Welcome to dark side

9.8

เขียนโดย Chapond

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.04 น.

  40 ตอน
  274 วิจารณ์
  60.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2559 12.04 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

40) 40 True love is never die

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมับ

 

 

 

 

 

จับมือฟางข้าวไว้ไม่ปล่อยก่อนที่จะคืนร่างและกางปีกไว้เพื่อรั้งน้ำหนักไม่ให้ฟางข้าวลอยออกไป

 

 

 

 

 

 

“อย่าปล่อยมือชั้นนะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”ฟางข้าวทั้งกลัวและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็พูด

ออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าปล่อยมือฟางเด็ดขาดนะ เห้ย ซีแนน เป็นอะไรไป”ปลื้มที่ดึงเด็กๆออกห่างจากป๊อปปี้ฟางต้อง

ตกใจเมื่อซีแนนล้มลงไปก่อนที่จะชัก

 

 

 

 

 

 

 

“ทำผิดกฎของกาลเวลา คนๆเดียวกันไม่ควรจะมาเจอกันแบบนี้ เธอจะต้องหายไปอยู่ในห้วงเวลา

ตลอดกาล”ซีแนนที่เริ่มเห็นภาพนิมิตอีกครั้งพูดออกมาทำให้ทุกคนตกใจมากกับคำทำนายก่อนที่จะ

หันไปมองป๊อปปี้กับฟางข้าวที่ช่วยกันดึงไม่ให้พรากจากกันไปไหนอีก

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ก็เท่ากับว่าฟางข้าวคนนี้คือฟางเดียวกับเมียป๊อปแม่เจ้าแฝดแต่เพียงแค่มากคนละห้วงมิติเวลากัน

น่ะสิ”เฟย์ทึ่งแล้วพูดออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“จริงสิมิติเวลา สร้อยที่ฟางพกไว้ก่อนที่จะหายไปตอนนั้น มิติเวลามันมีช่วงเวลาต่างๆที่ไม่เหมือนกัน

และใช้ชีวิตดำเนินอยู่ในโลกของมันโดยมีผู้คุมกฎกาลเวลาเป็นคนคุมทั้งหมดโดยมีกฎเหล็กว่าห้าม

ในตัวตนของเรามองเห็นตัวเราอีกมิติหนึ่งไม่อย่างนั้น ร่างกายของเขาจะหายไปในห้วงเวลาตลอด

กาล”เขื่อนนึกขึ้นได้แล้วพูดก่อนที่จะรีบไปช่วยป๊อปปี้ดึงฟางที่กำลังจะลอยขึ้นไปโดยที่ป๊อปปี้เริ่มจะ

สู้แรงไม่ไหวอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

 “ไม่เอานะ ชั้นจะไม่ปล่อยเธอไปไหนอีกแล้วนะฟาง ชั้นเสียเธอไป10ปีมันก็เหมือนกับ100ปีที่ชั้น

ทุกข์ทรมานได้โปรด พระเจ้าอย่าพรากพวกเราไปจากกันอีกเลย”ป๊อปปี้กอดเอวฟางข้าวแน่นแล้ว

พูดออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 “ใครที่มาขวางกฎของกาลเวลา ใครที่มาทำให้กาลเวลาต้องเปลี่ยนคนๆนั้นก็ต้องหายไปด้วย กรี๊ด

ดดดด”ซีแนนที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วแผดเสียงร้องดังขึ้นพร้อมกับกรีดร้องออกมาก่อนที่จะมีพายุลูกใหญ่

เข้ามาใกล้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นั่นหรอคือบทลงโทษของผู้คุมกฏกาลเวลา”ปลื้มตกใจพลางกระชับกอด2แฝดที่จะเข้าไปหาพ่อแม่

ตัวเอง

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าปล่อยป๊อปปี้กับฟางเด็ดขาดเลยนะเขื่อน พวกเราเสียโทโมะกับแก้วไปแล้วครั้งนึงครั้งนี้เราจะ

ไม่มีวันเสียเพื่อนๆของเราไปอีก”เฟย์ที่เห็นเขื่อนเริ่มไม่มีแรงก็ตะโกนบอกในใจนึกหวั่นกับสิ่งที่กำลัง

จะเกิดมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปลื้ม เขื่อน ปล่อยฟางข้าวเถอะ ถ้ายิ่งดึงรั้งไว้มันจะมีแต่ปัญหานะ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์รึปิศาจที่

เข้าไปยุ่งกับห้วงเวลาแบบนี้ไม่มีใครที่จะชนะมันได้ปล่อยเถอะ”ซีแนนที่เริ่มรู้สึกตัวเองมองสักพัก

แล้วพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มะ ไม่นะฟาง ชั้นจะไม่มีวันปล่อยเธอไป”ป๊อปปี้ตกใจเมื่อเห็นพายุหมุนสีดำเริ่มดูดตัวฟางข้าวไปก็

ตกใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฮือๆ พอเถอะนะคุณ ถ้าชั้นจะต้องไปจริงๆก็ปล่อยชั้นไปเถอะนะ อย่าลำบากอีกเลยไม่อย่างงั้นคุณ

จะโดนลงโทษไปด้วย”ฟางข้าวที่เห็นป๊อปปี้พยายามที่จะช่วยเธอและกอดเธอแน่นก่อนที่จะมีเลือด

ออกจมูกก็พูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ฟางเธอเป็นเมียชั้น ชั้นรักเธอ ชั้นจะไม่มีวันปล่อยให้เธอไปจากชั้นอีกแล้วได้ยินมั้ย”ป๊อปปี้ไม่

ยอมและพูด

 

 

 

 

 

 

“แต่ชั้นจำคุณ จำลูกไม่ได้ จำทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่ได้เลย ชั้นมาจากห้วงเวลาอีกห้วงหนึ่งเท่านั้น

มันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญที่ชั้นมาที่นี่ ฮึก คุณปล่อยชั้น อย่าฝืนตัวเองอีกเลย”ฟางร้องไห้สงสาร

และพูดต่ออีกครั้งเพราะหลังจากที่เธอฟังเขื่อนและซีแนนพูดทำให้เธอมั่นใจว่าเธอไม่ใช่ฟางของ

ป๊อปปี้แน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่เอาฟาง ถ้าจะไปก็ไปด้วยกันนี่ล่ะชั้นสัญญากับเธอแล้วว่าชั้นจะดูแลและปกป้องเธอตลอดไปไม่

ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นจะไม่มีวันทิ้งเธอทำให้เธอเสียใจอีกแล้ว”ป๊อปปี้พูดพลางกอดแน่นก่อนที่พายุ

หมุนสีดำจะเริ่มกลืนทั้งคู่เข้าไปเขื่อนตกใจก่อนที่จะถูกพักลอยกระเด็นออกมาจนเฟย์และปลื้มแทบ

รับเขื่อนไว้ไม่ทัน

 

 

 

 

 

 

 

“ป๊อปปี้ ฟาง”ทั้งหมดตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเมื่อพายุหมุนสีดำดูดป๊อปปี้กับฟางเข้าไปแล้ว พายุ

และสิ่งรอบๆตัวในDSก็เริ่มกลับคืนสู่ปกติ จะมีเพียงแต่ทั้งคู่ที่ถูกพายุหมุนแห่งห้วงเวลาดูดกลืนหาย

ไปจากตรงนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เห้ยๆ ไอ้ป๊อปขยับตัวแล้วว่ะ เลิกมุงมันได้แล้ว”ร่างสูงของป๊อปปี้เริ่มรู้สึกตัวก่อนที่จะได้ยินเสียง

โวยวายของผู้ชายคนหนึ่งก็ปรือตาขึ้นมามองแล้วแปลกใจเมื่อเห็นตัวเองอยู่ที่สนามเจ็ทสกีนี่เขามา

อยู่ที่นี่ได้ยังไง

 

 

 

 

 

 

 

“ทะ โทโมะ นี่นายจริงๆด้วย นายยังไม่ตายแล้วแก้วล่ะ แก้วไปไหน”ป๊อปปี้เบิกตาโพลงเมื่อเห็น

เพื่อนชายที่จากไปนั่งโวยวายบ่นอยู่ข้างๆก็รีบลุกขึ้นมาไม่รอช้าที่จะรีบถามแล้วเขย่าตัวเพื่อนชาย

ทันที

 

 

 

 

 

 

“เห้ย ตายบ้าอะไรล่ะ เราเล่นเจ็ทสกีกันแค่นี้มันไม่ทำให้ตายหรอกนะ อย่ามาแช่งกันดิวะ แล้วแก

ถามถึงลูกแก้วเมียชั้นทำไม ลูกแก้วก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกๆชั้นดิไม่ต้องมาถามมาก แกน่ะไหวรึเปล่าขี่

เจ็ทสกีอยู่ดีๆก็พุ่งเข้าชนฝั่งดีนะที่แถวนั้นมันเป็นล้อยางไม่งั้นล่ะ แกได้ตายก่อนมีเมียแน่ๆ”โทโมะ

แปลกใจก่อนที่จะพูดต่อ

 

 

 

 

 

 

 

“ชั้นจะตายได้ยังไง เพราะชั้นไม่ใช่คนนิ”ป๊อปปี้มองไปตามที่เพื่อนชายชี้แล้วรีบพูดก่อนที่จะลุกขึ้น

แล้วต้องทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะเจ็บที่ขาจนโทโมะและเจ้าหน้าที่ในสนามช่วยกันประคองชาย

หนุ่มไปนั่งพัก

 

 

 

 

 

 

 

 

“เป็นเอามากนะแก นี่ผลพวงมาจากแกอ่านนิทานให้ลูกชั้นฟังมากไปถึงพวกเรื่องแฟนตาซีล่ะสิท่า

โอยไม่ใช่คนละแกเป็นใครไม่ทราบผีงั้นหรอไอ้บ้า นี่จมน้ำทีเดียวเพี้ยนเลยรึไงไปหาหมอหน่อย

มั้ย”โทโมะพูด

 

 

 

 

 

 

 

“ชั้นไม่ได้บ้า ชั้นไม่เป็นอะไรมากหรอกน่าชั้นไม่ไปหาหมอแล้วนี่ไอ้เขื่อนอยู่ไหนน่ะเมื่อกี้ชั้นกำลัง

จะช่วยฟางกับมันอยู่เลยนะ เห้ยจะทำอะไรน่ะปล่อยนะ/เอาไปเลยครับพี่ เพื่อนผมสงสัยสมอง

กระทบกระเทือนพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเลยนะครับ”ป๊อปปี้นิ่วหน้าไม่พอใจที่ใครๆก็ไม่เชื่อ

ตนเองพูดพลางถามหาเพื่อนอีกคนอย่างเขื่อนมาช่วยยืนยันก่อนจะตกใจเมื่อถูกลากโดยเจ้าหน้าที่

ประจำสนามไปที่โรงพยาบาลทันที

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ย ปล่อยนะโว้ยไอ้โทโมะชั้นไม่ได้บ้านะมาจับแบบนี้ได้ไงวะ”ป๊อปปี้โวยวายเมื่อมาถึงโรง

พยาบาลแล้วนั่งรถเข็นดิ้นไปมาเพราะมือถูกเพื่อนชายจับมัดและขาที่เจ็บก็ขยับไปไหนไม่ได้ทำให้

ลุกไปไหนไม่สะดวก

 

 

 

 

 

 

 

 

“เสียงดังเอะอะอะไรกันคะที่นี่โรงพยาบาลนะคะไม่ใช่สนามกีฬาที่พวกคุณจะมาเสียงดังแบบนี้

ได้”ก่อนที่โทโมะว่าอะไร ร่างบางของหมอคนหนึ่งที่เดินออกมากห้องตรวจพูดดุทำให้ทุกคนต้องกัน

กลับไปมองที่เสียง

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฟาง”ป๊อปปี้อึ้งเมื่อมองคุณหมอสาวที่กำลังดุตนเองนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนที่จะเรียกเธอ

คนนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“คะ เรียกชั้นทำไมคะ พยาบาลโฟร์คะ นี่ใช่มั้ยคนไข้ที่หมอจะต้องตรวจ”ฟางหันไปตามเสียงของ

ป๊อปปี้เรียกก่อนที่จะหันไปคุยกับพยาบาลสาวอีกคนเพื่อเช็คประวัติคนไข้ โดยที่มีป๊อปปี้มองตาม

แล้วเผลอยิ้มออกมาไม่หุบ

 

 

 

 

 

“แหม ไอ้เพื่อนครับยิ้มไม่หุบเลยนะครับเจอหมอสวยแบบนี้ แล้วนี่ไปรู้จักกับเค้าได้ยังไงครับบอกมา

เดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ป๊อป ทำเป็นบอกว่าไม่สนใจใครจะครองตนเป็นโสดนี่อะไรเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ”โท

โมะสังเกตท่าทางของเพื่อนชายที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อเจอคุณหมอคนสวยอย่างฟางก็กระซิบแซว

เพื่อนชายตนเองทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวคุณภาณุไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่ห้องตรวจของคุณหมอธนันท์ธรญ์เลยนะคะ”พยาบาลสาว

พูดขึ้นแล้วเข็นป๊อปปี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะพามาหาฟางที่ห้องตรวจ

 

 

 

 

 

 

 

“เป็นยังไงบ้างฟางเจ็บตรงไหนรึเปล่า”เมื่อป๊อปปี้ถูกพามาเจอกับฟางก็ไม่รอช้ารีบถามไถ่ร่างบางที่

นั่งรอทันทีทำให้ฟางเหวอและนิ่วหน้าแปลกใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ คำพูดพวกนี้หมอต้องเป็นคนถามคนไข้ไม่ใช่หรอคะ งั้นมาให้หมอตรวจดูอาการดีกว่านะ

คะ”ฟางแปลกใจกับท่าทางของป๊อปปี้ก็ส่ายหน้าก่อนที่จะขยับรถเข็นป๊อปปี้มาใกล้แล้วตรวจร่างกาย

ให้ชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

 

 

“จริงสิ ผมนึกออกแล้วต้องขอโทษหมอด้วยนะครับที่ทักเมื่อกี้ไปอย่างกับคนสนิทกันเลย เอ่อ พอดี

ตั้งแต่เด็กๆผมชอบฝันประหลาดครับ ฝันว่าตัวเองพยายามช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไว้จากพายุน่ะครับ แล้ว

ผู้หญิงคนนั้นก็ชื่อว่าฟางเหมือนกับคุณหมอนั่นล่ะครับ”ป๊อปปี้นิ่วหน้าสักพักก่อนที่จะนึกเรื่องออกแล้ว

บอกกับฟางที่กำลังตรวจตนเองอยู่ ฟางนิ่งเงียบไม่พูดอะไรและตรวจบาดแผลของชายหนุ่มไปเรื่อยๆ

ไม่พูดกับป๊อปปี้ทำให้ชายหนุ่มนึกหวั่นใจกลัวว่าเธอจะจำไม่ได้แล้วอาจจะมองว่าเขาเป็นคนโรคจิต

ที่มาเข้าหาเธอรึเปล่านะ

 

 

 

 

 

 

 

 

“หมอตรวจดูแล้วนะคะอาการของคุณภาณุไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงสมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรจะ

มีก็แค่แผลที่ขาค่ะที่ช้ำจากตอนอุบัติเหตุเดี๋ยวหมอจะให้ยาคุณนะคะมีทั้งยากินและยาทาต้องทา

เป็นประจำนะคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ”ฟางเขียนใบสั่งยาและใบตรวจเรียบร้อยก่อนที่จะเรียกพยาบาลให้

พาตัวป๊อปปี้ออกไปโดยที่ชายหนุ่มแอบเศร้าลงไปเมื่อเห็นท่าทางไม่สนใจของฟางที่ตรวจเขาเสร็จ

ไม่คิดจะคุยกันสักคำเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่เราได้เจอเค้าคนนั้นแล้วจริงๆหรอ ถ้าเราทักเค้าไปแล้วเค้าจำเราไม่ได้ล่ะ เค้าต้องหาว่าเราบ้าแน่ๆ

เรายิ่งเป็นหมอด้วย แต่ถึงยังไงในเมื่อเราเจอกันแล้ว ชั้นก็จะไม่ปล่อยให้เราต้องจากกันอีกแล้วล่ะ

ป๊อปปี้”เมื่อป๊อปปี้ออกไปจากห้องทำให้ฟางก็ยิ้มออกมาแล้วพูดกับตัวเองเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอฝัน

อย่างเดียวกับป๊อปปี้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใจเย็นๆดิวะเพื่อนจะรีบไปไหนวะ นี่แปลก็ยังไม่หายดีแท้ๆ พอออกจากโรงพยาบาลมาปุ๊บวันต่อมา

ก็รีบมาหาหมอคนสวยคนนั้นปั๊บเลยนะนี่ชัวร์ล่ะสินะที่จะจีบหมอคนสวยคนนั้น”วันต่อมา ป๊อปปี้ที่

กะเผลกตัวเองมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อตั้งใจมาหาฟางโดยมีโทโมะตามมาดูแลเพื่อนชายติดๆก็

อดที่จะบ่นไม่ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

“พูดมากน่าโทโมะ แล้วนี่แกไม่ไปรับลูกเมียแกรึไง”ป๊อปปี้หันไปถามเพื่อนชาย

 

 

 

 

 

 

 

“ลูกแก้วกับเจ้าแฝดน่ะหรอ โอยอีกนานวันนี้เห็นว่าจะไปดูเค้าประกวดร้องเพลงที่ห้างน่ะ ส่งแกก่อน

แล้วค่อยไปรับก็ได้”โทโมะตอบ

 

 

 

 

 

 

 

“นี่คุณภาณุ ยังไม่หายดีแล้วมาที่นี่อีกทำไมหรอคะ”พยาบาลโฟร์เดินมาหาป๊อปปี้และโทโมะพลาง

ถามขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ พยาบาลครับ หมอฟางอยู่ไหนหรอครับ/อ๋อ หมอฟางพึ่งขึ้นเครื่องไปที่เชียงใหม่เมื่อเช้านี้เอง

ค่ะ เห็นว่าต้องกลับบ้านด่วน”ป๊อปปี้ไม่รอช้ารีบถามถึงฟางก่อนที่พยาบาลจะตอบชายหนุ่มแล้วเดิน

จากไป

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ้า ชวดเลยสิครับเพื่อนจะจีบสาวทั้งทีสาวกลับหนีไปแล้ว/ใครว่าชั้นชวด ดีเลยไอ้โทโมะ ช่วงนี้

เมฆหมอกปิดเทอมใช่มั้ย เราไปเที่ยวเชียงใหม่กัน เดี๋ยวชั้นจัดารเรื่องทั้งหมดเอง”โทโมะขำเพื่อน

ชายที่ไม่ได้เจอหมอฟางก็อดที่จะแซวไม่ได้ทำให้ป๊อปปี้ไม่ยอมแพ้รีบพูดก่อนที่จะลากเพื่อนชาย

ไปรับแก้วและลูกๆที่ห้างทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แน่ใจหรอป๊อปปี้ว่าจะตามหาหมอฟางเค้าเจอน่ะ”ลูกแก้วพูดเมื่อมาถึงเชียงใหม่พลางมองไปรอบๆ

 

 

 

 

 

 

 

“แน่ใจ ถ้าชั้นกับเค้าเราเป็นคู่กันจริงๆเราะต้องหากันเจอ ไปกันเถอะ”ป๊อปปี้ยิ้มก่อนที่จะพาครอบครัว

ของโทโมะขึ้นรถตู้บริการที่ตนเองติดต่อไปยังที่พักโรงแรม

 

 

 

 

 

 

 

“ว้าว ช่วงนี้มีนิทรรศการของเก่าที่ลานกิจกรรมของโรงแรมด้วย เราไปดูกันมั้ยตัวเอง/หูยที่รักจ๋า

อยากดูจริงๆหรอ ของบางอย่างอาจจะมีผีสิงก็ได้นะ โอ๊ยๆ”ลูกแก้วอ่านป้ายที่โรงแรมแล้วรีบชวนสามี

ก่อนที่โทโมะจะแซวกลับก็ไม่วายถูกลูกแก้วบิดหู

 

 

 

 

 

 

 

“ป๊ากับม๊าฮะพวกเราอยากไปว่ายน้ำ พาพวกเราไปว่ายน้ำหน่อยนะฮะ นะๆๆๆ”เมฆกับหมอกอ้อนพ่อ

แม่ตัวเองก่อนที่โทโมะและลูกแก้วจะพาลูกชายฝาแฝดตัวเองไปว่ายน้ำที่สระของโรงแรมโดยที่

ป๊อปปี้เดินไปที่งานคนเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

“พิพิธภัณฑ์ของโบราณชั่วคราวโดยDSงั้นหรอ”ป๊อปปี้อ่านป้ายงานแล้วแปลกใจก่อนที่จะเดินเข้าไป

พลางมองข้าวของเก่าที่ทราบรายระเอียดว่าเป็นของมิสเตอร์ฟอร์ตและมาดามมัลลิกามอบไว้อย่าง

สนใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่ยักจะรู้นะคะว่านักกีฬาเจ็ทสกีอย่างคุณจะสนใจข้าวของโบราณพวกนี้ด้วย”ป๊อปปี้ที่มองรูปวาด

ของมิสเตอร์ฟอร์ตและมาดามมัลลิกาด้วยความสนใจก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทักทายก็หันไปตามต้น

เสียง

 

 

 

 

 

 

 

“ครับ ผมชอบดูพวกของเก่าๆแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ แล้วคุณหมอล่ะครับชอบรึเปล่า นี่มัน

คือเรื่องบังเอิญใช่มั้ยครับที่เราได้เจอกันที่เชียงใหม่แบบนี้”ป๊อปปี้ยิ้มอย่างดีใจเมื่อเจอเข้ากับหมอ

ฟางและที่สำคัญเธอเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักเขาก่อนอีกด้วยแต่ต้องทำเป็นยิ้มและเก็บอาการเอาไว้

พลางทำทีถามฟางต่อ

 

 

 

 

 

 

“ค่ะ ฟางชอบของเก่าแบบนี้เหมือนกันไม่คิดเลยว่าตัวเองกลับบ้านมาคราวนี้จะได้มาดูนิทรรศการ

ของวิทยาลัยDSนะคะ เพราะฟางจำได้ว่าเมื่อก่อนวิทยาลัยDSมีสาขาที่เมืองไทยอยู่ที่เชียงใหม่นี้

เอง แต่สุดท้ายก็ปิดตัวลงแล้วกลับไปเปิดสาขาใหญ่ที่อยู่ที่ลอนดอนแทนจนมีนิทรรศการที่นี่อีกครั้ง

ล่ะค่ะ แล้วนี่คุณหายดีแล้วหรอคะถึงได้ออกมาเที่ยวเล่นได้”ฟางยิ้มแล้วตอบป๊อปปี้ก่อนจะถามต่อ

ความจริงแล้วเธอเห็นป๊อปปี้ตั้งแต่เดินเข้ามาในนิทรรศการแล้ว แต่เธอไม่กล้าเข้าไปทักต่างรวบรวม

ความกล้าอยู่นานถึงจะเดินมาทัก

 

 

 

 

 

 

 

“หายดีแล้วล่ะครับ แต่ถึงตอนนี้ผมจะเจ็บตัวอีกผมก็ไม่เป็นไรมากหรอกครับ เพราะผมอยู่กับคุณหมอ

คนเก่งอย่างคุณหมอฟาง”ป๊อปปี้ยิ้มก่อนที่จะตอบฟางแล้วทั้งคู่ก็เดินชมนิทรรศการด้วยกัน

 

 

 

 

 

 

“ความจริงผมน่ะมาที่โรงพยาบาลที่คุณหมออยู่บ่อยนะครับแล้วก็ขึ้นมาเชียงใหม่บ่อยด้วย ทั้งๆที่

ชอบอะไรเหมือนๆกันแบบนี้ทำไมถึงคลาดกันได้นะ/เหรอคะ สงสัยบุญมีแต่กรรมบังมั้งคะ ต้องใช้

เวลาอยู่ตั้งนานกว่าจะตามหากันจนเจอ”ป๊อปปี้พูดขึ้นพลางเดินออกมาจากนิทรรศการกับฟางไปที่

สระน้ำฟางยิ้มก่อนที่จะตอบชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

 

“งั้นถ้าเราเจอกันแล้ว เราก็อย่าปล่อยให้เราต้องพรากจากกันอีกเลยดีมั้ยครับ”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาก่อน

ที่จะพูดต่อแล้วจ้องมองไปที่ตาของฟาง ฟางสบตาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแล้วจู่ๆก็มีภาพประหลาด

ต่างๆตั้งแต่ต้นที่เธออยู่บ้านข้างๆป๊อปปี้ เป็นแฟนกันไปจนถึงได้เข้ามาเจอกันในDSอีกครั้งก่อนที่จะ

เปลี่ยนเนความรักแล้วต้องพรากจากกันอีกครั้ง ป๊อปปี้มองร่างบางที่มีน้ำตาไหลออกมาก็ไม่รอช้า

เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ร่างบาง

 

 

 

 

 

 

 

“แย่จังเลยนะคะ จู่ๆก็มีน้ำตาไหลออกมาแบบนี้/คุณหมอเชื่อเรื่องมิติเวลารึเปล่าครับ”ฟางได้สิตก็พูด

ก่อนที่ป๊อปปี้จะรีบพูดต่อ ทำให้ฟางนิ่วหน้ามองป๊อปปี้อย่างประหลาดใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ ถึงผมจะเป็นนักกีฬานะครับ แต่ผมก็มีความสนใจเรื่องทฤษฏีรูหนอนของทางวิทยาศาสตร์น่ะ

ครับที่เชื่อว่าโลกของเรามีหลายมิติคู่ขนานอยู่ และมีห้วงมิติเวลาที่ทับซ้อน ในอดีตหรือมิติอื่นเรา

อาจจะเคยเจอกันมาก่อนก็ได้นะครับ”ป๊อปปี้พูดอธิบายต่อ

 

 

 

 

 

 

“การที่เรารู้สึกคุ้นเหมือนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก หรือจะเรียกแบบคนไทยเข้าใจก็

อาจจะเป็นเรื่องภพชาติก็ได้มั้งคะ บางทีฟางอาจจะเคยเจอคุณชาติที่แล้วมาก่อนก็ได้”ฟางยิ้มก่อนที่

จะพูดขึ้นต่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นถ้าชาติที่แล้วเราพลัดพรากจากกัน ชาตินี้ก็อย่าให้เราทั้ง2คนแยกจากกันอีกได้มั้ยครับ”ป๊อปปี้

พูดพลางสบตาดวงตากลมโตนิ่งใจสั่นพลางลุ้นว่าฟางจะว่าอะไรมั้ย โดยที่ฟางเองก็รู้สึกเต้นรัวเมื่อ

ได้ยินป๊อปปี้ตอบ

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้าเจอกันแล้วก็อย่าแยกจากกันไปไหน ทำตามคำสัญญาที่เคยบอกด้วยนะคะ ว่าอยากจะปกป้อง

ดูแลกันตลอดไป”ฟางน้ำตาไหลออกมา ใช่จริงๆผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอฝันตลอดตั้งแต่เด็กๆตอนนี้

เธอเจอเขาแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่มีวันปล่อยไปไหนอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรอีกก็จะไม่มีวันปล่อย”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อ

มั่นใจว่าฟางคือผู้หญิงที่เขาตามหา ผู้หญิงที่เป็นปริศนาในฝันเขามาตั้งแต่เด็กๆ ก็ดึงร่างบางของฟาง

ไปกอดแน่น

 

 

 

 

 

 

“แน่ะๆ น้อยๆหน่อยสิเพื่อน พึ่งเจอเค้ากลับดึงเข้าไปกอดแบบนี้เนี่ย”โทโมะที่เดินมากับลูกแก้วก็พูด

ขึ้น

 

 

 

 

 

 

“หรือไม่ก็เคยเจอกันมานานแสนนานแล้วต่างหากล่ะ”ป๊อปปี้ผละออกจากอ้อมกอดของฟางแล้วตอบ

โทโมะ

 

 

 

 

 

 

“มุกจีบหญิงโบราณไปรึเปล่าป๊อป เคยเจอกันมานานแสนนาน แบบอารมณ์เจอกันชาติที่แล้วแล้ว

มาตามหากันแล้วรักกันเนี่ยนะ”ลูกแก้วยิ้มพลางพูดต่อก่อนที่จะช่วยโทโมะอุ้มลูกแฝดของตัวเองไว้

ฟางมองไปที่เด็กแฝดในอกของโทโมะและแก้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู รู้สึกผูกพันก็เดินไปหอมแก้มเด็ก

ทั้ง2และลูบผมอย่างเอ็นดู

 

 

 

 

 

 

 

“สงสัยคงจะเป็นคู่แท้แกจริงๆว่ะป๊อป ชอบเจ้าแฝดลูกชั้นกับแก้วแบบนี้เหมือนกับแกไม่มีผิด”โทโมะ

มองการกระทำของฟางและมองดูเมฆกับหมอกลูกตัวเองที่เล่นกับฟางโดยไม่มีท่าทีกลัวคนแปลก

หน้าก็พูด

 

 

 

 

 

 

 

“ก็บอกแล้วไงว่าคนนี้ล่ะคือคนที่ชั้นตามหามานาน ตอนนี้ชั้นเจอเค้าแล้วชั้นจะไม่มีวันปล่อยเค้าไป

จากชั้นอีกแล้วล่ะ”ป๊อปปี้ยิ้มออกมาพลางโอบเอวฟางมาแนบลำตัวของเขาทำให้ฟางเขินและหน้า

แดงจัด

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ยๆ อยู่แล้วรู้สึกมดตอมมดกัดหมดแล้ว เดี๋ยวขั้นพาลูกไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วเราค่อยเจอกัน อ้อ

หมอครับฝากเพื่อนผมด้วยนะครับ แล้วเย็นนี้เจอกันนะครับ”โทโมะพูดจบก็ออกไปพร้อมกับลูกเมีย

ของตน

 

 

 

 

 

 

“อย่าไปไหนอีกนะครับ ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เราต้องแยกจากกันไปไหนอีกแล้ว”ป๊อปปี้พูดขึ้นต่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เราต่างผ่านช่วงเวลาที่พลัดพรากจากกันมามากพอแล้วค่ะ ต่อไปนี้โชคชะตาคงเห็นใจเรา ให้เรา

กลับมาเจอกันอีกครั้ง”ฟางยิ้มก่อนที่จะพูดขึ้นต่อ

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมรักคุณนะฟางและจะรักตลอดไป”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“ค่ะชั้นค่ะรักคุณและจะรักแค่คุณคนเดียวตลอดไปเหมือนกัน”ฟางยิ้มก่อนจะตอบป๊อปปี้แล้วทั้งคู่ก็

กอดกันด้วยความรักและความโหยหากันมานานแสนนาน จะไม่มีวันพรากจากกันไปไหนอีก

 

 

 

 

 

งานนี้เปลี่ยนแนวไปเกิดใหม่มารักกันใหม่เลยทีเดียวตอนจบ5555555

 

 

 

จบแล้วนะ ถึงแม้ไรเตอร์จะไม่ค่อยได้มาอัพบ่อยเพราะเดี๋ยวคอมพังบ้างติดธุระบ้าง

 

 

แต่ขอบคุณมากนะคะที่อ่านเรื่องนี้ รอเรื่องนี้จนเรื่องนี้จบ

 

 

กำลังคิดพล้อตเรื่องหน้าอยู่แต่คิดออกแค่พล้อตต้นเรื่อง ถ้ามีไอเดียอยากได้แนวไหน

 

 

เม้นมาคุยกันได้เน้ออออ

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา