(ฟิคโอคิคางุ)After marriage

9.6

เขียนโดย naoza

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.14 น.

  10 ตอน
  7 วิจารณ์
  24.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 12.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) ปัญหาแรกเริ่มของชีวิตคู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่เคยเป็นคู่กัดแทบจะฆ่ากันตายทุกทีที่ได้เจอกัน บัดนี้กลับกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งจนสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆและได้มาแต่งงานอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง 

                โซโกะในชุดเรียบร้อยเตรียมไปทำงานนอนตะแคงข้างเท้าศีรษะจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนข้างๆกันอย่างไม่เบื่อ แม้จะผ่านมาเกือบ 1 เดือนเต็มแล้วก็ตาม เรือนผมสีส้มอมชมพูของเธอกระจายอยู่เต็มหมอนหนุนนอนสีขาว แม้เจ้าหล่อนจะนอนน้ำลายจะยืด แถมเสียงกรนเบาๆสักเท่าไหร่ โซโกะเองก็ยังคงมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูหลงใหลภรรยาสาวที่อายุอ่อนกว่าเขา 4 ปี ด้วยความรักที่เต็มเปี่ยมหัวใจ

                “คางุระ เช้าแล้วตื่นเถอะ”

                ชายหนุ่มปลุกเรียกภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่คางุระไม่มีทีท่าจะตื่นเลยสักนิด โซโกะจึงเอามืออีกข้างบีบจมูกเธอจนหญิงสาวสะดุ้งตื่นเพราะหายใจไม่ออก

                “แฮ่กๆ นี่ลื้อจะลอบฆ่าอั๊วเหรอน่อ”

                คางุระโวยวายทันทีที่ตั้งสติหลังตื่นได้คว้าผ้าห่มโยนใส่หน้าสามีทันทีด้วยความฉุนเฉียว หากเป็นเช่นเมื่อหลายปีก่อนโซโกะคงไม่ยอมอยู่เฉยๆเช่นนี้และมีการเอาคืนแน่ๆ แต่ปัจจุบันนี้หนุ่มซาดิสม์อย่างเขากลับกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ ยอมภรรยาอย่างไม่มีหือ

                “เปล่านะ ฉันเห็นว่าหล่อนยังไม่ตื่นกลัวหล่อนไปทำงานสาย เดี๋ยวลูกพี่จะบ่นเอาได้ว่าเสียการเสียงานเพราะฉัน”

                “อือๆ”

                คางุระรับคำในลำคอแล้วลุกขึ้นงัวเงียไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้สามีเป็นคนเก็บที่นอนอย่างทุกๆวัน

                หลังจากนั้นคางุระก็มาเตรียมอาหารเช้าตามหน้าที่ภรรยาที่ดีให้กับสามี ซึ่งโซโกะได้แต่กระพริบตาถี่ๆเมื่อเห็นว่าอาหารเช้าของเขาคือข้าวร้อนๆ 1 ถ้วย ข้างๆกันมีไข่สด 1 ฟองวางอยู่

                “คางุระ”

                “อะไรน่อ?”

                คางุระที่กำลังแต่งตัวอยู่อีกห้องหนึ่งตะโกนกลับถามเมื่อได้ยินโซโกะเรียกชื่อเธอ

                “ข้าวกับไข่อีกแล้วเหรอ?”

                “ลื้อก็รู้ว่าอั๊วตื่นสายน่อ ถ้าเกิดอยากจะเจี๊ยะอะไรลื้อก็ทำเอาเองน่อ”

                หญิงสาวที่แต่งตัวเสร็จตอบกลับสามี ทำเอาโซโกะไปไม่เป็นจึงได้แต่เงียบและยอมกินข้าวโปะไข่สดโดยไม่ยอมพูดอะไรต่อ คางุระมองโซโกะแล้วถอนหายใจ

                “อั๊วไปทำงานก่อนล่ะน่อ ล็อคประตูดีๆด้วยล่ะ”

                “อ้าว แล้วไม่กินข้าวก่อนเหรอ?”

                “อั๊วจะไปกินที่ร้านเลยน่อ วันนี้เวรทำอาหารของชินปาจิ”

                คางุระบอกเหตุผลแล้วออกจากบ้านไปทิ้งโซโกะให้กินข้าวเช้าเพียงลำพัง

                เมื่อต่างคนต่างแยกไปทำงานทั้งสองคนต่างพากันคิดว่าชีวิตแต่งงานที่เฝ้ารอมาตลอดนั้นไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลยสักนิด ความรักที่น่าจะมีให้กันอย่างเติมเต็มนั้นกลับรู้สึกถึงช่องว่างที่มีให้กันและกันซึ่งเขาและเธอก็ไม่รู้เลยว่าควรจะทำเช่นไรดี เพื่อจะกลับไปมีความรู้สึกดีๆให้กันได้เหมือนก่อนจะแต่งงานกัน

 

                “ทำไมดูหน้าตาหมองเศร้าขนาดนั้นล่ะไคเซอร์ ทั้งๆที่เพิ่งแต่งงานไปแท้ๆ”

                ชายหนุ่มผมดำตาดุที่กำลังจุดบุหรี่สูบอยู่นั้นเอ่ยทักโซโกะที่เดินเข้ามายังสำนักงานตำรวจสืบสวนคดีพิเศษด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท

                “นั่งนิ่งๆคงไม่มีใครหาว่าคุณตายไปแล้วหรอกครับ มาโยริน”

                ชายหนุ่มที่ได้ฉายาว่าไคเซอร์ตอบกลับชายหนุ่มที่มีฉายาว่ามาโยรินได้เจ็บแสบ แต่มาโยรินหรือฮิจิคาตะกลับไม่ถือสาอะไร

                เมื่อ 1ปีที่แล้วอดีตชินเซ็นงุมิได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิญี่ปุ่นให้กลับมาดูแลเอโดะโดยต้องใช้ชีวิตอย่างไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้เนื่องจากเป็นหน่วยสืบราชการและสืบสวนแก้ไขคดีลับ จึงจำเป็นต้องมีฉายาเรียกกันแทนชื่อจริงในสำนักงาน ฮิจิคาตะคือมาโยริน โซโกะคือไคเซอร์ และคนอื่นๆก็ได้ฉายาแตกต่างกันไป

                ในสำนักงานตำรวจสืบสวนคดีพิเศษนั้นมีฮิจิคาตะเป็นหัวหน้าหน่วย และโซโกะเป็นหัวหน้ารอง เนื่องจากคอนโด้ได้แต่งงานเข้าบ้านชิมุระและได้เปลี่ยนนามสกุลเพื่อสืบทอดกิจการโรงฝึกแทนชินปาจิชั่วคราวจนกว่าหนุ่มแว่นน้องชายของโอทาเอะผู้เป็นภรรยาจะพร้อมมารับช่วงกิจการ

                “ซีเรียสไรว้าโซโกะ ฉันเห็นคุณคอนโด้แต่งงานไปเป็นปีๆ จนลูกวิ่งเล่นและมีอีกคนนอนดิ้นไปมาอยู่ในท้องของคุณโอทาเอะแล้วแท้ๆ คุณคอนโด้ก็ยังมีสีหน้าสดใสตรงข้ามกับแกโดยสิ้นเชิงเลย”

                ฮิจิคาตะพูดถึงคอนโด้ เพราะเขาเป็นห่วงโซโกะที่ดูซึมไปไม่ร่าเริง โซโกะถอนหายใจแล้วนึกถึงคอนโด้ ซือเจ๊โอทาเอะเป็นสาวโหดตบตีอดีตเจ้านายของพวกเขาเป็นว่าเล่นเมื่อตอนไล่จีบกันใหม่ๆ แต่เมื่อแต่งงานกันไปชีวิตครอบครัวก็ดูมีความสุขดีเสียจนเขาอิจฉา เพราะเขากับคางุระไม่ได้เข้ากันได้ดีอย่างนั้นทั้งๆที่เขาเองก็พยายามปรับปรุงตัวให้เหมือนคอนโด้ที่ยอมโอทาเอะ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผลและกลับกลายเป็นว่าคางุระเองอารมณ์เสียใส่เขาบ่อยๆ และไม่ยอมกินข้าวกับเขาเลยสักมื้อ

                “ไง โทชิ โซโกะ สบายดีไหม อ้าวแล้วนี่ทุกคนไปไหนหมดล่ะ” คอนโด้ที่ถูกพูดถึงเปิดประตูสำนักงานมาทักทายอดีตลูกน้องสองคนพร้อมกับสะพายลูกสาววัย 2 ขวบใส่ผ้ามาด้วย แล้ววางเครื่องดื่มที่ซื้อมาเป็นของฝากวางไว้บนโต๊ะกลางห้อง

                “พวกยามาซากิออกไปลาดตะเวนน่ะครับ”

                ฮิจิคาตะตอบแล้วรีบดับบุหรี่เมื่อเห็นฮิเมโกะลูกสาวของคอนโด้ไอเพราะควันของเขา

                “งั้นเรอะ? แล้วทำไมหน้านายมันจืดสนิทอย่างนั้นล่ะโซโกะ”

                “คุณคอนโด้ครับ ผมมีเรื่องจะพูดด้วย”

                โซโกะเอ่ยปากเรียกคอนโด้ที่แม้จะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลชิมุระแล้วก็ตาม ชายหนุ่มฉายากอริลล่าเดินตามชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าไปยังสวนหลังสำนักงานทันที

                “มีอะไรรึโซโกะ?”

                “ผมขอถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหมครับ?”

                “ได้เลย ว่ามาเลย”

                ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนมองกอริลล่าหนุ่มพ่อลูกอ่อนแล้วตัดสินใจปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ คอนโด้ฟังเรื่องราวของโซโกะแล้วหัวเราะลั่น แต่โซโกะไม่ได้ขำด้วย

                “โทษทีๆ ผิดคาดไปนิดไม่คิดว่านายจะมาเจอปัญหาแบบนี้ได้”

                “ผมควรจะทำไงดีครับ?”

                คอนโด้มองคนถามด้วยความเอ็นดู แล้วให้คำตอบ

                “นายก็เป็นอย่างที่นายเป็นนั่นแหละ ไม่เห็นจำเป็นต้องเลียนแบบฉันเลย นายกับคุณหมวยรักกันเพราะเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่รึไง”

                “เป็นตัวของตัวเอง?” โซโกะพึมพำแล้วทบทวน “แต่ยัยหมวยไม่ยอมเล่น SM กับผมน่ะสิครับ”

                “ฉันไม่ได้หมายความเรื่องรสนิยมของนายเฟ้ย” คอนโด้รีบแก้ความเข้าใจผิดของโซโกะทันที “ฉันหมายถึงว่าให้นายเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องเสแสร้งฝืนตัวเองเพื่อให้ชีวิตคู่มันเหมือนคู่อื่นๆหรอกนะ แต่จงปรับตัวเพื่อให้อยู่ด้วยกันได้เท่านั้นดีกว่า”

                “ผมไม่เข้าใจ”

                “ไม่มีอะไรที่คนฉลาดๆอย่างนายไม่เข้าใจหรอก ฉันต้องไปก่อนนะต้องไปจ่ายตลาดให้คุณโอทาเอะก่อน”

                คอนโด้ตบไหล่โซโกะให้กำลังใจ และออกจากสำนักงานไปจ่ายตลาดตามชีวิตของพ่อบ้านดีเด่น ปล่อยให้โซโกะทบทวนและหาคำตอบจากคำแนะนำของอดีตหัวหน้าเอง

 

                ณ ร้านรับจ้างสารพัด

          “บ้านตัวเองไม่มีข้าวกินรึไง”

          กินโทกิเอ่ยทักคางุระที่มากินข้าวเช้าที่ร้านหมดไปหลายหม้อราวกับว่าอดอยากมานาน

          “อั๊วคิดถึงรสชาติของชินปาจิต่างหากน่อ”

          คางุระแก้เก้อหลังจากกินเสร็จแล้ว แต่กินโทกิไม่เชื่อ

          “หือ? ทำมาเป็นพูดจาหวานออดอ้อน ความจริงหล่อนกลัวสามีตัวเองจะรับไม่ได้ที่กินจุขนาดนี้ใช่ไหมล่ะ?”

          “คงไม่ใช่หรอกครับคุณกิน เพราะคุณโอคิตะก็รู้อยู่แล้วว่าคางุระกินเก่งแค่ไหน”

          ชินปาจิแก้ตัวให้คางุระที่นั่งเงียบ แล้วตกใจที่กินโทกิเดาถูกเมื่อเห็นคางุระนั่งหน้าเครียด

          “อะไรกัน ทั้งๆที่แต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้วแท้ๆ ไม่ยอมเปิดใจให้กันและกันอีก ไอ้ตอนก่อนจะแต่งงานก็เร่าร้อนอ้อนวอนให้ได้แต่งงานกันแท้ๆ”

          กินโทกิบ่นแล้วเปิดทีวีดู เคซึโนะ อานะ นักพยากรณ์อากาศสาวยามเช้าอย่างเคยทุกๆวัน

          “ก็อีตานั่นจู่ๆก็มาอ่อนโยน ทำดีกับอั๊วจนอั๊วทำตัวไม่ถูกเลยน่อ อั๊วทำอะไรผิดหรือทำอะไรแย่ๆก็ไม่โกรธแถมยังยิ้มให้อีกน่อ”

          “ทำดีใส่ก็ดีแล้วไม่ใช่รึครับ? แต่ก็ว่านะคางุระจังกับคุณโอคิตะตอบคบกันเป็นแฟนก็ตีกันทุกวันไม่แตกต่างจากตอนเป็นคู่กัดกันซะเท่าไหร่ จู่ๆมาทำดีใส่กันแบบนั้นก็ขนลุกขึ้นมาบ้างสินะครับ”

          หนุ่มแว่นพยักหน้าเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวที่เขารักดั่งลูกสาวของตนพอๆกับคุณพ่อหัวหงอกที่ทำเป็นไม่สนใจ แต่บ่นเป็นห่วงคางุระอยู่ทุกวัน

          “อย่างอั๊วให้กินไข่สดทุกเช้าเย็นตลอด 1 เดือนมานี่ อาตี๋ยังไม่ว่าอะไรอั๊วเลยน่อ แล้วอั๊วเองก็เห็นว่าอาตี๋นั่นทำงานเหนื่อยมากมาย อั๊วก็เลยไม่กล้าเจี๊ยะเยอะ เพราะอั๊วเองก็เงินเดือนไม่แน่นอนน่อ”

          คางุระเล่าความในใจออกมา แต่กลับทำให้กินโทกิสะดุ้งเมื่อได้ยินเรื่องเงินเดือน อุมิโบสึผู้เป็นพ่อของคางุระเคยบอกว่าเขาจะเบาแรงลงหากคางุระแต่งงานไป แต่ที่ไหนได้หญิงสาวจอมตะกละกลับเกรงใจสามีแล้วมาลงเอยกินข้าวที่บ้านเขาครบ 3 มื้อ แถมเขาเองยังต้องคอยให้อาหารซาดาฮารุที่กินเก่งไม่แพ้เจ้าของอีกหลายถุงต่อมื้อ สุดท้ายแล้วเขาก็จนแล้วจนอีกจนอย่างเสมอต้นปลายไม่มีทีท่าจะมีเงินเก็บเหมือนกับใครเขาเลย

          “มีอะไรก็คุยกันตรงๆไปสิว้า ชอบไม่ชอบอะไรหรือกินเก่งแค่ไหนก็บอกเขาไปสิ รักกันจนกระทั่งแต่งงานกันมีอะไรก็ควรคุยกันไม่ใช่ว่าเก็บเอามาคิดเองเออเองแล้วอย่างนี้อีกฝ่ายเขาจะรู้ได้ไงฟะ”

          กินโทกิสอนคางุระให้คิดตาม หญิงสาวเดินไปนอนบนตัวซาดาฮารุแล้วกอดมันอย่างใช้ความคิด

 

          ถึงเวลากลับบ้าน คางุระเปิดประตูบ้านของตัวเองก็พบว่าโซโกะกลับมาก่อนแล้ว

          “กลับมาแล้วเหรอ?”

          ชายหนุ่มเอ่ยทัก แล้วหันกลับไปสนใจนิตยสารสื่อพิมพ์อาชญากรรมในมือตัวเองต่อ

          “กลับมาแล้วน่อ” คางุระขานกลับแล้วเดินไปนั่งใกล้ๆสามี “ลื้อหิวรึยัง?”

          โซโกะเงยหน้ามองภรรยาที่ร้อยวันพันปีไม่เคยถามไถ่อย่างแปลกใจ หญิงสาวมองหน้าโซโกะแล้วตัดสินใจพูดกับเขา

          “อั๊วมีอะไรจะพูดกับลื้อน่อ”

          “ขอหย่าเหรอ?”

          โซโกะเดาแต่คางุระส่ายหน้า

          “ทำไมลื้อคิดอย่างนั้นล่ะน่อ? หรือลื้อก็คิดแบบอั๊วว่าเราสองคนไม่มีความสุข”

          นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของโซโกะจ้องไปยังนัยน์ตาสีฟ้าของคางุระ สองสายตาประสานกันแล้วหันหน้ามาคุยกันตรงๆอย่างที่คางุระต้องการ

          “มีอะไรก็ว่ามา”

          โซโกะสั่งอย่างเคยนิสัย

          “อั๊วไม่ชอบลื้อ” คางุระพูดตรงๆ ซึ่งมันก็ทำให้โซโกะตกใจที่ได้ยินเธอพูดเช่นนั้น แต่ประโยคต่อมาทำให้เขาใจชื้นขึ้น “อั๊วไม่ชอบที่ลื้อมายอมตามใจอั๊วทำดีกับอั๊วแบบนั้น มันอึดอัดใจน่อ”

          “แล้วหล่อนจะให้ฉันทำยังไง? กลับไปเป็นชาว S แบบเดิมงั้นเหรอ?ไหนว่าไม่ยอมให้ฉันเป็น S อย่างนั้นไง”

          “ไม่ใช่น่อ อั๊วหมายถึงเวลาอั๊วทำอะไรผิดหรือทำตัวแย่ๆ อั๊วอยากให้ลื้อว่าอั๊วไม่ใช่มาตามใจมายกโทษให้อภัยอย่างง่ายๆแบบนี้ อั๊วขนลุกน่อ เพราะโซโกะที่อั๊วรู้จักไม่ใช่คนที่ไม่ยอมต่อปากต่อคำหรือยอมแพ้ตามใจใครแบบนี้น่อ”

          “แล้ว?”

          “แล้วที่อั๊วไม่อยากเจี๊ยะข้าวที่บ้านเพราะอั๊วเป็นห่วงลื้อ ลื้อก็รู้ว่าอั๊วเจี๊ยะเก่งแค่ไหนอั๊วกลัวลื้อลำบากน่อ”

          คางุระบอกความจริงแล้วทำหน้าเศร้า โซโกะอึ้งไปชั่วครู่เมื่อรู้ถึงเหตุผลที่คางุระไม่ยอมมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับเขา

          “หล่อนบ้ารึเปล่า ฉันก็รู้อยู่ว่าหล่อนกินเท่ากับ 10 คนกิน”

          “ก็ลื้อเคยว่าอั๊วตอนเราไปบุชูน่อ”

          “ยังจะเก็บเอามาคิดอีก”

          โซโกะหัวเราะเบาๆกับคางุระที่จำฝังใจกับคำพูดของเขาที่พูดแกล้งเธอไปอย่างนั้น แล้วดึงร่างบางมากอดไว้แนบอก

          “ฉันรู้ว่าหล่อนเป็นยังไงฉันถึงได้แต่งงานกับหล่อน เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องมาคิดมากเลย”

          “ก็ลื้อมาทำเป็นใจดีกับอั๊วจนอั๊วเอียนแบบนี้ อั๊วก็ไม่ไหวน่อ”

          “ชอบให้ร้ายๆใช่ไหม?”

          โซโกะย้อนถาม จากนั้นก็ล้วงมือเข้าไปในเสื้อของหญิงสาวมือไม้เริ่มซุกซนจนคางุระต้องดันเขาออกห่าง

          “ลื้อทำอะไรน่อ?”

          “บริหารร่างกายก่อนกินข้าวไง?”

          หญิงสาวที่ยังไม่ชินกับกิจกรรมของสามีภรรยาหน้าแดงก่ำเพราะรู้ว่าโซโกะพูดถึงอะไร

          “เอ่อ แล้วลื้อจะเจี๊ยะไรน่อ”

          “อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไข่สด ทุกวันนี้ฉันจะออกลูกเป็นไข่ได้แล้ว อีกอย่างไม่รู้ว่าตอนนี้พยาธิวิ่งอยู่ในลำไส้ฉันกี่ตัวไปแล้วเนี่ย”

          “งั้นอั๊วไปจ่ายตลาดก่อนน่อ”

          คางุระบอกแล้วดันตัวเองให้ลุกขึ้นหนีจากสามีที่บอกว่าอยากออกกำลังกายก่อนกินข้าว

          “อดข้าวเย็นสักวันจะเป็นไรไป”

          โซโกะไม่ยอมดึงเธอมากอดและซุกไซร้ร่างบางไม่ให้หนีไปไหน

          “ไม่ได้น่อ อดอาหารมันจะไม่ดีต่อสุขภาพสาวงามอย่างอั๊วน่อ”

          แม้จะคัดค้านแค่ไหนแต่สุดท้ายร่างบางของหญิงสาวก็ยอมโอนอ่อนให้กับอ้อมกอดที่แสนแข็งแรงของชายหนุ่มอยู่ดี

 

          ตกดึกอาหารเย็นของคู่สามีภรรยาก็คือราเมงถ้วย แต่นั่นมันก็ทำให้โซโกะดีใจที่ไม่ใช่ไข่สดอย่างทุกๆมื้อที่ผ่านมา คางุระสัญญาว่าจะหัดทำอาหารให้หลากหลาย เช่นเดียวกับโซโกะที่บอกว่าจะเลิกฝืนตัวเองให้เป็นแบบคู่ใครๆ

          “สัญญาแล้วน่ออาตี๋”

          “รู้แล้วหน่า แล้วนี่กินปาไปถ้วยที่ 5 แล้ว มันยังไม่เต็มกระเพาะอีกรึไง?”

          โซโกะเอ่ยถามเมื่อเห็นภรรยาตนกินราเมงถ้วยหมดไปแล้วเป็นถ้วยที่ 5 แถมยังจะต่ออีกถ้วย

          “ก็ลื้อให้อั๊วเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุน่อ”

          คางุระย้อน ทำให้โซโกะหัวเราะแล้วมองเธอด้วยความเอ็นดู จู่ๆยัยหมวยคนนี้จะบอกให้เขาไม่ต้องเอาใจเธอมากมาย แต่ว่าเขารักเธอขนาดนี้มันก็คงทำได้อยากหน่อย ใครจะไม่ตามใจคนรักบ้าง ในโลกนี้คงไม่มี

          “คางุระ”

          “หือ?”

          “แล้วสัญญาที่บุชูล่ะ? เมื่อไหร่จะเป็นจริง”

          “แค่กๆ”

          คางุระสำลักเส้นราเมงทันทีเมื่อโซโกะคุยถึงสัญญาที่ว่าจะไปไหว้หลุมศพของมิตสึบะอีกครั้งพร้อมกับลุกๆของพวกเขา

          โซโกะเห็นเส้นราเมงออกจากจมูกของภรรยาแล้วดึงออกมาอย่างแรงตามนิสัยซาดิสม์ของตน

          “โอ๊ย แสบน่อไอ้ซาดิสม์นี่”

          “อ้าว ชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้”

          หญิงสาวไม่ตอบอะไรแต่ยกมือจะตบสามีให้คว่ำ ซึ่งผู้เป็นสามีก็หลบได้อย่างสบายๆ

          “อั๊วจะบอกให้ลื้อเข้าใจน่อ ยาโตะกับมนุษย์ธรรมดาอย่างลื้อน่ะใช่ว่าจะมีลูกด้วยกันง่ายๆ ลื้อเชิญรอไปเถอะน่ออีก 10 ปี เห็นจะได้” คางุระบอกแล้วลุกขึ้นไปเตรียมปูที่นอน “เก็บให้ด้วยน่อ”

          “ใช้ได้ใช้ดี”

          โซโกะบ่นตามหลัง แล้วคิดตามคางุระว่ายาโตะกับมนุษย์จะมีลูกกันได้ยากจริงๆน่ะหรือ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา