The trap of the heart กับดักของหัวใจ

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  9 chapter
  416 วิจารณ์
  14.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2559 11.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) PERMIT

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

CHAPTER 05

 

 

               ฉันเงยหน้ามองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนผนังด้วยความเบื่อหน่ายสุดๆ โทโมะเอาแต่นั่งดูทีวีอย่างสบายใจเฉิบและลากฉันมานั่งแหมะอยู่บนพื้นโดยไม่สนว่าฉันจะรู้สึกยังไง เขาไม่ให้ฉันนั่งโซฟาแล้วอ่ะ เป็นบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้

 

 

 

               ส่วนเรื่องที่เขาคุยกับน้องสาวฉัน โทโมะไม่ได้เอ่ยปากพูดเรื่องนั้นออกมาเลยสักนิด แถมเขายังเงียบมาตลอดทาง จริงๆ ฉันก็ช็อคที่เห็นภาพน้องฉันกำลังจูบกับเขานะ แต่ช่างเขาสิ มากกว่าจูบเขาก็เคยทำกันมาแล้วนี่

 

 

 

               แล้วฉันจะโมโหบ้าบออะไรวะ!

 

 

 

               ฉันที่เหลืออดก็ตัดสินใจลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ เขา โทโมะชายตามองมาที่ฉันอย่างเงียบๆ ฉันแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขาก่อนจะคว้ารีโมทที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกขึ้นมากดหา ช่องที่มีสาระมากกว่าหนังแนวอีโรติกบ้าๆ นี่

 

 

 

               “เปลี่ยนทำไม” โทโมะหันมาถามก่อนที่มือจะแย่งรีโมทไปอย่างรวดเร็ว ฉันจิปากใส่เขาอย่างเหลืออด เถียงกับนายนี่เหมือนกัดกับหมาไม่มีผิด

 

 

 

               “ไม่ชอบหรือไงหนังบันเทิงจรรโลงใจ”

 

 

 

               โทโมะ เปลี่ยนช่องไปที่หนังเรื่อง พิศวาสทะลวงทรวง แค่ชื่อฉันก็รู้สึกโหว่งแปลกๆ แถมหนังก็ยังเป็นพระเอกโรคจิตที่ข่มขืนหญิงสาวที่เขาจับมาเป็นทาสรับใช้ภายในบ้าน แล้วก็เกิดรักกันชอบพอกัน ผู้หญิงคนนั้นก็สมยอมตลอดมา เหอะ! ทำไมฉันต้องมาเจอหนังอุบาทว์อะไรยามนี้ด้วยนะ

 

 

 

               “นายช่วยดูหนังอย่างอื่นที่มันดีกว่านี้ได้ไหม” ฉันหันไปแว้งเขา

 

 

 

               “นี่ก็ดีนะ กระชุ่มกระชวย” สายตาโทโมะยังคงนั่งมองฉากพระเอกเปิดกระโปรงทาสสาวอย่างตั้งอกตั้งใจ

 

 

 

               ฉันอยากจะฆ่าเขาแล้วเอากุญแจห้อง กุญแจรถฉัน และโทรศัพท์มือถือของเขามาให้รู้แล้วรู้รอด ในสภาพฉันตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับทาสรับใช้ในหนังนั่นสักนิด ที่สำคัญฉันยังไม่ได้อาบน้ำสักขันเดียว ข้าวที่หมอนี่ให้ฉันกินก็เป็นเพียงสปาเก็ตตี้ที่เหลืออยู่ในตู้เย็น

 

 

 

มีใครให้ความทรมานที่สาสมแก่ใจมากกว่านี้ไหมคะ!

 

 

 

               “โรคจิต” ฉันสบถใส่เขา

 

 

 

              "ชอบปะละ" โทโมะเล่นหูเล่นตา เขาเอียงหน้ามาใกล้ฉันก่อนจะหลุบตาลงต่ำเหมือนมองขาฉันด้วยสายตาหื่นๆ

 

 

 

               "ในหัวนายนี่มีแต่เรื่องแบบนี้รึไง"

 

 

 

               "ในหัวเรามีแค่แก้วใจนะ :)"

 

 

 

               ฉันสะอึกไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดกึ่งเล่นกึ่งหยอกของเขา

 

 

 

               "มาเล่นมุกแบบนี้ คิดว่าฉันใจอ่อนหรือไง"

 

 

 

               "ไม่ใจอ่อนเลยเหรอ" โทโมะเริ่มรุกด้วยการใช้มือบีบแก้มฉันเบาๆ ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ฉัน ตอนนี้ใจฉันเต้นผิดจังหวะสุดๆ ยิ่งพอมาเห็นใบหน้าใกล้ๆ ของเขาอีกครั้งฉันยิ่งทำอะไรไม่ถูก อันตราย หมอนี่มันอันตราย!

 

 

 

               "ฝันไปเหอะ" ฉันเหอะใส่ลำคอเบาๆ

 

 

 

               โทโมะยู่จมูกขึ้นก่อนจะปล่อยแก้มฉันเป็นอิสระ เขาหันกลับไปดูทีวีหนังเรื่องโปรดของเขาต่อ

 

 

 

               ฉันเบ้ปากใส่เขาก่อนจะเบี่ยงหน้ามองหาบางสิ่งบางอย่าง

 

 

 

               เอ๊ะ…ในครัวมีอะไรที่สามารถเอามาขู่เขาได้มั้งนะ…

 

 

 

 

               พอฉันคิดได้แบบนั้นฉันจึงชำเลืองคนข้างๆ พอเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรฉันนอกจากหนังที่ดูอยู่ ฉันจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินเลี้ยวไปที่ห้องครัวเป็นการด่วน มันต้องมีมีดหรืออีโต้ที่สามารถเอาไว้สับหัวนายนั่นได้ไม่อย่างใดก็อย่างนึง ล่ะวะ พอฉันมาถึงห้องครัว สิ่งที่ฉันเห็นคือเคาน์เตอร์ว่างเปล่า มีเพียงช้อนส้อมที่ใส่ภาชนะเล็กๆ เอาไว้ พอฉันเปิดลิ้นชักหรือตู้เก็บของก็ไม่พบของมีคมอะไรทำนองนั้นเลย เขาคงไม่คิดจะทำครัวเลยสินะ

 

 

 

               ฉันยืนครุ่นคิดอยู่สักครู่ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบส้อมที่อยู่ในกล่อง ก่อนจะเอามาถือไว้พลางมโนว่ามันคือมีดที่คมที่สุด อย่างน้อยก็สามารถแทงคอหอยเขาตายได้ล่ะน่า

 

 

 

               ฉันซ่อนส้อมเอาไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินออกมาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง แต่ความผิดคาดก็เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อฉันออกมากลับไม่พบคนที่ฉันต้องการจะเจอ…

 

 

 

               โทโมะหายไปแล้ว…

 

 

 

               ฉันชะเง้อดูในห้องน้ำและระเบียงก็ไม่เห็นเขาจะอยู่ที่ใดสักแห่ง หรือว่าเขาอยู่ในห้องนอน ฉันไม่รอคิดให้วุ่นวายรีบก้าวเท้าไปที่หน้าห้องนอนเขาก่อนจะค่อยๆ แง้มประตูเข้าไปห้องนอนของเขาดูสะอาดตาเอามากๆ แถมยังเนี้ยบสุดๆ เตียงสีขาวกว้างเหมาะกับห้องสีขาวสะอาดที่มีไฟสีเหลืองนวลตกแต่งอยู่ด้านบน ทำให้บรรยากาศภายในห้องน่านอนขึ้นเยอะเลยแหะ

 

 

 

กริ๊ก!

 

 

 

ขวับ! O_O

 

 

 

               ฉันรีบหันกลับหลังเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองก้าวเข้ามาในห้องจนเกินทางเข้าประตูห้องนอนเป็นที่เรียบร้อย และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือคนที่อยู่หน้าประตูและทำการล็อกมันเมื่อครู่ คือเจ้าของห้องที่ฉันตามหาอยู่

 

 

 

               “หาฉันอยู่เหรอ คิดถึงอ่ะดิ” เสียงยั่วยวนของโทโมะ ทำเอาฉันถอยหลังกรูด อีกนิดคงจะติดขอบเตียงนอนเขาแน่ๆ

 

 

 

               “อย่าเข้ามา!” ฉันใช้จังหวะนี้ชูส้อมขึ้นมาก่อนจะชี้หน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

 

               “ฉันสามารถแทงนายสองทีที่เดียวหกรูเลยนะ! กลัวฉันสิ”

 

 

 

               โทโมะไม่ลดละเลิกราที่จะเดินเข้ามาเรื่อยๆ เขาเสยผมหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ฉันแทงนายจริงนะ กลัวกันหน่อยสิวะ!

 

 

 

               “จะฆ่าฉันทั้งทีนี่ช่วยหาวิธีที่ดีกว่านี้หน่อยสิ แบบนี้เด็กเขาเล่นกัน”

 

ตุ๊บ!

 

 

 

               และด้วยความที่ฉันเอาแต่ถอยหลังโดยไม่ห่วงด้านหลัง ทำให้เท้าฉันติดกับขอบเตียงและทำให้ตัวของฉันหล่นสู่เตียงสีขาวนี้อย่างง่ายดาย ฉันรีบใช้จังหวะนี้ดันตัวเองเพื่อจะได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งแต่ช้าไป เพราะโทโมะดันกระโดดมาคร่อมตัวฉันเป็นที่เรียบร้อย

 

 

 

               “จะ จะทำไร!” ฉันพยายามจะเอาส้อมในมือแทงตัวเขา แต่เพราะมือที่แสนไวของเขาตอนนี้มือของฉันอยู่ในพันธะการจับกุมของเขาเป็นที่เรียบร้อย

 

 

 

               “ฉันไม่ตลกนะโทโมะ ออกไป!”

 

 

 

               “คิดบ้าอะไรอยู่ถึงจะทำร้ายร่างกายฉัน หืม?” โทโมะเลิกคิ้วถามเป็นเชิงกวนๆ

 

 

 

               “ฉันอยากกลับคอนโด ฉันไม่อยากอยู่กับนาย จบนะ!”

 

 

 

               “และก็อยากจะวิ่งหน้าตั้งไปแจ้งตำรวจด้วยสินะ”

 

 

 

               “เออ!”

 

 

 

               ฉันไม่เบี่ยงประเด็นแต่เลือกที่จะตะคอกใส่หน้าเขาไป โทโมะพยักหน้าพลางเบ้ปากเหมือนระอากับคำพูดฉัน คนที่เอือมควรเป็นฉันมากกว่าไหมโทโมะ

 

 

 

               “เมื่อกี้ ดูหนังแล้วเจอฉากนึง…” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ เหมือนกระซิบเพื่อให้ได้ยินแค่สองคน แต่ตอนนี้คือเราอยู่กันสองคนไงล่ะ!

 

 

 

               “พระเอกจับนางเอกข่มขืนแล้วถ่ายคลิปเก็บไว้”

 

 

 

               “แล้วไง!”

 

 

 

               “น่าสนใจดีนะ ดูสนุกดี เธอไม่อยากสนุกด้วยเหรอ”

 

 

 

               “ปัญญาอ่อน” ฉันพ่นคำด่าใส่หน้าเขาอีกครั้งแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทบสะท้านอะไร คนด้านบนยังคงกดแขนฉันไว้ทั้งสองข้างเหมือนเดิม เขาค่อยๆ เคลื่อนสายตาไปด้านขวาของเขา นั่นจึงทำให้ฉันมองตามเขาไปทันที

 

 

 

               กล้องวิดีโอตั้งสง่าอยู่บนตู้เสื้อผ้า แถมยังมีไฟสีแดงกระพริบเพื่อบ่งบอกว่าในตอนนี้มันกำลังทำงานในการอัดวิดีโออยู่ จะดีมากถ้ามันไม่หันเลนส์มายังเตียงที่ฉันกับเขากำลังทำท่าส่ออีโรติกนี่อยู่!

 

 

 

               “เริ่ม!”

 

 

 

               “เริ่มอะไร” ฉันรีบพูดดักเขาขึ้นเมื่อโทโมะกำลังจะก้มหน้าลงมาประชิดหน้าฉัน คนด้านบนชะงักไปอีกครั้งก่อนจะยืดตัวตรงตามเดิม

 

 

 

               “ทำตามหนังไง ฉันก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง”

 

 

 

               “ไม่ตลกนะโทโมะ ปล่อยฉันซะ”

 

 

 

               โทโมะส่ายหน้าให้ฉันแทนคำตอบ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นทำเอาฉันอยากจะกัดหูเขาให้ขาดไปทันที

 

 

 

               “สัญญา จะทำอย่างเบามือ”

 

 

 

               เขาไม่รอให้ฉันเถียงอะไรทั้งนั้นหลังจากที่เขาเสร็จ คนด้านบนก็ก้มหน้าลงมาจรดปลายจมูกลงบนแก้มฉัน ฉันพยายามเบี่ยงหน้าหลบกับสิ่งที่เขาทำ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งฉันพยายามดื้อ เขาก็ยิ่งชอบและอยากทำมากเท่านั้น

 

 

 

               “โทโมะ…”

 

 

 

               “ชู่ว…” โทโมะเคลื่อนหน้ามาก่อนจะใช้ริมฝีปากปิดปากฉันเป็นเชิงให้เงียบไป ฉันนิ่งชะงักกับสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่ เขาจูบฉันอีกแล้ว แต่ครั้งนี้กลับเหมือนเด็กจุ๊บกันยังไงไม่รู้

 

 

 

               “เวลาเธออยู่ในชุดของฉันนี่มันเซ็กซี่เป็นบ้า”

 

 

 

               “หยุดทำแบบนี้” ฉันห้ามปรามเขาอีกครั้งเมื่ออยู่ๆ เขาก็เคลื่อนใบหน้าลงไซร้ซอกคอก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงเนินอกของฉัน ฉันรู้ว่าต่อให้พยายามดิ้นเท่าไรฉันก็ต้านแรงเขาไม่ได้อยู่ดี และถ้าฉันยิ่งด่าเขา เขาก็ยิ่งมีอารมณ์โมโหอยากทำร้ายฉันมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นได้ตอนนี้…

 

 

 

               “นึกถึงหน้าน้องฉันด้วย”

 

 

 

               โทโมะ ไม่พูดอะไร เขาไม่ฟังฉันแล้ว คนด้านบนเลิกชายเสื้อยืดของฉันขึ้น ในตอนนี้มือของเขากำลังเล่นซุกซนอยู่บนตัวฉัน ความรู้สึกอึดอัดและอยากที่จะเดาทำให้ฉันจุกจนพูดไม่ออก เขากำลังจะปฏิบัติกับฉันอย่างจริงๆ จังๆ แล้วสินะ…

 

 

 

               “น้องเธอไม่ใช่ของฉัน เธอต่างหาก…” ฉันไม่ได้จับใจความที่เขาพูดเพราะมัวแต่ช็อกกับสิ่งที่เขากำลังทำให้ฉัน

 

 

 

               ฉันกำลังแพ้ แพ้จนไม่สามารถหนีให้หลุดออกมาจากห่วงอารมณ์เขาได้เลย

 

 

 

 

               “อืม…”

 

 

 

-TOMO SAY-

 

 

 

               “ขอนะ…”

 

 

 

               ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดไปอย่างงั้น ผมใช้มือข้างขวาของผมรวบแขนทั้งสองของเธอให้อยู่ในความจำยอมเพราะน้ำมือผม ส่วนมือที่เหลืออีกข้างของผมกำลังเล่นซุกซนอยู่ใต้เสื้อยืดสีขาวของร่างบาง ด้านล่าง ผมใช้ช่วงจังหวะที่เธอไม่ขัดขืนอะไรค่อยๆ ถอดเสื้อเธออก ตามด้วยเสื้อของผม ดูท่าว่าเธอเริ่มจะใจอ่อนและหมดแรงกับการขัดขืนของผมแล้วล่ะ

 

 

 

               เนินอกขาวเนียนภายใต้เสื้อในสีดำที่ปกคลุมเอาไว้ ในตอนนี้ผมได้เห็นชัดกว่าเมื่อเช้า ผมกัดปากตัวเองเพราะความหมั่นเขี้ยวสุดๆ สองมือของแก้วเริ่มดันหน้าอกผม แต่ต่อให้เธอดันมันก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอก ผมใช้สองมือช้อนตัวเธอขึ้นก่อนจะปลดตะข้อสิ่งที่บดบังสิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุด ผมไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ผมกำลังสนุกหรืออยากได้ แต่ที่รู้ๆ คือ

 

 

 

               ผมอยากได้เธอไว้ครอบครองคนเดียว...

 

 

 

 

               ผมใช้สองมือสัมผัสร่างกายอย่างเบามือ ร่างบางเริ่มเบี่ยงตัวหลบเพราะการกระทำของผม

 

 

 

               “อย่า…” แก้วใจพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องอีกครั้ง น้ำใสๆ ที่คลอเบ้าตาของเธอ ทำให้ผมก้มลงใช้ปากจูบน้ำตาของเธอ อย่าสิ…อย่าทำให้ผมทรมานเพราะความสงสารสิ

 

 

 

               “ขอโทษ…แต่ฉันต้องทำ…” ผมจัดการปลดเบื้องล่างของเธอและผมออกในเวลาไล่เลี่ยกัน

 

 

 

               “ทนหน่อยนะ”

 

 

 

               ผมค่อยๆ แนบหน้าเคล้าคลอที่ซอกคอเธอเบาๆ ก่อนจะบรรเลงความบันเทิงของสองเรา แก้วเกร็งตัวเมื่อได้รับสิ่งที่ผมตั้งใจจะมอบให้ เธอแอ่นตัวรับความเจ็บปวดทั้งหมดไป เสียงลมหายใจติดขัดของเธอและผมประสานกันจนมันสื่อออกมาไม่ได้ จังหวะเร่งเร้าอย่างเบาๆ ก่อนจะเข้าสู่จังหวะความสุขของผมและเธอ มือของผมปาดน้ำตาของเธอที่ไหลอาบแก้มเพราะความเจ็บ เสียงเรียกร้องของเธอไม่ส่งผลอะไรกับกิจกรรมของสองเราแล้วในตอนนี้

 

 

 

               “โทโมะ…ฉันเจ็บ…”

 

 

 

               ร่างบางกอดรัดตัวผมแน่น ร่างกายของเราสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสียงหอบเหนื่อยยังคงดังต่อเนื่อง ผมกัดฟันแน่นเมื่อมันเริ่มถึงสิ่งที่ผมต้องการจากเธอ

 

 

 

               “อื้อ"

 

 

 

               "โทโมะ..."

 

 

 

               "อา…แก้ว”

 

 

 

               ผมกอดร่างบางเมื่อมาถึงจุดที่หลั่งความสุขอย่างเต็มเปี่ยม แก้วคลายความเกร็งลงทันที มีแค่เสียงหอบแหนื่อยใต้ร่างและเหงื่อที่ชุ่มไปทั่วตัว ผมค่อยๆ ใช้นิ้วเขี่ยผมที่ปิดบังหน้าเธอ ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากและไล่ลงมาที่ปากเธออีกครั้ง

 

 

 

               “นาย ฮึก…”

 

 

 

               “อย่า…” ผมยกมือปาดน้ำตาให้เธออีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ สวมกอดเธออย่างบางเบาที่สุด อย่างน้อยผมก็เหมือนได้สิ่งที่อยากต้องการแล้ว

 

 

 

               “…”

 

 

 

               “ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง”

 

 

 

-KAEWJAI SAY-

 

 

 

               ฉันผลักร่างสูงบนตัวฉันออกด้วยอารมณ์ที่รู้สึกช็อกไม่หาย เขากำลังทำฉันแปรปรวนไปหมด โทโมะไม่พูดอะไร เขาได้แต่นั่งมองฉันแต่งตัวและออกจากห้องเขาไป แม้แต่หน้าเขาฉันก็ไม่อยากมองแล้วตอนนี้ ฉันคิดบ้าอะไรอยู่ถึงปล่อยให้ไอ้บ้านั่นคุกคามร่างกายฉันได้ ฉันหลับตาหวังให้มันเป็นเพียงฝัน แต่ไม่เลย…

 

 

 

               ฉันยังคงรู้สึกเจ็บทั้งใจทั้งร่างกาย มันยังไม่หายไปไหน

 

 

 

               ฉันปิดประตูห้องโทโมะ ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงโซฟาด้วยความคิดที่ตีกันวุ่นวาย นั่นคนที่ทำน้องสาวแกนะเว้ยแก้ว แกมาจบทุกอย่างกับมันไม่ได้ แกกำลังทำผิด ถ้าต้าร์รู้เรื่องนี้ล่ะ…

 

 

 

               โธ่เว้ย!

 

 

 

               โทโมะ ออกมาจากห้อง เขาเกาหัวแก้เก้อออกมาหยุดอยู่หน้าห้องก่อนจะยืนมองฉันแบบเก้ๆ กังๆ ฉันหันไปมองเขาแต่เขาก็หลุบหลบสายตาฉันอย่างท่วงที ทีงี้ล่ะมาไม่กล้า ไอ้บ้าเอ้ย!

 

 

 

ตุ๊บ!

 

 

 

               ฉันจัดการคว้าหมอนบนโซฟาปาใส่ตัวเขาไปด้วยอารมณ์คลุมเครือ ในตอนนี้แค่เห็นเสื้อผ้าเขาในตัวฉันมันก็น่าหงุดหงิดไปหมดแล้ว โทโมะปรายตามองหมอนที่โดนตัวเขาชั่วครู่ก่อนจะก้มลงหยิบมันแล้วเดินตรงมาที่โซฟาที่ฉันนั่งอยู่

 

 

 

               “เรื่องคลิป…” โทโมะไม่พูดเปล่าเขายังถือกล้องตัวนั้นขึ้นมาให้ฉันเห็นเจ็บใจเล่นอีก

 

 

 

               “ปล่อยคลิปเลยสิ” ฉันพูดดักเขาขึ้น จริงสิ เขาถ่ายเก็บเอาไว้นี่ ถ้าสนุกมากก็ทำ ฉันจะได้ดังทั้งพี่ทั้งน้องเลยเป็นไงล่ะ

 

 

 

               “ฉันไม่ปล่อย…เพราะฉันรู้ว่าเธอไม่กล้าให้ฉันปล่อยหรอก”

 

 

 

 

               “จะเอามันมาขู่อะไรฉันดีล่ะ เรื่องแจ้งตำรวจเหรอ ขอโทษนะต่อให้ไม่มีคลิปนั่นฉันก็จะแจ้ง”

 

 

 

               “ฉันเดาทางเธอไม่ออกหรอกนะ แต่ที่แน่ๆ คลิปนี่สามารถเอาไว้ต่อรองระหว่างฉันกับเธอได้ ถ้าคิดว่าไม่แคร์มันก็คอยดู” เขาพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งลง ดูเหมือนว่าเขาจะจริงจังกับมันอย่างมากสินะ

 

 

 

               “ส่วนเธอ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอฉันรับผิดชอบเอง”

 

 

 

               “ไม่ต้อง!” ฉันแว๊ดใส่โทโมะที่เริ่มพูดเรื่องนั้นอีกครั้ง

 

 

 

               “เก็บความรับผิดชอบไว้ให้น้องฉันเถอะ”

 

 

 

               “ช่างหัวน้องเธอสิ ตอนนี้ฉันคุยกับเธอไม่ใช่ยัยนั่น อีกอย่างถ้าเธอเกิดมีลูกมาจะแบกหน้าอุ้มไปหาไอ้แฟนบ้าแฟนบอของเธอหรือไง มันตามหาเธอบ้างไหมล่ะตอนนี้”

 

 

 

               “อาจจะตามอยู่ก็ได้ เขาติดต่อฉันไม่ได้เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาแฟนฉัน”

 

 

 

               “เลิกกับมัน” โทโมะ เริ่มใช้ข้อบังคับกับฉันทันที น้ำเสียงขู่ของเขาไม่มีผลอะไรกับฉัน ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างน้อยฉันก็ควรเข้มแข็ง ไม่เผยด้านอ่อนแอให้เขาเห็น ไม่งั้นเขาต้องสมน้ำหน้ากับความใจง่ายที่ฉันพลาดไปแน่ๆ

 

 

 

               ฉันไม่ได้ใจง่ายแต่ทุกอย่างเหมือนเร็วไปหมด ฉันพยายามห้ามใจให้ขัดขืนเขาซะแต่ร่างกายฉันกลับตอบสนองตามความโง่ของตัวเอง ฉันกำลังเป็นบ้าก็เพราะเขา

 

 

 

               “หวังอะไรโทโมะนายกับฉันเรื่องที่เกิดขึ้นฉันถือว่าเป็นวันไนท์แสตน ”

 

 

 

               ฉันพูดคำที่เขาชอบพูดประจำพลางยิ้มเยาะกลับไปให้โทโมะที่เริ่มเดินเข้าใกล้ฉัน สีหน้าเหวอนิดๆ ของเขาทำเอาฉันสะใจเบาๆ อยู่เหมือนกัน ชอบไม่ใช่เหรอเรื่องข้ามคืน สนุกแค่แปปแล้วก็แยกย้ายกันไปน่ะ นี่ไงฉันจะเป็นคนในคืนนั้นให้ก็ได้

 

 

 

               ถือว่าทำบุญให้หมายากไร้ไปแล้วกัน

 

 

 

               “แต่ฉันไม่ถือว่าเธอคือวันไนท์แสตน” โทโมะนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ฉัน แววตาจริงจังทำเอาฉันไม่อยากมองหน้าเขาอีก

 

 

 

               "นายควรพูดคำพวกนี้กับแก้มบุ๋มไม่ใช่ฉันนะโทโมะ"

 

 

 

               "เลิกพูดถึงยัยนั่นสักทีได้ไหม ฉันไม่มีความผูกพันอะไรที่ควรเก็บมาเป็นความทรงจำในซีรีบรัมสักนิด”โทโมะเริ่มเหวี่ยงอีกครั้ง ทำไมต้องอารมณ์เสียทุกครั้งที่ฉันพูดถึงแก้มบุ๋มฮะ!

 

 

 

               “เธอเป็นของฉันแล้วนะแก้ว ทำไมยังเอาแต่คิดเป็นห่วงคนอื่นอีก"

 

 

 

               “เลิกบังคับจิตใจฉันสักที นายกับฉันไม่ควรมีอะไรที่น่าผูกพันกันสักนิด และฉันไม่ได้ปลาบปลื้มนายเท่าไรหรอกนะ ถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นฉันเมาอากาศก็แล้วกัน” ฉันเลือกที่จะจบบทสนทนาด้วยการล้มตัวลงนอนและใช้เท้าดันตัวให้เขาออกไปจากโซฟาซะ

 

 

 

               “ฝันดี หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะตื่นมาแล้วพบแต่เรื่องดีๆ มากกว่าวันนี้นะ”

 

 

 

               ฉันพูดจบก็ข่มตาหลับลงทันที ฉันรู้สึกเจ็บที่มวนท้องแปลกๆ แถมยังเจ็บจนฉันไม่อยากหายใจเข้าเลยด้วยซ้ำ มันปวดยิ่งกว่าการที่เป็นเมนส์เสียอีก น้ำใสๆ ที่คลอเบ้าตาฉันไหลลงอาบแก้มออกมาอย่างเงียบๆ พี่ขอโทษนะแก้มบุ๋มพี่ทำดีสุดเพียงแค่นี้จริงๆ พี่คงเกิดมาฉลาดไม่พอและสู้คนไม่ได้ ฉันขอโทษนะต้าร์ ฉันพลาดสิ่งที่ควรรักษาไว้ให้นายจนได้

 

 

 

               “เธอกับฉันมันไม่ได้จบแค่นี้หรอกแก้วใจ”

 

 

 

               “…”

 

 

 

               เสียงสั่นเครือของโทโมะแสดงถึงความโกรธจัดที่ฉันพูดหักห้ามน้ำใจเขาไป มันไม่ผิดที่ฉัน แต่มันผิดที่ตัวนาย มันผิดตั้งแต่แรกแล้วโทโมะ ถ้านายไม่ทำทุกอย่างให้เกิดเหตุบานปลายแบบนี้ ฉันกับนายก็ไม่ต้องมาหักล้างบ้าบออะไรกันขนาดนี้หรอก

 

 

 

               “เธอไม่ใช่คนคืนเดียวของฉัน”

 

 

 

               “…”

 

 

 

               “แต่เธอจะเป็นของฉันทุกคืน จำเอาไว้!”

 

 

อัพแล้วเม้นโหวตกันด้วยน๊างับบบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา