รหัสรัก ROMEO and JULIET

6.4

เขียนโดย zeeto

วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  20 ตอน
  2 วิจารณ์
  27.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14) อเมริกาโนที่คู่กับนมสดคาราเมล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ดาวที่นี้สวยมากในตอนกลางคืนบวกกับสายลมหนาวๆที่พัดผ่านร่างกาย ผมได้แต่ถือบุหรี่ไว้ในมือเพียงแต่ไม่ได้จุดขึ้นสูบเหมือนทุกทีก็แค่นั้น  ก็ผมรับปากไอ้กันไปแล้วว่าจะเลิกสูบและผมก็ไม่อยากผิดคำพูดด้วย  “ไม่ออกไปนั่งกับเพื่อนคนอื่นๆว่ะวันนี้” ไอ้ปริ้นเดินมาหาผมที่นั่งอยู่นอกระเบียงห้อง “เหนื่อยๆว่ะอยากพักบ้าง” “เออไอ้ฟลุ๊คกูเหมือนเห็นไอ้กันนะเมื่อเย็นไม่รู้ใช่หรือเปล่า” “อือใช่...มันมาที่นี้” “อ้าว!!...แล้วไม่ชวนมาพักด้วยกันว่ะ” “ช่างมันเถอะ”  “ถามตรงๆนะ...มึงกับไอ้กันยังไงกันแน่ว่ะตอนแรกแค่ในไอจีในเพจอะไรนั้นกูก็คิดแค่ว่าคู่จิ้น...แต่หลังๆมานี้กูว่ามึงสองคน...” “เหมือนคู่จริงอ่ะหรอ” “เออ...ตกลงยังไงแน่ว่ะ”  “กูก็ไม่รู้ว่ะ...” “มึงชอบไอ้กัน?” “ห่ะ?....” “มึงไม่ต้องพยายามปิดบังหรอกว่ะ...กูไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามึงสองคนจะคบกันอีกอย่างตอนที่มึงอยู่ด้วยกันกูว่าโคตรน่ารักเลย  มึงดูมีชีวิตชีวาขึ้นตั้งเยอะไม่ใช่วันๆเอาแต่หมกตัวกับงาน  แล้วก็หนังสือกับกาแฟ” “ยังไง...” “ก็อย่างเดี๋ยวนี้ไงนมสดคาราเมล...” พูดจบไอ้ปริ้นก็ยกมือขึ้นตบไหล่ผมเบาๆก่อนจะยิ้มแล้วเดินไปหาคนอื่นๆ นมสดคาราเมลงั้นหรอ? ไอ้ปริ้นท์มันหมายความว่าไง ตรึ่ง!ตรึ่ง! “นมสดคาราเมลบางทีมันก็ช่วยให้วันที่เหนื่อยล้าและหน้าเบื่อสดชื่นขึ้นได้นะมึง...ไปเติมหวานให้กับชีวิตบ้างก็ได้เพื่อน ^_^” หลังจากอ่านไลน์ที่ไอ้ปริ้นท์ส่งมาผมก็หันไปมองมันที่ยิ้มให้ก่อนที่ความรู้สึกทุกอย่างตอนนี้กำลังจะออกตามหาใครบางคนเช่นกัน “เฮ้ย...เดี๋ยวกูออกไปข้างนอกนะ” ผมหันไปบอกเพื่อนๆก่อนจะคว้าเสื้อกันหนาวมาใส่แล้วรีบวิ่งออกไปทันที

 

          หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เดินไปหยิบรีโมททีวีขึ้นมาเปิดดูรายการต่างๆเลื่อนไปเรื่อยๆแบบไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ในหัวผมแค่ต้องการพักบ้างบวกกับร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการอดหลับอดนอนขับรถมา  มันทำให้ผมไม่มีกระจิตกระใจอยากทำอะไรไปมากกว่านี้ 

 

          ทำไมไม่รับสายว่ะผมเดินไปตามทางเดินในหมูบ้านเพื่อตามหาไอ้กันที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มันพักอยู่ที่ไหนหรืออาจจกลับกรุงเทพไปแล้ว  หรือว่ายังไงอากาศหนาวเย็นในอุณภูมิที่ต่ำกว่า15 องศา  ไม่สามารถลดความร้อนในใจของผมตอนนี้ได้  ยิ่งพยายามติดต่อเท่าไรกับไม่ได้รับการตอบรับกลับมาแบบนี้  ยิ่งเพิ่มความร้อนใจไม่ร้อย “ไอ้กันรับสายกูซิว่ะ” ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่นานจนสายตาหันไปเห็นรถเก๋งคันสีขาวที่คุ้นตา เมื่อเห็นดังนั้นผมรีบเข้าไปที่โรงแรมนั้นทันที “สวัสดีคะมาติดต่ออะไรคะ” “ผมมาหาเพื่อนครับพอดีเขาพักที่นี้” “ชื่ออะไรคะ” “ชนกันย์ครับ” “รอซักคู่นะคะ” “ครับ” “คุณชนกันย์พักอยู่บ้านเอื้องคำคะ” “อยู่ตรง...” “เดินตามทางเดินนี้ไปอยู่หลังในสุดเลยคะ” “ขอบคุณครับ” ผมรีบเดินตามทางที่พนักงานต้อนรับบอกอีกแค่นิดเดียว อีกนิดเดียวรอกูก่อนนะไอ้กัน กูมีอะไรจะบอก

 

          ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูซ้ำๆปลุกให้ผมที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะกดเปิดโคมไฟที่หัวเตียง “ใครมาเคาะอะไรดึกขนาดนี้ว่ะ” ผมหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลาแต่ “ฉิบหายล่ะกี่สายว่ะเนี้ย” ผมรีบเดินไปเปิดประตูห้องนองพักที่ยังคงเคาะอยู่และเมื่อเปิดออก “ไอ้ฟลุ๊ค!!!” “ทำไมไม่รับสายกู” “เข้ามาก่อนๆ” คนยืนรอที่ตัวซีดปากสั่นกับหน้าตาที่ดูกังวลผมรีบดึงให้เข้ามาในห้องก่อนจะพาไปนั่งที่เตียงแล้วหยิบผ้าห่มมาห่มให้ “ทำไมมึงไม่รับสายกู” “กูขอโทษพอดีกูหลับ” “มึงรู้ไหมกูติดต่อมึงไม่ได้กูคิดว่ามึงหนีกูไปแล้ว” “ใจเย็นๆนะกูขอโทษหนาวไหมห่มผ้าไว้กูขอโทษจริงๆ” “มึงรู้ไหมกูวิ่งตามหามึงจนทั่วหมู่บ้าน” “กูรู้กูขอโทษ...” ผมดึงคนที่นั่งสั่นในผ้าห่มข้ามากอดไว้แน่นผมทำอะไรลงไปเนี้ยปิดเสียงโทรศัพท์แล้วนอนหลับไปทำให้ไม่ได้รับสายของเขา  แล้วดูตอนนี้ซิตัวเย็นเฉียบนั่งสั่นเหมือนลูกนกเลย “กูขอโทษนะ” “ไอ้กันมึงรู้ไหมนมสดคาราเมลอ่ะเวลากินคู่กับอเมริกาโนมันรู้สึกดีขนาดไหน...” “มึงจะพูดอะไร” “แล้วมึงรู้ไหมว่าเวลาเหนื่อยๆนมสดคาราเมลมันช่วยให้กูมีแรงทำงานต่อได้มากแค่ไหน  แล้วมึงรู้ไหมRomeoกับJuliet เขาไม่ควรแยกจากกัน” “ไอ้ฟลุ๊ค...มึงหมายความว่าไง” “กูก็หมายความว่า...มึงกับกูก็ไม่ควรแยกกันเพราะมึงเป็นRomeoและกูก็เป็นJuliet เพราะอย่างนี้กูเลยมาตามหามึงไง” “นี้หมายความว่าตอนนี้มึงสารภาพรักกูอยู่ใช่ป่ะว่ะ” “ก็เออดิ...มึงจะซื่อบื้ออะไรนักหนาว่ะไอ้บ้าเอ้ย” เมื่อได้ยินคำตอบที่ชัดเจนผมกระชับคนในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะจูบที่หน้าผากของคนที่นั่งสั่นเบาๆ “ขอโทษนะ...” “หนาวจะตายแล้วเนี้ย” “ห่มผ้าไว้นะจะได้อุ่นๆ” “กอดกูด้วย” “มาๆกอดๆ” ผมค่อยๆจัดให้ชายธีลงนอนกับเตียงดีๆก่อนห่มผ้าให้พร้อมกับดึงเข้ามากอดไว้ข้างกาย นี่ซินะที่เขาเรียกกันว่าความรักไม่มีอะไรจะมาขว้างกั้นได้ก็เหมือนกับผมและชายธี  ใบหน้าที่ซุกตัวมานอนหนุนแขนพร้อมซุกหน้ามาซบที่อก  ตกลงตอนนี้ผมกับชายธีเรียกว่าเป็นแฟนกันแล้วหรือยัง

 

          ผมช่วยเพื่อนๆของชายธีเก็บของใส่กะเป๋าและพวกอุปกรณ์ที่มาถ่ายทำหนังสั้นจนเสร็จก่อนจะเดินถือของไปขึ้นรถช่วยคนอื่นๆ “ไงว่ะไอ้กันตกลงเคลียร์กับไอ้ฟลุ๊คเรียบร้อยแล้วป่ะ” “เออ...ขอบใจนะไอ้ปริ้นท์” “ดูแลมันดีๆด้วยแล้วกันคนนี้เพื่อนรักกูเลยนะมึง” “คุยไรกันว่ะ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรกับไอ้ปริ้นท์ต่อ  เสียงของคนที่ถูกเอ่ยถึงก็เดินมามองหน้าผมกับไอ้ปริ้นท์สลับไปมา “เปล่า...แค่ไอ้กันมันบอกอยากกินข้าวซอย” “ข้าวซอย?” ผมหันหน้าไปมองชายธีกับไอ้ปริ้นท์สลับกันว่าแต่ว่าไอ้ข้าวซอยมันคืออะไรข้าวที่เขาใช้มีดซอยหรอแล้วทำไมต้องซอยด้วยปกติมันก็เม็ดเล็กๆอยู่แล้ว “ทำหน้างงอะไรว่ะไอ้กัน” ผมหันไปมองหน้าไอ้ปริ้นท์ที่ถามขึ้นมาอีกก็จะไม่งงได้ไง “ข้าวซอยคืออะไรว่ะ” “ไว้ให้ไอ้ฟลุ๊คพากินแล้วกัน...แต่ว่าข้าวซอยนะเว้ยไอ้ฟลุ๊ค ...ข้าวซอย ”  “ไปเลยไอ้ปริ้นท์...รถตู้จะออกแล้ว”  “เออกูไปแล้ว...เจอกันที่กรุงเทพแต่ว่า...ข้าวซอยนะ”  ผมเห็นไอ้ปริ้นท์กับชายธีไล่เตะกันก่อนที่อีกคนจะเดินกลับมาหาผม แล้วตกลงข้าวซอยคืออะไร “มองอะไรไปเอารถมาดิจะกลับไหมกรุงเทพ” “คร๊าบบบบบ....” สุดท้ายแล้วผมก็ยังไม่ได้คำตอบของข้าวซอยเอาเถอะเดี๋ยวชายธีคงพาผมไปกินเองนั้นแหล่ะ

 

          "ไอ้กันจอดร้านข้างหน้านั้นเลย" ผมชี้นิ้วไปที่ร้านข้าวซอยแม่สายที่เป็นร้านขึนชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อไอ้กันเลี้ยวรถเข้าไปจอดในร้านมันก็หันหน้ามามองผมอย่างงงๆ "ข้าวซอยหรอว่ะ" ไอ้กันหันมาถามผมที่เดินลงรถนำทางเข้าร้านไปก่อน "ก็เออดิไหนไอ้ปริ้นท์อกมึงอยากกินไม่ใช่หรอ" "ห่ะ?...อ๋ออยากกินก็ได้" "อะไรของมึงว่ะไอ้กันพูดเหมือนไม่อยากกิน" "เปล่าหรอกเอาจริงๆกูไม่รู้จักข้าวซอยด้วยซ้ำ" "เออๆนั่งก่อนเดี๋ยวกูสั่งให้" หลังจากจัดการสั่งข้าวซอยไก่สองที่สำหรับผมกับไอ้กันไป ไม่นานมากนักชามข้าวซอยก็เสริฟที่โต๊ะผมหยิบช้อนขึ้นมาเตรียมจะตักเข้าปากแต่ต้องชะงักมือเพราะสีหน้าไอ้กันที่มองในชามข้าวซอย "มองอะไรของมึงไอ้กัน" "อันนี้หรอเขาเรียกว่าข้าวซอย" "ก็เออดิ...ทำไม" "หน้าตาเหมือนก๋วยเตี๋ยวกับขนมจีนรวมกันเลยว่ะ" "เออ...กินเข้า" "แต่ว่า..." "อะไรของมึงอีกว่ะไอ้กันเรื่องมากไรอีก" "เปล่า...แต่สีมันเหมือนจะเผ็ดมากเลยอ่ะกูไม่กินเผ็ด" "มันไม่เผ็ดเชื่อกูกินได้" "แน่ใจนะ" "เออ..." "แล้วถ้ามันผ็ดละ" "ถ้าเผ็ดกูยอมให้จูบเลยอ่ะ" 

 

          จูบงั้นหรอ...เมื่อได้ยินข้อต่อลองในการกินข้าวซอยชามนี้มันทำให้ผมอยากที่จะลองกินข้าวซอยที่ผมไม่รู้จักขึ้นมาเสียแล้วนิ ว่าแต่ถ้ามันไม่เผ็ดก็อดจูบดิ งั้น... ผมหันไปมองถาดเครื่องเคียงที่วางข้างๆก่อนจะหยิบพริกสดที่อยู่คู่กับผักกาดดองมาใส่ลงในชามข้าวซอยแค่นี้ข้าวซอยก็เผ็ดแล้ว "เดี๋ยวนะไอ้กันไหนมึงบอกไม่กินเผ็ดไง...แล้วนั้นมึงหยิบพริกใส่ทำไมวะ" "ก็มันจะได้เผ็ดๆไง" "อ้าวไอ้นี่...ไหนบอกกินเผ็ดไม่ได้" "ก็ตอนนี้กูอยากกินเผ็ดแล้ว" "ห่ะ?...อะไรของมึง" "ก็ถ้าข้าวซอยเผ็ดมึงจะได้จูบกูไง" "อยากเผ็ดจะได้จูบ?...ได้งั้นเผ็ดอีก" ไม่พูดเปล่าชายธีหยิบพริกใส่ลงมาในจานผมไม่ยั้งมืออย่าว่าแต่เผ็ดเลยตอนนี้แค่สองเม็ดให้รอดก่อนไหมไอ้กัน ไม่น่าเลยจริงๆว่าแต่ถ้ากินหมดนี้นอกจากจะได้จูบผมยังสามารถต่อลองอะไรได้อีกไหมเนี้ย T_T ไม่น่าเลยจริงๆสงสัยต้องแวะซื้อยาแก้ท้องสียด้วยแล้วมั่งเนี้ย 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา