Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ

9.4

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.

  21 chapter
  861 วิจารณ์
  27.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ความต้องการของฌอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 5 ความต้องการของฌอน

 

 

 

           “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ถ้านายไม่อยากเจ็บตัวอีก” ฉันหันไปจ้องหน้าฌอนด้วยแววตาไม่เป็นมิตรทันทีบวกกับไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด

 

 

 

           เขากับโทโมะไม่ถูกกันแล้วมาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ?

 

 

 

           “เห็นทีคงจะอยากเจ็บตัวอีกมั้งครับ…เหอะ! วันนั้นฉันก็แค่ไม่ทันตั้งตัว แต่วันนี้…หึหึ ” เขาพูดพร้อมกับกระชากแขนฉันอย่างแรงจนเซถลาหันกลับไปแล้วเขาก็จับแขนอีกข้างของฉันไว้จนได้ทำไมพวกผู้ชายมันถึงได้แรงเยอะแล้วก็บ้าพลังแบบนี้เนี่ย!

 

 

 

           “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!>[]<” ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมของฌอน แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งบีบแขนฉันแรงขึ้นกว่าเดิม! แถวนี้ก็ไม่มีใครอยู่ช่วยฉันได้เลย เพราะเมื่อกี้ฉันเดินหนียัยพม่าออกมาไกลจากบริเวณผู้คนมาก อีกทั้งตรงนี้ยังมีแสงไฟสลัวๆ เท่านั้น

 

 

 

           อ๊ากกก! ทำยังไงดีเนี่ย

 

 

 

           “ฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วยเหรอ ฮะๆๆ” เขาถามกลั้วหัวเราะ สายตาเป็นประกายของเขากำลังจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันเหมือนต้องการค้นหา อะไรบางอย่างซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ แต่ฉันเองก็จ้องเขากลับไปเช่นกัน

 

 

 

           “นายต้องการอะไร”

 

 

 

           “ต้องการปั่นหัวไอ้โมะไง”

 

 

 

           ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั๊ย?

 

 

 

           “โอ๊ย! นาย นี่มันโง่ชะมัดเลย คิดว่าทำอะไรฉันแล้วนายนั่นจะรู้สึกอะไรอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้บ้านั่นสักหน่อย” นี่ไอ้บ้าฌอนใช้อะไรคิดเนี่ย โทโมะอยากให้ฉันไปพ้นๆ จากชีวิตเขาจะตาย โถ่!

 

 

 

           “เธอไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนเหรอ หึ!”

 

 

 

           “จากไหนก็ช่าง…ฉัน ว่านายไปสนใจพิมจะดีกว่านะ เพราะนายคงจะสะใจที่ปั่นหัวโทโมะได้เพราะเรื่องเรื่องยัยนั่นมากกว่าฉัน” ฉันเสนอทางเลือกให้แก่คนตรงหน้า…จะว่าฉันร้ายก็ได้นะ แต่ดีซะอีก ถ้าฌอนแย่งพิมไปจากโทโมะได้ ฉันเองก็ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากในการทำให้สองคนนั้นเลิกกัน…

 

 

 

           เพราะมาถึงตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่ายัยพม่าหน้าตุ๊กตาแอ๊บแบ๊วนั่นไม่ใช่คนดีอะไร!

 

 

 

           แล้วก็คงไม่ได้ดีไปกว่าฉันสักเท่าไหร่ เหอะๆ

 

 

 

           “ฉันชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมากกว่า…และเธอก็เป็นน้องสาวของคนที่มันเคารพนักหนา จะว่าไปแล้วเนี่ย…พี่ชายเธอเองก็ไม่ชอบฉันเหมือนกันนะ ใช่มั๊ยล่ะ? และใครก็ตามที่ตั้งตัวอยู่ฝั่งเดียวกับศัตรูของฉัน มันก็คือศัตรูของฉันด้วย!”

 

 

 

           “นี่นาย…” ฉันยื่นนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หมอนี่ต้องการใช้ฉันเป็นเครื่องมือในการทำร้ายโทโมะสินะ…และก็ยังใช้เป็นข้อต่อรองกับพี่ขนมเข่งได้ด้วย อย่างเช่นทำให้พี่ชายฉันมาเป็นพวกเดียวกับเขา! ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ โทโมะตกที่นั่งลำบากเลยล่ะ

 

 

 

           “ฉันว่าเธอมาเป็นของฉันดีกว่านะ…คนอย่างฉันมันน่าตื่นเต้นกว่าไอ้โมะเยอะเลยเธอไม่คิดอย่างนั้นเหรอ…” ฌอนเอ่ยเสียงเนิบพลางค่อยๆ เลื่อนใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของเขาเข้ามาใกล้ฉันจนตอนนี้หน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ!

 

 

 

           “คิดสิ! คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายจะใช้ฉันเป็นข้อต่อรองกับพี่เข่งให้ร่วมมือกับนายทำร้ายโทโมะน่ะ >[]<”

 

 

 

           “ฉลาดแฮะ…ฉันว่าเธอนี่สวยดีเหมือนกันนะ…ทั้งสวย ทั้งฉลาด เธอไม่เหมาะกับคนโง่ๆ หยิ่งยะโสอย่างไอ้โมะหรอก ” ฌอนเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมจนฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่ปะทะเข้ากับใบหน้าของฉันอย่างแผ่วเบา

 

 

 

           ปึก!!!

 

 

 

           “แล้วฉันก็ไม่เหมาะกับคนหลงตัวเองแถมยังขี้อิจฉาอย่างนายด้วย!”  ฉันใช้โอกาสที่เขากำลังเผลออยู่นั้นกระทืบเท้าเขาไปเต็มแรง

 

 

 

           รู้จักแก้วใจน้อยไปซะแล้ว!

 

 

 

           “โอ๊ย! ยัยบ้า!” คนเจ็บร้องโวยวายพร้อมกับปล่อยแขนทั้งสองข้างของฉันให้เป็นอิสระ ฉันจึงเตรียมหันหลังจะเดินหนีเขาทันที แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น…

 

 

 

           ตุ้บ!!!

 

 

 

           “โอ๊ย!!!” จังหวะที่ฉันกำลังจะก้าวเท้าออกไปนั้นแรงกระชากจากฝ่ามือของฌอนที่พุ่งเข้า มายึดไหล่ข้างหนึ่งของฉันเอาไว้ก็ทำให้ฉันเซถลากลับไปแล้วก็หมุนคว้างเมื่อ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของฉันก็กระแทกเข้ากับฝากระโปรงหน้ารถคันหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ นี้ ความเจ็บจากแรงกระแทกที่กำลังแผ่ไปทั่วร่างกายทำให้เหมือนว่าฉันโดนสะกดให้ ร่างกายหยุดนิ่งไม่ยอมขยับตามที่ต้องการ แล้วสายตาของฉันก็เห็นว่าคนที่ทำให้ฉันมาแปะติดกับฝาประโปรงหน้ารถตอนนี้ กำลังย่างสามขุมเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขาหวานน้อยไปกว่าเดิมเลย ฉันบอกเลยนะว่าหมอนี่มันมีนิสัยกับหน้าตาที่ขัดกันสุดฤทธิ์!

 

 

 

           อย่ามัวมาชมคนอื่นอยู่เลยยัยแก้วใจ ตะโกนให้ใครช่วย หรือไม่ก็วิ่งหนีไปจากตรงนี้สักทีสิ!!!

 

 

           ตะโกนอย่างนั้นเหรอ?...มันเจ็บจนพูดไม่ออกเลยตอนนี้!

 

 

 

           วิ่งหนีอย่างนั้นเหรอ…จะก้าวขายังก้าวไม่ออก!

 

 

 

           “แสบนักนะ” ฌอนเดินเข้ามาประชิดตัวฉันแล้วเอื้อมมือมาล็อกข้อมือฉันทั้งสองข้างให้ตรึง ไว้กับฝากระโปรงรถพร้อมกับตัวเขาที่ค่อยๆ โน้มลงมาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ฉันเบือนหน้าหนีทันที

 

 

 

           “ปล่อย…ฉัน” ฉันพยายามเปล่งคำพูดออกมาให้ชัดเจนที่สุด แต่ฌอนก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหัวเราะอยู่ในลำคอเท่านั้น

 

 

 

           “…หึ” เขาซุกใบหน้าเข้ามาที่ซอกคอของฉันจากนั้นก็ส่งสัมผัสที่ทำให้ฉันขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก! ปลาย ลิ้นอุ่นของเขากำลังไล้เลียตามซอกคอไปเรื่อยๆ พร้อมกับส่งเสียงครางออกมาเบาๆ อย่างพึงพอใจ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะหมดแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งพยายามดิ้นและผลักเขาออกไปเท่าไหร่ก็ยิ่งหมดแรง…

 

 

 

           พี่เข่ง…ช่วยแก้วด้วย…

 

 

 

           “กลัวเหรอ?” ฌอนกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะใช้ลิ้นแตะเบาๆ ที่ติ่งหูของฉันก่อนที่จะไล่ต่ำลงไปยังซอกคอตามเดิม

 

 

 

           “ปะ…ปล่อย…” จู่ๆ น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ในหัวของฉันว่างเปล่ายิ่งกว่าห้วงอวกาศด้วยซ้ำ!

 

 

 

           “ตัวสั่นขนาดนี้…พี่ชายเธอคงดูแลมาดีสินะ คงยังไม่เคย…”

 

 

 

           “เฮ้ย!!!”

 

 

 

           พลั่ก!!!

 

 

 

           น้ำเสียงอู้อี้ของฌอนแต่ทว่าฉันได้ยินมันชัดเจนถูกขัดขึ้นจากเสียงตะโกนของใคร บางคนที่วิ่งเข้ามาหาเราสองคน และในขณะที่ตาฉันกำลังจะปิดลงนั้นการที่ร่างของฌอนถูกดึงออกไปจากฉันก็เป็นการเรียกสติของฉันกลับมาได้เป็นอย่างดี!

 

 

 

           ฉันรอดแล้ว!!! >_<

 

 

 

           เขาช่วยฉันเอาไว้…โทโมะ

 

 

 

           ฉันเบิกตาโตเมื่อเห็นหน้าของคนที่มาช่วยฉัน ก่อนที่จะค่อยๆ ทรงตัวเองให้ยืนตรงเป็นปกติ ตอนนี้ฌอนกำลังเดินเซไปตามแรงที่โทโมะดึงและผลักเขาออกไปบวกกับหมัดหนักๆ ที่ตามไปติดๆ นั่นคงทำให้เขามึนอยู่ไม่น้อย

 

 

 

           “ไอ้เลวเอ๊ย!!!”

 

 

 

           พลั่ก!!!

 

 

 

           ด้วยความที่ฉันกำลังดีใจที่รอดจากเงื้อมมือของฌอนอยู่นั้น เสียงตะโกนที่สองซึ่งฉันจำเจ้าของเสียงได้ดีก็ดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่ วิ่งพุ่งเข้ามาผลักโทโมะออกให้พ้นจากรัศมีของเขาก่อนที่จะปล่อยหมัดเข้าไป ที่ใบหน้าของฌอนซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวดีทำให้หมอนั่นเซถลาไปอีกรอบ…

 

 

 

           พี่ขนมเข่ง! มาช่วยฉันแล้ว >_<

 

 

 

           “เมื่อกี่ที่ฉันผลักแกน่ะ ขอโทษทีนะ…ดีที่มาทันเวลา” พี่ชายคนเก่งของฉันหันไปขอโทษโทโมะตอนนี้ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเขาดูขรึมและจริงจังจนเหมือนเป็นคนละคน…เวลาพี่ชายฉันโกรธ เขาก็ดูน่ากลัวแบบนี้แหละ

 

 

 

           “ครับ”

 

 

 

           “พี่เข่งระวัง!” ฉันตะโกนบอกออกไปทันทีเมื่อเห็นว่าฌอนกำลังเดินกลับมาหาพี่ขนมเข่ง สายตาของเขาที่มองมานั้นมันเหมือนจะถลนออกมาก็ไม่ปาน ที่มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเป็นทางยาวจนถึงลำคอ นี่ขนาดโดนไปแค่สองหมัดนะเนี่ย

 

 

 

           พลั่ก!!!

 

 

 

           “อ๊อก!”

 

 

 

           ตุ๊บ!!!

 

 

 

           ด้วยความเร็วของพี่ขนมเข่ง เขาจึงเล่นท่าจระเข้ฟาดหางใส่คนที่ประทุร้ายทันทีโดยไม่หันไปดูตำแหน่งของ เป้าหมายเลยสักนิดและจระเข้ก็ฟาดหางเข้าที่กลางลำตัวของฌอนอย่างเต็มรักด้วย ความแม่นยำจนเจ้าตัวลงไปกองอยู่กับพื้น!

 

 

 

           “เฮ้ยนั่นมันไอ้ฌอน!” เสียงตะโกนเรียกชื่อของคนกองกับพื้นดังมาจากด้านหนึ่งทำให้ฉัน พี่ขนมเข่ง แล้วก็โทโมะหันไปมองทันทีจึงได้เห็นกลุ่มวัยรุ่นร่วมสิบชีวิตที่น่าจะเป็นเพื่อนของฌอนกำลังวิ่งพากันวิ่งมาทางนี้

 

 

 

           “ไอ้โมะ ฝากน้องสาวฉันด้วย…พาไปส่งที่บ้านแล้วแกก็อยู่คุมตัวไว้ที่นั่นจนกว่าฉันจะกลับ! อย่าปล่อยให้หนีออกมาที่นี่เด็ดขาด!!!”

 

 

 

           “ครับ” โทโมะพยักหน้าลงพร้อมกับรับคำด้วยใบหน้านิ่งๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ แต่ฉันนี่สิ…

 

 

 

           “ไม่นะพี่เข่ง! จะกลับก็กลับด้วยกันสิ พี่อยากโดนไอ้พวกนั้นกระทืบตายหรือไง!!!” ฉันพูดพร้อมกับพุ่งเข้าไปประชิดตัวพี่ชายแล้วกระชับมือของเขาเอาไว้แน่น แต่แล้วก็ถูกเขาสะบัดออกจนได้

 

 

 

           “แกคิดว่าฉันกลัวไอ้พวกนั้นเหรอวะ…ไอ้คนชั่วๆ มันต้องได้รับการสั่งสอน หึ!” พี่ขนมเข่งหันมาพูดกับฉันก่อนที่จะประโยคสุดท้ายจะปรายตาไปมองฌอนที่กำลังพยายามจะลุกขึ้นมาจากพื้น

 

 

 

 

           “พี่ไม่กลับฉันก็ไม่กลับ!” ฉันยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองด้วยเสียงแข็งกร้าว เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้พี่ชายตัวเองสู้อยู่คนเดียวแล้วตัวเองหนีกลับบ้านอย่างปลอดภัยล่ะ

 

 

 

 

           “แกมันดื้ออย่างนี้ไง…ไอ้โมะ! เอาแว่นฉันกลับไปด้วย…แล้วก็พาไอ้แก้วออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ไปสิวะ!” พี่ขนมเข่งถอดแว่นแล้วส่งให้โทโมะ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่ฉัน

 

 

 

 

           “ไม่กลับ!!!” สิ้นประโยคคำสั่งจากพี่ชายของฉันโทโมะก็เข้ามาคว้าข้อมือของฉันเอาไว้แน่น ฉันพยายามแกะออกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

 

 

 

           “อย่าลืมที่ฉันสั่ง”

 

 

 

           “ครับพี่หนมเข่ง” โทโมะพยักหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะออกแรงลากให้ฉันเดินตามออกมาจาตรงนั้น…เรื่องอะไรฉันจะกลับล่ะ!

 

 

 

           “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

 

 

 

           “…” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนที่เดินจ้ำอ้าวอยู่ข้างหน้าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

 

 

           “นี่นายไม่เป็นห่วงพี่ชายฉันบ้างหรือไง เขามีบุญคุณกับนายนะโทโมะ! นายทำอย่างนี้ได้ยังไง ทิ้งเขาไว้แบบนั้นได้ยังไง!?” ฉันตะโกนออกไปไม่หยุด หวังว่าเขาจะหยุดเดินแล้วหันกลับมาบ้างเพราะว่าฉันยิ่งพยายามไม่เดินตามเขา และต้านทานแรงดึงเท่าไหร่เขาก็จะออกแรงมากกว่าเดิมจนดูเหมือนตัวฉันจะเบามาก สำหรับเขาที่ไม่ว่าจะฉุด กระชาก หรือลากถูก็ทำได้อย่างสบายๆ

 

 

 

           “หุบปากซะยัยบ้า!” เขาตะโกนตอบกลับมา ใช่สิ…พี่ขนมเข่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของฉันนี่ ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเขา เขาจะมาสนใจอะไรล่ะ!

 

 

 

           “เกิดอะไรขึ้นวะไอ้โมะ!” ฉันมัวแต่ต่อว่าโทโมะอยู่ในใจ รู้ตัวอีกทีเขาก็ลากฉันมาหยุดอยู่ที่กลุ่มเพื่อนของเขาแล้ว เขื่อนถามด้วยเสียงตกใจก่อนที่จะหันมามองหน้าฉันอย่างงุนงง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากนักหรอก เพราะตอนนี้สายตาของฉันกำลังหันไปมองใครบางคนที่กำลังจ้องฉันด้วยสายตาไม่ ไว้วางใจ…พิม ใช่แล้วล่ะ ยัยนั่นกำลังมองมาที่ฉันอย่างคนหวงของ! แน่ล่ะ ก็ตอนนี้โทโมะจับข้อมือฉันไว้ไม่ปล่อยเลยนี่

 

 

 

           “แกรีบไปตามเพื่อนพี่เข่งแล้วไปช่วยเขาทางด้านหลังโน่นเร็วเข้า” โทโมะตอบกลับเสียงเย็น

 

 

 

           “ห๊ะ!” เขื่อนยกมือขึ้นมาเกาหัวทันทีด้วยความไม่เข้าใจ

 

 

 

           “ไม่ห๊ะแล้ว ไปสิวะ!”

 

 

 

           “เออๆ เกิดเรื่องสินะ!” คนโดนสั่งพยักหน้ารัวก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปด้วยสีหน้าเหลอหลา

 

 

 

           “พี่หนมเข่งมีเรื่องกับใคร” ป๊อปปี้เอ่ยถามขึ้นทันทีที่เขื่อนวิ่งออกไปหลังจากที่เขายืนฟังอยู่เงียบๆ นิ่งๆ เหมือนบุคลิกของเขาที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าระหว่างโทโมะกับป๊อปปี้ใครนิ่งกว่ากัน

 

 

 

           “ไอ้ฌอน”

 

 

 

           “ไอ้บ้านั่นก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ” คนที่ได้คำตอบแล้วเลิกคิ้วสูงทันที

 

 

 

           “อืม…วานแกไปส่งพิมที่หอหน่อยนะ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ” โทโมะตอบป๊อปปี้ก่อนที่เหลือบมองฉันด้วยหางตา…หมอนี่มันดูหยิ่งยะโสอย่างว่าจริงๆ นั่นแหละ

 

 

 

           “ทำไม โมะไปส่งพิมไม่ได้คะ แล้วเรื่องสำคัญที่ว่ามันเรื่องอะไร” พิมถามขึ้นอย่างขัดใจ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้

 

 

 

           “คือผม…” คนโดนถามถึงกับทำเสียงอ่อนอึกอักทันที ฉันจึงฉวยโอกาสที่เขาอาลัยอาวรณ์กันอยู่นี้บิดข้อมือออกจากพันธนาการของโทโมะแล้ววิ่งหนีเขาออกมาทันที ฉันวิ่งกลับมาตามทางเดิมที่โดนเขาลากมาเมื่อกี้…พี่เข่งกำลงตกอยู่ในวงล้อมอันตราย! ฉันกลับไปต้องช่วยพี่ชายฉัน!!!

 

 

 

           “ยัยบ้าเอ๊ย!” โทโมะสบถดังลั่นพร้อมกับวิ่งตามฉันมาแล้วคว้าตัวฉันไว้จนได้ คราวนี้เขาไม่ได้จับข้อมือฉันไว้ แต่แบกฉันขึ้นพาดไหล่เขาน่ะสิ!

 

 

 

           “ปล่อยช้านนน~”

 

 

 

           “เธออย่าทำอะไรงี่เง่าสิ้นคิดได้มั๊ยยัยโง่!”

 

 

 

           “นายนั่นแหละที่เป็นไอ้โง่!”

 

 

 

           “…”

 

 

 

           “ไอ้โง่ๆๆ…ไอ้โง่! ปล่อยฉันไปช่วยพี่เข่งเดี๋ยวนี้นะ!>[]<” ฉันพยายามเอามือทุบตีไปที่แผ่นหลังของเขาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย อีกทั้งยังเดินแบกฉันกลับมาหาป๊อปปี้แล้วก็ยัยพม่าจอมเสแสร้งด้วยความรวดเร็ว…ความจริงก็ไม่เร็วหรอก แต่ฉันยังวิ่งไม่ทันถึงไหนก็โดนจับตัวได้แล้วน่ะสิ! TTvTT

 

 

 

           “เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะโมะ” พิมถามขึ้นทันทีที่เรากลับมาถึง ฉันไม่เห็นสีหน้าของเธอหรอกนะเพราะโทโมะยังคงไม่ยอมปล่อยฉันลง

 

 

 

           “เอาเป็นว่าพิมกลับไปกับไอ้ป๊อปนะ แล้วผมจะเล่าให้นะครับ”

 

 

 

           “แต่…”

 

 

 

           "นะครับคนดี”

 

 

 

           คนดี!? ฉันขอคัดค้านคำตัดสินของศาลและให้พิจารณาจำเลยใหม่อย่างถี่ถ้วน!!!

 

 

 

           “ฉันจะอ้วกใส่หลังนายอยู่แล้วนะ ปล่อยฉันลงสักทีสิ!” ฉันบ่นขึ้นด้วยความหมั่นไส้ นี่ขนาดได้ยินแค่เสียงนะเนี่ย ถ้าเห็นหน้าสองคนนี้ด้วยฉันคงปวดอึอยากเข้าห้องน้ำ!

 

 

 

           “แกรีบไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งพิมให้” เสียงป๊อปปี้เอ่ยขึ้นเพื่อตัดบทสนทนา แล้วฉันก็ไม่ได้ยินเสียงของใครพูดขึ้นมาอีกเลย คิดว่าคงใช้สัญลักษณ์ทางหน้าตกลงกันตามประสาคนนิ่งล่ะมั้ง เพราะตอนนี้โทโมะกำลังเดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว และจังหวะที่เขาเดินพ้นสองคนนั้นมา ฉันจึงเงยหน้าขึ้นทำให้เห็นว่าป๊อปปี้กำลังใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ไปมาก่อนที่จะยกขึ้นแนบหู เขาคงโทรหาใครสักคนนั่นแหละ ส่วนพิมนี่ก็จ้องฉันตาเขียว ด้วยความที่อัธยาสัยค่อนข้างดี ฉันก็เลยยิ้มหวานให้เธอพร้อมกับชูสองนิ้วให้ ฮิฮิ สะใจชะมัด!

 

 

 

           โทโมะแบกฉันมาเรื่อยๆ จนมาถึงรถก่อนที่เขาจะเปิดประตูออกแล้วจับฉันยัดลงนั่งที่เบาะข้างคนขับด้วยความรวดเร็วและรุนแรงไร้ซึ่งความปราณีที่ผู้ชายควรมีต่อผู้หญิง TOT

 

 

 

            โป๊ก!

 

 

 

           “โอ๊ย! มันเจ็บนะ!” ฉันร้องโวยขึ้น เพราะเมื่อกี้หัวของฉันกระแทกกับรถเล็กน้อยจังหวะที่เขาเอาฉันลงจากบ่า

 

 

 

           “เหรอ…อืม”

 

 

 

           ปัง!

 

 

 

           โทโมะเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่เขาจะปิดประตูใส่หน้าฉันอย่างแรงและเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็เข้ามานั่งอยู่ในรถตรงตำแหน่งคนขับข้างๆ กับฉันแล้วสตาร์ทรถทันที เสียงเครื่องยนต์ที่ถูกแต่งเพื่อใช้ในการแข่งรถดังกระหึ่มขึ้นเพียงไม่นานรถ ก็เคลื่อนตัวออกจากริกกี้เวย์อย่างรวดเร็วเหมือนเหาะได้! ฉันรีบดึงเบลท์มาคาดทันทีด้วยความหวาดเสียว ความจริงฉันก็ชินกับความเร็วแบบนี้นะ เพราะพี่ขนมเข่งก็ขับแบบนี้ประจำ แต่เพราะฉันเพิ่งเคยนั่งกับโทโมะล่ะมั้งเลยรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อกี้ตอนที่เขายังไม่ขึ้นรถ ฉันน่าจะรีบเปิดประตูแล้ววิ่งหนีกลับไปช่วยพี่ขนมเข่ง…

 

 

 

           เฮ้อ! ก็ตอนนั้นมัวแต่เจ็บหัวอยู่เลยไม่ทันคิดน่ะสิ TTvTT

 

 

 

           ครึ่งชั่วโมงต่อมา…

 

 

 

           “เอากุญแจบ้านเธอมาให้ฉัน” โทโมะบอกเสียงนิ่งพร้อมกับแบมือมาตรงหน้าฉัน

 

 

 

           ตอนนี้เขาขับรถพาฉันมาถึงหน้าบ้านแล้วล่ะ TOT แต่ฝันไปเถอะว่าฉันจะให้กุญแจกับนายน่ะ ฉันไม่ให้นายพาฉันเข้าไปกักขังไว้ในบ้านหรอกย่ะ! พาฉันกลับไปหาพี่ชายเดี๋ยวนี้นะไอ้คนเย็นชา! โฮกกก~

 

 

 

           “ไม่!...นายพาฉันกลับไปริกกี้เดี๋ยวนี้นะ -0-”

 

 

 

           “จะเอากุญแจมาให้ฉันดีๆ หรือจะลงไปเปิดเอง”

 

 

 

           “ไม่ทำอะไรทั้งนั้น!”

 

 

 

           “ตามใจ” เขายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะเปิดประตูแล้วลงไปจากรถ จากนั้นสิ่งที่เขาทำต่อมามันทำให้ฉันมองจนตาเกือบจะถลนออกมานอกเบ้า!

 

 

 

           โทโมะเดินไปหยุดอยู่ที่รั้วดอกไม้สีขาวที่สูงขึ้นมาจากพื้นประมาณหนึ่งฟุตซึ่ง อยู่ริมกำแพงบ้าน ก่อนที่เขาจะดึงรั้วท่อนที่อยู่ช่วงแรกขึ้นมาจากดินแล้วนำขึ้นมาชูไว้ตรงหน้า ตอนนี้มีเชือกที่ใช้ผูกเชื่อมระหว่างฐานของรั้วส่วนที่จมอยู่ในดินกับกล่อง พลาสติกสี่เหลี่ยมใบเล็กๆ กำลังห้อยต่องแต่งอยู่ตรงหน้าของเขา โทโมะฉีกยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ แล้วหันมายักคิ้วเยาะเย้ยฉัน!

 

 

 

           เขารู้ที่ซ่อนกุญแจบ้านของฉันได้ยังไง!?

 

 

 

           หรือว่า…ไอ้พี่เข่งเฮงซวย! ไปบอกคนอื่นทำไมว่าซ่อนกุญแจเอาไว้ที่ไหน อย่างนี้ถ้าโจรรู้ก็สามารถไขประตูเข้ามาปล้นบ้านได้แบบชิวๆ เลยสิ! ไอ้พี่บ้าเอ๊ย! ป่านนี้ไม่รู้ยังมีแรงสู้ไหวหรือเปล่าเนี่ย T^T

 

 

 

           ฉันนั่งเซ็งอยู่ในรถมองารกระทำของโทโมะอย่างไม่ชอบใจ เขาเอากุญแจบ้านออกมาจากกล่อง แล้วนำกล่องฝังกลับลงไปในดินเหมือนเดิมแล้วเอารั้วเสียบไว้ทุกอย่างเป็นได้ ด้วยความเรียบร้อยเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ทั้งกุญแจรั้วและกุญแจบ้านอยูในมือของโทโมะแล้ว ย้ากก! TTvTT

 

 

 

           บรึ้นนน!~ เอี๊ยด!

 

 

 

           โทโมะเปิดประตูรั้วเองเสร็จสรรพ แล้วกลับมาขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถตามอำเภอใจ เสียงเครื่องยนต์ดับลงไปได้สักพักแล้วล่ะ เจ้าของรถก็ลงไปไขประตูบ้านเปิดเข้าไปแล้วด้วย แต่เจ้าของบ้านอย่างฉันยังคงนั่งอยู่ในรถตามเดิม…จนโทโมะเดินกลับออกมาจากบ้านด้วยความสงสัย

 

 

 

           “จะ นั่งอยู่ในนี้จนเช้าเลยมั๊ย” โทโมะเปิดประตูรถฝั่งฉันออกแล้วยกมือขึ้นกอดอกถาม สีหน้าของเขาดูจะยุ่งๆ เหมือนรำคาญฉันประมาณนั้นแหละ

 

 

 

           “เรื่องของฉัน!” ฉันเชิดหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับเขาด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

           “แต่นี่มันรถฉัน”

 

 

 

           “แล้วไงห๊ะ!? ทีบ้านฉันนายยังเปิดประตูเข้าไปเองตามใจเลย”

 

 

 

           “ฉันไม่อนุญาตให้เธอนั่งในนี้จนถึงเช้า…ลง มาได้แล้ว” เขาทำหน้าไม่สนใจที่ฉันพูดแล้วเอ่ยเสียงเรียบตามแบบฉบับของตัวเอง ก่อนที่จะโน้มตัวเข้ามาปลดเบลท์ออกแล้วอุ้มฉันออกมาจากรถทันทีแล้วใช้แผ่น หลังของตัวเองดันประตูรถให้ปิดลง…ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว เร็วจนฉันไม่ทัน…

 

 

 

           “เฮ้ย! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!O[]O”

 

 

 

           ตุ๊บ!!!

 

 

 

           “ปล่อยแล้ว” โทโมะทุ่มฉันลงบนโซฟาอย่างไม่ยั้งมือจนฉันถึงกับจุก! วันนี้ฉันโดนทำร้ายตลอดเลยนะ ทำไมมันซวยอย่างนี้เนี่ย! (<ไปถามหมอดูสิ)

 

 

 

           “ไอ้บ้าเอ๊ย!”

 

 

 

           “…” เขาทำหน้าตายพลางเดินไปล็อกประตูบ้าน แล้วกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กใกล้ๆ กับฉันพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง

 

 

 

           “ล็อกประตูทำไม พี่เข่งกลับมาจะเข้ายังไงล่ะ =.,=” ฉันแกล้งพูดพลางลุกขึ้นเนียนๆ จะเดินไปเปิดประตู…แล้วฉันก็จะวิ่งออกจากบ้านเรียกแท็กซี่ไปที่ริกกี้น่ะสิ! ฮูเร่~ >O<

 

 

 

           หมับ~

 

 

 

           ตุ๊บ!

 

 

 

           “ฉันคงไม่ต้องถึงกับมัดเธอไว้ใช้มั๊ย…คิดว่าไม่รู้เหรอว่าเธอจะกลับไปริกกี้น่ะ” โทโมะเอื้อมมือมาคว้าตัวฉันเอาไว้แล้วเหวี่ยงกลับไปยังโซฟาตามเดิม

 

 

 

           เจ็บนะเฮ้ย!

 

 

 

           “บ้า จริง” ฉันสบถเบาๆ อย่างหัวเสียแล้วเอามือลูบหลังไปมา พลางในหัวก็กำลังคิดว่าจะหลอกโทโมะยังไงให้เขาเผลอแล้วฉันถึงหนีออกไปได้ หมอนี่มันเหมือนผีดิบหน้าตาย! แถมยังบ้าพลังด้วย ถ้าฉันเป็นแฟนกับเขามันจะทำให้ฉันหายดวงตกได้อย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ?

 

 

 

           เอะอะก็เหวี่ยง…เอะอะจับทุ่มเนี่ยนะ?

 

 

 

           บรึ๋ย~

 

 

 

------------------------------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------------------------------------------

 

1 ตอน 1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจดีๆ ที่ส่งให้กันนะคะ :)

สงสารแก้วใจ เหมือนกันนะเนี่ย ดวงตกไม่พอ ต้องมาโดนจ้องข่มขื่นอีก =_= เมื่อไหร่โทโมะจะเห็นใจ หึหึ แต่ท่าจะยากนะ...เจ้าที่อย่างพิมแรงซะ!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา