แค้นร้ายพ่ายรัก

-

เขียนโดย Innocent

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.36 น.

  8 บท
  6 วิจารณ์
  10.03K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) เริ่มแผน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

      "นาย!!"  ฟางหันมาขวางใส่ป็อปปี้

 

 

 

     "ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า"  ป็อปปี้เลิกคิ้วยียวนฟาง แต่เธอทำได้แค่ยืนฟึดฟัดไม่พอใจ แต่ร่างบางก็รีบหันไปอธิบายให้โทโมะฟังเพราะตอนนี้สีหน้าเค้าแลดูหม่นๆ

 

 

 

     "เอ่อ พี่โมะมันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คะคือเรื่องนี้ฟางอธิบายได้นะคะ"  ฟางอธิบายด้วยความกลัว

 

 

 

     "ใช่ลูก แม่ว่าเรากลับบ้านนะเดี๋ยวแม่จะอธิบายให้ฟังเอง"  นภาพรเห็นท่าทางไม่ดีจึงแทรกขึ้นโทโมะพยักหน้ารับเพราะเค้าเลี่ยงไม่ได้  แต่ก่อนทุกคนเดินไปโทโมะหันมามองป็อปปี้ด้วยความไม่พอใจ ป็อปปี้เองก็ยักติ้วกวนประสาททเค้าเองก็ไม่ชอบโทโมะเหมือนกัน ฟางเห็นแบบนั้นเลยเกาะแขนโทโมะแล้วพาเดินไป

 

 

 

     "หึ เอะ อะ เกาะ เอะ อะ เกาะ อุบาทตาจริง!"  ป็อปปี้พูด ดูเค้าไม่พอใจเลยนะกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเมื่อกี้?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     บ้านฟาง

 

 

 

     หลังจากกลับจากห้าง นภาพร ฟางและโทโมะก็นั่งอยู่ด้วยกันในห้องนั่งเล่นที่มีแต่ความเงียบงันเข้าปกคลุม

 

 

 

     "พี่โมะคะ ยังมีอีกคนที่เราต้องเรียกมาก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่าง"   ฟางนึกขึ้นได้ว่าวันนั้นคนที่อยู่กับเธอก็คือ แก้ว

 

 

 

     "ตามเค้ามาสิคะ"  โทโมะพูดนิ่งๆ  นภาพรได้แต่นั่งมองสองคนสลับกัน ฟางเห็นแบบนั้นก็รีบต่อสายเข้าหาแก้ว 

 

 

 

 

      15 นาทีผ่านไป

 

 

 

 

     "สวัสดีคะแม่นภา และก็พี่โมะ"  แก้วกล่าวทักทายเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น แล้วนั่งลงตรงข้างๆฟาง

 

 

 

      "ฟาง เรียกแก้วมามีไรอ่ะ" แก้วถาม งงๆ

 

 

 

     "แม่ว่าให้พวกหนูเคลียร์กันเองดีกว่าน้ะจ้ะ แม่ขอตัวไปนอนพักก่อนวันนี้แม่เพลียๆ"  นภาพรเห็นว่าควรจะให้พวกเค้าเคลียร์กันเอง เพราะทั้งสามคนก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว

 

 

 

     "คะแม่ พักผ่อนเยอะๆนะคะ"   นภาพรยิ้มๆก่อนจะเดินออกไป

 

 

 

    "คือแก้วจำวันนั้นได้ไหม วันที่นายป็อปปี้นั่นมัน... เอ่อมัน"  ฟางอึกอักเธอไม่กล้าพูดคำว่าจูบแบบเต็มปากเต็มคำ

 

 

 

     "อ๋อ จำได้สิทำไมหรอ"

 

 

 

     "คือช่วยฟางยืนยันทีว่าหมอนั่นขืนใจมาจูบฟางเองคือฟางไม่ได้ยินยอม"   ฟางพูดและมองแก้วกับโทโมะสลับไปมา

 

 

 

     "อ๋อ เรื่องจริงนะพี่โมะ ฟางไม่ได้เต็มใจเลยหมอนั่นมาดึงฟางเข้าไปจูบเอง"  แก้วอธิบายจริงจัง โทโมะจ้องหน้าแก้วเหมือนหาพิรุธแล้วเค้าจ้องไปในตาลึกของแก้วทำให้โลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ก่อนจะสะดุ้งได้สติ

 

 

 

     "อะเอ่อ โอเคคะพี่เชื่อเราทั้งสองคนก็ได้"  โทโมะพูดด้วยอาการงอนนิดๆ  

 

 

 

     "ขอบคุณนะคะพี่โมะที่เชื่อฟาง"  ฟางยื่นมือไปกุมมือโทโมะไว้ แก้วได้นั่งมองด้วยตาที่บ่งบอกได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่

 

 

 

     "ทีหลังฟางต้องระวังตัวมากกว่านี้นะคะ อย่าให้ผู้ชายที่ไหนมาทำแบบนี้กับฟางอีก"  โทโมะกุมมือฟางอีกที แก้วได้แต่เบี่ยงหน้าหนี

 

 

 

     "ค่ะพี่โมะ ฟางสัญญา"  ฟางยิ้มหวานให้โทโมะ โทโมะก็ยิ้มหวานให้เธอเช่นกัน

 

 

 

     "งั้นพี่กลับก่อนนะคะ"  

 

 

 

     "คะ พี่โมะฟางฝากแก้วกลับด้วยสิคะ"   ฟางยิ้มแล้วมองไปที่แก้ว

 

 

 

     "ยัยฟาง"  แก้วท้วงขึ้น

 

 

 

      "ได้เลยคะ รับรองจะดูแลยัยทอมอย่างดี ฮ่าๆ"  โทโมะพูดพลางเดินมายีหัวแก้ว

 

 

 

     "พี่โมะ หัวยุ่งหมดแล่วว"  แก้วพูดแล้วลูบผมตัวเอง

 

 

 

      "โหย ไม่ต้องรักสวยรักงามมากหรอกหน่าาา ฮ่าๆ"  แก้วได้แต่มองขวางมา

 

 

 

      "ฮ่าๆ พี่โมะชอบแกล้งแก้วอยู่เรื่อย"   ฟางขำกับสองคนนั้น

 

 

 

     "ก็ยัยทอมนี่มันน่าหมันไส้"  โทโมะพูดแล้วแกล้งดึงแก้มแก้วทั้งสองข้าง แก้วเงยหน้าขึ้นมาพอดีเลยสบตากัน แก้วรู้สึกตัวก่อนเลยเอามือโทโมะออกโทโมะเองก็สะดุ้ง งงๆ ฟางยืนมองก็ งง เช่นกัน

 

 

 

      "เอ่อ พี่ว่าเรากลับกันดีกว่านะเดี๋ยวจะเย็นไปกว่านี้ละอันตราย"   โทโมะอึกอัก แก้วพยักหน้ารับ

 

 

 

 

     "งั้นฟางไปส่งนะคะ"  ฟางยิ้มหวานกลบเกลื่อน

 

 

 

      "บ๊ายบายน้าแก้ว ขับรถดีๆนะคะพี่โมะดูแลเพื่อนฟางด้วยน้าาา"  ฟางโบกมือบ๊ายบายทั้งสองก็บ๊านบายตอบ จากนั้นก็ขับรถออกไปฟางมองตามรถที่ขับออกไป  แล้วครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ระหว่างแก้วกับโทโมะ

 

 

 

     "คงไม่ไรหรอกมั้ง"  ฟางพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินเข้าบ้านไป  โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบมองเธออยู่

 

 

 

     "หึ กลัวว่าสองคนนั้นเค้าจะรักกันหรอ กลัวว่าตัวเธอเองจะเจ็บสินะ ถ้าเธอได้รู้ข้อมูลบางอย่างระวังเถอะจะเจ็บยิ่งกว่านี้"  ป็อปปี้พูดเสียงเรียบแต่แฝงความร้ายลึกเอาไว้

 

 

 

    

 

 

      ภายในบ้านฟาง

 

 

 

     "คุณหนูฟางๆ คุณหนูฟางแย่แล้วค่ะคุณนภาพรล้มคะ"  คนใช้ที่บ้านนวิ่งเข้ามาบอกฟางด้วยความแตกตื่น

 

 

 

     "ห๊ะ แล้ววคุณแม่อยู่ที่ไหน ให้วิชัยเอารถออกสิ"  ฟางรีบร้อนพูด

 

 

 

     "นายวิชัยไปรอรับคุณผู้ชายค่ะคุณหนูฟาง"  คนใช้พูดหน้าเสียๆ

 

 

 

     "งั้นเธอวิ่งไปเรียกแท็กซี่หน้าบ้านนะ เดี๋ยวฉันจะไปพยุงคุณแม่"  ฟางพูดก่อนจะรีบวิ่งไปหานภาพร

 

 

 

      "คุณแม่ คุณแม่คะ ฟางมาแล้วอย่าเป็นอะไรนะคะ"  ฟางรีบเข้าไปพยุงตัวนภาพร

 

 

 

 

      คนใช้ในบ้านวิ่งมาหน้าตาแตกตื่นป็อปปี้กำลังจะกลับแต่เห็นเช่นนั้นก็ยืนดูด้วยความสงสัย

 

 

 

      "โอ๊ย รถแท็กซี่ไปไหนหมด คุณนภาพรอย่าเป็นอะไรนะคะ"  คนใช้พูดทำให้ป็อปปี้ตกใจมาก

 

 

 

      "เอ่อ ป้าครับแม่ เอ้ย คุณนภาพรเป็นอะไรครับป้า"   ป็อปปี้ถามคนใช้อึกอักเธอทั้ง งง และตกใจ  ป็อปปี้เป็นห่วงนภาพรเลยถือวิสาสะวิ่งเข้าไปในบ้าน

 

 

 

     "อ้าวคุณ คู๊ณณ!"   คนใช้ตะโกนเรียกป็อปปี้แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว

 

 

 

     "นี่คุณ แม่ เอ่อ คุณนภาพรเป็นยังไงบ้าง"  ป็อปปี้วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นเห็นฟางกำลังพยุงนภาพร

 

 

 

      "นี่นาย ออกไปเลยนะ เข้ามาได้ไงเนี้ย!"  ฟางออกอารการไม่พอใจ

 

 

 

     "นี่คุณ! มันใช่เวลาทะเลาะกันไหมคุณเอากุญแจไปเปิดรถผมรอ เดี๋ยวผมอุ้มคุณนภาพรออกไปเอง"   ป็อปปี้พูดพลางยื่นกุญแจให้ฟาง ฟางยืน งงๆ กับท่าทีของเค้า

 

 

 

     "เร็วสิ้คุณ! "  ป็อปปี้ขึ้นเสียงทำเอาฟางตกใจ แต่เธอก็ยอมทำตามที่เค้าสั่งเพราะนาทีนี้คงมีแค่เค้าที่จะสามารถช่วยชีวิตแม่เธอได้  ในขณะที่ฟางวิ่งออกไปทำตามที่เค้าบอกเค้าก็อุ้มนภาพรขึ้น

 

 

 

     "แม่ แม่อย่าเป็นอะไรนะแม่"  ป็อปปี้พูดด้วยน้ำกระวนกระวาย  นภาพรที่ยังมีสติเล็กน้อยมองหน้าป็อปปี้ละเห็นเป็นภาพของเค้าเมื่อ 10 ปีก่อน

 

 

 

     "ลูก ลูกแม่แม่คิดถึงลูก"  นภาพรพึมพำออกมาก่อนจะหมดสติไป ทำให้ป็อปปี้รู้สึกผิดเล็กน้อย

 

 

 

     "จะคิดถึงผมทำไม ทำกับผมไว้เยอะขนาดไหน"  ป็อปปี้พูดแล้วรีบวิ่งไปที่รถ

 

 

 

      "คุณช่วยหน่อย"  ฟางเข้ามาช่วยพานภาพรขึ้นรถไปอย่างยากลำบากแต่ก็ผ่านพ้นไปได้

 

 

 

     "ดูบ้านดีๆนะฉันจะพาคุณแม่ไปโรงพยาบาล"   ฟางพูดก่อนจะรีบขึ้นรถ แล้วป็อปปี้ก็ขับออกไป

 

 

 

      "นี่คุณ ทำไมแม่คุณถึงเป็นแบบนี้ละ" ป็อปปี้ถามด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

     "ฉันก็ไม่รู้ แม่อย่าเป็นอะไรนะคะ"  ฟางพูดแล้วจับมือนภาพรไว้ ป็อปปี้เห็นภาพนี้ก็ทำให้เค้าไม่พอใจ แต่นี่ไม่ใช่เวลานั้น (ชีวิตแม่สำคัญที่สุด)  ป็อปปี้ลอบมองนภาพรผ่านกระจกหลายครั้งจนฟางเริ่มสงสัยแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

       ด้านโทโมะ

 

 

 

      "พี่โมะ พี่จะพาแก้วไปไหนเนี่ย"   แก้วท้วงขึ้นเพราะทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเธอ

 

 

 

     "แก้ว...."  โทโมะจอดรถนิ่งแล้วพูดขึ้นเบาๆ แก้วมองด้วยความสงสัย

 

 

 

     "แก้วว่าพี่ ขอฟางแต่งงานดีไหม"  โทโมะมองหน้าแก้วหวังหาคำตอบ แต่คำถามของเค้าทำเอาแก้งอึ้งไปสักพัก

 

 

 

      "ก็ดีนะค"   แก้วยังพูดไม่ทันจบเสียงมือถือโทโมะก็ดังขึ้น  โทโมะมองหน้าแก้วก่อนจะตัดสินใจรับ

 

 

 

      "ครับว่าไงฟาง"  

 

 

 

 

      "ฮือๆ พี่โมะแม่นภาเข้าโรงพยาบาลคะ ฮือๆ"  ฟางสะอื้นใส่ปลายสาย

 

 

 

      "ว่าไงนะ ใจเย็นๆนะคะเดี๋ยวพี่โมะรีบไปหานะ"  โทโมะวางสายก่อนจะรีบบึ่งรถออกไป

 

 

 

     "เกิดไรขึ้นหรอคะ"  แก้วถาม งงๆ

 

 

 

      "แม่นภาเข้าโรงพยาบาล"  

 

 

 

      "ห๊ะ ให้ไวเลยพี่โมะ"   แก้วตกใจมากเลยเร่งโทโมะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      บริษัท จิระคุณ จำกัด

 

 

 

     ก๊อกๆ

 

 

 

 

     "เชิญครับ"   มาร์ควันนี้มาอยู่เฝ้าห้องทำงานให้ป็อปปี้กล่าวขึ้น

 

 

 

     "อ้าว มาร์ค ป็อปปละ"  พิมถามขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สดใส มาร์คนิ่งไปพักใหญ่ เค้าไม่เจอพิมนานมากมา์คอึ้งให้กับความสวยนความน่ารักของพิม

 

 

 

      "อะเอ่อ พี่ป็อปไม่ว่างครับวันนี้เห็นออกไปคุยงานกับลูกค้าแต่เที่ยงแล้วครับ"  มาร์คตอบด้วยท่าทีเขินอาย พิมอมยิ้มมองกับท่าทีของมาร์ค

 

 

 

      "งั้นไม่เป็นไร อืม คนพึ่งกลับจากเมืองนอกพี่ยังไม่ได้ฉลองให้เลยนิไปฉลองกันไหม"  พิมชวนมาร์ค มีหรอที่มาร์คจะปฏิเสธ

 

 

 

     "ตกลงครับพี่พิม เราไปกันเลยดีกว่า"   มาร์คพูดแล้วเดินไปหยิบเสื้อสูทมาใส่แล้วทำท่าเท้าเอวให้พิมควง พิมขำกับท่าทีของมาร์คแล้วควงแขนกันเดินออกไปตามประสาพี่น้อง  แต่ดูเหมือนมาร์คจะไม่ได้คิดแบบนั้นนะ....

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      โรงพยาบาล

 

 

 

      ป็อปปี้และฟางนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจจนกระทั่งหมอเดินออกมา ทั้งสองวิ่งปรี่เข้าไปหาหมอด้วยความแตกตื่น

 

 

 

      "หมอคะ/หมอครับ แม่เป็นยังไงบ้านคะ/ครับ"  ทั้งสองถามพร้อมกันฟางหันมามองป็อปปี้ด้วยความสงสัย (ทำไมนายเรียกแม่นภาว่าแม่ละ)   ป็อปปี้หลบตาแล้วรีบถามหมอให้ฟางเลิกสนใจ

 

 

 

      "ไม่ต้องห่วงนะครับคุณนภาปลอดภัยแล้ว เธอคงอ่อนเพลียเลยทำให้หน้ามืดไปเท่านั้นเองครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ"   

 

 

 

      "ขอบคุณนะคะ/ครับ"  ทั้งสองหันมามองหน้ากัน

 

 

 

      "ไม่มีใครอยู่บ้านหรือไงต้องให้คนใช้ออกมาเรียกแท็กซี่น่ะ"  ป็อปปี้ถามด้วยความโกรธ

 

 

 

      "ก็นายเห็นว่ามีป้ะล้ะ"  ฟางตอบยียวนแล้วเบ้ปาก ทำให้ป็อปปี้โกรธจัดเข้ามาบีบใหล่ฟางทั้งสองข้าง

 

 

 

 

      "เธอเป็นลูกภาษาอะไร! นี่ถ้าคุณนภาเป็นอะไรไปมากกว่านี้ล้ะห้ะ!!"  ป็อปปี้ขึ้นเสียงใส่ร่างบางทีเริ่มหวาดกลัวกับท่าทีของเค้า 

 

 

 

     "นี่ฉันเจ็บนะ ฮึก ปล่อย!"  ฟางพยายามดิ้น เค้าโมโหที่เธอได้รัยความรักจากนภาพรไปมากมายแต่กลับไม่เคยช่วยอะไรนภาพรเลย และนี่คงเป็นเรื่องที่ทำให้เค้าเกลียดเธอมากขึ้น

 

 

 

      "เธอรู้ตัวไหมว่าเธอมันแย่! แม่คนเดียวดูแลไม่ได้! แย่!"  ป็อปปี้ทั้งบีบทั้งเขย่าร่างบางทีตอนนี้พูดอะไรไม่ออกได้แต่หลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจและความกลัวออกมา ทำให้ป็อปปี้เริ่มได้สติเริ่มมองเธอด้วยความสงสารแต่ยังคงบีบเธอไว้

 

 

 

      "เห้ย ทำไรวะ"

 

 

 

    ผลัวะ! ผลัวะ! 

 

 

      โทโมะตรงปรี่เข้ามาชกหน้าป็อปปี้จนล้มลงไปกองกับพื้นไปสองที แต่ฟางและแก้วห้ามไว้ก่อน

 

 

 

 

     "พี่โมะ อย่าคะ ฟางขอร้องซึก นี่มันโรงพยาบาลนะคะ"  ฟางห้ามโดยคล้องแขนโทโมะทั้งน้ำตา แก้วยืนมองทั้งตกใจ อึ้ง งง และสับสน

 

 

 

 

      "หึ จำไว้นะ!"  ป็อปปี้พูดใส่ฟางด้วยความแค้น ก่อนจะเดินกระแทกใหล่โทโมะออกไป โทโมะเองก็มองตามด้วยความโมโห แล้วหันมามองร่างบางที่ยืนนิ่งสะอื้น

 

 

 

      "น้องฟางไม่เป็นไรนะคะ พี่โมะอยู่นี่แล้ว"  โทโมะพูดพลางสวมกอดฟางไว้

 

 

 

       "ฮือๆๆ ฟางมันแย่ ฟางเป็นลุกที่แย่มากเลยใช่ไหมคะฮือๆ"  ฟางโผกอดด้วยความเสียใจกับสิ่งที่ป็อปปี้ว่าเธอ  แก้วได้แต่ยืนถอนหายใจมองแล้วแตะใหล่เพื่อนสนิทเบาๆเป็นการให้กำลังใจ

 

 

 

 

      "ไม่นะคะ อย่าไปฟังที่เค้าพูดนะนคะ"  โทโมะกระชับกอดฟางแน่นมากขึ้นด้วยความห่วงใย  แก้วก็ยืนมองน้ำตาคลอ ทั้งเสียใจและตกใจกับเรื่อวที่เกิดขึ้น

 

 

 

       ป็อปปี้แอบยืนมองฟางสักพักมีวูบนึงที่เค้ารู้สึกผิดต่อเธอ แต่ยิ่งเค้ารู้สึกผิด เค้าก็ยิ่งรู้สึกแค้นเธอ

 

 

 

       "สิ่งที่เธอโดนมันยังน้อยไป!"  ป็อปปี้กระแทกเสียงก่อนหันหลังกลับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

       บ้านป็อป

 

 

 

     "อ้าวพี่ปอป ทำไมกลับมาดึกจัง"  มาร์คกำลังนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น

 

 

 

      "มาร์ค พี่มีเรื่องอยากให้แกช่วยได้ป้ะว้ะ"  ป็อปปี้เดินเข้ามานั่งข้างๆมาร์คถามอย่างจริงจัง

 

 

 

      "ได้ดิพี่"  มาร์คพูดพลางยกน้ำดื่ม

 

 

 

      "มาดูแลบริษัทแทนพี่หน่อย"

 

 

   

 

      พรวดดด!

 

 

 

    "เห้ยพี่ เสียสติปะเนี่ย"  มาร์คถึงขั้นสำลักน้ำออกมา

 

 

 

      "พูดจริง แกเองก็เพิ่งเรียนจบได้ทำงานเลยดีจะตาย นะๆๆ ช่วยพี่หน่อยนะๆ"   ป็อปปี้พยายามขอร้อง

 

 

 

      "แล้วพี่จะไปไหนอะ"  มาร์คถาม งงๆ

 

 

 

      "พี่มีเรื่องต้องไปทำสิ่งที่พี่รอมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วมาร์ค"  ป็อปปี้พูดพลางยิ้มสแยะ

 

 

 

      "ก็ได้ครับ ผมตกลง"   คำตอบของมาร์คทำให้ป็อปปี้ยิ้มออก

 

 

 

 

     "ขอบใจนะเว้ย พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย พี่ไปอาบน้ำนอนละ"   ป็อปปี้พูดแล้วลุกขึ้นไปทันที ทิ้งให้มาร์คนั่ง งง กับตัวเอง

 

 

 

 

 

 

 

       ห้องนอนป็อปปี้

 

 

     ป็อปปี้เดินเข้ามาในห้องด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นแล้วจ้องมองไปที่รูปของนภาพร

 

 

 

      "แม่ ทำไมทำไม แม่ทำตัวเองเจ็บทำไมถึงสองคร้ง แม่รู้ไหมผมจะขาดใจ แต่ผมทำดีได้เท่านี้จริงๆแม่...........เพราะต่อไปผมจะทำลายทุกคน!"  ป็อปปี้พูดทั้งน้ำตาทั้งเสียใจเจ็บใจ ลึกๆแล้วเค้าอยากไปดูแลนภาพรแบบไม่ห่าง แต่เค้ายังไม่สามารถทำเช่นนั้นได้...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

       มาแล้วจ้าพี่ป็อปเริ่มแผนแล้วน้าฝากบริษัทไว้กับมาร์คแล้ว แผนของพี่ป็อปคืออะไร รอติดตามน้าาาา  ถ้ามันไม่สนุกไรท์ต้องขอโทษด้วยน้า สำหรับใครที่อยากให้อัพ เม้นน้าไรท์จิมีกำลังใจมากเยย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจ้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา