุดฤทธิ์และตอนนี้เธอกำลังร้องไห้แต่น้ำตาของเธอนั้นมันไม่มีผลทำให้ดูน่าสงสารขึ้นมาหรอกนะ...พิมพ์

 

 

“ไม่เอา? ทำไม...”โทโมะหยุดเดินแล้วหันมาถามพิมพ์

 

 

“อึก...ฮือ”

 

 

“ฉันถามว่าทำไม!”

 

 

“ก็ฉันกลัว!”

 

 

“กลัว? หึ ดูสภาพเธอตอนนี้สิ...”โทโมะหัวเราะในลำคอแล้วมองพิมพ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเอานิ้วชี้ไปยังโรงขยะส่วนอีกมือก็ยังคงจับคอเสื้อนักเรียนพิมพ์อยู่ “แล้วก็ดูสิ่งที่เธอพูดนะพิมพ์...”

 

 

“อึก...”

 

 

 

“เธอพูดว่าเธอ‘กลัว’ ทั้งๆที่เธอยังอยู่ตรงนี้! ยังไม่ทันได้เข้าไปอยู่ในนั้นเลย!  แล้วเธอลองคิดดูนะ...ว่าคนที่เขาเข้าไปติดอยู่ในนั้นเขาจะรู้สึก‘กลัวมากกว่า’ เธอขนาดไหน!” โทโมะตะคอกใส่พิมพ์จนพิมพ์ร้องไห้ออกมาเหมือนกับว่ารู้สึกผิด

 

 

“อึก...ฮือออ”

 

 

“ในนั้นน่ะมันมีทั้งควันไฟ ความร้อน และความหวาดกลัว แล้วเธอไม่คิดบ้างรึไง? ใช่! เธออาจจะแค่อยากขังแก้วเอาไว้เฉยๆเพื่อความสะใจในเรื่องที่แม่งโคตรไร้สาระ! แต่ไอ้แบบนั้นมันก็สร้างความกังวลให้แก้วมากพอแล้ว! และยังมาเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนี้อีกถ้าแก้วช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง!”

 

 

“ฉัน...”

 

 

“ถ้านึกภาพไม่ออกเธอก็ลองนึกสิว่าคนที่ติดอยู่ในนั้นคือเธอไม่ใช่แก้วแล้วมันจะเป็นยังไง...ถ้า ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ไปติดอยู่ในนั้นเสียเองแล้วไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าจะมี คนได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือของเธอมั้ย แล้วถ้าเธอโดนไฟคลอกตายล่ะ จะเอาแบบนั้นมั้ยล่ะ?”

 

 

“ไม่...”พิมพ์ตอบแล้วมองโทโมะด้วยสายตาที่เริ่มแข็งกร้าวจนโทโมะมองออกเลยว่าคนอย่างพิมพ์นั้นไม่ได้มีความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ไม่งั้นเหรอ? หึ แต่เธอรู้อะไรมั้ย? ว่าฉันอยากจะให้คนที่ติดอยู่ในนั้นเป็นเธอเสียด้วยซ้ำ...ไม่ใช่แก้ว!” โทโมะพูดตะคอกใส่พิมพ์จนพิมพ์นั้นสะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที “แล้วครั้งนั้นที่มีคนไปตบแก้วจนเขาต้องหนีออกไปจากโรงเรียนก็คือเธออีกใช่มั้ยที่เป็นคนทำ!”

 

 

“ฉันไม่ได้ทำ!”

 

 

“เธอไม่ได้ทำแต่เธอเป็นคนสั่งให้คนอื่นมาตบแก้วใช่รึปล่าว!”

 

 

“...!!!” พิมพ์ตกใจจนออกนอกหน้าเพราะไม่คิดว่าโทโมะจะรู้ถึงขนาดนี้

 

 

“ฉันถามว่าใช่มั้ย!?”

 

 

“เออใช่! แล้วไงล่ะ?”

 

 

ผลั่ก!

 

 

ตุ้บ!

 

 

        วินาทีนั้นโทโมะจึงคิดเลยว่าผู้หญิงอย่างพิมพ์นั้นเป็นผู้หญิงที่เขาไม่คิดอยากที่จะเอาปลายนิ้วของตัวเองเข้าไปเฉียดใกล้เข้าเธอเลยแม้แต่น้อยเขาจึงผลักพิมพ์ออกจากร่างจนพิมพ์ล้มลงบนพื้นอย่างแรงเพราะความขยะแขยงในความคิดที่สกปรกของผู้หญิงคนนี้

 

 

“โอ๊ยยยยยย”

 

 

“จิตใจเธอมันสกปรก”โทโมะพูดบอกแล้วมองพิมพ์นิ่งๆ

 

 

 

“แต่ที่ฉันทำเพราะฉันชอบนายนะ ><!”พิมพ์เงยหน้าขึ้นมาพูดกับโทโมะที่กำลังยืนมองดูเธออยู่

 

 

“ชอบ? ถ้าเธอทำอะไรเลวๆแบบนี้ก็อย่ามาชอบกันเลยดีกว่า”โทโมะบอกพิมพ์แล้วส่ายหน้าเพราะความไร้สาระบ้าๆบอๆของเธอนั้นมันทำให้คนอื่นเด็ดร้อนขนาดไหน “และถึงเธอจะชอบฉันก็ขอให้รู้เอาไว้ว่าคนอย่างฉันคนนี้...ไม่มีวันชอบผู้หญิงจิตใจไม่ดีอย่างเธอ”

 

 

“ทะ...โทโมะ”

 

 

“จำ ไว้นะพิมพ์ว่าสิ่งที่ฉันพูดมาฉันเองก็ไม่ได้อยากจะพูดหรอกถ้าเกิดว่าเธอไม่ทำ เรื่องแบบนี้ก่อน และจะมาหาว่าฉันพูดทำร้ายจิตใจเธอไม่ได้นะเพราะเธอเป็นคนบังคับให้ฉันต้อง พูดแบบนี้

เอง”         

 

 

“...”

 

 

“เธอน่ะเป็นคนทำลายในสิ่งที่ตัวเองมีด้วยตัวของเธอเอง และถ้าเธอหากยังไม่เปลี่ยนนิสัย สักวันเถอะ...คนแบบเธอจะไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต”

 

 

“ไม่ - จริง”

 

 

“งั้นก็ลองดู๊ ไม่ได้ห้ามเพราะเตือนแล้ว”โทโมะพูดแล้วหยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะพูดต่อ “และฉันขอบอกเป็นครั้งสุดท้ายเลยนะว่า...อย่า – มา – ยุ่ง – กับ – แก้ว- อีก”โทโมะพูดด้วยความหนักแน่นและแน่วแน่เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเตือนพิมพ์ว่าอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของเขาอีก

 

 

           ไม่อย่างงั้นเธอคงจะโดนดีหนักกว่านี้อีกแน่!

 

 

“รักมันมากเหรอ”พิมพ์ทำหน้ามู่ทู่ทั้งน้ำตาแล้วก็มองโทโมะ

 

 

       แต่ว่า...ถามแบบนี้อยากได้คำตอบนักใช่มั้ย? ได้! อยากได้มาโทโมะเขาก็จะตอบให้!

 

 

“...บอกตรงๆนะ  สิ่งที่ฉันมีให้แก้ว...แค่คำว่า‘รัก’ มันยังน้อยไป...” เมื่อโทโมะพูดแบบนั้นพิมพ์ก็ถึงกับอึ้งกิมกี่ “และถ้าเหตุการณ์วันนี้ทำให้แก้วเป็นอะไรไปล่ะก็...ฉันจะจัดการกับเธอให้ถึงที่สุดเลยคอยดู”

 

 

       เมื่อโทโมะพูดจบเขาก็เดินออกมาจากหน้าโรงขยะนั่นที่ไฟกำลังมอดไหม้อยู่และไม่คิดที่ จะหันกลับไปมองพิมพ์อีก ส่วนพิมพ์ก็ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาแต่มือทั้งสองข้างก็กำหมัดแล้วเอาทุบๆพื้น อย่างเจ็บใจที่ได้ยินโทโมะพูดแบบนั้นใส่เธอ ในหัวของเธอก็คิดว่ายัยแก้วมันมีดีอะไรกว่าเธอตรงไหนกันโทโมะถึงได้รักมัน

 

 

       ทั้งๆที่...พิมพ์เองเธอนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์ทั้งหน้าตาและรูปร่าง และเธอคิดผิดแล้ว! ถึงเธอจะสมบูรณ์แบบมากแค่ไหนแต่นิสัยแบบนี้ใครอยากจะอยู่ด้วยกันล่ะ

 

 

“กรี๊ดดดดดดดด” เสียงนั้นก็หนีไม่พ้นเสียงที่รู้สึกเจ็บจี๊ดของพิมพ์หรอก จนเฟื้องฟ้ากับจินนี่เพื่อนของเธอต้องรีบวิ่งผ่านโทโมะไปดูเธอทันที

 

 

            และเหตุการณ์นี้ก็คงจะเป็นเหตุการณ์สำคัญของพิมพ์ที่จะทำให้เธอจดจำไปจนวัน ตายว่าเธอได้ทำอะไรไว้บ้าง และถ้าแก้วเป็นอะไรไปจริงๆ ชีวิตของพิมพ์จะไม่มีวันสงบสุขและสวยหรูอีกต่อไปเพราะเธอจะเสียทุกๆอย่างทั้งความเชื่อใจไว้ใจ และจนถึงตอนนี้พิมพ์เองก็คงจะเสียเพื่อนอย่างจินนี่ไปแน่ๆ

 

 

           เพราะว่าจินนี่นั้นทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำให้เธอต้องมาอับอาย แต่มันไม่ใช่...เรื่องนี้มันไม่ได้ผิดที่จินนี่หรอกถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนขังแก้วแต่ถ้าเธอไม่ทำพิมพ์ก็คงจะจัดการกับเธอไม่ต่างอะไรกับแก้วหรอก แต่เรื่องทั้งหมดนี้มันผิดที่ตัวพิมพ์เองล้วนๆเพราะเธอเป็นคนบงการทุกอย่าง

 

 

          จำคำพูดของเธอได้มั้ย?

   

 

       ต่อให้แรงแค่ไหนแต่ถ้ามันสะใจฉันก็ไม่สนหรอก! ’

 

         คำพูดนี้ก็นี้คือคำพูดของ‘คนที่ไม่มีความคิด’ และ ถ้าเกิดความคิดนี้ยังคงอยู่ในสมองพิมพ์อยู่ล่ะก็  สักวันพระเจ้าก็จะลงโทษคนแบบเธอเอง แต่ว่าวันนี้โทโมะก็ได้ลงโทษเธอสาสมแก่ใจแล้วที่ได้ตอกหน้าพิมพ์แทนแก้วถึงแม้ ว่าจะไม่ได้ยินแม้แต่คำ‘ขอโทษ’ จากปากพิมพ์โทโมะก็ไม่ได่สนใจอะไรหรอกเพราะถ้าพูดมาแล้วมันไม่ได้มาจากใจมันก็ปล่าวประโยชน์อยู่ดี

 

 

        ส่วนต่อจากนี้ชะตาชีวิตของแต่ละคนจะเป็นยังไง...เรื่องนี้ก็ให้เบื้องบน ตัดสินเอาก็แล้วกัน

 

 

 

คนที่ทำอะไรไม่คิดก็ไม่ต่างอะไรกันกับคนโง่คนหนึ่ง...

ถ้าทำโดยอยากได้ความสะใจเพียงเท่านั้นขอให้จำเอาไว้ว่ามันไม่เกิดผลดี

คนอย่างพิมพ์...ผู้หญิงคนนี้ถ้ายังไม่ยอมเปลี่ยนความคิดสักวันเธอก็จะไม่เหลืออะไรในชีวิตเลย...ก็ขอให้คุณอย่าเป็นแบบเธอก็แล้วกัน...

 

______________________________________________________ มาอัพแล้วนะ เมื่อวานไม่ได้อัพเลยขอโทษนะ มีงานเยอะมากไม่มีเวลาเลยยย T^T เม้นกันหน่อยนะ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา