(ฟิคโอคิคางุ)After marriage

9.6

เขียนโดย naoza

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.14 น.

  10 ตอน
  7 วิจารณ์
  24.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 12.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) ศึกย่อยในโยชิวาระ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ไม่ชอบฝนเลย
          คางุระพึมพำในใจในขณะนอนเล่นอยู่บนโซฟาในร้านรับจ้างสารพัดหลังจากได้ยินเสียงฝนหล่นลงกระทบกับหลังคากระเบื้องของร้าน
          ชินปาจิขยับแว่นให้เข้าที่แล้วรีบลุกขึ้นไปเก็บผ้าที่ซักตากไว้ ส่วนกินโทกิทำเป็นนั่งอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองแต่สายตายังคอยเหลือบชำเลืองมองหญิงสาวที่นอนหมดอาลัยตายอยากด้วยความเป็นห่วง
          “โว้ยยย!!”
          จู่ๆคางุระก็ตะโกนขึ้นออกมาอย่างสุดทน เธอค่อยๆพยุงร่างของตนที่เริ่มปรากฏให้เห็นแล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ลุกขึ้นมานั่งด้วยอารมณ์ที่แสนหงุดหงิดในหลายๆเรื่อง
          “จะแหกปากแข่งกับเสียงฝนให้มันได้อะไรล่ะเหวย ยัยหมวยสมองกลวง”
กินโทกิเปรยถามแต่สายตายังคงอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ดังเดิม ซึ่งคางุระไม่สนใจแล้วโวยวายต่อเพื่อให้ความหงุดหงิดเบาบางลง
          “ลื้อแน่ใจเหรอว่าอาตี๋นั่นบอกจะไปแค่ 5 วันอ่ะน่อ นี่ผ่านมา 14 วันแล้วทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีกแถมอั๊วก็ติดต่อไม่ได้ด้วยน่อ!!!”
          “อืม...... ในกรณีที่ยังหนุ่มยังแน่นแต่มีเมียงี่เง่าที่กำลังท้องป่องเป็นปลาทองแบบนี้ หมอนั่นต้องไปมีกิ๊กแถวไหนก็ได้” กินโทกิสรุปก่อนจะเดินมานั่งข้างๆคนขี้โวยวายแล้วยกมือลูบศีรษะที่ไม่ว่าจะโตแค่ไหนก็ตามแต่ยังคงเป็นสาวน้อยของเขาเสมอด้วยความเห็นใจ “ตัดอกตัดใจบ้างเถอะ คางุระ”
          สิ้นคำปลอบใจของกินโทกิ ชินปาจิที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาจากการไปเก็บผ้าที่ตากไว้ก็ได้ยินเสียงตุบตับตามด้วยเสียงหวีดร้องของกินโทกิดังโหยหวน และภาพที่เขาเห็นนั่นก็คือกินโทกิโดนคางุระประทุษร้ายจนหัวโนตาปูดลงไปนอนกับพื้นด้วยสภาพเหลือทน
          “งานของสำนักงานคงไม่เสร็จง่ายๆน่ะครับคางุระจัง อย่าเพิ่งกังวลไปเลยนะครับ คุณโอคิตะเป็นยังไงคางุระก็เป็นคนรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอครับ”
          ชินปาจิพูดปลอบคนที่กำลังหน้างอ
          “บางทีคนเรามันก็มีเบื่อบ้างนาเหวยชินปาจิ คุณสามีเป็นเจ้าชายดาวซาดิสม์ขนาดนั้นแต่กลับต้องมาฝืนใจทำตัวว่าง่ายกับภรรยาที่แสนป่าเถื่อนไม่แน่อาจจะอ้างงานแล้วไปหาทางระบายเล่น SM ก็ได้ กรี๊ดดดดด!!”
          กินโทกิหวีดร้องอีกครั้งเมื่อโดนคางุระอัดอีกรอบ ชินปาจิได้แต่มองอย่างสมเพชกับคนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัว
          ระหว่างที่มัวแต่ทะเลาะกันนั้นจู่ๆก็มีเสียงกดกริ่งหน้าประตูดังขึ้น คางุระหันไปมองอย่างดีใจนึกว่าโซโกะกลับมาแล้ว แต่ทว่าเงาที่เห็นผ่านประตูกลับเป็นของซึคุโยะเสียอย่างนั้น
          “สวัสดีครับคุณซึคุโยะ มีอะไรรึเปล่าครับถึงขนาดฝ่าฝนมาที่ร้านได้”
          หนุ่มแว่นเอ่ยปากทักหลังจากเปิดประตูให้ซึคุโยะเข้ามาด้านใน ซึคุโยะมองกินโทกิที่นอนหมดสภาพอยู่กับพื้นแล้วส่ายหน้าอย่างระอา
          “พอดีข้ามีเรื่องอยากจะให้ช่วย สภาพแบบนี้จะไปไหวไหมเนี่ย?”
          “ได้อยู่แล้ว” กินโทกิลุกขึ้นนั่งบนโซฟาข้างคางุระรีบปาดเลือดที่ไหลออกจากปากตัวเองแสร้งทำเป็นไม่เกิดอะไรขึ้น “ว่าแต่หล่อนมีธุระอันใดมิทราบ”
          ซึคุโยะดับยาสูบของตนเมื่อเดินไปนั่งตรงข้ามกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แล้วเริ่มพูดธุระ
          “พวกแกเคยได้ยินเรื่อง ยาหลงลืม กันบ้างรึเปล่า?”
          “ยาหลงลืมเหรอครับ?”
          ชินปาจิที่เดินมาเสิร์ฟชาให้ทวนคำแล้วเดินไปนั่งข้างๆกินโทกิ
          “ใช่” ซึคุโยะรับคำแล้วพูดธุระต่อ “ดูจากสีหน้าพวกแกแล้วคงจะพอรู้จักสินะ ตอนนี้มันระบาดมาถึงโยชิวาระพวกโอยรันต่างถูกฤทธิ์ของมันเข้าครอบงำกลายเป็นเหยื่อหลายรายแล้ว ข้าอยากให้พวกแกไปช่วยกันสืบและกำจัดให้มันสิ้นซากไปด้วยกันน่ะ”
          “ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ หล่อนไม่รู้เลยรึว่าต้นเรื่องที่นำมันเข้ามาในโยชิวาระน่ะเป็นใคร?”
          กินโทกิถามอย่างเคร่งเครียด เพราะรู้ดีว่ายาหลงลืมนั่นอันตรายแค่ไหน แต่ซึคุโยะส่ายหน้าเพราะเธอเองยังหาตัวการไม่ได้
          “เพราะอย่างนี้ข้าจึงจะขอแรงพวกแกยังไงล่ะ แต่มันก็ไม่ได้เริ่มจาก 0 เสียทีเดียวหรอกนะ เพราะท่านคามุอิได้เชิญที่คนเป็นหัวหน้าค้ายามากินดื่มที่โยชิวาระแล้วล่ะ”
          หญิงสาวผู้มีแผลเป็นทางยาวที่ใบหน้างามตอบตามความสงสัยของชายหนุ่มผมเงิน และได้พูดถึงคามุอิที่ตอนนี้กลายเป็นราชาแห่งโยชิวาระแทนโฮเซ็น
          “อ้าว ไหนว่าอาเฮียกลับไปแล้วไงน่อ ทำไมทำตัวเหมือนพวกว่างงานซะงั้นอ่ะน่อ ซึกกี้?”
          คางุระที่ฟังอยู่นานถามขึ้นด้วยความสงสัย
          “นั่นก็เพราะได้รับรายงานจากท่านอาบุโตะน่ะสิ ว่าแต่พวกแกตกลงจะรับงานนี้รึไม่?”
          ซึคุโยะตัดบทถามถึงเจตนาที่มาถึงร้านรับจ้างสารพัดนี้ กินโทกิมองหน้าลูกน้องทั้องสองคนแล้วอ้าปากหาว
          “ก็เอาสิช่วงนี้ก็ไส้แห้งอยู่ด้วย”
          “แล้วเริ่มงานกันตอนไหนล่ะครับ?”
          ชินปาจิเอ่ยถาม
          “คืนนี้”
          ซึคุโยะตอบสั้นๆ ซึ่งก็ทำให้ทุกคนในร้านรับจ้างสารพัดเตรียมตัวทำงานกันในค่ำคืนนี้อย่างเต็มที่

 

 

          เมื่อมาถึงโยชิวาระ กินโทกิกับชินปาจิถูกจับบังคับไปแต่งตัวให้เป็นหญิงโอยรันเพื่อไม่ให้มีใครระแคะระคายว่าอาจจะเป็นสายที่เข้ามา เพราะในค่ำคืนนี้คามุอิสั่งให้หอใหญ่นี้มีผู้ชายเพียงแค่เขากับซาวาดะและสมุนของมันเท่านั้น
          “หวังว่าแกคงจะไม่ได้แกล้งฉัน”
          กินโทกิที่งามเหลือล้นในชุดกิโมโนสีแดงสดถามคามุอิที่ยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มอย่างนั้นด้วยความขุ่นเคือง
          “แหม ท่านชิโรยาฉะก็คิดมากไปได้พวกเราทำเพื่อความแนบเนียนต่างหากล่ะ ว่าแต่ว่าทำไมต้องพาน้องสาวของฉันมาเสี่ยงด้วยล่ะเนี่ย?”
          คามุอิย้อนถามเมื่อเห็นน้องสาวตนกำลังสนุกอยู่กับการแต่งหน้าให้ชินปาจิซึ่งก็เละแล้วเละอีกจนพูดได้เต็มปากแล้วว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยองที่สุด
          “ห้ามยัยหมวยนั่นได้ที่ไหนล่ะ แกก็ไปห้ามเองซะไป” กินโทกิพยายามขยับชุดให้ตัวเองไม่อึดอัด “แต่ยัยนั่นสัญญาแล้วว่าจะไม่เข้ามายุ่งแค่ขอมาดูเฉยๆ”
          ชายหนุ่มผมสีส้มส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าคางุระจะยอมทำตามอย่างที่ตัวเองได้พูดไว้
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คามุอิจึงบอกซึคุโยะให้ไปตามกลุ่มคนที่จะมาช่วยพวกเขาอีกกลุ่มมาข้างในห้องเพื่อจะประชุมกัน
          ทุกคนที่อยู่ในห้องอยู่แล้วต่างพากันมองผู้ช่วยที่มาเยือน เพียงไม่กี่นาทีกลุ่มที่ซึคุโยะออกไปตามพากันเดินนวยนาดเข้ามาภายในห้อง
          “เฮ้ย ผู้หญิงทั้งนั้นนี่หว่า”
          กินโทกิหันไปพูดกับคามุอิที่กำลังชวนคางุระกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เขามองกลุ่มหญิงสาวในชุดกิโมโนสีสวยไม่เกิน 20 คนด้วยความประหลาดใจเพราะสาวๆพวกนั้นต่างเอาพัดมาปิดหน้าปิดตากันจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร
          “เอ้า พวกเจ้าก็เปิดหน้าทักทายกันซะสิ คนกันเองทั้งนั้น”
          ซึคุโยะบอกกลุ่มสาวที่เพิ่งพากันนั่งครบคน แต่สาวทุกคนกลับอิดออดจนเธอรำคาญจึงจัดการปามีดปักพัดของทุกคนไปติดกำแพง กินโทกิกับชินปาจิอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
          “อย่าบอกนะว่านี่งานอดิเรกของพวกแก สัปดนสุดๆ”
          กินโทกิถามอย่างขยะแขยงเมื่อเห็นฮิจิคาตะกับพรรคพวกแต่งหญิงกันทุกคน
          “ไม่ใช่โว้ยยย!!” ฮิจิคาตะโวย “พวกฉันทำงานกันอยู่ต่างหากล่ะ แล้วทำไมพวกแกถึงเสนอหน้าแต่งหญิงมาที่นี่ได้ล่ะฟะ?”
          “เรื่องมันยาวว่ะ แต่รับรองว่าไม่ใช่งานอดิเรกอย่างพวกแกแน่นอน”
           “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะฟะ!!”
          ฮิจิคาตะโวยวายจนวิกแทบหลุด
          ชินปาจิถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน แล้วแปลกใจเมื่อมองสมาชิกในห้องแต่กลับไม่เห็นร่างของโซโกะแม้แต่เงา
          “แล้วคุณโอคิตะล่ะครับ?”
          หนุ่มแว่นเอ่ยถาม ทำให้คางุระเงยหน้าขึ้นจากอาหารมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินชินปาจิถามถึงโซโกะ
          “อ่ะ .... ทำไมพวกลื้อแต่งชุดกันอย่างนี้ล่ะน่อ งานอดิเรกสิน่อ?”
          “ก็บอกแล้วไงว่าทำงานน่ะทำงาน!!”
           ฮิจิคาตะเริ่มสติแตก แต่คางุระก็ไม่ได้สนใจเธอลุกขึ้นมองหาโซโกะแต่กลับไม่เจอเขา
“อาตี๋นั่นไปไหน?”
          “อย่างนี้ก็ชัวร์ป้าบ โกหกเมียว่าไปทำงานแต่แอบไปกกอยู่กับกิ๊ก”
          กินโทกิพูดขึ้นเมื่อคางุระถามจึงโดนซึคุโยะปามีดใส่หน้าผากแก้แค้นคนปากไม่ดีแทนคางุระที่กำลังเครียด โดยมีฮิจิคาตะมองอย่างสมน้ำหน้าก่อนจะอธิบายให้คางุระฟังว่าโซโกะไปไหน
          “เมื่อหลายวันก่อนตอนที่พวกเราเข้าไปปลอมตัวเป็นพวกมัน กลับโดนจับได้เพราะความประมาทของเจ้ายามาซากิ โซโกะกับฉันก็ไปช่วยพวกที่เป็นสายให้ออกมาตั้งหลักแต่สุดท้ายก็เป็นโซโกะซะเองที่ถูกจับตัวและโดนบังคับเสพยาหลงลืมเข้าไป ตอนนี้หมอนั่นเป็นพวกของเจ้าซาวาดะแล้ว”
          “หนอย!!ไอ้พวกหัวลูกโป่ง เพราะไปช่วยพวกลื้อสามีอั๊วถึงได้ซวยแบบนั้นน่อ!!”
          คางุระโวยวายอาละวาดหยิบดาบไม้โทยาโกะของกินโทกิออกมาฟาดพวกลูกน้องของฮิจิคาตะไม่ยั้งจนชินปาจิต้องลุกขึ้นไปล็อกตัวเธอห้ามไว้
          “ใจเย็นๆนะคางุระจัง เดี๋ยวโซนี่เจมส์ฟ็อกซ์คุงก็หลุดพรวดออกมาหรอก”
          “พวกนั้นมันบ้ารึเปล่า? ให้หมอนั่นเสพยาหลงลืมเพื่อเป็นพวกก็เหมือนกับเอาเด็กทารกไปฝึกงานล่ะว้า”
          กินโทกิพูดถึงเรื่องราวของโซโกะที่ได้ยินจากปากฮิจิคาตะ
          “นั่นแสดงว่าแกยังไม่รู้อะไรสินะ” ฮิจิคาตะหยิบบุหรี่จะขึ้นมาสูบ แต่โดนคามุอิปัดทิ้งอย่างแรงด้วยรอยยิ้ม
          “ขอความกรุณาอย่าสูบบุหรี่นะครับ มันเป็นอันตรายต่อหลานและน้องสาวของฉันนะ”
          “อ่า ลืมไป” ฮิจิคาตะหันมองคางุระที่ยังอาฆาตลูกน้องของเขาอยู่แล้วหันกลับมาพูดถึงเรื่องที่ค้างไว้ “แกคงไม่รู้ว่ายาหลงลืมน่ะมันแบ่งออกเป็นสามประเภทด้วยกัน”
          “สามประเภท?”
          “ใช่ ประเภทที่ 1 คือยาหลงลืมชั่วคราวที่ยัยหมวยได้โดนฤทธิ์เล่นงานไปเมื่อคราวก่อน ยาหลงลืมชั่วคราวนี้ออกฤทธิ์หลงลืมหรือความจำเสื่อมในระยะสั้นๆแต่ก็ไม่ได้ลืมเรื่องทุกอย่างจนหมดสิ้น ประเภทที่ 2 คือ ยาหลงลืมชั่วกาล ออกฤทธิ์อย่างที่โรคุโอะโดนมา ผู้เสพจะมีอาการหลงลืมไปจนถึงต้นกำเนิดของตัวเองและสามารถจดจำได้เพียงข้อมูลที่ป้อนให้จนนึกว่าตัวเองเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความมามารถที่เคยมีก็ต้องมาฝึกกันใหม่หมด”
          “อ่อ เข้าใจแล้วล่ะครับว่าทำไมคางุระจังกับคุณโรคุโอะออกอาการไม่เหมือนกัน”
          ชินปาจิเข้าใจในทันทีเมื่อได้ยินฮิจิคาตะอธิบาย
          “แล้วโอคิตะคุงล่ะ? อย่าบอกนะว่าเป็นประเภทที่สาม?”
          กินโทกิถามถึงโซโกะ ซึ่งฮิจิคาตะก็พยักหน้า
          “ใช่แล้ว เจ้าบ้านั่นเจอฤทธิ์ของประเภทที่ 3 ไป ชื่อของมันคือยาหลงลืมผูกพัน ยานี้ผู้ที่ได้รับจะถูกลบเลือนความทรงจำเป็นเรื่องๆได้แล้วแต่คนที่ป้อนข้อมูลให้ใหม่ต้องการ โซโกะโดนลบความทรงจำเหลือแค่เพียงว่าตนเป็นนักดาบอันดับหนึ่ง มันลืมเรื่องพวกไปเสียสิ้นแล้ว”
          “ใช่ครับ พวกเราพยายามไปช่วยแล้วแต่ก็โดนคุณโอคิตะไล่ฆ่าจนเกือบตายเลยพากันหนีมากบดานที่นี่เพราะคุณคาซึระประสานงานให้กับคุณคามุอิกับพวกเราอยู่นั่นเอง”
ยามาซากิช่วยฮิจิคาตะอธิบายแล้วกรีดร้องเมื่อคางุระกำลังจะทำร้ายเขาอีกรอบ
          “เพราะลื้อ!!! คอยดูน่อถ้าโซโกะไม่กลับมาหาอั๊วล่ะก็ลื้อตายแน่”
          เสียงเปิดประตูดังขึ้น ทุกคนหันไปมองก็พบว่าอาบุโตะเดินเข้ามาในห้อง เขาเดินตรงไปยังคามุอิแล้วเอ่ยปากถาม
          “มาแล้ว จะให้ขึ้นมาเลยดีไหม?”
          “เอาสิ”
          คามุอิอนุญาต อาบุโตะจึงเดินออกไปอีกครั้ง จากนั้นไม่นานซาวาดะและพรรคพวกก็พากันเข้ามาในห้องใหญ่ที่มีทุกคนรออยู่ คางุระใจเต้นตึกตักเมื่อเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่ง เรือนผมยาวสีน้ำตาลอ่อนของเขาถูกรวบไว้ดังเช่นเคย ดูภายนอกแล้วโซโกะก็ยังเป็นโซโกะไม่เปลี่ยนเลยสักนิด แต่ทว่านัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของเขากลับฉายแววตาของนักฆ่าที่ไม่เคยเชื่อใจใครเลยออกมาจนไม่มีใครกล้ามองเขาตรงๆ
          ซาวาดะในชุดข้าราชการขั้นสูงนั่งตรงข้ามกับคามุอิที่เบาะรองนั่งอันนุ่ม เขาเอ่ยปากทักทายกับคามุอิอย่างเป็นกันเอง
          “ไม่นึกเลยจริงๆว่าท่านคามุอิแห่งโยชิวาระจะสนใจสินค้าของพวกเราด้วย”
เสียงดังกังวานบ่งบอกถึงอำนาจของซาวาดะทำให้กินโทกิกับชินปาจิต้องจ้องมองอย่างไม่กระพริบตา แม้ซาวาดะจะมีศีรษะที่ล้านเลี่ยนแต่ยังคงไว้หนวดดกดำได้ร่างกายชายวัยกลางคนอวบอ้วนแสดงฐานะให้เห็นได้ชัดว่าเป็นคนมีอันจะกิน
          “ก็เพราะโอยรันของเรานั้นต่างติดใจรสเสน่ห์ของสินค้าท่านน่ะสิ เราเลยอยากจะตอบแทนให้ท่านกับพรรคพวกได้ลิ้มลองสินค้าขึ้นชื่อของพวกเราบ้าง”
          คามุอิพูดเป็นการเป็นงานจนคนรู้นิสัยของเขาพากันแสลงหู
          “ฮ่าฮ่า ไหนล่ะไหน?”
ซาวาดะถามพลางกวาดสายตามองหา แต่คามุอิเสนอก่อน
          “อย่ามัวแต่ชักช้า เขาไปบริการท่านซาวาดะสิ กินโกะ เทนโกะ”
          ห๋า?
          กินโทกิกับฮิจิคาตะอุทานในใจพร้อมกัน แต่เพราะว่าสถานการณ์บีบบังคับพวกเขาจึงจำต้องลุกขึ้นไปนั่งขนาบข้างซาวาดะ
          “สวยจริงๆ สวยอย่างไม่มีที่ติ”
          ชายหนุ่มหัวล้านขยิบตาให้ทั้งสองสาวกำมะลออย่างเจ้าชู้ และแม้จะอยากอาเจียนแค่ไหน ทั้งกินโทกิกับฮิจิคาตะต้องข่มอารมณ์ไว้
          “ส่วนพวกที่เหลือก็ไปบริการทุกคนซะ แล้วอย่าให้เสียชื่อมาถึงเราได้ล่ะ”
          คามุอิเปิดทางให้แต่ละคนไปประกบพรรคพวกของซาวาดะเพื่อเตรียมพร้อมแผนการจับกุมหัวหน้าค้ายารายใหญ่
          “แหม...รูปงามจริงๆนะคะท่านหนุ่ม”
          ชินปาจิกับยามาซากิเดินไปนั่งขนาบข้างโซโกะที่นั่งดื่มเหล้าเงียบไปไม่สุงสิงกับใคร และถึงแม้จะชวนคุยยังไงโซโกะก็ไม่ได้สนใจพวกเขาสองคนเลย
          “โดนงานหินขนาดนี้ ถ้าอาละวาดขึ้นมาพวกเราจะเอาอยู่เหรอครับ?”
          ยามาซากิหันไปกระซิบกับชินปาจิด้านหลังของโซโกะ
          “ไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดแล้วกันครับ”
          ชินปาจิกระซิบตอบแล้วรีบกลับมายิ้มหวานต่อเมื่อซาวาดะหันมาทางโซโกะ
          “แล้วแกล่ะเทนชินทำไมไม่ดื่มด่ำกับสาวสวยที่นี่” ซาวาดะเอ่ยปากแซวโซโกะที่เอาแต่นั่งดื่ม “ถ้าแกกลัวว่าลูกสาวฉันจะโกรธก็ไม่ต้องกลัวไป ผู้ชายมันก็ต้องมีสังสรรค์นอกบ้านบ้างสิวะ”
          “ลูกสาว?” คามุอิทวนคำอย่างสงสัยเอ่ยปากถามแทนคางุระที่ตอนนี้ซึคุโยะเคยให้เธอใจเย็นไม่ให้ทำแผนแตก “ท่านมีลูกสาว?”
          “ใช่แล้วท่านคามุอิ ตอนแรกก็กะว่าจะให้มาเป็นดองกับท่าน แต่มันดันมาหลงรักเจ้าเทนชินนี่น่ะสิ เดือนหน้าข้ากะว่าจะให้ทั้งสองคนได้หมั้นหมายกันถ้าเป็นเทนชินล่ะก็ข้ามั่นใจว่าจะดูแลกิจการและลูกสาวข้าได้ดี”
          “อ้อ” คามุอิยิ้มแต่เป็นยิ้มที่อาฆาต หากโซโกะหรือเทนชินคนนั้นแต่งงานกับลูกสาวของซาวาดะ เขาเองนี่แหละที่จะฆ่ามันกับมือเพราะนั่นเท่ากับทิ้งน้องสาวของเขาไปโดยไม่สนว่าแม้จะโดนฤทธิ์ยาอย่างที่ฮิจิคาตะเล่าก็ตามที
          ซาวาดะหันไปหาโซโกะอีกครั้งแล้วถาม
           “ว่าไงตกลงจะเลือกใครมาดื่มสังสรรค์ชีวิตโสดของแกดีล่ะ?”
          โซโกะหรือตอนนี้ที่ถูกเรียกว่าเทนชินหันมองรอบห้อง พลันสายตาไปสะดุดกับสาวสวยผิวขาวตัดกับกิโมโนแดงที่อยู่ริมห้อง ผมสีส้มที่ถูกรวบไว้เข้ากับใบหน้างามของเธอดึงดูดเขาไม่ให้ละสายตามอง สายตาทั้งคู่สบกันโซโกะสังเกตเห็นถึงแววตาตัดพ้อและโกรธเคืองมาที่เขา
          ซาวาดะมองตามสายตาของโซโกะแล้วพบกับคางุระ เขาถึงกับตะลึงในความสวยของหญิงสาวแม้ร่างกายของเธอจะดูอวบแต่ก็มีน้ำมีนวลชวนจับต้อง
          “นั่นใครกันรึท่านคามุอิ?”
          “ภรรยาฉันเอง”
          คามุอิโกหกหน้ายิ้ม ไม่สนใจว่าใครจะจับผิดว่าเขาไม่พูดความจริงเพราะเขากับคางุระหน้าตาคล้ายกันมากควรเป็นพี่น้องมากกว่าสามีภรรยา
          “โชคดีจังนะ ที่มีภรรยาสวยขนาดนี้”
          “ขอบคุณที่ชม ดื่มเถอะ”
          ชายหนุ่มผมส้มเติมสาเกลงไปในถ้วยของซาวาดะต่อ ส่วนกินโทกิกับฮิจิคาตะก็พยายามเอาใจเต็มที่
          “กระผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
          โซโกะเอ่ยแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป คางุระเห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามโซโกะไปด้วย
          “คางุระ??”
          ซึคุโยะจะตาม แต่ฮิจิคาตะกับคามุอิส่งสัญญาณเตรียมล้อมห้องเมื่อโซโกะไม่อยู่ สร้างความโล่งอกให้กับชินปาจิกับยามาซากิ เพราะทั้งสองคนไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้โซโกะออกไปจากห้องตามแผนที่วางไว้ โชคดีที่โซโกะออกไปเองพวกเขาจึงไม่ต้องเหนื่อย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา