The trap of the heart กับดักของหัวใจ

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  9 chapter
  416 วิจารณ์
  14.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2559 11.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8) WELL

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

CHAPTER 07

 

 

 

          ฉันตวัดหางตามองผู้ชายข้างๆที่เอาแต่ยิ้มเหมือนตัวเองได้ชัยชนะนั้นไปหารู้ไม่ว่าฉันไม่มีทางทำตามเขาง่ายๆหรอก

 

 

 

           “ขอโทรศัพท์ก่อนสิ” ฉันเริ่มหัวหมอต่อรองให้เขาเอามือถือมาให้ฉันแต่จะพูดไหมก็อีกเรื่องนะโทโมะ

 

 

 

           “ขอฉันคุยกับแฟนก่อนแล้วเดี๋ยวฉันบอกเลิก”

 

 

 

           “คิดว่าฉันเชื่อไหมล่ะ?” โทโมะถามฉันเสียงเหนือ

 

 

 

          บางทีฉันก็ลืมไปว่าเขาก็มีสมองไม่ต่างจากฉันเหมือนกัน

 

 

 

           “แล้วจะให้ฉันบอกเลิกแฟนทั้งๆที่แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเนี่ยนะตลก”

 

 

 

           “แฟนเธอไม่ได้ทำผิดแต่เธอทำผิดมันก็ไม่ต่างอะไรกันตรงไหนนี่คุณแก้วใจ”

 

 

 

          โทโมะเรียกชื่อฉันเต็มยศฉันไม่ค่อยชอบการประชดประชันที่ออกมาจากปากเขาสักเท่าไรบวกกับท่าทางและหน้าตาที่ย้ำกวนประสาทฉันเรื่อยๆยิ่งแล้วใหญ่

 

 

 

           “ขอร้องล่ะนายจะทรมานฉันยังไงก็ทำแต่อย่ามาทำความรักระหว่างฉันกับต้าร์พังเพราะฉันจริงจัง”

 

 

 

           “แล้วฉันล่ะเธอเอาฉันไปไว้ไหนแก้ว ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของเธอเหมือนกันไม่ใช่”

 

 

 

          หึ…ฉันอยากจะหัวเราะออกมาให้รู้แล้วรู้รอดสิ่งที่เขาทำมันคือการปิดปากมันคือการข่มขู่มันไม่ได้ช่วยให้ฉันใจอ่อนหรือให้อภัยกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเลยสักนิด

 

 

 

           “หยุดพล่ามแล้วเอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!” ฉันเริ่มเดือดและโน้มตัวเพื่อเอื้อมไปเอาโทรศัพท์ในมือของเขาแต่โทโมะกลับใช้วงแขนล็อกเอวของฉันเอาไว้ในตอนนี้ตัวของฉันทับอยู่บนร่างเขาอย่างจำยอม

 

 

 

           “ให้ฉันโทรหาแฟนแค่นาทีเดียวก็พอ” ฉันขอร้องเขาในขณะที่หน้าฉันยังอยู่ประชิดเขาไม่ได้เขยิบหนีไปไหน

 

 

 

           “โทรสิ” โทโมะยังไม่ให้ฉันลุกเขาล็อกเอวฉันแน่น

 

 

 

 

           “โทรตรงนี้ตอนนี้นี่แหละ”

 

 

 

 

          ดูเหมือนว่าโทโมะยังไม่ได้ลบเบอร์ของแฟนฉันออกไปเขากดหาทันทีก่อนจะแนบมาที่หูฉันเขาไม่ให้ฉันจับโทรศัพท์ของเขาเพราะในตอนนี้แขนของฉันถูกรวบอยู่ในอ้อมกอดเขาเหมือนกัน

 

 

 

          ฉันรอเสียงตอบรับจากปลายสายแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าต้าร์จะรับสายนั่นโทโมะโน้มหน้าเข้ามาหาฉันก่อนจะกดคางลงบนไหล่ฉันเหมือนเรากำลังกอดกันยังไงยังงั้นฉันดิ้นไม่ได้เพราะต่อให้ดิ้นมันก็ไม่หลุดพ้นอยู่ดี

 

 

 

 

           (โหลใครครับ)

 

 

 

 

          ฉันยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงต้าร์จากปลายสาย

 

 

 

           “ต้าร์นี่แก้วเองนะ” ฉันดี้ด้าทันทีก่อนจะกรอกเสียงตัวเองลงไปในมือถือแต่ในช่วงจังหวะนั้นโทโมะก็เริ่มเล่นแผลงๆจากที่เขาเอาคางกดไหล่ฉันไว้เขาก็เปลี่ยนมาสูดหายใจข้างๆต้นคอฉันแทน

 

 

 

           “ตะต้าร์สบายดีไหม…”

 

 

 

          ฉันเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปมากนอกจากบทสนทนาปกติที่ไม่ได้แฝงขอร้องอะไรไป

 

 

 

          โทโมะเม้มติ่งหูฉันค่อยๆก่อนจะไล่พรมจูบที่ต้นคอสลับกับกดริมฝีปากลงมาเรื่อยๆในขณะที่มือของเขายังคงถือมือถือแนบกับหูฉันอยู่เขากำลังเล่นพิเรนณ์กับฉันสินะ…

 

 

 

           (ต้าร์ไปหาที่คอนโดแก้วมาหลายวันแล้วนะแก้วหายไปไหนเนี่ย)

 

 

 

          น้ำเสียงเป็นห่วงของต้าร์ทำเอาฉันสะอึกน้ำลายตัวเองฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่กำลังหักหลังแฟนปากก็คุยโทรศัพท์กับเขาแต่ร่างกายฉันกำลังถูกรุกลามอยู่กับอีกคน…

 

 

 

           “บอกเลิกมันสิ” เสียงกระซิบข้างหูอีกด้านของโทโมะดังขึ้นฉันหลับตาปี๋เพราะความรู้สึกขนลุกเบา

 

 

 

           “พอได้แล้ว…” ฉันเอ่ยห้ามโทโมะที่ยังคงลามปามไม่หยุดโทโมะชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนจมูกจรดที่ข้างแก้มของฉัน

 

 

 

           (พออะไรแก้วต้าร์เป็นห่วงนะจะให้ต้าร์พออะไรอะ) เสียงงงงวยของต้าร์ดังขึ้นทำให้ฉันเลิกสนใจคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายฉันอยู่

 

 

 

           “อะอ๋อเปล่าแก้วแค่ดุหมาในบ้านน่ะตอนนี้แก้วมาหาแม่ที่ต่างจังหวัดแก้วขอโทษนะที่ไม่ได้บอกต้าร์”

 

 

 

           (อ้าวไม่เป็นไรแค่แก้วไม่เป็นอะไรต้าร์ก็สบายใจล่ะทีหลังไปไหนมาไหนบอกต้าร์ก่อนนะเข้าใจไหมแก้ว)

 

 

 

           “อะอืมต้าร์ไม่ต้องห่วงแก้วหรอกนะถ้าแก้วกลับไปแก้วจะโทรไปบอก” ฉันที่พร้อมจะวางสายพอนึกถึงเรื่องบางเรื่องได้ก็รีบเอ่ยก่อนที่โทโมะจะกดวาง

 

 

 

           “แก้วโทรศัพท์พังนะต้าร์ไว้แก้วจะติดต่อไปเอง”

 

 

 

          สิ้นสุดคำพูดของฉันเจ้าของมือถือก็กดปิดวางสายลงฉันดันตัวเองออกจากตัวโทโมะคนถูกทับปล่อยฉันเป็นอิสระทันที

 

 

 

           “บอกให้บอกเลิกมันไง” โทโมะมองมาที่ฉันอย่างหาเรื่องเหมือนฉันกำลังขัดใจเขาสุดๆเขากำลังบังคับใจคนรู้ตัวบ้างหรือเปล่า

 

 

 

          "กว่าเราสองคนจะคบกันได้มันนานมากนะโทโมะ"

 

 

 

          "แล้วไงจำเป็นหรือไงนานไม่นานยังไงคนบอกเลิกก็บอกได้ปะวะ"

 

 

 

          เขาเริ่มใช้ความงี่เง่าของตัวเองขึ้นมาเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกซะแล้วสิ

 

 

 

           “ถ้านายมีแฟนแล้วฉันบังคับให้นายเลิกกับแฟนนายจะเลิกไหมล่ะ”

 

 

 

          ฉันย้อนถามคนที่นั่งอยู่บนโซฟาโทโมะเลิกคิ้วสูงก่อนจะยิ้มเยาะออกมาเหมือนคำถามของฉันเป็นคำถามตลก

 

 

 

           “เลิก” และเขาก็ตอบมาโดยไม่คิด

 

 

 

           “เพราะนายมันไม่มีหัวใจและระบบความรักที่แท้จริงเหมือนที่คนอื่นเขามีไง”

 

 

 

           “เปล่า”

 

 

 

           “…”

 

 

 

           “ถ้าฉันมีแฟนที่ไม่ใช่เธอแล้วเธอสั่งให้ฉันเลิกฉันก็จะเลิกและถ้าฉันมีแฟนเป็นเธอใครหน้าไหนก็ตามมาสั่งให้ฉันเลิกกับเธอ…”

 

 

 

           “…”

 

 

 

           “ฉันจะไม่เลิกเด็ดขาด”

 

 

 

           “เห็นแก่ตัว” ฉันสบถใส่หน้าเขาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง

 

 

 

          “ต้าร์ก็คงคิดเหมือนนายเขาไม่มีทางเลิกกับฉันแน่นอนต่อให้ใครหน้าไหนมาสั่งให้เราสองคนแยกจากกันก็ตาม”

 

 

 

          ฉันพูดสีหน้านิ่งกว่าที่เป็นโทโมะหันมามองฉันแถมยังหายใจฟัดเหวี่ยงเหมือนคนโดนขัดใจเขาลุกขึ้นก่อนจะถอดเสื้อตัวเองแล้วปาไปที่พื้นด้วยอารมณ์โมโหก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องน้ำโดยไม่เอ่ยอะไรกับฉันอีกความเอาแต่ใจของนายมันใช้ไม่ได้ผลกับฉันทุกครั้งหรอกนะ

 

 

 

          ฉันมองตามหลังเขาไปเมื่อเห็นว่าเขาปิดประตูห้องน้ำฉันจึงรีบล้วงคีย์การ์ดที่หยิบมาจากหัวเตียงของเขาขึ้นมาก่อนจะค่อยๆย่องไปที่หน้าประตูเงียบๆเรื่องกุญแจรถของฉันเอาไว้ก่อนแล้วกันตอนนี้ฉันขอให้ได้กลับคอนโดก็พออยู่ที่นี่อึดอัดเป็นบ้า

 

 

 

          ฉันไม่รอช้าแสกนคีย์การ์ดอย่างเร่งด่วนเมื่อประตูเปิดออกฉันก็ยิ้มร่าด้วยความดีใจก่อนจะเอาตัวเองออกจากห้องบ้าๆที่คล้ายคุกนี่ฉันวิ่งออกจากคอนโดด้วยเท้าเปล่าในตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีแค่คีย์การ์ดและบัตรเอทีเอ็มที่แอบเก็บไว้กับตัวเองเอาเถอะอย่างน้อยฉันก็โคจรหลุดออกจากห้องของอชิได้เสียทีฉันรีบลงลิฟท์ไปที่ชั้นล่างสุดเมื่อลิฟท์ลงมาถึงชั้นล่างฉันก็ตรงดิ่งที่จะออกไปข้างนอกคอนโดนี่ทันที

 

 

 

          พรึ๊บ!

 

 

 

          แต่ดูเหมือนว่าความผิดพลาดบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นจู่ๆข้อมือของฉันก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้แน่นฉันหยุดกึกก่อนจะค่อยๆหันไปมองเจ้าข้อมือที่จับฉันไว้

 

 

 

          โทโมะ…

 

 

 

          เขาลงมาในสภาพที่เสื้อผ้ารองเท้าครบหมดเขาไม่ได้อาบน้ำหรอกเหรอ…

 

 

 

           “จะไปไหน” คนรั้งเอ่ยถามเสียงเรียบฉันก็ได้แต่ยิ้มแหยะๆพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก

 

 

 

          “ฉันถามว่าจะไปไหน!”

 

 

 

          น้ำเสียงเรียบเปลี่ยนเป็นตะคอกจนคนทั่วคอนโดหันมามองที่พวกเราเป็นจุดเดียว

 

 

 

 

           “ฉันจะกลับคอนโด” ฉันบอกเขาไปตามจริงโทโมะกดตาลงมองคคีย์การ์ดห้องตัวเองในมือฉันก่อนที่เขาจะดึงคีย์การ์ดออกไป

 

 

 

           “เล่นตุกติกกับฉันอีกแล้วเหรอแก้ว”

 

 

 

           “ปะเปล่าแต่นายไม่มีสิทธิ์มากักขังฉันไว้แบบนี้นายจะติดคุกได้นะ”

 

 

 

          ฉันพยายามพูดให้เขาคิดตามอย่างน้อยในตอนนี้คำว่าคุกก็ค้ำหัวเขาไปครึ่งนึงแล้วไม่ใช่หรือไง

 

 

 

           “ฉันไม่สนฉันสนอย่างเดียวว่าเมื่อไรเธอจะเลิกเล่นตุกติกซะที” โทโมะชูโทรศัพท์ตัวเองขึ้นก่อนจะมองมาที่ฉันเหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง

 

 

 

          “ถ้าเธอตุกติกกับฉันอีกครั้งเพียงคลิ๊กเดียวในมือถือคลิปของเราว่อนทั่วเน็ตแน่แก้ว”

 

 

 

          สีหน้าและนำเสียงจริงจังของโทโมะบ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นแม้ฉันจะยังไม่ได้เห็นคลิปบ้าๆนั่นแต่ฉันเชื่อว่าเขาต้องปล่อยออกมาแน่ๆดูขนาดน้องฉันยังโดนเขาเล่นงานมาก่อนแล้วเลย…

 

 

 

          …แล้วฉันล่ะ

 

 

 

           “เล่นสกปรกแบบนี้งานถนัดนายเหรอโทโมะ”

 

 

 

           “มันเป็นทางเดียวที่จะหุบปากเธอได้ดีที่สุดไง” โทโมะจ้องมาที่ฉันอย่างท้าทาย

 

 

 

           “ลองคิดดูนะพี่สาวกับน้องสาวมีคลิปฉาวว่อนเน็ตกับผู้ชายคนเดียวกันเขาจะคิดว่าครอบครัวเธอเป็นคนยังไงดีล่ะโทโมะแล้วไหนจะแฟนเธอ…”

 

 

 

          เพลี๊ยะ!

 

 

 

          ฉันกัดฟันแน่นก่อนจะส่งฝ่ามือของตัวเองฟาดไปที่หน้าของคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยความอึดอัดใจฉันโมโหจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาไม่ได้มีจิตใจที่ดีหรือสำนึกบ้าสำนึกบออะไรเลยสักนิดเลวจนใช้คำว่าเลวก็ยังไม่พอฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบเทียบสันดานของเขาจริงๆ

 

 

 

          ในตอนนี้ฉันไม่อายคนที่เดินผ่านไปมาข้างล่างคอนโดแล้วเอาให้เขารู้ไปเลยว่าคนตรงหน้าฉันมันชั่วขนาดไหนเพศแม่นายเลยนะกดขี่เพราะความสนุกแบบนี้เลยเหรอ…

 

 

 

           “แม่ไม่รักเหรอโทโมะ” ฉันพูดออกไปด้วยความเจ็บปวด

 

 

 

          “ถึงได้มาลงกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้”

 

 

 

           “เล่นถึงแม่ฉันเหรอ…”

 

 

 

          สายตาโทโมะสั่นเครือไม่แพ้อะไรกับฉันตอนนี้เขาลูบหน้าตัวเองเพราะความชาที่ได้รับจากน้ำมือฉันไป

 

 

 

           “ฉันไม่รู้ว่าครอบครัวนายสั่งสอนนายมายังไง” ฉันพูดอย่างท้าทายแม้ในใจจะกลัวว่าเขาอาจจะโมโหจนต่อยฉันลงไปกับพื้นก็ได้

 

 

 

          “แต่ที่นายกำลังทำนายกำลังเหยียบหัวเพศแม่ตัวเองอยู่รู้หรือเปล่า”

 

 

 

           “อืม” โทโมะพยายามเค้นหัวเราะเหมือนว่าสิ่งที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาคิดตาม

 

 

 

           “ไม่มีใครทำไปเพราะไม่มีความจำเป็นหรอกทุกสิ่งล้วนแต่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้นและนี่ก็คือประโยชน์ส่วนตัวของฉันพอใจหรือยัง”

 

 

 

           “…”

 

 

 

           “ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินเลยกว่าคำว่าเห็นแก่ประโยชน์เลยด้วยซ้ำ”

 

 

 

           “หึฉันก็ไม่ได้คิดว่านายจะคิดกับฉันเป็นอย่างอื่นเลยโทโมะ”

 

 

 

          ฉันยิ้มแสยะเหมือนคนไพ่เหนือแม้ในตอนนี้น้ำตาของฉันจะคลอเบ้าเพราะเหมือนโดนเอามีดมาแทงซ้ำๆเพราะคำพูดคนตรงหน้าก็ตามจริงสิฉันมันคือตัวอันตรายสำหรับเขาถ้าเขาปล่อยฉันไปเขาก็ต้องติดคุกอิสระในชีวิตของเขาก็จะหายไปนี่คือสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อปิดปากฉัน

 

 

 

          ถูกแล้ว…

 

 

 

          “กลับขึ้นห้องไปซะ” โทโมะเปลี่ยนประเด็นมาสั่งฉันแทนฉันพยายามฝืนหน้าด้านยืนยิ้มเหมือนคนไม่ได้อ่อนแอแต่แววตาของฉันโกหกเขาไม่ได้หรอก

 

 

 

          “ฉันอึดอัด” ฉันตัดสินใจพูดบางอย่างออกไปฉันไม่ชอบห้องสี่เหลี่ยมแคบๆที่มีแต่โซฟากับห้องนอนโสมมนั่นเลยสักนิดฉันเหมือนยิ่งอยู่ฉันก็ไม่ปลอดภัยฉันอึดอัดจนอยากจะระเบิดตัวตายณจุดๆนั้นให้รู้แล้วรู้รอด

 

 

 

           “ฉันอยากไปข้างนอก”

 

 

 

          “ขึ้นห้องไปซะแก้วเลิกขอร้องอะไรที่เป็นไปไม่ได้สักที”

 

 

 

          “พาฉันไปข้างนอกที” ฉันขอร้องเขาอีกครั้งคราวนี้ฉันเงยหน้ามองตาเขาเป็นสื่อขอร้องว่าฉันอ้อนวอนเขาอยู่

 

 

 

          “ขอร้อง”

 

 

 

          โทโมะจ้องหน้าฉันชั่วครู่เมื่อเห็นว่าฉันมีสีหน้ามุ่งมั่นที่จะไปข้างนอกจริงๆเขาก็ดึงมือฉันออกจากคอนโดนี่ก่อนจะตรงดิ่งไปที่รถคันเดิมของเขาโทโมะยัดฉันเข้าไปที่นั่งข้างคนขับเหมือนครั้งก่อนพอเขาเข้ามานั่งด้านคนขับเราสองคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาโทโมะถอนหายใจเหมือนหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะตัดสินใจเหยียบคันเร่งออกไปโดยไม่ได้บอกจุดมุ่งหมายกับฉัน

 

 

 

          ภายในรถเงียบสงัดมีเพียงเสียงแอร์เบาๆที่ดังออกมาฉันเอื้อมมือจะไปเปิดเพลงแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าโทโมะกำลังจะเอื้อมมือมาเปิดเหมือนกันฉันเลยต้องดึงมือกลับมาปล่อยให้เขาเปิดมันไป

 

 

 

          แต่พอเพลงดังขึ้นฉันก็ต้องชะงักกับเนื้อเพลงที่ได้ยินไปเล็กน้อย...

 

 

 

 

 

 

 

 

          “ฉันอยากเปลี่ยนเพลง”

 

 

 

          ฉันที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปลี่ยนเพลงโทโมะก็คว้ามือให้ฉันหยุดอยู่กลางอากาศไว้แบบนั้น…

และเนื้อเพลงที่ดังขึ้นต่อจากนั้น…

 

 

 

 

'รักฉันยังอยู่แต่ไม่รู้เธอต้องการไหม

ขอให้เธออยู่แต่ไม่รู้เธอจะไปไหม

กลัวฉันกลัวเหลือเกินกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทิ้งฉันไป'

 

 

 

          “หัวใจ…อยู่ไม่ไหวจริงๆ...”

 

 

 

อัพแล้วน๊าเม้นโหวตกันหน่อย ที่จริงจะอัพนานแล้ว แต่เข้าเว็บขีดเขียนไม่ได้ก็เลยมาอัพช้า

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา