[Fic Vampire Knight] รัตติกาลสีเงิน

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.49 น.

  15 รัตติกาล
  5 วิจารณ์
  34.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 13.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ดวลดาบและปืน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   “เซโร่......”

    เสียงหวานๆของใครบางคนดังแว่วมากับความฝัน ยูกิงั้นหรอ?

   “เซโร่!!”

    ร่างโปร่งสะดุ้งตื่นก่อนจะมองหาต้นเสียง รอยยิ้มอันอบอุ่นถูกส่งมาจากร่างเล็กผมเงินที่กำลังเท้าเอวมองเขาอยู่

   “อิจิรุ?”

   “ผมเอง เซโร่นี่ขี้เซาจังเลยนะ ผมปลุกยังไงก็ไม่ตื่น”

   ร่างเล็กนั่งลงข้างพี่ชาย เซโร่ถอนหายใจนิดๆแต่ก็ยิ้มออกมา

   “แล้วทำไมอิจิรุถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

   “แน่ล่ะ ผมมาที่นี่ทุกเดือนเลย แล้วนี่ก็ครบกำหนดกลับบ้านของผมแล้วด้วย ตกใจหมดเลยนึกว่าขโมย ที่แท้ก็เซโร่นี่เอง”

    “ทุกเดือน? งั้นที่บ้านยังสะอาดอยู่เพราะอิจิรุมาทำความสะอาดงั้นหรอ?”

    ร่างโปร่งถามอย่างสงสัย ถึงว่าสิ เป็นไปได้ยังไงที่บ้านที่ไม่มีคนอยู่จะสะอาดได้ถึงขนาดนี้

   “ใช่ แล้วเซโร่มาทำอะไรที่นี่? หรือว่าเจ้าหมอนั่นมาด้วย!”

    ร่างเล็กหันรีหันขวาง ชักดาบออกมาทันที เซโร่อมยิ้มน้อยๆกับโรคไม่ถูกชะตากับนายเหนือของร่างเล็ก

    “เปล่า มาคนเดียวน่ะ เกือบอาทิตย์แล้วล่ะ”

   ร่างเล็กยอมเก็บดาบลงแต่โดยที่พี่ชายบอกแบบนั้น ก่อนจะนั่งลงบนตักพี่ชาย          

   “ทำไมเจ้านั่นถึงได้ปล่อยเซโร่มาง่ายๆกันนะ แปลกจัง แต่ช่างมันเถอะ! ผมหิวแล้วอ่ะ ทำซุปมะเขือเทศให้กินหน่อยสิ น้า~”

   ร่างเล็กอ้อนพี่ชาย เซโร่ขยี้ผมสีเงินเบาๆก่อนจะพยักหน้า อิจิรุจึงรีบควงแขนพี่ชายลงมาที่ครัวทันที

   เซโร่เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เช้าแล้ว นี่ถ้าอิจิรุไม่ปลุกเขาคงนอนยาวจนถึงเย็นแน่ ก็บรรยากาศน่านอนจะตาย แถมไม่ต้องไปเรียนด้วย

   อิจิรุนั่งประจำที่ก่อนจะเท้าคางมองพี่ชาย รู้สึกเหมือนได้ครอบครัวกลับมาอีกครั้งยังไงไม่รู้ ได้ทานข้าวด้วยกัน อยู่ด้วยกัน เหมือนฝันไปเลย

   เพียงไม่นานเซโร่ก็ทำมื้อเช้าเสร็จ อิจิรุช่วยพี่ชายจัดโต๊ะอย่างรู้หน้าที่ ของโปรดของทั้งสองถูกยกมาวาง อิจิรุแทบฝาดเรียบไปทันที แต่เพราะเซโร่รู้ใจน้องชายจึงได้ทำไว้เยอะ              

   นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ทำแบบนี้

    “นี่เซโร่......”

   น้ำเสียงของอิจิรุแปรเปลี่ยนไป เซโร่มองน้องชายพลางส่งสายตาเป็นเชิงถามว่ามีอะไร อิจิรุวางช้อนลงก่อนจะสบตาพี่ชาย เซโร่มองน้องชายที่จู่ๆก็แปลกไปอย่างไม่เข้าใจนัก

   “ถ้าเกิดวันนึง......ผมไม่ต้องการเซโร่ เซโร่จะทำยังไงหรอ?”

    ร่างโปร่งชะงักกับคำถาม ถึงแม้ว่าจะเป็นคำถามที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่เซโร่ก็อดใจเสียไม่ได้

   “ถามอะไรแบบนั้น แล้วถ้าอิจิรุไม่ต้องการฉัน อยากให้ฉันทำยังไงล่ะ?”

   เซโร่ถามน้องชายกลับ อิจิรุเลิกทานข้าวพลางสบตากับพี่ชาย

   “ผมอยากให้เซโร่ตายไปซะ เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บปวดเพราะผม.....”

   ร่างเล็กก้มหน้านิ่ง เซโร่มองน้องชายอย่างเอ็นดู ไม่ได้โกรธกับคำพูดของน้องชาย และเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี

   “งั้น......ถ้าอิจิรุไม่ต้องการฉัน จะฆ่าทิ้งไปเลยก็ได้นะ อย่างอิจิรุน่ะทำได้อยู่แล้ว”            

   ร่างโปร่งยิ้ม อิจิรุมองพี่ชายก็จะร้องไห้ เซโร่ลุกพรวดไปกอดน้องชายทันที อิจิรุไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าเขาสักครั้ง แต่ว่านี่กลับ....

    “ผมน่ะ....ไม่มีทางเกลียดเซโร่ หรือว่าไม่ต้องการเซโร่ได้หรอก! ผมรักเซโร่นะ! รักที่สุดเลยด้วย อย่าที่ทิ้งผมไปนะ....”

   ร่างเล็กกอดพี่ชายแน่น เซโร่อมยิ้มน้อยๆ อิจิรุอาจจะมีเรื่องทุกข์ใจหรือว่าลำบากอยู่ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร เขาจะช่วยร่างเล็กให้พ้นจากความทุกข์เหล่านั้นเอง

   ก็เป็นน้องชายที่แสนน่ารักของเขานี่นะ

   “ไม่ทิ้งหรอก เราจะอยู่ด้วยกันนะ อีกอย่าง อิจิรุทำอาหารไม่เป็น เกิดฉันไม่อยู่มีหวังอดตายแน่เลย”

   ร่างโปร่งพูดติดตลก อิจิรุยิกเอวพี่ชายด้วยความอาย เซโร่ร้องลั่นก่อจะหัวเราะ ร่างเล็กไม่กล้ามองพี่ชายเอาแต่ซุกหน้าอยู่กับอกของอีกฝ่าย ถูใบหน้าไปมากับเสื้อพี่ชาย

    รักที่สุดเลย พี่ชายของผม......

   

   “คานาเมะ!!”

   ร่างสูงที่กำลังหลับอยู่ลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก แวมไพร์ผมทองเปิดประตูพรวดเข้ามาในห้องนอนของนายเหนือแวมไพร์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต

    “อิจิโจ มีอะไร......”  

   “เจอแล้ว! เจอตัวเซโร่แล้ว! ตอนนี้อยู่ที่บ้านหลังเก่า บ้านของตระกูลคิริวที่นายดูแลให้น่ะ แต่ว่าตอนนี้พวกสมาคมฮันเตอร์กำลังส่งคนไปเก็บเขา!”

   “คิริว อิจิรุ”

   ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีแดงเข้มมองไปยังเตียงฝั่งตรงข้าม นอนคนเดียวมันก็เหงาเหมือนกันแฮะ

   “ใช่! นายจะรออยู่แบบนี้ไม่ได้นะ! เซโร่ยอมให้อิจิรุคุงฆ่าแน่! นายจะเสียเขาไปนะ!”

   อิจิโจมองคานาเมะที่ยังไม่ยอมขยับลงจากเตียง เซโร่อาจจะรู้แล้วว่าอิจิรุคิดจะทำอะไร แล้วเขาต้องยอมน้องชายแน่!

   “ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะอิจิโจ ถึงผมไปเซโร่ก็เลือกที่จะตายด้วยมือของน้องชายอยู่ดี”

   พลัวะ!!

   หมัดเน้นๆลอยเข้าที่ใบหน้าของนายเหนือแวมไพร์อย่างแรง คานาเมะไม่ยอมพูดอะไรแม้จะโดนต่อย อิจิโจวิ่งออกไปจากห้องทิ้งนายเหนือแวมไพร์เอาไว้ด้านหลัง

   พวกเขาต้องรับผิดชอบที่พรากความเป็นมนุษย์ของเขามา!!

 

    “แล้วเธอก็ไม่ทำอย่างนั้นรึ? คิริว อิจิรุ”

    ท่ามกลางความหนาวเย็นของหิมะที่ตกลงมา ร่างๆหนึ่งกำลังเอ่ยปากกับบุคคลตรงหน้า

   “ผมทำไม่ได้...ไม่สิ ผมจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด!!"

   ร่างเล็กผมเงินประกาศกร้าว ชายที่มีรูปร่างและผมยาวสีม่วงอ่อนกำลังโบกพัดในมือไปมาทั้งๆที่อากาศหนาวเย็น สวมกิโมโนราคาแพงยืนอยู่ท่ามกลางหิมะ ดวงตาดวงจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า

   คนที่เขาส่งมาเป็นมือสังหารฆ่าคิริว เซโร่

   “หัวหน้าสมาคม ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วยครับ! เซโร่ไม่ได้ทำผิดกฎเลยสักอย่าง แล้วยังทำหน้าที่ได้ดีกว่าคนอื่นอีกด้วย!”

    “การที่เขาเป็นแวมไพร์นั่นแหละที่ทำให้พวกเราเสื่อมเสียเกียรติ โดนพวกสภาสูงสุดของแวมไพร์ดูหมิ่น และยังโดนนายเหนือแวมไพร์หยามหน้า ในเมื่อเธอทำไม่ได้ ฉันจะส่งคนอื่นไปทำแทน”

    จบคำพูดของหัวหน้าสมาคม ร่างของแวมไพร์ฮันเตอร์ห้าคนก็ปรากฏตัวรอบกายอิจิรุ ร่างเล็กเบิกตากว้างเมื่อเห็นพวกเขา ฝีมือของคนที่อยู่ตรงหน้ามากพอที่จะโค่นนายเหนือแวมไพร์ได้เลย!

    “ถ้าเธอขวางเรา เราจะฆ่าเธอเหมือนกัน คิริว อิจิรุ”

   “หรอ?”

   คำพูดที่ไม่สะทกสะท้านเอ่ยออกมาจากริมฝีปากบาง ทุกคนตะตะลึง หัวหน้าสมาคมถึงกับหน้าถอดสี ไม่ใช่เพราะมันเป็นคำพูดของอิจิรุ แต่เป็นเพราะคำพูดของเซโร่ต่างหาก!              

   “เมื่อกี้บอกว่าจะฆ่าอิจิรุสินะ หัวหน้าสมาคม”

   พริบตาเดียว ร่างโปร่งของเซโร่ก็ปรากฏตัวข้างกายของน้องชาย มือเรียววางลงบนไหล่เล็กของคนน้องก่อนจะส่งยิ้มให้ อิจิรุเบิกตากว้างเมื่อเห็นพี่ชายมาที่นี่

   “ทำไมล่ะ ทำไมเซโร่ถึงมาที่นี่?”

    “ก็มาช่วยน้องชายขี้แงยังไงล่ะ ของมันรู้ๆกันอยู่”

    ดวงตาสีม่วงอ่อนตวัดมองหัวหน้าสมาคมอย่างเยือกเย็น มองฮันเตอร์อีกห้าคนที่ล้อมเขาไว้  เพียงไม่กี่วินาทีหัวหน้าสมาคมก็หัวเราะลั่น

   “เยี่ยมมาก! คิริว อิจิรุ! ที่เธอไม่ยอมฆ่าเพราะจะล่อคิริว เซโร่ มาที่นี่ใช่มั้ย? ดีมาก โดดเข้าในวงศัตรูแบบนี้นับว่าเยี่ยมมาก!”

   “ไม่ใช่นะ! ผมไม่ได้ทำแบบนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นจริงๆนะ!”  

   เซโร่ลูบผมน้องชายอย่างเอ็นดู เขาเชื่อสิ่งที่น้องชายพูดเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะแย่แค่ไหนก็ตาม

    “ฉันเชื่ออิจิรุนะ ก็เพราะอิจิรุไม่เคยโกหกฉันยังไงล่ะ”

   “เซโร่.....”

   ร่างเล็กเอ่ยเรียกพี่ชายเสียงแผ่ว เซโร่ดึงน้องชายมาไว้ในอ้อมแขนราวกับจะปกป้อง ดวงตาสีม่วงอ่อนตวัดมองศัตรูอย่างเยือกเย็น

    “ถึงเวลาเอาคืน”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา