รักเธอ never Die

-

เขียนโดย Smile_Gray

วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.36 น.

  18 ตอน
  14 วิจารณ์
  19.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 02.22 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) ฮีโร่หรืออันธพาล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากปาร์ตี้แสนสนุกผ่านพ้นไป ทุกคนก็ต่างแยกย้ายและใช้ชีวิตตามปกติ สำหรับคนที่ยังเรียนก็ยังคงเรียนต่อไป แต่บางคนที่เรียนจบ ก็ทำงานอย่างโทโมะที่กลับมาเมืองไทยเพื่อมาบริหารบริษัทของครอบครัว ส่วนเขื่อนก็เปิดธุรกิจเล็กของตัวเองเป็นร้านไอติม สำหรับคนที่ยังเรียนอยู่อย่าง เฟย์ แก้ว แจม แล้วก็ หวาย ก็ยังคงทำหน้าที่ตั้งใจเรียนต่อไป แต่สำหรับบางคนที่เพิ่งจะจบมาอย่างเขาคนนี้

"ป๊อป ลุกขึ้นได้แล้วลูก วันนี้ป๊อปต้องไปดูงานที่บริษัทกับคุณพ่อ" เสียงแม่ที่ขึ้นมาปลุกลูกชายตัวดี ที่ยังนอนไม่ยอมตื่น ทำให้ป๊อปปี้งัวเงีย และรู้สึกหงุดหงิดแม่นิดหน่อย

"โฮ้แม่ เดี๋ยวป๊อปไปเที่ยงๆก็ได้ ป๊อปรู้จักทางไปบริษัทคุณพ่อแล่ะหน่า ขอนอนต่ออีกแป๊ป" สิ้นเสียงชายหนุ่มก็หมอนปิดหูและคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่ม จนคนเป็นแม่จำต้องยอมเดินออกไปจากห้อง

"เฮ้อ !! ขี้เกียจชะมัด ยังไม่ทันได้รับปริญญาเลย จะรีบให้ไปดูงานทำไมเนี่ย" ป๊อปปี้ลุกขึ้นบ่นเมื่อรู้สึกตัวสงสัยจะนอนอิ่มแล้วล่ะมั่งถึงได้ยอมลุกขึ้น แต่กว่าชายหนุ่มจะลุกก็เที่ยงซะแล้ว

ป๊อปปี้อาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถไปยังบริษัทของครอบครัวซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบ้านที่ทำให้ครอบครัวของเขาเป็นใหญ่เป็นโตมีหน้ามีตาทางสังคมจนถึงปัจจุบัน

ณ.ห้างสรรพสินค้า พีทูพี กรุ๊ป จำกัดมหาชน

รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ ทันทีที่เครื่องดับสนิทป๊อปปี้ก็ก้าวลงจากรถแล้วมุ่งหน้าเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

เมื่อเข้าไปในห้างพนักงานทุกคนก็ทำการต้อนรับอย่างดี พวกเธอรู้อยู่แล้วแหละว่าป๊อปปี้จะมา เพียงแต่เดาใจไม่ถูกว่าจะชายหนุ่มจะมาตอนไหน แว่นดำสนิทถูกถอดออกจากตาที่เรียบเฉย พนักงานสาวหลายคนพากันแอบมองป๊อปปี้ต่างก็หลงเสน่ห์ในความหล่อของชายหนุ่มแต่ไม่มีใครกล้าสบตาหรือมองหน้าเขาตรงๆ ทุกคนให้ความเคารพกับป๊อปปี้เหมือนที่ให้ความเคารพกับท่านประธานบริษัทก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะป๊อปปี้คือท่านประธานคนต่อไปหลังจากที่ชายหนุ่มได้รับใบปริญญาและนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป๊อปปี้ต้องมาศึกษาดูงานในช่วงนี้

"คุณป๊อปค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ ท่านประธานรออยู่" เสียงของหัวหน้าฝ่ายจัดการและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพนักงานเอ่ยทักป๊อปปี้พลางปลายตามองพนักงานสาวที่แอบมองป๊อปปี้ ทำให้พนักงานต่างก็วิ่งกันไปทำงานของตัวเอง 

ป๊อปปี้ก้าวเดินตามหลังหัวหน้าฝ่ายจัดการโดยไม่สนใจพนักงานที่แอบมองเขาอยู่ เมื่อมาถึงชั้นที่ทำงานของผู้บริหารหัวหน้าฝ่ายทุกคนก็ต่างทำความเคารพ ป๊อปปี้เพียงแค่พยักหน้าเป็นการสื่อว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานบริษัท

เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เจอกับผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่านประธานจึงพยักหน้าให้กับหัวหน้าฝ่ายจัดการเป็นการสื่อว่าให้ออกไปได้

"นั่งก่อนสิตาป๊อป พ่อมีเรื่องจะคุยกับแกหลายเรื่อง" ป๊อปปี้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับพ่อของเขา

"เป็นไง ห้องทำงานสบายถูกใจแกมั้ย" ผู้เป็นพ่อเริ่มเปิดประเด็นก่อนที่คิ้วของป๊อปปี้จะขมวดเข้าหากัน

"หมายความว่าไงครับพ่อ ผมงงไปหมดแล้ว นี่พ่ออย่าบอกนะว่าจะให้ผม..." ไม่ทันที่ป๊อปปี้จะเอ่ยผู้เป็นพ่อก็พูดขึ้นมาซะก่อน

"พ่อจะให้แกเป็นประธานคนต่อไปของบริษัท พ่อเองก็แก่แล้ว แกเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนะตาป๊อป แกคือความหวังเดียวของครอบครัว" ใช่เขารู้ว่าเขาต้องมาทำงานที่บริษัทนี้แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะต้องมาเป็นประธานบริษัท มันเร็วเกินไป เขายังไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่งนี้ แต่ก็จริงในสิ่งที่พ่อเขาพูดเขาคือความหวังเดียวของครอบครัว และคือลูกชายคนเดียว !!!!

หลังจากที่ดูงานเสร็จป๊อปปี้ก็เดินออกไปหน้าห้างสรรพสินค้า แล้วบังเอิญเห็นใครบางคนแต่ก่อนที่จะสนใจใครคนนั้นอยู่ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น

"เฮ้ย !!! ระวังรถ" เอียดดดดดดดดดดดด !!!! เสียงล้อรถเบียดเข้ากับถนน ร่างสองร่างทับกันอยู่ริมฟุตบาศทำให้เป็นจุดสนใจของคนบริเวณนั้น

"น้องเดินประสาอะไร ทำไมไม่ดูรถ" ชายวัยรุ่นเปิดประตูรถออกมาแล้วชี้หน้าด่าคนที่เกือบจะโดนรถของเขาชน

"เอ่อ ขอโท.../แล้วพี่ขับรถประสาอะไรทำไมไม่ดูคน ถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรไปพี่จะว่ายังไง" ก่อนคนที่เกือบโดนรถชนจะพูดอะไร ป๊อปปี้ก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์โมโห ทำเอาคนข้างกายชายหนุ่มออกอาการงงทันที

"ก็เพื่อนแกผิด ไม่เห็นบ้างรึไง เดินออกมาอยากตายรึไงห๊าาา !!!" ผวั๊ะ!! สิ้นเสียงตะคอกของหนุ่มคนนั้นป๊อปปี้ก็กำมือแล้วปล่อยมัดลงบนหน้าของหนุ่มคนนั้นทันที

ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกลับกลายเป็นการวางมวยกันซะงั้น แต่ไม่ใช่บนสังเวียนนะ แต่เป็นบนถนนริมฟุตบาศ ซึ่งเรียกความสนใจให้กับคนแถวนั้นเป็นอย่างดี ที่มีทั้งเสียงเชียร์และเสียงร้องห้ามดังเช่นหญิงสาวคนนี้

"ป๊อปปี้ ฉันบอกให้หยุด พอได้แล้ว หยุด ป๊อปปี้ พอแล้ว" แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งตำรวจจะมา ณ ที่เกิดเหตุทำให้ทั้งสองยอมหยุดต่อยกัน

ณ. สำนักงานตำรวจ

"อีกแล้วนะตาป๊อป นี่บันทึกมันไม่ว่างจะให้ลงชื่อแกแล้วนะ เรื่องมันเป็นยังไงว่ามา" นายตำรวจวัยกลางคนพูดกับป๊อปปี้ก่อนจะหันไปมองหน้าคู่กรณีของชายหนุ่มที่โดนอัดซะเละเลยบนใบหน้าที่ขาวเนียนของชายคนนั้นกลับเต็มไปด้วยรอยช้ำ คิ้วแตก เลือดกบมุมปาก ซึ่งต่างจากป๊อปปี้ที่แค่มีรอยช้ำที่ข้างตา แก้ม แล้วก็มุมปากเท่านั้น ดูแล้วก็ไม่ได้เยอะอะไร

"ก็ใอ่หมอเนี่ยมันขับรถเร็วแล้วจะชนเพื่อนผมแถมยังมาชี้หน้าด่าผู้หญิงอีกหน้าตัวเมียชัดๆ ครั้งนี้ ป๊อปไม่ผิดนะอา ถ้าไม่เชื่อก็ถามคนแถวนั้นก็ได้" ป๊อปปี้ที่ยังไม่วายก็กัดชายคนนั้นอีกทำให้ชายคนนั้นลุกขึ้นจะต่อยป๊อปปี้อีกรอบ แต่ตำรวจห้ามไว้ซะก่อน

"นี่ถ้าคุณไม่หยุด คุณโดนอีกข้อหานะครับ เพราะทางเราได้รับแจ้งว่าคุณขับรถเร็ว เพราะสัญญานตอนนั้นเป็นสัญญาณไฟส้ม เขาให้ลดความเร็ว ไปจ่ายค่าปรับแล้วลงบันทึกประจำวันทั้งสองคนนั้นแหละ" นายตำรวจสั่งเสร็จทั้งสองก็ลุกไปจ่ายค่าปรับพร้อมกับบันทึกประจำวันก่อนที่ป๊อปปี้จะเดินไปหาคนที่มาด้วยกับเขา

"โทษนะ ที่ให้รอนาน พอดีเคลียร์ยาวหน่อยน่ะ แล้วเธอเจ็บตรงไหนรึเปล่าเนี่ย ฟาง" ป๊อปปี้มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้บึงตรึงจนเดาอารมณ์ได้ไม่อยาก

"เรื่องแค่นี้เอง ทำไมชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่ได้เป็นไรสักหน่อยขอโทษเขาก็จบนายก็ไม่ต้องมาขึ้นโรงพักนี่ด้วย" ฟางบ่นจนป๊อปปี้ที่ยืนฟังทนไม่ไหวจึงเดินออกไปจากโรงพักฟางที่เห็นดังนั้นจึงเดินตามออกไปแต่ก็ไม่วายจะเลิกบ่น

"นี่ นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมถึงต้องใช้กำลังด้วย แค่พูดกันดีๆ ก็จบ นายนี่มัน.." พูดไม่ทันจบป๊อปปี้ก็หันขวับมาหาฟางทำเอาฟางไม่กล้าพูดต่อ

"นี่ถ้าเธอยังไม่เลิกบ่นนะ ฉันจูบเธอจริงๆด้วย แล้วที่ฉันทำไปเนี่ยเพราะฉันปกป้องเธอ ฉันไม่ชอบให้ใครมารังแกผู้หญิง แล้วอีกอย่างหมอนั่นผิดเต็มๆเลยแหละ นี่มันยังน้อยไปถ้าเธอเป็นไรไปฉันจะอัดหมอให้ตายคามือฉันนี่แหละ" นี่เขาไม่รู้ใช่มั้ยว่ากำลังพูดอะไรออกไปถึงแม้น้ำเสียงจะดูเรียบเฉย ไม่รู้ว่าเขาพูดด้วยอารมณ์ไหน แต่มันก็ทำให้คนฟังอย่างเธอคนนี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วแหละ

"นี่เธอเอารถมามั้ย ฟาง ฟาง ยัยเตี้ย !!!!" เสียงป๊อปปี้ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งหลุดจากภวังทันที

"ฮะ อะไรนะ เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าเตี้ยหรอ หนอยย ไอ่บ้าป๊อป ปากหมาไม่เปลี่ยนเลยนะ นี่แน่ะๆๆ" ฟางเอากระเป๋าฝาดป๊อปปี้แบบไม่หยั้ง

"นี่ถ้าเธอไม่หยุดฉันจูบเธอแน่ แล้วตกลงเอารถมามั้ย ถ้าไม่เอามาฉันจะไปส่ง" ป๊อปปี้จับข้อมือฟางก่อนจะทำหน้าเอาจริงเอาจังทำให้ฟางหยุดตีทันที

"ไม่ได้เอามา ให้คนขับรถมาส่ง ตอนแรกว่าจะโทรให้พี่โมะมารับอ่ะ" ฟางพูดตะกุกตะกักจนป๊อปปี้สังเกตุได้

รถคันหรูเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ไม่ช้าหรือเร็วจนเกินไป

"นี่ทำไมนายถึงกลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลังแบบนี้อ่ะ" ฟางพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบมาสักพักหลังจากที่เธอและเขานั่งอยู่บนรถคันหรู

"ก็ฉันเป็นฮีโร่ไง คอยปกป้องคนอื่น เรียกร้องความยุติธรรม ไม่ดีรึไง" ป๊อปปี้ที่ยังคงมองทางข้างหน้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนชายหนุ่มก็ไม่เคยเปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองเลยเว้นแต่อารมณ์โกรธตอนที่มีเรื่องกับชายคนนั้น

"ฮีโร่หรืออันธพาล กันแน่ จากที่ฟังคุณอาตำรวจเขาบอกเนี่ยนายคงชอบมีเรื่องบ่อยสินะ" ก็จริงนะเขาเป็นคนปกป้องเธอ แถมยังเรียกร้องความยุติธรรมให้เธออีก แต่บางที 'ฮีโร่กับอันธพาล' มันก็ใกล้กันนิดเดียวเองเนอะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา